นายพลโทอาวุโสเหวียนแถ่งกุง (Nguyen Thanh Cung) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการกองทัพ ไป เยี่ยมชมโรงงานผลิตปืนไรเฟิ้ลกาลิล เอซ-32 (Galil ACE-32) ของกองทัพที่ตั้งอยู่ใน จ.แค้งฮวา (Khanh Hoa) ทางตอนใต้กรุงฮานอยเมื่อไม่นานมานี้ หายสงสัยกันได้แล้ว .. กองทัพประชาชนกำลังเปลี่ยนไปใช้อาวุธปืนประจำกายกำลังพลโดยหันไปหาปืนของอิสราเอลแทน "อาก้า" ที่เป็นปืนคู่ตำนานสงครามเวียดนาม สื่อของทางการรายงานว่าโรงงานแห่งนี้กำลังจะผลิตออกมาหลายขนาดลำกล้อง รวมทั้งขนาดที่สามารถใช้กระสุนของอาก้าที่มีในคลังหลายล้านนัดในปัจจุบันด้วย. -- ภาพ: Bao Dat Viet.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ – ก่อนหน้านี้เพียงไม่นานนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งเชื่อกันว่าเวียดนามกำลังจะเป็นลูกค้ารายใหญ่ของ AK-12 หรือ "อาก้า" รุ่นใหม่เอี่ยมจากรัสเซียที่กลายเป็นปืนไรเฟิ้ลยอดนิยมในชั่วเวลาเพียงข้ามปีมียอดขายถึง 3 ล้านกระบอกทั่วโลก แต่นักวิเคราะห์เหล่านี้ผิดไปถนัด วันนี้ได้ปรากฏชัดแล้วว่ากองทัพประชาชนเวียดนามได้เลือกปืนไรเฟิ้ลหลายชนิดจากอิสราเอลแทน รวมทั้งปืนกลอีกหลายขนาด
ไม่เพียงแต่เป็นผู้ซื้อเท่านั้น เวียดนามยังได้ตั้งโรงงานผลิตปืนไรเฟิ้ลของอิสราเอลบางรุ่นภายใต้สิทธิบัตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ "กาลิล" (Galil) อาวุธปืนประจำกายยอดนิยมของกองกำลังพลในกองทัพหลายประเทศปัจจุบัน ซึ่งบ่งบอกว่าในวันหนึ่งเวียดนามจะเป็นผู้ส่งออกปืนไรเฟิ้ลสายพันธุ์สิงห์ทะเลทรายด้วย
นักวิเคราะห์ยังมองการณ์ผิดอีก 1 เรื่อง เมื่อก่อนนี้หลายคนเชื่อว่าอิสราเอลกำลังจะเข้าไปตั้งโรงงานผลิตไรเฟิ้ลสำหรับทหารหลากชนิดในจีนเพื่อป้อนกองทัพใหญ่ที่สุดในโลก
แต่แรงกดดันจากสหรัฐในช่วงไม่กี่ปีมานี้ทำให้อิสราเอลต้องเปลี่ยนนโยบายและก็เป็นช่วงเดียวกันกับเวียดนามจะต้องเปลี่ยนอาวุธปืนให้กำลังพลนับล้านคนเช่นกัน เพื่อใช้แทนอาก้าที่มี AK-47 เป็นหลักและใช้งานมาตั้งแต่ยุคสงคราม รุ่นที่ซื้อในยุคหลังๆ เช่น AK-74 หรือ AK-120 ก็มีจำนวนไม่มาก จึงเป็นช่องทางแห่งความร่วมมือในเรื่องนี้และโอกาสตกเป็นของอิสราเอล
สื่อของทางการรัสเซียเองเฝ้าจับตาการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนใจของเวียดนามมาตลอด ในขณะที่เวียดนามซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์รัสเซียมากมายหลายชนิดมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ได้เห็นเวียดนามทยอยนำเข้าประจำการปืนต่างเผ่าพันธุ์เป็นระยะๆ ทั้งกองทัพบก เรือและอากาศ
เวียดนามได้เลือก Galil ACE สำหรับผลิตในประเทศในความร่วมมือกับอิสราเอล เรื่องนี้เกิดขึ้นในขณะที่รัสเซียเองไม่มีนโยบายให้นำปืน AK ยุคใหม่ ไปผลิตในต่างประเทศหลังจาก AK-47 โดน ก๊อปปี้ไปทั่วโลกโดยรัสเซียและบริษัทกาลาสนิกอฟผู้ผลิตเจ้าของต้นแบบไม่ได้รับประโยชน์ตอบแทนแม้แต่น้อย
