นั่งคุยกับคุณหยง ธํารงชัย เอกอมรวงศ์
พิธีกร ญ/ช : สวัสดีครับ/ค่ะ
คุณหยง : สวัสดีครับ
พิธีกร ญ/ช : เป็นไงบ้างครับ หนาว หรือ ร้อนอยู่
คุณหยง : สบายๆ ครับ
พิธีกร ญ/ช : สบายๆ แสดงว่าชิวแล้ว อยู่ในขั้นที่เป็นปีกเหล็กแล้วนะค่ะ ไม่ใช่เหล็กธรรมดา เป็นเหล็กระดับอินเตอร์นะคะ ทำไมถึงตัดสินใจมาเป็นนักลงทุนเต็มตัว
คุณหยง : ทำไมตัดสินใจ อ่าา มันเป็นเรื่อง คงเป็นเรื่องเหตุผลน้อย
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ
คุณหยง : เป็นเรื่องของความรู้สึกค่อนข้างมาก
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ เปิดมาก็คมเลย (หัวเราะ)
คุณหยง : (หัวเราะ) ผมมีความใฝ่ฝัน ในชีวิตเนี้ยะ
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ
คุณหยง : ที่อยากจะทำอะไรเป็นของตัวเอง
พิธีกร ญ/ช : อื่มหื
คุณหยง : เราอยากจะ Push และทำอะไรให้มากที่สุด สักเรื่องหนึ่งเป็นของตัวเอง
พิธีกร ญ/ช : อื่ม
คุณหยง : และผมว่าการที่เข้ามาสู่ตลาดทุนเนี๊ยะ เป็นหนึ่งในโอกาสที่เปิด
พิธีกร ญ/ช :ค่ะ/อื่ม
คุณหยง : ให้ผมได้ใช้ศักยภาพของตัวเอง อย่างเต็มที่ที่สุด
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/อื่ม
คุณหยง : เหมือนกับปลูกต้นไม้ ปลูกมะม่วงในสวนคนอื่น หรือเราจะเลือกปลูกมะม่วงในสวนตัวเอง
พิธีกร ญ/ช : อ่าา ก็หมายความว่าก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะมาปลูกมะม่วงในสวนตัวเอง คุณหยงก็ไปปลูกมะม่วงในสวนคนอื่น ก็คือ ทำงานบริษัทอื่น
คุณหยง : ใช่ครับ
พิธีกร ญ/ช : เป็นด้านไหนครับ พอจะเล่าได้มั้ยครับ
คุณหยง : ผมก็ทำเกี่ยวกับเป็นผู้บริหาร ระดับจูเนียร์ ในบริษัทจดทะเบียนอ่ะนะครับ ก็ ผมดูแลเกี่ยวกับเรื่องของ Investment ตอนนั้น
พิธีกร ญ/ช : เป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ด้วย
คุณหยง : ครับ
พิธีกร ญ/ช : บริษัทนึง แต่ไม่ต้องบอกชื่อ
คุณหยง : ครับ
พิธีกร ญ/ช : ก็ดูเหมือนไปได้นี้นะ (พิธีกรชายหันมาคุยกับพิธกรหญิง) / ค่ะ / เป็นผู้บริหารด้วยใช่มั้ยฮะ
คุณหยง : ตอนนั้นดี ตอนนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องออก
พิธีกร ญ/ช : อ่าฮะ
คุณหยง : เพียงแต่ว่า นั่นไม่ใช่คำตอบของเรา
พิธีกร ญ/ช : อืมมมมม อื่มมมมม
คุณหยง : ผมมองว่าถ้ามันไม่พาผมไปสู่เป้าหมาย ผมไม่เสียเวลา
พิธีกร ญ/ช : ครับ
คุณหยง : ก็เลยบอกนายว่า ขอออก
พิธีกร ญ/ช : ตอนนั้นลงทุนหรือยังครับ
คุณหยง : เริ่มเทรดแล้วครับ
พิธีกร ญ/ช : เริ่มเทรดแล้ว
คุณหยง : แต่ก็ยังลุ่มๆ ดอนๆ นะ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่
พิธีกร ญ/ช : เริ่มต้นการเทรดเป็นหุ้นในประเทศ หรือว่าเป็นอะไรอย่างอื่น
คุณหยง : มีรู้จักหุ้นในประเทศบ้าง ได้แต่ะได้สัมผัสบ้าง แต่รู้สึกว่ามันไม่เร้าใจมากพอ
พิธีกร ญ/ช : ไม่เร้าใจ ไม่เซ็กส์ซี่พอนะค่ะ (ยิ้นกรุ้มกริ่ม)
คุณหยง : ก็ไปเทรดต่างประเทศ ไปเทรดที่นิวยอร์คนะครับ
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ไปเทรด ไม่ได้เทรดฟิวเจอร์ด้วย ไปเทรดออปชั่น
พิธีกร ญ/ช : เปิดมานี่ ไปเทรดที่ตลาดหุ้นนิวยอร์คเลยเหรอค่ะ อ่าา คือตอนนั้นเราลองวิชาหรือว่าคือใช้เทคนิคอะไรในการที่จะเริ่มต้นและตัดสินใจไปที่นิวยอร์ค
คุณหยง : อย่างแรก ผมเองเหมือนนักลงทุนคงนึงทั่วไป คือเรากระหายวิชา อยากจะลองให้ถึงที่สุด
