เรากับแฟนที่คบกันมาได้ 11 ปีเพิ่งทะเลาะกันมาค่ะ อยากขอคำปรึกษาจากคนในนี้หน่อยนะคะว่าเราควรจะทำยังไงต่อไปดี ตอนนี้มันสับสน ว้าวุ่นมากค่ะ
ตอนนี้เจ้าของกระทู้อายุได้ 27 ปี ไม่ได้อยู่กับแฟนนะคะ เรื่องที่ทะเลาะกันบ่อยๆก็เพราะเค้าชอบไปกินเหล้ากับเพื่อนที่บ้านเพื่อนเป็นประจำ เค้าบอกเราว่าให้โทรหาเค้าได้ เราโทรไปเค้าก็คุยดีนะคะ พอเค้าเมาเท่านั้นแหละเราถึงรู้ว่าเค้าอายเพื่อนที่เราโทรหา ทั้งๆที่เราเองก็ไม่ได้โทรบ่อยเลย หลังๆเราเลยไม่โทรค่ะ ทีนี้เค้าจะไปกินกับเพื่อนที่ไรก็จะโทรมาบอกเราก่อนและให้เราเลือกว่าจะให้เค้าไปหรือป่าว ถ้าเราบอกไม่เค้าก็จะไม่ไป แต่จริงๆมันก็แค่ข้อเสนอลอยๆเท่านั้นแหละค่ะ เพราะสุดท้ายเราก็ไม่มีสิทธิบอกว่าอย่าไปเลย ขออยู่ด้วยนะ พอบอกแบบนี้ทีไรสิ่งที่ได้กลับมาคือความไม่พอใจอยู่ตลอด หลังๆเราก็ต้องจำใจยอมให้เค้าไปโดยปริยาย ทุกครั้งที่ทะเลาะกันเค้าจะปิดเครื่องหนี หรือตัดสายทิ้ง หายไปแต่ละครั้งไม่เท่ากัน บางทีก็ 15 นาที อารมณ์เสียมากหน่อยก็คืนนึง เราทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราจะคลั่งถึงขนาดนั่งแท๊กซี่ไปตามที่คอนโดเลย ถึงแม้จะเป็นเวลาห้าทุ่มเที่ยงคืนก็นั่งไปคนเดียวนี่แหละ มาคิดๆดูก็บ้าไปมาก ดึกสุดที่เคยไปตามคือตีสามนี่แหละ ตอนนั้นเค้ายังอยู่บ้านเช่า เราก็จำไม่ได้ว่าบ้านเช่าเค้าอยู่ซอยไหน สุดท้ายให้พี่แท๊กซี่วนหาทุกซอยแต่ก็ไม่เจอ จะบอกให้พี่เค้าวนหาอีกรอบ พี่แท๊กซี่ก็บอกว่าอย่าเลย พี่สงสารน้อง พี่ก็มีลูกสาว พี่อยากให้น้องกลับไปนอนดีกว่านะ ยังโชคดีที่เจอพี่แท๊กซี่ใจดี ถ้าเจออีกประเภทเราคงนึกไม่ออกว่าป่านนี้จะมีสภาพยังไง
เมื่อสักครู่เค้าโทรมาง้อขอคืนดีบอกว่าจะไม่ทะเลาะกันอีกแล้ว คุยกันดีดีนะ แต่ทำไมความรู้สึกเรามันไม่เหมือนเดิม เราโมโหนะคะที่เค้าปิดเครื่องหนี แต่แว้บแรกที่เราคิดคือ แล้วจะทำไง ให้ไปตามเหรอ เค้าก็อยู่บ้านเพื่อน แถวไหนก็ไม่รู้ ตามไปก็เท่านั้น ทำอะไรก็ไม่ได้ กินยาฆ่าตัวตายเหรอ หรือจะกรีดข้อมือตัวเองดี สุดท้ายก็แค่ชั่ววูบความคิด ไม่ทำหรอก เรารักตัวเองมากพอ แค่คิดว่าถ้าแม่ต้องมาเห็นศพลูกตายคาหอ บาปคงกินหัวเราอีกหลายชาติเลยทีเดียว
