นานเท่าไหร่แล้วที่ฉันไม่ได้มานั่งพิมพ์อะไรให้คนอื่นที่ไม่รู้จักมานั่งอ่านตัวหนังสือของฉัน...?
นานเท่าไหร่แล้วที่ฉันไม่ได้สนใจตัวเอง และความรู้สึกของตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น...?
ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง กับตัวของฉัน และสิ่งรอบตัวของฉัน...?
เป็นคำถามที่ผุดลอยขึ้นมาตามสายลมที่พัดโชยอ่อนในยามเช้า ที่พัดผ่านหน้าต่างบานไม่ใหญ่นักในห้องนอนของหญิงสาวผู้หนึ่ง
มีเสียงนกร้องเป็นเสียงเพลงเบาๆ คลอเคลียไปกับแสงแดงยามเช้าที่สาดเข้ามาในห้องนอน หญิงสาวผู้หนึ่งทิ้งตัวลงบนที่นอน
ใบหน้าเหมือนไร้ซึ่งจิตวิญญาณ เธอดูเฉยเมย ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่อยู่รอบตัวเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่บรรยากาศยามเช้าช่างน่ารื่นภิรมย์
แต่เธอกลับรู้สึกมืดมนแล้วเศร้าหมองยิ่ง อีกแล้ว...รู้สึกเช่นนี้เหมือนเคย... เธอคิดในใจอยู่เช่นนั้นซ้ำไปซ้ำมา ราวกลับว่ามันถูกอัดเสียง
ไว้อัตโนมัติ เธอยังคงทอดกายบนที่นอนอยู่เช่นนั้น ไม่ขยับไปไหน สายตาเหม่อลอยไปบนเพดานของห้อง เธอมองโมบายรูปกระต่าย
ที่ติดไว้ตั้งแต่สมัยยังเด็ก จนบัดนี้แล้วมันก็ยังคงอยู่ที่เดิม ยังคอยหมุนไปมา เธอไม่อาจจะละสายตาจากโมบายชุดนี้ได้
เวลาผ่านไปนานเท่าใดแล้ว... เธอจำไม่ได้ เธอไม่ได้สนใจวันเดือนปีที่ผ่านไป เธอยังคงนอนนิ่งอยู่กับความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวของเธอ
เธอไม่พยายามสนใจภายนอก เธอไม่สนใจกับโลกที่หมุนตัวไปอยู่ตลอดเวลา เธอไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวใดๆ เธอรู้สึกแต่เพียง "โลกซึมเศร้า"
ที่เธอไม่สามารถก้าวข้ามออกมาสู่โลกปัจจุบันได้...
จิดา หญิงสาวผู้ซึ่งเป็นโรคซึมเศร้า ชีวิตของเธอได้เปลี่ยนไปหลังจากวันที่เธอเริ่มมีปากเสียงกับเพื่อนร่วมงานของเธอ และเพื่อนสนิทของเธอ
ลาออกจากงาน และหลายๆ อย่างได้เปลี่ยนไปจนเธอนั้นรับไม่ทัน จนทำให้เธอกลายเป็นโรคซึมเศร้า เธอพยายามคิดว่าเธอเองคงไม่เป็นไร
เธอคิดว่าเธอจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างคนปกติ เธอไม่คิดที่จะไปรับการรักษากับจิตแพทย์ ทั้งๆ ที่เพื่อนๆ หลายคนก็แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์
แต่เธอยังคงคิดว่าไม่เป็นไร ยังทนไหว แต่แล้วในที่สุด เธอก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอได้เดินเข้าสู่โลกอีกใบ ที่มีชื่อว่า โลกซึมเศร้า
ในที่สุด จิดาก็ยอมรับการรักษาจากจิตแพทย์ เธอต้องรับยามาทานจำนวนหนึ่ง และต้องคอยไปพบแพทย์ทุกๆ สองอาทิตย์ เธอต้องทานยาต้านเศร้าทุกวัน
