ภาพหลักฐาน "แทน เทือกสุบรรณ" หอบเงินสดซื้อที่ดิน 52 ไร่ 280 ล้านข้างบ้านเทพไท



วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมานาย ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช บริษัทสี่พระยาการพิมพ์ จำกัด (เดลินิวส์) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ไพฑูรย์ อินทศิลา ขยายรายละเอียดพร้อมภาพที่ดินแปลงดังกล่าวเพิ่มเดิมโดยมีรายระบุว่า

แฉแกนนำ กปปส.คนดังหอบเงินซื้อที่ดิน 52ไร่ 280 ล้านในเมืองคอน

แฉแกนนำ กปปส. คนดังหอบแอบซื้อที่ดินสด ๆ ร้อน ๆ กลางเมือง 52 ไร่มูลค่าถึง 280 ล้าน

กระหึ่ม..!โลกออนไลน์แกนนำ กปปส.คนดังหอบเงินซื้อที่ดิน52ไร่ข้างบ้าน ส.ส.เทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราชมูลค่าถึง 280 ล้าน สงสัยยักยอกเงินบริจาคก้อนมหึมาให้ทายาทรับโอนพร้อมจ่ายเงินในวันที่ชัตดาวน์สำนักงานที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช เรียกร้องตรวจสอบนำข้อเท็จจริงชี้แจงประชาชน"ตาวสว่าง"เสียที

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2557 นี้ว่าได้มีประชาชนจำนวนมากเข้าไปวิพากวิจารณ์แสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊คของคนที่ชื่อว่า "ธนาชัย เกตุโรจน์"ชื่อดังทนายความจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่โพสภาพถ่ายที่ดินแปลงหนึ่งพร้อมข้อความว่า เรื่องนี้ต้องถึงหูณัฐวุฒิ..!! *** แกนนำ กปปส.หอบเงิน เกือบ 300 ล้าน ซื้อที่ดินเมืองคอน *** มีข่าวมาบอก (ชัวร์ ครับ)... แกนนำ กปปส.ระดับสูง ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน กับอดีตนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดนครศรีธรรมราช ในราคา 280 ล้านบาท วางมัดจำ 60 ล้านบาท แต่เมื่อถึงกำหนดก็ผัดผ่อนเรื่อยมา จนมีการดำเนินคดีให้รับโอนที่ดินตามที่ตกลงซื้อไว้

กระทั่งเมื่อมีการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลของ กปปส. แกนนำเคลื่อนพลนำมวลชนออกเรี่ยไร รับบริจาคเงินจากคนกรุงเทพ และคนภาคใต้ได้จำนวนมหาศาล แต่กลับนำเงินจำนวนดังกล่าวมารับโอนที่ดิน (แปลงที่พิพาทกันอยู่) การโอนที่ดินมีขึ้นในวันที่ กปปส.ไปปิดสำนักงานที่ดินนั่นเอง

สำหรับเงินค่าที่ดินที่ต้องจ่ายแก่ผู้ขาย ในวันโอนคือ จำนวน 220 ล้าน ไม่ได้เป็นเช็ค หรือดร๊าฟ แต่เป็นเงินสด ๆ กลิ่นหอม ๆ นับกันบนสำนักงานที่ดินเลยทีเดียว (ไม่รวมภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าอากร )

หายสงสัยหรือยัง ทำไมแกนนำ สั่งให้ปิดส่วนราชการ /สำนักงานที่ดิน ในวันนั้น ? เมื่อหลักฐานพร้อม คนพร้อม เราจะเอามาเผยให้ตาสว่างกันสักที !!.....

โดยมีชาวโลกออนไลน์หลายร้อยคนเข้าไปวิพากวิจารณ์แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะมีการแชร์ภาพและข้อความดังกล่าวมากถึงเกือบ 800 คน ส่วนใหญ่เป็นการตำหนิและประณามแกนนำ กปปส.คนดังกล่าวอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามมีจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นตอบโต้ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงเป็นเพียงการกุข่าวขึ้นมาเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของแกนนำ กปปส.คนดังกล่าวเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบดูที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายนครศรีธรรมราช ต.ช้างซ้าย ระหว่างปั้มน้ำมันของบริษัทนครบริการขนส่งจำกัดกับโกดังเก็บสินค้าของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งใกล้กับบ้านของนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เขต 6 จ.นครศรีธรรมราช พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีจำนวน 52 ไร่ มีการปลูกหัวมันเทศเกือบเต็มพื้นที่ โดยมีการติดตั้งสปริงเกอร์ฉีดน้ำให้ความชุ่มชื่นกับพื้นที่หลายสิบจุด ในขณะที่มีคนงานเกือบ 20 คนกำลังช่วยกันถอนเก็บหัวมันเทศ บางส่วนใช้รถไถยกร่องพื้นที่และทำการปลูกหัวมันเทศในรอบใหม่