เอาจริงๆเราก็ไม่รู้ว่าชีวิตคู่ของเราจะได้ลงเอยกันไหม ถ้าแต่งงานแฟนก็ต้องทำงานที่กทม. ส่วนเราด้วยความที่เป็นลูกคนเดียว แม่ก็อยากให้อยู่ที่เชียงใหม่ เราก็ไม่กล้าทิ้งแม่ไว้คนเดียว จะให้เอาแม่มาอยู่กทมด้วย แม่ก็คงไม่อยากมา ก็กลายเป็นว่าแต่งงานต้องแยกกันอยู่ แฟนบอกว่าจะไปหาที่เชียงใหม่บ่อยๆ แต่เราไม่อยากเชื่อคำพูดเค้าค่ะ เพราะแค่จะให้ไปส่งกลับบ้านที่เชียงใหม่ยังมีข้ออ้างสารพัดเลย คบไปก็เหมือนไม่เห็นทางใช้ชีวิตร่วมกัน อีกอย่างเค้าเป็นคนอารมณ์ร้อน โกรธเมื่อไหร่ขึ้นมริงกรูตลอด ทั้งๆที่เคยขอไว้แล้ว ยิ่งฟังก็ยิ่งเจ็บอ่ะค่ะ เค้าสัญญาว่าจะมาขอเราแต่งงานอีกสองปี เราก็โอเคๆ แต่วันนี้ก็มากลับคำพูดเป็นว่าสองปีหลังจากได้โปรโมตนะ (ซึ่งกว่าจะได้ก็ไม่รู้อีกเท่าไหร่) ถามว่าเรารักเค้าไหม ยังรักค่ะ แต่เหนื่อยกับการรอและอะไรหลายๆเรื่อง เราเคยถามเค้านะว่าเพื่อนไม่มีแฟนบ้างเลยเหรอ แฟนเค้าไม่อยากอยู่ด้วยกันเหรอ (จริงๆแล้วเพื่อนเค้าบางคนก็มีเมียแล้ว แถมเมียยังท้องอีก) แฟนเราก็บอกว่ามี แต่ไม่มีใครว่าอะไร (หรือเราเป็นคนติดแฟนมากเกินไปเนี่ย)
ทุกวันนี้คำพูดแฟนเป็นเหมือนอะไรที่เชื่อไม่ได้อีกแล้วอ่ะค่ะตามความรู้สึกนั้น พูดอะไรไม่เคยทำได้ ไม่รักษาคำพูด พออยากไปไหนมาไหนมาอ้อน มาพูดบอกรักหวานๆ หรือพอรู้ว่าตัวเองผิดสัญญาก็จะบอกว่าเดี๋ยวซื้อนั่นนี่ให้นะ พูดหว่านล้อมสารพัด เมื่อก่อนเราคงดีใจ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อ่ะ มันเอือมมากๆ มันดูเฟคไปหมดเลย เหมือนว่าอยากไปมากจนต้องมาพูดจาขนาดนี้เลยเหรอ
เราควรทำยังไงต่อดีคะ เหนื่อย เอือม อยากหยุดแล้วเหมือนกัน ดันทุรังเดินต่อไปก็ไม่เห็นอนาคต ถ้าเลิกก็ต้องมีปัญหาเรื่องหนี้สินอีก (ตอนนี้แฟนเราใช้บัตรเครดิตเราและติดหนี้ประมาณสองหมื่น ถ้าเลิกเรากลัวว่าเราต้องมาใช้หนี้ตัวนี้ให้เค้า เค้าก็ผ่อนๆจ่ายอยู่แต่ไม่รู้เมื่อไหร่จะหมด จริงๆเค้าก็บอกว่าถ้าโบนัสออกจะใช้ให้หมด แต่นี้โบนัสก็ออกจนเค้าใช้หมดแล้ว หนี้เราก็เหมือนเดิม ทวงก็ไม่กล้า เรารู้สึกไม่สบายใจเลยค่ะ เกิดเค้าตายขึ้นมาวันใดวันหนึ่งขึ้นมา แล้วเราไม่ซวยเลยเหรอ ตัวเราเองไม่มีหนี้สินติดตัว ทุกวันนี้ไม่สบายใจเพราะเค้าเป็นหนี้ในชื่อเรานี้แหละ) มีใครมีชีวิตคู่ออกแนวแยกกันอยู่ไหมคะ รบกวนช่วยแชร์ประสบการณ์หน่อยจะดีมากเลยค่ะ ได้ยินเสียงเค้าก็เอือมแล้ว ทะเลาะทีไรก็เหมือนเดิม มันเบื่อ