เธอต้องพยายามปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตของเธอ ที่จะทำให้เธอต้องเครียดและคิดมาก แต่แล้วก็มาถึงจุดจุดหนึ่ง ที่ทำให้เธอคิดว่า เธอคงจะยอมแพ้
และขออยู่แต่ในโลกซึมเศร้าของเธอเพียงคนเดียวตลอดไป เธอลาออกจากงาน และใช้ชีวิตอยู่บนเตียงนอนของเธอ เธอแทบจะไม่เดินออกจากห้องนอน
ของเธอเลย เธอเป็นแบบนี้มานานสองเดือนแล้ว เธอไม่ติดต่อคนภายนอก เธอไม่ออกจากห้องนอน เธอหยุดการรักษาและปล่อยให้ตัวเองอยู่ในโลก
ที่ไม่มีใครสามารถเข้าถึงเธอได้อีก ทุกครั้งที่จิดารู้สึกเหงา เธอจะลุกขึ้นไปนั่งที่ขอบหน้าต่างห้องนอนของเธอ แล้วก็พูดกับตัวเองเสมอ เธอคิดว่าตัวเธอเอง
คือเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ
จิดา "เธอรักฉันไหม"
อัยย์ "ฉันรักเธอนะ"
เธอเรียกเสียงที่เธอได้ยินจากในสมองของเธอว่า "อัยย์" เธอพูดคุยกับเสียงนั้นราวกับว่าเสียงนั้นมีตัวตนอยู่จริงๆ เธอรักเสียงนี้มากเหมือนเพื่อนสาว
ที่มีชีวิตอยู่จริง จิดามักจะคุยกับอัยย์และคอยถามอยู่เสมอว่า เธอมีค่าไหม เธอควรมีชีวิตอยู่ต่อไปไหม ทุกครั้งที่ได้คำตอบจากอัยย์ ก็จะแตกต่างกันออกไป
โดยที่เธฮไม่รู้เลยว่า คำตอบเหล่านั้นขึ้นอยู่กับสภาพอารมณ์ของเธอนั่นเอง
และวันนี้ก็เช่นกัน เธอยังคงทิ้งร่างกายของเธอบนที่นอน สายตามองไปรอบๆ ห้อง แล้วเธอก็เอ่อยถามอัยย์เช่นเคย
"อัยย์ เธอว่าฉันควรมีชีวิตอยู่ต่อไปไหม" จิดาถาม
"อืม... เธอคิดว่าเธอมีค่าพอที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปไหม" อัยย์ถามย้อนกลับไป
"ฉันคิดว่าไม่" จิดาตอบแบบไม่ต้องคิด
"งั้นเธอก็ตายดีกว่า" อัยย์ตอบคำถามนั้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
จิดาไม่ได้ทำอะไรต่อ เธอนอนหลับตา แล้วเธอก็หลับไป... แล้วเมื่อเธอรู้สึกตัว เธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอกลับพบว่าที่ที่เธอนอนอยู่ไม่ใช่เตียงนอน
ไม่ใช่ห้องนอนของเธอ แต่เป็นกลางทุ่งหญ้าแห้งๆ บรรยากาศโดยรอบมีแต่หมอกควัน เธอมองไม่เห็นอะไรนอกจากหมอกควัน เธอลุกขึ้นแล้วมองไปรอบๆ
เธอเริ่มรู้สึกกลัว และไม่มั่นในว่าที่นี่ที่ไหน เธอยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า เธอเริ่มตะโกนเรียกอัยย์ เรียกเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครออกมา เธอเดินตรงไปข้างหน้า
เดินไปแบบไร้จุดหมาย ไม่รู้ว่าเธอกำลังจะไปไหน แต่คิดได้แค่ว่าต้องเดินต่อไปเรื่อยๆ เธอยังคงเรียกชื่ออัยย์อยู่ จนกระทั่ง มีเงาตะคุ่มอยู่ด้านหน้าของเธอ
เธอหยุดเดินในทันที เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดถามเงานั้น
"อัยย์ นั่นเธอใช่ไหม" จิดาตะโกนถาม
"..."