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ตลาดหุ้นไทยดี ตลาดฮั่งเส็ง ก็ดีน้าาา
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ไปตลาดชิคาโก้ ก็โอเค
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : แต่ที่สุดเลยเนี่ยะ จะต้องเป็นตลาด Community ตลาดทองคำ ตลาด Forex ที่นิวยอร์ค
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/อืมมม
คุณหยง : ดังนั้นเนี่ยะ โดยไม่ต้องคิดเยอะเลย โดยไม่ได้ไตร่ตรองด้วยนะ (ยิ้มๆ) น่ะครับ ไปเลย
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ฮ่าๆๆ (หัวเราะ) มันคล้ายกันแต่มันไม่เหมือนกัน ตกลงวันนั้นคิดมั้ยครับ
คุณหยง : ย้อนกับมาวันนั้น เราไม่ได้คิด
พิธีกร ญ/ช : อื่ม
คุณหยง : เราไม่ได้คิดอย่างละเอียดเพียงพอ
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : เห็นแต่ข้อดี
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ไม่เห็นความน่ากลัวที่ซ่อนอยู่
พิธีกร ญ/ช : ซึ่งอันเนี่ยะ ผมว่าไม่กี่คนนะ ที่ตัดสินใจเล่นกีฬาอันนึง ไปเทิร์นโปรเลย โดยไม่ผ่านดิวิชั่น 1 อ่ะ ก็คือตลาดในประเทศ ตลาดหุ้นทั่วไปที่เรารู้จักหุ้นอยู่แล้วเป็นตัวๆ เป็นบริษัทที่อยู่ในประเทศอยู่แล้ว คุณหยง ไปเทรดต่างประเทศเลย
คุณหยง : ใช่ครับ
พิธีกร ญ/ช : แล้วผลออกมาเป็นยังไงฮะ
คุณหยง : ก็ด้วยความมุทะลุ นะฮะ ด้วยความกระหายที่จะไปถึงที่สุด
พิธีกร ญ/ช : ครับ
คุณหยง : มันก็เลยหลุดขอบ ผมก็เสียหาย เสียหายหนัก
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : หนักมาก ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
พิธีกร ญ/ช : อันนั้นยังทำงานประจำอยู่หรือเปล่าฮะ
คุณหยง : ตอนนั้น เพิ่งลาออกมา
พิธีกร ญ/ช : ลาออกมาแล้วด้วย
คุณหยง : ใช่ครับ
พิธีกร ญ/ช : ตอนที่เริ่มต้นยังทำงานอยู่
คุณหยง : ตอนที่เริ่มต้นเนี่ยะ โอเค ยังทำงานประจำอยู่ โอเค เราเจอคำตอบละ
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ลุยเลย ขอลาออก ทันทีเลย มาลุยเทรดเต็มตัว
พิธีกร ญ/ช : มั่นใจหล่ะ อันนี้แหละที่เราเจอมันใช่ตัวเราเอง
คุณหยง : ใช่ครับ
พิธีกร ญ/ช : แล้วตำราเทคนิคในการเริ่มต้นเทรด พุ่งทะลุไปที่ตลาดนิวยอร์ดนี่ใช้เทคนิคใช้ตำราวิธีไหนครับ
คุณหยง : ผมก็ใช้เครื่องมือเรารู้ๆ จักกันอ่ะครับ Technical Analysis
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : การวิเคราะห์ด้วยปัจจัยทางเทคนิค ก็ดูทิศทางราคา ดูเทรนเอามาประกอบกัน
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : แต่ เอาไปใช้แล้วเนี่ยะ เครื่องมือวิชาก็พอรู้ พอมีติดตัวอยู่บ้าง แต่มันยังไม่พอ
พิธีกร ญ/ช : อืมมม อะไรฮะที่ขาดไปตอนนั้น
คุณหยง : ขาดไป ขาดความยับยั้งชั่งใจ
พิธีกร ญ/ช : อ่อออออ มั่นใจมาก ลาออกจากงาน คิดว่าเราชนะมันแน่นอน
คุณหยง : ครับ มันเห็นข้อดี แต่ไม่เห็นข้อควรระวัง ผมก็เลยเรียกว่า ไป ลุยให้มันเต็มที่ คิดว่า มีวิชาดีละ คิดว่าเอาอยู่
พิธีกร ญ/ช : อืมมม
คุณหยง : ไปปุ๊ป กำไรหรือเปล่า กำไร
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ใช่ช่วงแรกกำไรมหาศาล แต่มันเป็นกำไรมหาศาลที่รักษาไม่ได้
พิธีกร ญ/ช : อ่อออ