เป็นอันว่า กาลิล "เอซ-32" จะเป็นอาวุธปินไรเฟิ้ลมาตรฐานของกองทัพประชาชนเวียดนามแทน "อาก้า" และกำลังจะมีการผลิตออกมาหลายแสนกระบอกในระยะข้างหน้านี้ ปืนที่เป็นตำนานแห่งการปฏิวัติในทั่วโลกกำลังจะหมดไปจากกองทัพ ปืนที่เป็นตำนานแห่งสงครามทะเลทรายเข้าแทนที่ ศักดิ์ศรีพอฟัดพอเหวี่ยงกัน
อิสราเอลพัฒนาปืนกาลิลขึ้นมาในทศวรรษที่ 1960 ช่วงสงครามยิว-อาหรับซึ่งจนทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ยุติลงอย่างแท้จริง ปืนรุ่นนี้ใช้คุณสมบัติอันโดดเด่นหลายประการของอาก้าและในทศวรรษถัดมาได้นำเข้าประจำการหลายแสนกระบอก พัฒนามาเป็นระยะๆ อีกหลายรุ่นและหลายขนาดลำกล้อง
อิสราเอลยังเป็นเจ้าของปินกลเล็กยี่ห้ออูซี่ (Uzi) ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกซึ่งผลิตมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 กับปืนกลมือแบบบุลพับ (Bull Pub-Type) "ทราโวร์" (Travor) ในปัจจุบัน แบบเดียวกับปืนที่ "นักรบป็อบคอร์น" ใช้ในเหตุการณ์ที่บริเวณสี่แยกหลักสี่ถนนวิภาวดีรังสิตเมื่อไม่นานมานี้ นอกจากนั้นยังเป็นเจ้าของปืนเนเกฟ ((Negev) ซึ่งได้ชื่อเป็นปืนกลประสิทธิภาพเยี่ยม น้ำหนักเบาที่สุดและขนาดเล็กที่สุดอีกรุ่นหนึ่งในปัจจุบัน
ปืนของอิสราเอลทุกชนิดใช้กันแพร่หลายในกองทัพหลายประเทศปัจจุบัน รวมทั้งกองทัพไทยและกองทัพประเทศเพื่อนบ้านอีกจำนวนหนึ่งด้วย
ย้อนหลังไปสักนิด .. ในช่วงไม่ถึง 10 ปีมานี้ อิสราเอลถูกสหรัฐกับพันธมิตรตะวันตกกดดันอย่างหนักให้ต้องถอยห่างจากจีน หลังจากได้ปล่อยเทคโนโลยีอาวุธหลายชนิดหลุดมือให้จีนนำไปพัฒนาต่อ แต่ในขณะเดียวกันไม่มีใครกดดันอิสราเอลในความร่วมมือด้านกลาโหมกับประเทศเพื่อนบ้านคอมมิวนิสต์ที่เล็กกว่าของจีน คือเวียดนาม
ไม่มีอะไรต้องปิดบัง หลายปีมานี้อิสาราเอลได้ช่วยเวียดนามอัปเกรดรถถัง T-55 จำนวนกว่า 300 คัน โดยเปลี่ยนปืนใหญ่จาก 100 มม. เป็น 105 มม. ติดตั้งระบบควบคุมการยิงใหม่และติดระบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ทั้งหมดจนกลายเป็นรถถังลูกครึ่งโซเวียต-อิสราเอล
หลายปีมานี้อิสราเอลยังถ่ายทอดเทคโนโลยีทางทหารหลายด้านให้กองทัพประชาชนเวียดนาม รวมทั้งการผลิตกระสุนปืนใหญ่สำหรับกองทัพบก ระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อ "สงครามอิเล็กทรอนิกส์" รวมทั้งระบบเรดาร์สำหรับกองทัพอากาศด้วย ก็จึงไม่น่าแปลกในที่สื่อออนไลน์ของเวียดนามเผยแพร่ข่าวเมื่อปลายปีที่แล้วว่ากองทัพประชาชนกำลังจะ “อัปเกรด Su-27” ด้วยตัวเอง
นักสังเกตการณ์จำนวนมากเริ่มเอะใจเมื่อได้เห็นทหารหน่วยรบพิเศษของเวียดนามหน่วยหนึ่งติด "ทราโวร์" ออกอวดในพิธีสวนสนามใหญ่ฉลอง 1,000 ปีกรุงฮานอยเมื่อปี 2552 .. นั่นเป็นครั้งแรก ทุกคนแปลกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อปีที่แล้ว เมื่อภาพและวิดิโอการฝึกซ้อมของกองพลน้อยนาวิกโยธินเวียดนามแห่งหนึ่งเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์หนังสือพิมพ์กวนโด่ยเยินซเวิน (Quan Doi Nhan Dan) กระบอกเสียงของกองทัพ ทหารกองพลนี้ใช้ปืนกาลิล ACE-32
ปีที่แล้วกวนโด่ยเยินซเวินยังเผยแพร่ภาพกำลังพลของกองทัพบกซ้อมยิงปืนกลเนเกฟ..