ไม่มีเสียงตอบจากเงานั้น แล้วเงานั้นก็เดินเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ เมื่อเงานั้นพ้นออกมาจากหมอกควันนั้น เธอก็ตกใจเล็กน้อยที่เงานั้นเป็นตัวของเธอเองอีกคน
"อัยย์ จริงๆ ใช่ไหม" จิดาถามอีกครั้ง
"ใช่ อัยย์เอง ในที่สุด เราก็ได้เจอกันเสียที" อัยย์พูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้จิดา แล้วอัยย์ก็ยื่นมือไปจับตัวจิดา
"จิดาจำได้ใช่ไหม ว่าฉันบอกเธอไปว่าอย่างไร" อัยย์ทวงถามถึงคำตอบสุดท้ายที่เธอตอบจิดาไป
"จำได้ซิ เธอบอกว่าฉันควรจะตาย" จิดาทวนคำตอบนั้น
"ใช่ เพราะฉะนั้นฉันจึงมาพาเธอไป เธอตามฉันมาซิ" อัยย์พูดพร้อมดึงมือของจิดาไปด้วย
อัยย์ค่อยๆ พาจิดาเดินตรงไปเรื่อยๆ ในโลกซึมเศร้าของเธอ แต่เมื่ออกมาดูในโลกความเป็นจริง จิดากำลังลุกจากที่นอน แล้วเดินตรงไปชั้นล่างของบ้าน
ที่เงียบสงบไร้คนอาศัย ในขณะที่อัยย์ก็พาเธอเดินตรงไปจนถึงโต๊ะไม้ตัวหนึ่ง บนโต๊ะนั้นมีมีดเล่มหนึ่ง ขนาดไม่ยาวไม่ยาวมาก อัยย์บอกให้จิดาหยุดรออยู่ตรงนั้น อัยย์เดินเข้าไปที่โต๊ะแล้วหยิบมีดเล่มนั้นขึ้นมา แล้วเดินกลับหาจิดาอีกครั้ง เธอยื่นมีดเล่มนั้นให้ แล้วพูดว่า
"นี่ไง สิ่งที่เธอต้องทำ" อัยย์มีดเล่มนั้นให้
"นี่คือสิ่งที่ฉันต้องทำจริงเหรอ" จิดาเริ่มเกิดความลังเล
"เธอไม่เชื่อใจฉันงั้นเหรอ ไหนเธอบอกว่าเธอรักฉันไงจิดา" อัยย์พยายามเร่งเร้าให้จิดารับมีดจากเธอไป
ซึ่งในขณะที่เธอยืนคุยก็จิดานั้น ตอนนี้ร่างเธอมาหยุดยืนที่อ่างล้งจาน สายตาของเธอเหมือนเหม่อลอย แต่จริงๆแล้ว เธอกำลังมองที่มีดเล่มหนึ่งที่วางอยู่ในอ่างล้างจานนั้นเอง จิดาเริ่มไม่มั่นใจว่า เธอควรทำจริงๆ หรือไม่ ในขณะที่อัยย์ก็ไม่ละความพยายาม เธอส่งมีดให้พร้อมกับพูดโน้มน้าวให้จิดาฟังเธออีกครั้ง
"จิดา ฉันเป็นเพื่อนคนเดียวของเธอนะ เธอต้องเชื่อฉัน ฉันหวังดีกับเธอที่สุดนะ"
"..." จิดากำลังครุ่นคิด พยายามตัดสินใจ
ร่างของจิดาตอนนี้ได้ถือมีดเล่มนั้นขึ้นมา แล้วเธอก็เดินออกจากห้องครัว กลับไปที่ชั้นสอง เธอเดินกลับไปที่ห้องนอนของเธอ ทิ้งร่างของเธอลงบนที่นอนอีกครั้ง มือยังคงเธอมีดเล่มนั้นไว้... เธอยังไม่ตัดสินใจอะไร แต่เธอคิดว่า เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว แล้วเธอก็หลับตาลง แล้วเธอก็หลับไป...