คุณหยง : นี่แหละปัญหา นี่แหละปัญหาคนเทรดส่วนใหญ่ พอเป็นกำไรมหาศาล ได้เงิน แต่คุณรักษามันไม่ได้
พิธีกร ญ/ช : คือมันมาแล้วไป
คุณหยง : คืนหมด
พิธีกร ญ/ช : คืนหมด (ตามน้ำ)
คุณหยง : ครับผม
พิธีกร ญ/ช : เสียหายเยอะมั้ยครับ ตอนนั้น
คุณหยง : เสียหาย Total ก็ประมาณ 75% ได้
พิธีกร ญ/ช : 75% อันนี้คือ ผลจากวิกฤติตอน Sub-Prime หรือก่อนหน้าที่จะเกิด Sub-Prime ค่ะ
คุณหยง : เริ่ม Sub-Prime ก็ล้มแล้วครับ
พิธีกร ญ/ช : เริ่ม Sub-Prime (หัวเราะกันใหญ่) ฮ่าๆๆ ไม่ต้องรอนานนะฮะ
คุณหยง : ครับ
พิธีกร ญ/ช : งั้นจะต้องถามนะค่ะ เห็นบรรยากาศตลาดช่วงนั้นก็เห็นว่าครุกรุ่น เริ่มจะมีกลิ่นอายของคาวเลือดละ เห็นดูมีวิกฤติจะเกิดขึ้นนะค่ะ ทำไมคิดตัดสินใจที่จะลุยต่อและ / ติดคำถามไว้ในเบรกหน้าดีมั้ยครับ กำลังเป็นไฮไลท์ / เดี๋ยวต้องพักกันก่อนสักครู่นะค่ะเดี๋ยวช่วงหน้า จะพาไปดูสมรภูมิรบการลงทุนของคุณหยง Freedom Trader ตอนนี้พักสักครู่ค่ะ
วีวีวี้วี่วี บ่อดๆ ตึ่กๆ วีวีวี้วี่วี บ่อดๆ ตึ่กๆ วีวีวี้วี่วี (เสียงอินโทร รายการ)
พิธีกร ญ/ช : ยังอยู่ช่วงเวลาปฏิบัติการ เสริมใยเหล็กให้กับนักลงทุน คุณหยง Freedom Trader เซียนหุ้น ระดับอินเตอร์ที่ ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านสมรภูมิ วิกฤติ Sub-Prime ของตลาดนิวยอร์คมาแล้วนะค่ะ เมื่อสักครู่เราทิ้งท้ายกันไปนะค่ะ กับการเริ่มต้นประสบการณ์โหด ใชช่วงวิกฤติเศรษฐกิจบาดเจ็บล้มตาย กันมากมาย ไม่เห็นสัญญาณ เหรอค่ะ ทำไมถึงมุ่งสู่ความเสี่ยง
คุณหยง : ความเสี่ยงเนี่ยะ เชื่อหรือไม่ว่า ตลาดทุกคนรู้จักความเสี่ยง เห็นอยู่
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : แต่ผลตอบแทนมันหอมหวานเหลือเกิน
พิธีกร ญ/ช : อืมมมม
คุณหยง : มันเหมือนเราอยากที่จะเสี่ยง
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ
คุณหยง : แต่การที่เราไม่ระมัดระวังเนี่ยะ
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ
คุณหยง : บางทีมันคุมความเสี่ยงไม่อยู่ ไม่มีใครที่เป็นนักลงทุนที่ไม่พยายามคุมความเสี่ยงนะฮะ พยายามคุมกันทุกคน
พิธีกร ญ/ช : ครับ
คุณหยง : แต่มันเอาไม่อยู่
พิธีกร ญ/ช : เอาไม่อยู่ (ตามน้ำ) อย่างที่คุณกีต้าถามไปน่าจะเห็ย Signal ตลาดมันเป็นเริ่มเป็นขาลงแล้ว มันมีอันตรายมากแล้ว แต่เราก็ยังเห็นผลตอบแทน ยังคิดว่ามันเสี่ยงแล้วยังคุ้มเหรอฮะ
คุณหยง : ใช่ ผม อย่างนึงเลยที่พลาด ไม่ใช่ว่าเรามองทิศทางไม่ออก เรามองทิศทางออก เรามองว่าการขึ้นตรงเนี้ยะ มันน่ากลัวแล้วนะ ก่อนที่มันจะเกิด Sub-Prime ก่อนที่มันจะ Crash ตอนเริ่มต้นเนี่ยะ เราเห็นสัญญาณทางเทคนิคทุกอย่าง
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : แต่ใจ มันยังมีแรงเฉื่อย แรงต่อเนื่องในอารมณ์ อยากจะต่อเนื่อง อยากจะบู้ต่อ
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ (หัวเราะคิกคัก)
คุณหยง : ประกอบกับความไม่ระมัดระวังตัวเอง ผลมันเลยเสียหาย
พิธีกร ญ/ช : เป็นประสบการณ์ที่ดี หรือเลวร้าย
คุณหยง : นะตอนนั้นเลวร้ายที่สุดในชีวิต
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : คุณคิดดูแล้วกัน ผม ทำงานในบริษัทมา มีเงินเดือน มีตำแหน่ง มีความก้าวหน้า มี Stock Option มีทุกอย่างที่มันกำลังไปได้สวย
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ออกมาเทรด มาทำตามสิ่งที่ฝัน