ตามรายงานของสื่อออนไลน์ในประเทศนี้ เวียดนามกำลังจะผลิตกาลิล เอซ-32 ออกมาหลายรุ่น หลายขนาดลำกล้องใช้ได้ทั้งกระสุนของกลุ่มนาโต้-สหรัฐกับรุ่นพิเศษที่มีขนาดลำกล้องกับชุดเหนี่ยวไกยิงใช้กับกระสุนอาก้า ซึ่งเวียดนามมีในคลังนับล้านๆ นัดในขณะนี้ได้อีกด้วย
แม่นแล้ว.. ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่สื่อของทางการรัสเซียรายงาน เวียดนามกำลังตีจาก หันไปหาปืนของอิสราเอลแทน แต่เวียดนามก็มีทุกเหตุผลที่จะต้องทำเช่นนั้น.
เปิดตำนานสิงห์ทะเลทราย
DatVietOnline
ภาพต้นตอจากหนังสือพิมพ์กวนโด่ยเยินซเวิน "กองทัพประชาชน" หน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือฝึกซ้อมนัดหนึ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว มีทั้ง "อาก้า" และ "กาลิล" ผสมผสานกัน ใช้กระสุนร่วมกัน เวียดนามกำลังจะทิ้ง AK-47 นับล้านๆ กระบอกที่ใช้มาตั้งแต่ยุคสงคราม ส่วน "อาก้า" รุ่นใหม่เช่น AK-74, AKM และ AK-120 ที่ซื้อในยุคใหม่ก็ยังมีจำนวนไม่มาก. -- ภาพ: Bao Dat Viet.
http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9570000015323
ไปกันใหญ่ .. เวียดนามทิ้ง "อาก้า" หันไปหาปืนอิสราเอล ผลิตเองอีกด้วย
ASTVผู้จัดการออนไลน์ – ก่อนหน้านี้เพียงไม่นานนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งเชื่อกันว่าเวียดนามกำลังจะเป็นลูกค้ารายใหญ่ของ AK-12 หรือ "อาก้า" รุ่นใหม่เอี่ยมจากรัสเซียที่กลายเป็นปืนไรเฟิ้ลยอดนิยมในชั่วเวลาเพียงข้ามปีมียอดขายถึง 3 ล้านกระบอกทั่วโลก แต่นักวิเคราะห์เหล่านี้ผิดไปถนัด วันนี้ได้ปรากฏชัดแล้วว่ากองทัพประชาชนเวียดนามได้เลือกปืนไรเฟิ้ลหลายชนิดจากอิสราเอลแทน รวมทั้งปืนกลอีกหลายขนาด
ไม่เพียงแต่เป็นผู้ซื้อเท่านั้น เวียดนามยังได้ตั้งโรงงานผลิตปืนไรเฟิ้ลของอิสราเอลบางรุ่นภายใต้สิทธิบัตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ "กาลิล" (Galil) อาวุธปืนประจำกายยอดนิยมของกองกำลังพลในกองทัพหลายประเทศปัจจุบัน ซึ่งบ่งบอกว่าในวันหนึ่งเวียดนามจะเป็นผู้ส่งออกปืนไรเฟิ้ลสายพันธุ์สิงห์ทะเลทรายด้วย
นักวิเคราะห์ยังมองการณ์ผิดอีก 1 เรื่อง เมื่อก่อนนี้หลายคนเชื่อว่าอิสราเอลกำลังจะเข้าไปตั้งโรงงานผลิตไรเฟิ้ลสำหรับทหารหลากชนิดในจีนเพื่อป้อนกองทัพใหญ่ที่สุดในโลก
แต่แรงกดดันจากสหรัฐในช่วงไม่กี่ปีมานี้ทำให้อิสราเอลต้องเปลี่ยนนโยบายและก็เป็นช่วงเดียวกันกับเวียดนามจะต้องเปลี่ยนอาวุธปืนให้กำลังพลนับล้านคนเช่นกัน เพื่อใช้แทนอาก้าที่มี AK-47 เป็นหลักและใช้งานมาตั้งแต่ยุคสงคราม รุ่นที่ซื้อในยุคหลังๆ เช่น AK-74 หรือ AK-120 ก็มีจำนวนไม่มาก จึงเป็นช่องทางแห่งความร่วมมือในเรื่องนี้และโอกาสตกเป็นของอิสราเอล