เชิญผู้อ่านติชมได้ค่ะ
คนเหงาๆกับ"โลกซึมเศร้า"
นานเท่าไหร่แล้วที่ฉันไม่ได้สนใจตัวเอง และความรู้สึกของตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น...?
ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง กับตัวของฉัน และสิ่งรอบตัวของฉัน...?
เป็นคำถามที่ผุดลอยขึ้นมาตามสายลมที่พัดโชยอ่อนในยามเช้า ที่พัดผ่านหน้าต่างบานไม่ใหญ่นักในห้องนอนของหญิงสาวผู้หนึ่ง
มีเสียงนกร้องเป็นเสียงเพลงเบาๆ คลอเคลียไปกับแสงแดงยามเช้าที่สาดเข้ามาในห้องนอน หญิงสาวผู้หนึ่งทิ้งตัวลงบนที่นอน
ใบหน้าเหมือนไร้ซึ่งจิตวิญญาณ เธอดูเฉยเมย ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่อยู่รอบตัวเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่บรรยากาศยามเช้าช่างน่ารื่นภิรมย์
แต่เธอกลับรู้สึกมืดมนแล้วเศร้าหมองยิ่ง อีกแล้ว...รู้สึกเช่นนี้เหมือนเคย... เธอคิดในใจอยู่เช่นนั้นซ้ำไปซ้ำมา ราวกลับว่ามันถูกอัดเสียง
ไว้อัตโนมัติ เธอยังคงทอดกายบนที่นอนอยู่เช่นนั้น ไม่ขยับไปไหน สายตาเหม่อลอยไปบนเพดานของห้อง เธอมองโมบายรูปกระต่าย
ที่ติดไว้ตั้งแต่สมัยยังเด็ก จนบัดนี้แล้วมันก็ยังคงอยู่ที่เดิม ยังคอยหมุนไปมา เธอไม่อาจจะละสายตาจากโมบายชุดนี้ได้
เวลาผ่านไปนานเท่าใดแล้ว... เธอจำไม่ได้ เธอไม่ได้สนใจวันเดือนปีที่ผ่านไป เธอยังคงนอนนิ่งอยู่กับความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวของเธอ
เธอไม่พยายามสนใจภายนอก เธอไม่สนใจกับโลกที่หมุนตัวไปอยู่ตลอดเวลา เธอไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวใดๆ เธอรู้สึกแต่เพียง "โลกซึมเศร้า"
ที่เธอไม่สามารถก้าวข้ามออกมาสู่โลกปัจจุบันได้...
จิดา หญิงสาวผู้ซึ่งเป็นโรคซึมเศร้า ชีวิตของเธอได้เปลี่ยนไปหลังจากวันที่เธอเริ่มมีปากเสียงกับเพื่อนร่วมงานของเธอ และเพื่อนสนิทของเธอ
ลาออกจากงาน และหลายๆ อย่างได้เปลี่ยนไปจนเธอนั้นรับไม่ทัน จนทำให้เธอกลายเป็นโรคซึมเศร้า เธอพยายามคิดว่าเธอเองคงไม่เป็นไร
เธอคิดว่าเธอจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างคนปกติ เธอไม่คิดที่จะไปรับการรักษากับจิตแพทย์ ทั้งๆ ที่เพื่อนๆ หลายคนก็แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์
แต่เธอยังคงคิดว่าไม่เป็นไร ยังทนไหว แต่แล้วในที่สุด เธอก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอได้เดินเข้าสู่โลกอีกใบ ที่มีชื่อว่า โลกซึมเศร้า
ในที่สุด จิดาก็ยอมรับการรักษาจากจิตแพทย์ เธอต้องรับยามาทานจำนวนหนึ่ง และต้องคอยไปพบแพทย์ทุกๆ สองอาทิตย์ เธอต้องทานยาต้านเศร้าทุกวัน