สำหรับพื้นที่ 52 ไร่ดังกล่าวเดิมเป็นของนายสมนึก เกตุชาติ อดีตนายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช แต่ในปัจจุบันได้ขายให้กับทายาทของแกนนำ กปปส.คนหนึ่งในราคา 4 ล้านบาท รวมเป็นเงินค่าที่ดินทั้งหมด 280 ล้านบาท ในการทำสัญญาตกลงซื้อขายได้วางมัดจำไว้ 60 ล้าน ส่วนที่เหลือจะจ่ายในวันโอนที่ดิน แต่เมื่อถึงเวลากำหนดฝ่ายผู้ซื้อขอยืดระยะเวลาผัดผ่อนมาหลายครั้ง จนฝ่ายผู้ขายยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช และศาลได้สั่งให้ผู้สื่อรับโอนที่ดินแปลงดังกล่าวตามที่ตกลงซื้อไว้ จนกระทั้งในวันที่ 20 -21 ม.ค. 2556 ที่ผ่านมาได้มีการทำสัญญารับโอนที่ดินแปลงดังกล่าวที่สำนักงานที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามคำสั่งศาล มีทนายความชื่อดังของจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้รับมอบอำนาจดำเนินการทั้งหมด ซึ่งฝ่ายผู้ซื้อจ่ายเงินค่าที่ดินที่เหลือ 220 ล้านให้กับนายสมนึก เกตุชาติ ผู้ขายภายในสำนักงานที่ดินจังหวัดเป็นที่เรียบร้อย

นายธนาชัย เกตุโรจน์ กล่าวว่า ตนได้สอบถามเรื่องนี้เพื่อนทนายความผู้รับมอบอำนาจดำเนินการคนดังกล่าวยอมรับว่าได้มีการดำเนินการรับโอนที่ดินแปลงดังกล่าวตามคำสั่งศาลจริง โดยฝ่ายผู้ซื้อเป็นทายาทของแกนนำ กปปส.คนหนึ่งจริง ที่น่าสังเกตก็คือในวันที่ 21-22 ม.ค. 2557 แกนนำ กปปส.ได้ประกาศให้ กปปส.แต่ละจังหวัดทำการปิดสถานที่ราชการทุกแห่ง ซึ่งแกน กปปส.จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นำนำมวลชนไปปิดสำนักงานที่ดินและสถานที่ราชการอื่น ๆ แต่มีการรับสัญญาซื้อขาย-รับโอนที่ดินแปลงดังกล่าวได้อย่างไร เป็นการสั่งปิดสำนักงานที่ดินเพื่อการแอบรับโอนที่ดิน 52ไร่มูลค่า 280 ล้านแปลงดังกล่าวเป็นการเฉพาะใช่หรือไม่

"ที่น่าสงสัยคือเงินจำนวน 220 ล้านที่นำมาจ่ายค่าที่ดินแกนนำ กปปส.คนดังกล่าวเอามาจากไหน เพราะอยู่ในระหว่างการถูกอายัดบัญชีทรัพย์สินทั้งหมด จนแกนนำ กปปส.คนดังกล่าวนำมวลชนหัวกระสอบปุ๋ยวันละ 5-10 กระสอบ เพื่อระดมเงินบริจาคจากประชาชนทั่วกรุงเทพมหานคร ในขณะที่ในต่างจังหวัดแกนนำ กปปส.ก็ระดมเงินบริจาคจากประชาชนนำไปมอบให้กับแกนนำ กปปส. ด้วย จึงมีความเป็นไปได้ที่แกนนำ กปปส.คนดังกล่าวนำเงินบริจาคที่ประชาชนร่วมกันบริจาคเพื่อขับเคลื่อนทางการเมือง ขับไล่รัฐบาลมาจ่ายค่าที่ดิน 220 ล้าน"

นายธนาชัย เกตุโรจน์ กล่าวอีกว่าเรื่องนี้อยากให้กรมที่ดิน หรือผู้มีอำนาจออกมาตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนทั่วประเทศรับทราบเป็นการด่วน เพราะเป็นพฤติกรรมที่ชั่วร้ายของนักการเมืองที่ในวันนี้ผันตัวเองมาเป็นแกนนำ กปปส. เป็นการหลอกลวง ตบตาคนทั้งโลกว่าเป็นผู้ที่ทุ่มเทเสียสละเพื่อชาติและประชาชน แต่กลับมีเบื้องหลังในการกอบโกยหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง ความจริงจะได้ถูกเปิดเผยออกมาให้ประชาชนชาวไทยและคนทั้งโลกได้ตาสว่างเสียที.

ไพฑูรย์ อินทศิลา/กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
5 ก.พ. 2557



นอกจากนี้ในโพสต์ดังกล่าวได้มีการแสดงความคิดเห็นมากมาย โดยส่วนหนึ่งได้มาแสดงความเห็นตอบโต้ผู้ที่เข้ามาแสดงความเห็นซึ่งยืนยันว่ามีข้อมูลดังกล่าวจริง เนื่องจากเป็นข้อมูลทางราชการตรวจสอบได้ และเร็วๆนี้จะนำสัญญาการโอนเงินมาเผยแพร่

อ่านมาอีกทีนะคะhttp://board.postjung.com/743601.html
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่