สื่อของทางการรัสเซียเองเฝ้าจับตาการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนใจของเวียดนามมาตลอด ในขณะที่เวียดนามซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์รัสเซียมากมายหลายชนิดมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ได้เห็นเวียดนามทยอยนำเข้าประจำการปืนต่างเผ่าพันธุ์เป็นระยะๆ ทั้งกองทัพบก เรือและอากาศ
เวียดนามได้เลือก Galil ACE สำหรับผลิตในประเทศในความร่วมมือกับอิสราเอล เรื่องนี้เกิดขึ้นในขณะที่รัสเซียเองไม่มีนโยบายให้นำปืน AK ยุคใหม่ ไปผลิตในต่างประเทศหลังจาก AK-47 โดน ก๊อปปี้ไปทั่วโลกโดยรัสเซียและบริษัทกาลาสนิกอฟผู้ผลิตเจ้าของต้นแบบไม่ได้รับประโยชน์ตอบแทนแม้แต่น้อย
เป็นอันว่า กาลิล "เอซ-32" จะเป็นอาวุธปินไรเฟิ้ลมาตรฐานของกองทัพประชาชนเวียดนามแทน "อาก้า" และกำลังจะมีการผลิตออกมาหลายแสนกระบอกในระยะข้างหน้านี้ ปืนที่เป็นตำนานแห่งการปฏิวัติในทั่วโลกกำลังจะหมดไปจากกองทัพ ปืนที่เป็นตำนานแห่งสงครามทะเลทรายเข้าแทนที่ ศักดิ์ศรีพอฟัดพอเหวี่ยงกัน
อิสราเอลพัฒนาปืนกาลิลขึ้นมาในทศวรรษที่ 1960 ช่วงสงครามยิว-อาหรับซึ่งจนทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ยุติลงอย่างแท้จริง ปืนรุ่นนี้ใช้คุณสมบัติอันโดดเด่นหลายประการของอาก้าและในทศวรรษถัดมาได้นำเข้าประจำการหลายแสนกระบอก พัฒนามาเป็นระยะๆ อีกหลายรุ่นและหลายขนาดลำกล้อง
อิสราเอลยังเป็นเจ้าของปินกลเล็กยี่ห้ออูซี่ (Uzi) ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกซึ่งผลิตมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 กับปืนกลมือแบบบุลพับ (Bull Pub-Type) "ทราโวร์" (Travor) ในปัจจุบัน แบบเดียวกับปืนที่ "นักรบป็อบคอร์น" ใช้ในเหตุการณ์ที่บริเวณสี่แยกหลักสี่ถนนวิภาวดีรังสิตเมื่อไม่นานมานี้ นอกจากนั้นยังเป็นเจ้าของปืนเนเกฟ ((Negev) ซึ่งได้ชื่อเป็นปืนกลประสิทธิภาพเยี่ยม น้ำหนักเบาที่สุดและขนาดเล็กที่สุดอีกรุ่นหนึ่งในปัจจุบัน
ปืนของอิสราเอลทุกชนิดใช้กันแพร่หลายในกองทัพหลายประเทศปัจจุบัน รวมทั้งกองทัพไทยและกองทัพประเทศเพื่อนบ้านอีกจำนวนหนึ่งด้วย
ย้อนหลังไปสักนิด .. ในช่วงไม่ถึง 10 ปีมานี้ อิสราเอลถูกสหรัฐกับพันธมิตรตะวันตกกดดันอย่างหนักให้ต้องถอยห่างจากจีน หลังจากได้ปล่อยเทคโนโลยีอาวุธหลายชนิดหลุดมือให้จีนนำไปพัฒนาต่อ แต่ในขณะเดียวกันไม่มีใครกดดันอิสราเอลในความร่วมมือด้านกลาโหมกับประเทศเพื่อนบ้านคอมมิวนิสต์ที่เล็กกว่าของจีน คือเวียดนาม