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : แต่ในระยะเวลา แป๊ปเดียว ทุกอย่างมันพังครืน ลงมาหมดเลย
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : การที่มันพังครืนลงมาหมดเลย มันเกิดภาวะทีว่าทำใจลำบาก ภาวะเอาไม่อยู่ สัญญาณเทคนิคอลอะไรทุกอย่างเห็น
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : แต่ใจเรามันป่นปี้หมดแหละ
พิธีกร ญ/ช : สภาวะทิ้งตัวในช่วงนั้นนะค่ะ (หัวเราะคิกคัก) แต่ว่าชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อไป เจ็บปวดขนาดนั้น เสียหายขนาดนั้น กลับมาได้ยังไงค่ะ คุณหยง
คุณหยง : โอเค ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเสียหายเพราะอะไร
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ผมเนี่ยะ เวลาเห็นโอกาส เหมือนกับทุกๆ คน เราเข้าไปสุดตัว โดยที่ไม่เผื่อเอาไว้ ในการลงทุนเนี่ยะ เค้าเรียกว่า Over Trade
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : คือการใส่เกินตัว การใส่สุดตัวเกินไป
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : จากการ Over Trade เวลามันได้มันได้มหาศาล เราได้เยอะ แล้วได้เร็ว เหมือนที่คนพูดๆ กันอ่ะนะฮะ
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ผมคือคนนึงที่ได้เยอะและได้เร็ว แต่ตอนเสียหาย มันเสียหายลงวูบลงไปแบบไม่มีทิศทางเลย
พิธีกร ญ/ช : พอยกตัวอย่างได้มั้ยฮะ ว่าการ Over Trade เนี่ยะ สมมุติเรามีเงิน ล้านนึง เราใส่ไปเท่าไหร่
คุณหยง : โอเค พูดในตัวอย่างที่ง่ายที่สุดแล้วกัน ยกตัวอย่าง TFEX SET50 ในบ้านเราที่รู้จักกันอยู่นะฮะ ตอนนี้มันอยู่ที่ราว 890 จุด ณ วันนี้เลยนะ มันอยู่ที่ 890 คนส่วนใหญ่มองว่า วางเงินเท่าไหร่ดี วางเงิน 7 หมื่น 8 หมื่น แสนนึง มาร์เก็ตติ้งบอกวางแสนนึงก็พอ ในความเป็นจริงคุณต้องทำความเข้าใจว่า คุณกำลังเทรดอยู่กับเงิน 8 แสน 9 หมื่นบาท ไม่ใช่เงิน 890 ไม่ใช่เงิน 8 หมื่น 9 ไม่ใช่เงินขั้นต่ำ ตลาดกำหนดคุณวางแค่ สามสี่หมื่นก็พอ กำไรไปเท่าไหร่ กำไรมาจากฐานสามสี่หมื่น ไม่ใช่ คุณกำลังเทรดอยู่กับเงินเกือบๆ 9 แสน โดยปราศจากความเข้าใจในเรื่องนี้ คนเข้าไปตอนได้ ได้เยอะ ตอนเสีย ไม่เหลือ
พิธีกร ญ/ช : อืมมมม ไม่เหลือ (ตามน้ำ)
คุณหยง : ครับ
พิธีกร ญ/ช : ตอนนั้นนอกจากเสียเงิน แล้วเสียกำลังใจด้วย
คุณหยง : ใช่ มันเข้าสู่ภาวะที่เค้าเรียกว่า ชีวิตพัง
พิธีกร ญ/ช : อืม ใช้อย่างนั้นได้เลยเหรอฮะ
คุณหยง : พังสิครับ จะเหลือเหรอครับพี่ (หัวเราะ)
พิธีกร ญ/ช : (หัวเราะตาม) คือเมื่อก่อนมะม่วงปลูกที่สวนเค้าก็ยังเด็ดมะม่วงกินได้
คุณหยง : มันเหมือนน้ำเหนือมาอ่ะครับพี่
พิธีกร ญ/ช : ตอนนี้ไม่เหลือแม้แต่ราก (หัวเราะ)
คุณหยง : ใช่ครับ (หัวเราะ)
พิธีกร ญ/ช : แล้วทำไงฮะ
คุณหยง : อ่าาา ในภาวะที่มันลงมาตกต่ำสุดตอนนั้น
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ผมไม่มีทางเลือก ข้อแรก ผมไม่มีทางออก จะเทรดต่อ จะกลับไปทำงานประจำ ตอนนั้นเราต้องการเทรดต่อ มันเหมือนความฝันที่ฝันมาทั้งชีวิตเนี่ยะ มันเร็วเกินไปที่จะทิ้งมัน เทรดต่อ แต่ยังไม่เห็นทางออก
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