***** ขอคำปรึกษาเรื่องแฟนหน่อยค่ะ
ตอนนี้เจ้าของกระทู้อายุได้ 27 ปี ไม่ได้อยู่กับแฟนนะคะ เรื่องที่ทะเลาะกันบ่อยๆก็เพราะเค้าชอบไปกินเหล้ากับเพื่อนที่บ้านเพื่อนเป็นประจำ เค้าบอกเราว่าให้โทรหาเค้าได้ เราโทรไปเค้าก็คุยดีนะคะ พอเค้าเมาเท่านั้นแหละเราถึงรู้ว่าเค้าอายเพื่อนที่เราโทรหา ทั้งๆที่เราเองก็ไม่ได้โทรบ่อยเลย หลังๆเราเลยไม่โทรค่ะ ทีนี้เค้าจะไปกินกับเพื่อนที่ไรก็จะโทรมาบอกเราก่อนและให้เราเลือกว่าจะให้เค้าไปหรือป่าว ถ้าเราบอกไม่เค้าก็จะไม่ไป แต่จริงๆมันก็แค่ข้อเสนอลอยๆเท่านั้นแหละค่ะ เพราะสุดท้ายเราก็ไม่มีสิทธิบอกว่าอย่าไปเลย ขออยู่ด้วยนะ พอบอกแบบนี้ทีไรสิ่งที่ได้กลับมาคือความไม่พอใจอยู่ตลอด หลังๆเราก็ต้องจำใจยอมให้เค้าไปโดยปริยาย ทุกครั้งที่ทะเลาะกันเค้าจะปิดเครื่องหนี หรือตัดสายทิ้ง หายไปแต่ละครั้งไม่เท่ากัน บางทีก็ 15 นาที อารมณ์เสียมากหน่อยก็คืนนึง เราทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราจะคลั่งถึงขนาดนั่งแท๊กซี่ไปตามที่คอนโดเลย ถึงแม้จะเป็นเวลาห้าทุ่มเที่ยงคืนก็นั่งไปคนเดียวนี่แหละ มาคิดๆดูก็บ้าไปมาก ดึกสุดที่เคยไปตามคือตีสามนี่แหละ ตอนนั้นเค้ายังอยู่บ้านเช่า เราก็จำไม่ได้ว่าบ้านเช่าเค้าอยู่ซอยไหน สุดท้ายให้พี่แท๊กซี่วนหาทุกซอยแต่ก็ไม่เจอ จะบอกให้พี่เค้าวนหาอีกรอบ พี่แท๊กซี่ก็บอกว่าอย่าเลย พี่สงสารน้อง พี่ก็มีลูกสาว พี่อยากให้น้องกลับไปนอนดีกว่านะ ยังโชคดีที่เจอพี่แท๊กซี่ใจดี ถ้าเจออีกประเภทเราคงนึกไม่ออกว่าป่านนี้จะมีสภาพยังไง
เมื่อสักครู่เค้าโทรมาง้อขอคืนดีบอกว่าจะไม่ทะเลาะกันอีกแล้ว คุยกันดีดีนะ แต่ทำไมความรู้สึกเรามันไม่เหมือนเดิม เราโมโหนะคะที่เค้าปิดเครื่องหนี แต่แว้บแรกที่เราคิดคือ แล้วจะทำไง ให้ไปตามเหรอ เค้าก็อยู่บ้านเพื่อน แถวไหนก็ไม่รู้ ตามไปก็เท่านั้น ทำอะไรก็ไม่ได้ กินยาฆ่าตัวตายเหรอ หรือจะกรีดข้อมือตัวเองดี สุดท้ายก็แค่ชั่ววูบความคิด ไม่ทำหรอก เรารักตัวเองมากพอ แค่คิดว่าถ้าแม่ต้องมาเห็นศพลูกตายคาหอ บาปคงกินหัวเราอีกหลายชาติเลยทีเดียว