ไม่มีอะไรต้องปิดบัง หลายปีมานี้อิสาราเอลได้ช่วยเวียดนามอัปเกรดรถถัง T-55 จำนวนกว่า 300 คัน โดยเปลี่ยนปืนใหญ่จาก 100 มม. เป็น 105 มม. ติดตั้งระบบควบคุมการยิงใหม่และติดระบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ทั้งหมดจนกลายเป็นรถถังลูกครึ่งโซเวียต-อิสราเอล
หลายปีมานี้อิสราเอลยังถ่ายทอดเทคโนโลยีทางทหารหลายด้านให้กองทัพประชาชนเวียดนาม รวมทั้งการผลิตกระสุนปืนใหญ่สำหรับกองทัพบก ระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อ "สงครามอิเล็กทรอนิกส์" รวมทั้งระบบเรดาร์สำหรับกองทัพอากาศด้วย ก็จึงไม่น่าแปลกในที่สื่อออนไลน์ของเวียดนามเผยแพร่ข่าวเมื่อปลายปีที่แล้วว่ากองทัพประชาชนกำลังจะ “อัปเกรด Su-27” ด้วยตัวเอง
นักสังเกตการณ์จำนวนมากเริ่มเอะใจเมื่อได้เห็นทหารหน่วยรบพิเศษของเวียดนามหน่วยหนึ่งติด "ทราโวร์" ออกอวดในพิธีสวนสนามใหญ่ฉลอง 1,000 ปีกรุงฮานอยเมื่อปี 2552 .. นั่นเป็นครั้งแรก ทุกคนแปลกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อปีที่แล้ว เมื่อภาพและวิดิโอการฝึกซ้อมของกองพลน้อยนาวิกโยธินเวียดนามแห่งหนึ่งเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์หนังสือพิมพ์กวนโด่ยเยินซเวิน (Quan Doi Nhan Dan) กระบอกเสียงของกองทัพ ทหารกองพลนี้ใช้ปืนกาลิล ACE-32
ปีที่แล้วกวนโด่ยเยินซเวินยังเผยแพร่ภาพกำลังพลของกองทัพบกซ้อมยิงปืนกลเนเกฟ..
ตามรายงานของสื่อออนไลน์ในประเทศนี้ เวียดนามกำลังจะผลิตกาลิล เอซ-32 ออกมาหลายรุ่น หลายขนาดลำกล้องใช้ได้ทั้งกระสุนของกลุ่มนาโต้-สหรัฐกับรุ่นพิเศษที่มีขนาดลำกล้องกับชุดเหนี่ยวไกยิงใช้กับกระสุนอาก้า ซึ่งเวียดนามมีในคลังนับล้านๆ นัดในขณะนี้ได้อีกด้วย
แม่นแล้ว.. ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่สื่อของทางการรัสเซียรายงาน เวียดนามกำลังตีจาก หันไปหาปืนของอิสราเอลแทน แต่เวียดนามก็มีทุกเหตุผลที่จะต้องทำเช่นนั้น.
DatVietOnline
ภาพต้นตอจากหนังสือพิมพ์กวนโด่ยเยินซเวิน "กองทัพประชาชน" หน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือฝึกซ้อมนัดหนึ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว มีทั้ง "อาก้า" และ "กาลิล" ผสมผสานกัน ใช้กระสุนร่วมกัน เวียดนามกำลังจะทิ้ง AK-47 นับล้านๆ กระบอกที่ใช้มาตั้งแต่ยุคสงคราม ส่วน "อาก้า" รุ่นใหม่เช่น AK-74, AKM และ AK-120 ที่ซื้อในยุคใหม่ก็ยังมีจำนวนไม่มาก. -- ภาพ: Bao Dat Viet.
http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9570000015323