หยง เกิดมาเทรด นักลงทุนอิสระ กว่าจะมีวันนี้ ลาออกจากงานที่ดีมาเทรดเต็มตัว กับเส้นทางนักลงทุนที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
พิธีกร ญ/ช : สวัสดีครับ/ค่ะ
คุณหยง : สวัสดีครับ
พิธีกร ญ/ช : เป็นไงบ้างครับ หนาว หรือ ร้อนอยู่
คุณหยง : สบายๆ ครับ
พิธีกร ญ/ช : สบายๆ แสดงว่าชิวแล้ว อยู่ในขั้นที่เป็นปีกเหล็กแล้วนะค่ะ ไม่ใช่เหล็กธรรมดา เป็นเหล็กระดับอินเตอร์นะคะ ทำไมถึงตัดสินใจมาเป็นนักลงทุนเต็มตัว
คุณหยง : ทำไมตัดสินใจ อ่าา มันเป็นเรื่อง คงเป็นเรื่องเหตุผลน้อย
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ
คุณหยง : เป็นเรื่องของความรู้สึกค่อนข้างมาก
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ เปิดมาก็คมเลย (หัวเราะ)
คุณหยง : (หัวเราะ) ผมมีความใฝ่ฝัน ในชีวิตเนี้ยะ
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ
คุณหยง : ที่อยากจะทำอะไรเป็นของตัวเอง
พิธีกร ญ/ช : อื่มหื
คุณหยง : เราอยากจะ Push และทำอะไรให้มากที่สุด สักเรื่องหนึ่งเป็นของตัวเอง
พิธีกร ญ/ช : อื่ม
คุณหยง : และผมว่าการที่เข้ามาสู่ตลาดทุนเนี๊ยะ เป็นหนึ่งในโอกาสที่เปิด
พิธีกร ญ/ช :ค่ะ/อื่ม
คุณหยง : ให้ผมได้ใช้ศักยภาพของตัวเอง อย่างเต็มที่ที่สุด
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/อื่ม
คุณหยง : เหมือนกับปลูกต้นไม้ ปลูกมะม่วงในสวนคนอื่น หรือเราจะเลือกปลูกมะม่วงในสวนตัวเอง
พิธีกร ญ/ช : อ่าา ก็หมายความว่าก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะมาปลูกมะม่วงในสวนตัวเอง คุณหยงก็ไปปลูกมะม่วงในสวนคนอื่น ก็คือ ทำงานบริษัทอื่น
คุณหยง : ใช่ครับ
พิธีกร ญ/ช : เป็นด้านไหนครับ พอจะเล่าได้มั้ยครับ
คุณหยง : ผมก็ทำเกี่ยวกับเป็นผู้บริหาร ระดับจูเนียร์ ในบริษัทจดทะเบียนอ่ะนะครับ ก็ ผมดูแลเกี่ยวกับเรื่องของ Investment ตอนนั้น
พิธีกร ญ/ช : เป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ด้วย
คุณหยง : ครับ
พิธีกร ญ/ช : บริษัทนึง แต่ไม่ต้องบอกชื่อ
คุณหยง : ครับ
พิธีกร ญ/ช : ก็ดูเหมือนไปได้นี้นะ (พิธีกรชายหันมาคุยกับพิธกรหญิง) / ค่ะ / เป็นผู้บริหารด้วยใช่มั้ยฮะ
คุณหยง : ตอนนั้นดี ตอนนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องออก
พิธีกร ญ/ช : อ่าฮะ
คุณหยง : เพียงแต่ว่า นั่นไม่ใช่คำตอบของเรา
พิธีกร ญ/ช : อืมมมมม อื่มมมมม
คุณหยง : ผมมองว่าถ้ามันไม่พาผมไปสู่เป้าหมาย ผมไม่เสียเวลา
พิธีกร ญ/ช : ครับ
คุณหยง : ก็เลยบอกนายว่า ขอออก
พิธีกร ญ/ช : ตอนนั้นลงทุนหรือยังครับ
คุณหยง : เริ่มเทรดแล้วครับ
พิธีกร ญ/ช : เริ่มเทรดแล้ว
คุณหยง : แต่ก็ยังลุ่มๆ ดอนๆ นะ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่
พิธีกร ญ/ช : เริ่มต้นการเทรดเป็นหุ้นในประเทศ หรือว่าเป็นอะไรอย่างอื่น
คุณหยง : มีรู้จักหุ้นในประเทศบ้าง ได้แต่ะได้สัมผัสบ้าง แต่รู้สึกว่ามันไม่เร้าใจมากพอ
พิธีกร ญ/ช : ไม่เร้าใจ ไม่เซ็กส์ซี่พอนะค่ะ (ยิ้นกรุ้มกริ่ม)
คุณหยง : ก็ไปเทรดต่างประเทศ ไปเทรดที่นิวยอร์คนะครับ
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ไปเทรด ไม่ได้เทรดฟิวเจอร์ด้วย ไปเทรดออปชั่น
พิธีกร ญ/ช : เปิดมานี่ ไปเทรดที่ตลาดหุ้นนิวยอร์คเลยเหรอค่ะ อ่าา คือตอนนั้นเราลองวิชาหรือว่าคือใช้เทคนิคอะไรในการที่จะเริ่มต้นและตัดสินใจไปที่นิวยอร์ค