เธอต้องพยายามปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตของเธอ ที่จะทำให้เธอต้องเครียดและคิดมาก แต่แล้วก็มาถึงจุดจุดหนึ่ง ที่ทำให้เธอคิดว่า เธอคงจะยอมแพ้
และขออยู่แต่ในโลกซึมเศร้าของเธอเพียงคนเดียวตลอดไป เธอลาออกจากงาน และใช้ชีวิตอยู่บนเตียงนอนของเธอ เธอแทบจะไม่เดินออกจากห้องนอน
ของเธอเลย เธอเป็นแบบนี้มานานสองเดือนแล้ว เธอไม่ติดต่อคนภายนอก เธอไม่ออกจากห้องนอน เธอหยุดการรักษาและปล่อยให้ตัวเองอยู่ในโลก
ที่ไม่มีใครสามารถเข้าถึงเธอได้อีก ทุกครั้งที่จิดารู้สึกเหงา เธอจะลุกขึ้นไปนั่งที่ขอบหน้าต่างห้องนอนของเธอ แล้วก็พูดกับตัวเองเสมอ เธอคิดว่าตัวเธอเอง
คือเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ
จิดา "เธอรักฉันไหม"
อัยย์ "ฉันรักเธอนะ"
เธอเรียกเสียงที่เธอได้ยินจากในสมองของเธอว่า "อัยย์" เธอพูดคุยกับเสียงนั้นราวกับว่าเสียงนั้นมีตัวตนอยู่จริงๆ เธอรักเสียงนี้มากเหมือนเพื่อนสาว
ที่มีชีวิตอยู่จริง จิดามักจะคุยกับอัยย์และคอยถามอยู่เสมอว่า เธอมีค่าไหม เธอควรมีชีวิตอยู่ต่อไปไหม ทุกครั้งที่ได้คำตอบจากอัยย์ ก็จะแตกต่างกันออกไป
โดยที่เธฮไม่รู้เลยว่า คำตอบเหล่านั้นขึ้นอยู่กับสภาพอารมณ์ของเธอนั่นเอง
และวันนี้ก็เช่นกัน เธอยังคงทิ้งร่างกายของเธอบนที่นอน สายตามองไปรอบๆ ห้อง แล้วเธอก็เอ่อยถามอัยย์เช่นเคย
"อัยย์ เธอว่าฉันควรมีชีวิตอยู่ต่อไปไหม" จิดาถาม
"อืม... เธอคิดว่าเธอมีค่าพอที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปไหม" อัยย์ถามย้อนกลับไป
"ฉันคิดว่าไม่" จิดาตอบแบบไม่ต้องคิด
"งั้นเธอก็ตายดีกว่า" อัยย์ตอบคำถามนั้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
จิดาไม่ได้ทำอะไรต่อ เธอนอนหลับตา แล้วเธอก็หลับไป... แล้วเมื่อเธอรู้สึกตัว เธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอกลับพบว่าที่ที่เธอนอนอยู่ไม่ใช่เตียงนอน
ไม่ใช่ห้องนอนของเธอ แต่เป็นกลางทุ่งหญ้าแห้งๆ บรรยากาศโดยรอบมีแต่หมอกควัน เธอมองไม่เห็นอะไรนอกจากหมอกควัน เธอลุกขึ้นแล้วมองไปรอบๆ
เธอเริ่มรู้สึกกลัว และไม่มั่นในว่าที่นี่ที่ไหน เธอยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า เธอเริ่มตะโกนเรียกอัยย์ เรียกเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครออกมา เธอเดินตรงไปข้างหน้า
เดินไปแบบไร้จุดหมาย ไม่รู้ว่าเธอกำลังจะไปไหน แต่คิดได้แค่ว่าต้องเดินต่อไปเรื่อยๆ เธอยังคงเรียกชื่ออัยย์อยู่ จนกระทั่ง มีเงาตะคุ่มอยู่ด้านหน้าของเธอ
เธอหยุดเดินในทันที เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดถามเงานั้น
"อัยย์ นั่นเธอใช่ไหม" จิดาตะโกนถาม
"..."
