How to: จีบผู้ชาย สำหรับสาวไทยในต่างแดน

**กระทู้นี้ไม่มีจุดประสงค์ที่จะสนับสนุนให้สาวไทยเป็นสาวลั้นล้าจีบผู้ชายไม่เลือกนะคะ เป็นแค่กระทู้ตอบคำถามตามมุมมองของดิฉันสำหรับสาวๆท่านใดที่มีคำถามนี้กับตัว**

สาวไทยอย่างเราๆโดนสอนมาตลอดว่าให้รักนวลสงวนตัวมันเลยลำบากใจที่จะเป็นฝ่ายรุก และสำหรับสาวไทยในต่างแดนแล้วดิฉันคิดว่าพวกเค้ามีความกล้าซ่อนอยู่ไว้ข้างใน แต่ด้วยติดตรงที่คำว่าสาวไทยเลยไม่อยากให้ชาติใดมองสาวไทยในแง่ลบเพราะพวกเค้าถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวแทนสาวไทยไปตลาดโลก จนถึงจุดจุดหนึ่งที่พวกเค้าบอกตัวเองว่า “ฉันไม่อยากโสดละ” ดิฉันเชื่อว่าสาวๆหลายท่านคงมีวิถีทางของตัวเองสำหรับโจทย์ข้อนี้ และนี้ก็เป็นแค่อีกหนทางหนึ่งคะ

1.    เข้าใจตัวเอง
สาวๆต้องพิจารณาจุดประสงค์การอยู่ต่างประเทศของตัวเองก่อนนะคะว่ามาทำอะไร บางทีเราก็ไม่ได้อยากมีแฟนหรอกอาจจะเป็นแค่อารมณ์เหงาชั่ววูป คิดถึงบ้าน อะไรประมาณนี้มากกว่า ซึ่งบางทีก็ไม่มีเป้าหมายที่สามารถระบุตัวตนได้ชัดเจน ขอแค่ใครสักคน
•    มาทำงาน: มาทำงานอาจเจอคนมากมายหลายอย่าง เราไม่ได้มองหาแต่บางทีบุพพามักจะนำมาผู้ชายที่เข้าตามาให้เชยชม เราก็ต้องทำอะไรบางอย่างให้เค้ามาสนใจเราบ้าง
•    มาเรียน: มาเรียนก็ตั้งใจเรียนคะ ถ้ามีผู้ชายผ่านมาแล้วถูกชะตาเราค่อยคิดหาวิธีที่ชนะใจเค้า
•    มาเที่ยว: มาเที่ยวรวมไปถึงมาเยี่ยมญาติด้วยนะคะ ดิฉันคิดว่าอย่าเลยคะอย่าคิดจะจีบใครถ้าจุดประสงค์หลักคุณคือไปเที่ยว และการจีบผู้ชายไม่ใช่เป็นเรื่องแป๊บเดียวเดี๋ยวหายไป เค้าจะหาว่าเราใจง่ายอย่าทำเลยคะ
•    มาหาแฟน: หมายถึงคนที่ยังไม่มีแฟนแล้วคิดว่าจะมาหาแฟนต่างประเทศ หรือคนใดที่อยากทิ้งแฟนเก่าแล้วมาเอาแฟนใหม่ แนะนำนะคะ... เอาความคิดแบบนี้ออกจากหัวเถอะคะ

2.    ระบุสัญชาติของเป้าหมาย
•    ต่างชาติ: เอาจริงตามประสบการณ์ต่างชาติเค้าไม่ได้คิดหรอกคะว่าเราจีบเค้า ถ้าเราชอบคนไหนก็ยิ้มให้เค้าคะโชว์ความเป็นสยามเมืองยิ้มเข้าไว้แล้วก็เข้าไปพูดคุย ต่างชาติเค้าชอบสาวไทยที่เป็นคนเอาใจเก่งยิ้มง่ายมีเสน่ห์ เลิกพูดเถอะคะว่าต่างชาติชอบผู้หญิงดำไม่มีดั้ง....  ซึ่งมันแปลเป็นประโยคใหม่ได้ว่า ”แหม่ดูนางคนนี้ดิไม่เห็นจะสวยแต่ยังมีแฟนเป็นฝรั่ง แล้วดูเราสวยกว่าตั้งเยอะทำไมฝรั่งไม่ชอบเราวะ” ซึ่งแค่เราเข้าไปหาเข้าก่อนก็จบคะส่วนจะสานต่อไม่สานต่อก็เรื่องของเค้าก็เราให้สัญญาณบอกเค้าไปแล้วว่าไอชอบยูนะแล้วยูจะเอายังไงต่อจะอยากรู้จักไอไหม?
•    ชายไทย: ถ้าเป้าหมายเราเป็นชายไทยในต่างแดนละก็ค่อยเป็นค่อยไปคะเริ่มต้นจากการเป็นคนรู้จัก แล้วก็สนิทแล้วก็ใกล้ชิดจนเกิดเป็นความรัก จบเลยไม่ต้องมีหลายสเต็บ แต่ถ้าหากเป้าหมายเราเป็นนชายไทยในเมืองไทยแล้วละก็... ปลงซะเถอะคะไปหาจีบเอาใกล้ๆดีกว่า