คุณหยง : อย่างแรก ผมเองเหมือนนักลงทุนคงนึงทั่วไป คือเรากระหายวิชา อยากจะลองให้ถึงที่สุด
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ตลาดหุ้นไทยดี ตลาดฮั่งเส็ง ก็ดีน้าาา
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ไปตลาดชิคาโก้ ก็โอเค
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : แต่ที่สุดเลยเนี่ยะ จะต้องเป็นตลาด Community ตลาดทองคำ ตลาด Forex ที่นิวยอร์ค
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/อืมมม
คุณหยง : ดังนั้นเนี่ยะ โดยไม่ต้องคิดเยอะเลย โดยไม่ได้ไตร่ตรองด้วยนะ (ยิ้มๆ) น่ะครับ ไปเลย
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ฮ่าๆๆ (หัวเราะ) มันคล้ายกันแต่มันไม่เหมือนกัน ตกลงวันนั้นคิดมั้ยครับ
คุณหยง : ย้อนกับมาวันนั้น เราไม่ได้คิด
พิธีกร ญ/ช : อื่ม
คุณหยง : เราไม่ได้คิดอย่างละเอียดเพียงพอ
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : เห็นแต่ข้อดี
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ไม่เห็นความน่ากลัวที่ซ่อนอยู่
พิธีกร ญ/ช : ซึ่งอันเนี่ยะ ผมว่าไม่กี่คนนะ ที่ตัดสินใจเล่นกีฬาอันนึง ไปเทิร์นโปรเลย โดยไม่ผ่านดิวิชั่น 1 อ่ะ ก็คือตลาดในประเทศ ตลาดหุ้นทั่วไปที่เรารู้จักหุ้นอยู่แล้วเป็นตัวๆ เป็นบริษัทที่อยู่ในประเทศอยู่แล้ว คุณหยง ไปเทรดต่างประเทศเลย
คุณหยง : ใช่ครับ
พิธีกร ญ/ช : แล้วผลออกมาเป็นยังไงฮะ
คุณหยง : ก็ด้วยความมุทะลุ นะฮะ ด้วยความกระหายที่จะไปถึงที่สุด
พิธีกร ญ/ช : ครับ
คุณหยง : มันก็เลยหลุดขอบ ผมก็เสียหาย เสียหายหนัก
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : หนักมาก ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
พิธีกร ญ/ช : อันนั้นยังทำงานประจำอยู่หรือเปล่าฮะ
คุณหยง : ตอนนั้น เพิ่งลาออกมา
พิธีกร ญ/ช : ลาออกมาแล้วด้วย
คุณหยง : ใช่ครับ
พิธีกร ญ/ช : ตอนที่เริ่มต้นยังทำงานอยู่
คุณหยง : ตอนที่เริ่มต้นเนี่ยะ โอเค ยังทำงานประจำอยู่ โอเค เราเจอคำตอบละ
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ลุยเลย ขอลาออก ทันทีเลย มาลุยเทรดเต็มตัว
พิธีกร ญ/ช : มั่นใจหล่ะ อันนี้แหละที่เราเจอมันใช่ตัวเราเอง
คุณหยง : ใช่ครับ
พิธีกร ญ/ช : แล้วตำราเทคนิคในการเริ่มต้นเทรด พุ่งทะลุไปที่ตลาดนิวยอร์ดนี่ใช้เทคนิคใช้ตำราวิธีไหนครับ
คุณหยง : ผมก็ใช้เครื่องมือเรารู้ๆ จักกันอ่ะครับ Technical Analysis
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : การวิเคราะห์ด้วยปัจจัยทางเทคนิค ก็ดูทิศทางราคา ดูเทรนเอามาประกอบกัน
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : แต่ เอาไปใช้แล้วเนี่ยะ เครื่องมือวิชาก็พอรู้ พอมีติดตัวอยู่บ้าง แต่มันยังไม่พอ
พิธีกร ญ/ช : อืมมม อะไรฮะที่ขาดไปตอนนั้น
คุณหยง : ขาดไป ขาดความยับยั้งชั่งใจ
พิธีกร ญ/ช : อ่อออออ มั่นใจมาก ลาออกจากงาน คิดว่าเราชนะมันแน่นอน
คุณหยง : ครับ มันเห็นข้อดี แต่ไม่เห็นข้อควรระวัง ผมก็เลยเรียกว่า ไป ลุยให้มันเต็มที่ คิดว่า มีวิชาดีละ คิดว่าเอาอยู่
พิธีกร ญ/ช : อืมมม
คุณหยง : ไปปุ๊ป กำไรหรือเปล่า กำไร
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ใช่ช่วงแรกกำไรมหาศาล แต่มันเป็นกำไรมหาศาลที่รักษาไม่ได้