เอาจริงๆเราก็ไม่รู้ว่าชีวิตคู่ของเราจะได้ลงเอยกันไหม ถ้าแต่งงานแฟนก็ต้องทำงานที่กทม. ส่วนเราด้วยความที่เป็นลูกคนเดียว แม่ก็อยากให้อยู่ที่เชียงใหม่ เราก็ไม่กล้าทิ้งแม่ไว้คนเดียว จะให้เอาแม่มาอยู่กทมด้วย แม่ก็คงไม่อยากมา ก็กลายเป็นว่าแต่งงานต้องแยกกันอยู่ แฟนบอกว่าจะไปหาที่เชียงใหม่บ่อยๆ แต่เราไม่อยากเชื่อคำพูดเค้าค่ะ เพราะแค่จะให้ไปส่งกลับบ้านที่เชียงใหม่ยังมีข้ออ้างสารพัดเลย คบไปก็เหมือนไม่เห็นทางใช้ชีวิตร่วมกัน อีกอย่างเค้าเป็นคนอารมณ์ร้อน โกรธเมื่อไหร่ขึ้นมริงกรูตลอด ทั้งๆที่เคยขอไว้แล้ว ยิ่งฟังก็ยิ่งเจ็บอ่ะค่ะ เค้าสัญญาว่าจะมาขอเราแต่งงานอีกสองปี เราก็โอเคๆ แต่วันนี้ก็มากลับคำพูดเป็นว่าสองปีหลังจากได้โปรโมตนะ (ซึ่งกว่าจะได้ก็ไม่รู้อีกเท่าไหร่) ถามว่าเรารักเค้าไหม ยังรักค่ะ แต่เหนื่อยกับการรอและอะไรหลายๆเรื่อง เราเคยถามเค้านะว่าเพื่อนไม่มีแฟนบ้างเลยเหรอ แฟนเค้าไม่อยากอยู่ด้วยกันเหรอ (จริงๆแล้วเพื่อนเค้าบางคนก็มีเมียแล้ว แถมเมียยังท้องอีก) แฟนเราก็บอกว่ามี แต่ไม่มีใครว่าอะไร (หรือเราเป็นคนติดแฟนมากเกินไปเนี่ย)
ทุกวันนี้คำพูดแฟนเป็นเหมือนอะไรที่เชื่อไม่ได้อีกแล้วอ่ะค่ะตามความรู้สึกนั้น พูดอะไรไม่เคยทำได้ ไม่รักษาคำพูด พออยากไปไหนมาไหนมาอ้อน มาพูดบอกรักหวานๆ หรือพอรู้ว่าตัวเองผิดสัญญาก็จะบอกว่าเดี๋ยวซื้อนั่นนี่ให้นะ พูดหว่านล้อมสารพัด เมื่อก่อนเราคงดีใจ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อ่ะ มันเอือมมากๆ มันดูเฟคไปหมดเลย เหมือนว่าอยากไปมากจนต้องมาพูดจาขนาดนี้เลยเหรอ
เราควรทำยังไงต่อดีคะ เหนื่อย เอือม อยากหยุดแล้วเหมือนกัน ดันทุรังเดินต่อไปก็ไม่เห็นอนาคต ถ้าเลิกก็ต้องมีปัญหาเรื่องหนี้สินอีก (ตอนนี้แฟนเราใช้บัตรเครดิตเราและติดหนี้ประมาณสองหมื่น ถ้าเลิกเรากลัวว่าเราต้องมาใช้หนี้ตัวนี้ให้เค้า เค้าก็ผ่อนๆจ่ายอยู่แต่ไม่รู้เมื่อไหร่จะหมด จริงๆเค้าก็บอกว่าถ้าโบนัสออกจะใช้ให้หมด แต่นี้โบนัสก็ออกจนเค้าใช้หมดแล้ว หนี้เราก็เหมือนเดิม ทวงก็ไม่กล้า เรารู้สึกไม่สบายใจเลยค่ะ เกิดเค้าตายขึ้นมาวันใดวันหนึ่งขึ้นมา แล้วเราไม่ซวยเลยเหรอ ตัวเราเองไม่มีหนี้สินติดตัว ทุกวันนี้ไม่สบายใจเพราะเค้าเป็นหนี้ในชื่อเรานี้แหละ) มีใครมีชีวิตคู่ออกแนวแยกกันอยู่ไหมคะ รบกวนช่วยแชร์ประสบการณ์หน่อยจะดีมากเลยค่ะ ได้ยินเสียงเค้าก็เอือมแล้ว ทะเลาะทีไรก็เหมือนเดิม มันเบื่อ