ไม่มีเสียงตอบจากเงานั้น แล้วเงานั้นก็เดินเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ เมื่อเงานั้นพ้นออกมาจากหมอกควันนั้น เธอก็ตกใจเล็กน้อยที่เงานั้นเป็นตัวของเธอเองอีกคน
"อัยย์ จริงๆ ใช่ไหม" จิดาถามอีกครั้ง
"ใช่ อัยย์เอง ในที่สุด เราก็ได้เจอกันเสียที" อัยย์พูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้จิดา แล้วอัยย์ก็ยื่นมือไปจับตัวจิดา
"จิดาจำได้ใช่ไหม ว่าฉันบอกเธอไปว่าอย่างไร" อัยย์ทวงถามถึงคำตอบสุดท้ายที่เธอตอบจิดาไป
"จำได้ซิ เธอบอกว่าฉันควรจะตาย" จิดาทวนคำตอบนั้น
"ใช่ เพราะฉะนั้นฉันจึงมาพาเธอไป เธอตามฉันมาซิ" อัยย์พูดพร้อมดึงมือของจิดาไปด้วย
อัยย์ค่อยๆ พาจิดาเดินตรงไปเรื่อยๆ ในโลกซึมเศร้าของเธอ แต่เมื่ออกมาดูในโลกความเป็นจริง จิดากำลังลุกจากที่นอน แล้วเดินตรงไปชั้นล่างของบ้าน
ที่เงียบสงบไร้คนอาศัย ในขณะที่อัยย์ก็พาเธอเดินตรงไปจนถึงโต๊ะไม้ตัวหนึ่ง บนโต๊ะนั้นมีมีดเล่มหนึ่ง ขนาดไม่ยาวไม่ยาวมาก อัยย์บอกให้จิดาหยุดรออยู่ตรงนั้น อัยย์เดินเข้าไปที่โต๊ะแล้วหยิบมีดเล่มนั้นขึ้นมา แล้วเดินกลับหาจิดาอีกครั้ง เธอยื่นมีดเล่มนั้นให้ แล้วพูดว่า
"นี่ไง สิ่งที่เธอต้องทำ" อัยย์มีดเล่มนั้นให้
"นี่คือสิ่งที่ฉันต้องทำจริงเหรอ" จิดาเริ่มเกิดความลังเล
"เธอไม่เชื่อใจฉันงั้นเหรอ ไหนเธอบอกว่าเธอรักฉันไงจิดา" อัยย์พยายามเร่งเร้าให้จิดารับมีดจากเธอไป
ซึ่งในขณะที่เธอยืนคุยก็จิดานั้น ตอนนี้ร่างเธอมาหยุดยืนที่อ่างล้งจาน สายตาของเธอเหมือนเหม่อลอย แต่จริงๆแล้ว เธอกำลังมองที่มีดเล่มหนึ่งที่วางอยู่ในอ่างล้างจานนั้นเอง จิดาเริ่มไม่มั่นใจว่า เธอควรทำจริงๆ หรือไม่ ในขณะที่อัยย์ก็ไม่ละความพยายาม เธอส่งมีดให้พร้อมกับพูดโน้มน้าวให้จิดาฟังเธออีกครั้ง
"จิดา ฉันเป็นเพื่อนคนเดียวของเธอนะ เธอต้องเชื่อฉัน ฉันหวังดีกับเธอที่สุดนะ"
"..." จิดากำลังครุ่นคิด พยายามตัดสินใจ
ร่างของจิดาตอนนี้ได้ถือมีดเล่มนั้นขึ้นมา แล้วเธอก็เดินออกจากห้องครัว กลับไปที่ชั้นสอง เธอเดินกลับไปที่ห้องนอนของเธอ ทิ้งร่างของเธอลงบนที่นอนอีกครั้ง มือยังคงเธอมีดเล่มนั้นไว้... เธอยังไม่ตัดสินใจอะไร แต่เธอคิดว่า เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว แล้วเธอก็หลับตาลง แล้วเธอก็หลับไป...
เชิญผู้อ่านติชมได้ค่ะ