พิธีกร ญ/ช : อ่อออ
คุณหยง : นี่แหละปัญหา นี่แหละปัญหาคนเทรดส่วนใหญ่ พอเป็นกำไรมหาศาล ได้เงิน แต่คุณรักษามันไม่ได้
พิธีกร ญ/ช : คือมันมาแล้วไป
คุณหยง : คืนหมด
พิธีกร ญ/ช : คืนหมด (ตามน้ำ)
คุณหยง : ครับผม
พิธีกร ญ/ช : เสียหายเยอะมั้ยครับ ตอนนั้น
คุณหยง : เสียหาย Total ก็ประมาณ 75% ได้
พิธีกร ญ/ช : 75% อันนี้คือ ผลจากวิกฤติตอน Sub-Prime หรือก่อนหน้าที่จะเกิด Sub-Prime ค่ะ
คุณหยง : เริ่ม Sub-Prime ก็ล้มแล้วครับ
พิธีกร ญ/ช : เริ่ม Sub-Prime (หัวเราะกันใหญ่) ฮ่าๆๆ ไม่ต้องรอนานนะฮะ
คุณหยง : ครับ
พิธีกร ญ/ช : งั้นจะต้องถามนะค่ะ เห็นบรรยากาศตลาดช่วงนั้นก็เห็นว่าครุกรุ่น เริ่มจะมีกลิ่นอายของคาวเลือดละ เห็นดูมีวิกฤติจะเกิดขึ้นนะค่ะ ทำไมคิดตัดสินใจที่จะลุยต่อและ / ติดคำถามไว้ในเบรกหน้าดีมั้ยครับ กำลังเป็นไฮไลท์ / เดี๋ยวต้องพักกันก่อนสักครู่นะค่ะเดี๋ยวช่วงหน้า จะพาไปดูสมรภูมิรบการลงทุนของคุณหยง Freedom Trader ตอนนี้พักสักครู่ค่ะ
วีวีวี้วี่วี บ่อดๆ ตึ่กๆ วีวีวี้วี่วี บ่อดๆ ตึ่กๆ วีวีวี้วี่วี (เสียงอินโทร รายการ)
พิธีกร ญ/ช : ยังอยู่ช่วงเวลาปฏิบัติการ เสริมใยเหล็กให้กับนักลงทุน คุณหยง Freedom Trader เซียนหุ้น ระดับอินเตอร์ที่ ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านสมรภูมิ วิกฤติ Sub-Prime ของตลาดนิวยอร์คมาแล้วนะค่ะ เมื่อสักครู่เราทิ้งท้ายกันไปนะค่ะ กับการเริ่มต้นประสบการณ์โหด ใชช่วงวิกฤติเศรษฐกิจบาดเจ็บล้มตาย กันมากมาย ไม่เห็นสัญญาณ เหรอค่ะ ทำไมถึงมุ่งสู่ความเสี่ยง
คุณหยง : ความเสี่ยงเนี่ยะ เชื่อหรือไม่ว่า ตลาดทุกคนรู้จักความเสี่ยง เห็นอยู่
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : แต่ผลตอบแทนมันหอมหวานเหลือเกิน
พิธีกร ญ/ช : อืมมมม
คุณหยง : มันเหมือนเราอยากที่จะเสี่ยง
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ
คุณหยง : แต่การที่เราไม่ระมัดระวังเนี่ยะ
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ
คุณหยง : บางทีมันคุมความเสี่ยงไม่อยู่ ไม่มีใครที่เป็นนักลงทุนที่ไม่พยายามคุมความเสี่ยงนะฮะ พยายามคุมกันทุกคน
พิธีกร ญ/ช : ครับ
คุณหยง : แต่มันเอาไม่อยู่
พิธีกร ญ/ช : เอาไม่อยู่ (ตามน้ำ) อย่างที่คุณกีต้าถามไปน่าจะเห็ย Signal ตลาดมันเป็นเริ่มเป็นขาลงแล้ว มันมีอันตรายมากแล้ว แต่เราก็ยังเห็นผลตอบแทน ยังคิดว่ามันเสี่ยงแล้วยังคุ้มเหรอฮะ
คุณหยง : ใช่ ผม อย่างนึงเลยที่พลาด ไม่ใช่ว่าเรามองทิศทางไม่ออก เรามองทิศทางออก เรามองว่าการขึ้นตรงเนี้ยะ มันน่ากลัวแล้วนะ ก่อนที่มันจะเกิด Sub-Prime ก่อนที่มันจะ Crash ตอนเริ่มต้นเนี่ยะ เราเห็นสัญญาณทางเทคนิคทุกอย่าง
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : แต่ใจ มันยังมีแรงเฉื่อย แรงต่อเนื่องในอารมณ์ อยากจะต่อเนื่อง อยากจะบู้ต่อ
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ (หัวเราะคิกคัก)
คุณหยง : ประกอบกับความไม่ระมัดระวังตัวเอง ผลมันเลยเสียหาย
พิธีกร ญ/ช : เป็นประสบการณ์ที่ดี หรือเลวร้าย
คุณหยง : นะตอนนั้นเลวร้ายที่สุดในชีวิต
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : คุณคิดดูแล้วกัน ผม ทำงานในบริษัทมา มีเงินเดือน มีตำแหน่ง มีความก้าวหน้า มี Stock Option มีทุกอย่างที่มันกำลังไปได้สวย
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ออกมาเทรด มาทำตามสิ่งที่ฝัน
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : แต่ในระยะเวลา แป๊ปเดียว ทุกอย่างมันพังครืน ลงมาหมดเลย
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : การที่มันพังครืนลงมาหมดเลย มันเกิดภาวะทีว่าทำใจลำบาก ภาวะเอาไม่อยู่ สัญญาณเทคนิคอลอะไรทุกอย่างเห็น
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : แต่ใจเรามันป่นปี้หมดแหละ
พิธีกร ญ/ช : สภาวะทิ้งตัวในช่วงนั้นนะค่ะ (หัวเราะคิกคัก) แต่ว่าชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อไป เจ็บปวดขนาดนั้น เสียหายขนาดนั้น กลับมาได้ยังไงค่ะ คุณหยง
คุณหยง : โอเค ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเสียหายเพราะอะไร
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ผมเนี่ยะ เวลาเห็นโอกาส เหมือนกับทุกๆ คน เราเข้าไปสุดตัว โดยที่ไม่เผื่อเอาไว้ ในการลงทุนเนี่ยะ เค้าเรียกว่า Over Trade
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : คือการใส่เกินตัว การใส่สุดตัวเกินไป
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : จากการ Over Trade เวลามันได้มันได้มหาศาล เราได้เยอะ แล้วได้เร็ว เหมือนที่คนพูดๆ กันอ่ะนะฮะ
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ผมคือคนนึงที่ได้เยอะและได้เร็ว แต่ตอนเสียหาย มันเสียหายลงวูบลงไปแบบไม่มีทิศทางเลย
พิธีกร ญ/ช : พอยกตัวอย่างได้มั้ยฮะ ว่าการ Over Trade เนี่ยะ สมมุติเรามีเงิน ล้านนึง เราใส่ไปเท่าไหร่
คุณหยง : โอเค พูดในตัวอย่างที่ง่ายที่สุดแล้วกัน ยกตัวอย่าง TFEX SET50 ในบ้านเราที่รู้จักกันอยู่นะฮะ ตอนนี้มันอยู่ที่ราว 890 จุด ณ วันนี้เลยนะ มันอยู่ที่ 890 คนส่วนใหญ่มองว่า วางเงินเท่าไหร่ดี วางเงิน 7 หมื่น 8 หมื่น แสนนึง มาร์เก็ตติ้งบอกวางแสนนึงก็พอ ในความเป็นจริงคุณต้องทำความเข้าใจว่า คุณกำลังเทรดอยู่กับเงิน 8 แสน 9 หมื่นบาท ไม่ใช่เงิน 890 ไม่ใช่เงิน 8 หมื่น 9 ไม่ใช่เงินขั้นต่ำ ตลาดกำหนดคุณวางแค่ สามสี่หมื่นก็พอ กำไรไปเท่าไหร่ กำไรมาจากฐานสามสี่หมื่น ไม่ใช่ คุณกำลังเทรดอยู่กับเงินเกือบๆ 9 แสน โดยปราศจากความเข้าใจในเรื่องนี้ คนเข้าไปตอนได้ ได้เยอะ ตอนเสีย ไม่เหลือ
พิธีกร ญ/ช : อืมมมม ไม่เหลือ (ตามน้ำ)
คุณหยง : ครับ
พิธีกร ญ/ช : ตอนนั้นนอกจากเสียเงิน แล้วเสียกำลังใจด้วย
คุณหยง : ใช่ มันเข้าสู่ภาวะที่เค้าเรียกว่า ชีวิตพัง
พิธีกร ญ/ช : อืม ใช้อย่างนั้นได้เลยเหรอฮะ
คุณหยง : พังสิครับ จะเหลือเหรอครับพี่ (หัวเราะ)
พิธีกร ญ/ช : (หัวเราะตาม) คือเมื่อก่อนมะม่วงปลูกที่สวนเค้าก็ยังเด็ดมะม่วงกินได้
คุณหยง : มันเหมือนน้ำเหนือมาอ่ะครับพี่
พิธีกร ญ/ช : ตอนนี้ไม่เหลือแม้แต่ราก (หัวเราะ)
คุณหยง : ใช่ครับ (หัวเราะ)
พิธีกร ญ/ช : แล้วทำไงฮะ
คุณหยง : อ่าาา ในภาวะที่มันลงมาตกต่ำสุดตอนนั้น
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ
คุณหยง : ผมไม่มีทางเลือก ข้อแรก ผมไม่มีทางออก จะเทรดต่อ จะกลับไปทำงานประจำ ตอนนั้นเราต้องการเทรดต่อ มันเหมือนความฝันที่ฝันมาทั้งชีวิตเนี่ยะ มันเร็วเกินไปที่จะทิ้งมัน เทรดต่อ แต่ยังไม่เห็นทางออก
พิธีกร ญ/ช : ค่ะ/ครับ