3.    วิเคราะห์สถานที่พบเจอ
•    ที่เรียน, ที่ทำงาน: การเจอกันเป็นเรื่องง่ายมากและค่อนข้างทุกวัน เราก็มองเค้าแล้วก็ยิ้มให้วันละนิดวันละหน่อยคะ แล้วก็หาทางทักเค้าบ้างถ้าเจอนอกห้องเรียนหรือนอกห้องทำงาน เค้าจะมีเซนส์และเข้ามาหาเราเองคะ แต่ถ้าเค้าไม่มาแสดงว่าเค้าไม่สนใจเราจะปล่อยไปก็ได้
แต่ถ้าคิดว่ายังพยายามไม่พอก็สังเกตว่าเค้าชอบอะไร...อันนี้ยากหน่อยอาจจะใช้ประสาทรับฟังขั้นสูงในการสอดส่องว่าเค้าคุยกะเพื่อนเค้าเรื่องอะไรบางทีอาจจะโชคดีเจอประโยคว่าเค้ากะเพื่อนจะไปปาร์ตี้ที่ไหนสักแห่ง เราก็ไปเลยคะอาจจะชวนเพื่อนเราไปด้วยแล้วก็ตามหาเค้าในงานปาร์ตี้ทำเป็นบังเอิญเจอแล้วเข้าไปทักทาย ไม่ต้องอะไรมากนะคะทำเหตุการณ์บังเอิญเจอนี้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น!!! ขอย้ำ ภายในสามวันเจ็ดวันแล้วเค้าไม่เข้ามาคุยกะเราก็ช่างเค้าเหอะคะ รู้จักเค้าในฐานะเพื่อน พี่ หรือน้องที่รู้จักก็พอเค้าคงไม่อะไรกะเราจริงๆแหระ
ถ้าเราชอบเค้าจริงๆแล้วคิดว่ากะคนคนนี้เราคิดเป็นอื่นไม่ได้จริงๆก็ต้องเสี่ยงอะคะลงทุนซื้อตั๋วมาเลยสองใบแล้วไปยื่นให้เค้าถามว่าสนใจไหม?(ตั๋วนิอาจเป็นตั๋วอะไรก็คะ ตั๋วหนัง ตั๋วละคร ตั๋วกีฬา) คราวนี้ถ้าเค้าไม่สนใจเราจริงๆเค้าจะพูดออกมาตรงๆเลยคะ ไม่ต้องคิดไรมากปกติเราก็ทำตัวปกติไป แต่ถ้าเค้ารับตั๋วไปกะเราสองต่อสองแล้วภายในสามวันเจ็ดวันเค้าไม่พยายามติดต่อเราก็ให้คิดว่าโอเค๊มีเพื่อนที่สนิทเพิ่มอีกหน่อยอีกคน ใช้ชีวิตตามปกติต่อไปค่า
•    ที่สาธารณะ: อารมณ์เดินสวนทาง ป้ายรถเมย์ ในห้าง ตลาด และที่อื่นๆ ต้องมีโมเม้นท์ของการสบตาและสำรวจเค้าอยู่สักพักนะคะ ไม่ใช่เดินผ่านกันอย่างไวคงทำอะไรไม่ทันอะคะปล่อยเค้าไปคะ แต่ถ้าหากว่าเค้าเผลอสบตาให้เราพยายามตัดสินใจอย่างไวเลยนะคะว่าจะเล่นบทไหนระหว่างสาวร่าเริงกะสาวผู้น่าสงสาร ถ้าเลือกเป็นสาวร่างเริงก็ยิ้มทักทาย ทิ้งช่วงสักระยะสองสามนาทีถ้าเค้าไม่ยอมเข้ามาคุยให้เราประชิดโดยการหาเรื่อมาถามตามสถานการณ์เช่น ถ้ารอรถอยู่ก็ยูๆจะไปไหน? แล้วก็เรื่อยไปคุยไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเล่นบทสาวผู้น่าสงสารก็ตีหน้าเศร้าแล้วเข้าประชิดตัวเลยคะบทพูดก็ตามสถานการณ์คะ เช่นถ้ารอรถอยู่ก็บอกว่า ยูๆไอไม่แน่ใจว่าไอทำตัวถูกต้องรึป่าวที่ไอมารออยู่ตรงนี้ไอจะไปนู้นนี่นั่นนะ รอดูปฏิกิริยาว่าเค้าโอกะเรารึป่าวจากช่วงท้ายๆของบทสนทนาถ้าเค้าไม่ขอเบอร์หรืออีเมลล์ติดต่อ ก็ยื่นเบอร์หรืออีเมลล์ของเราให้เค้าไปคะ (ในกรณีนี้ควรพกนามบัตรติดตัวไว้ตลอดเวลานะคะ ถ้าไม่มีนามบัตรก็มีกระดาษเศษที่เขียนชื่อเบอร์อีเมลล์ตัวเองไว้คะ)
•    ที่เที่ยว: การเจอในสถานที่เที่ยวไม่ว่าจะเป็นทางด้านประวัติศาสตร์หรือธรรมชาติสามารถบอกตัวตนของคนที่เราเจอได้หลายอย่าง เราสามารถสังเกตได้จากคนที่เค้ามาด้วยสถานที่ที่เค้าชอบไป ถ้าเราเจอเค้าก็ยิ้มเปิดก่อนเลยคะ ชวนคุยเรื่องสถานที่เที่ยวหรือสิ่งอื่นใดที่เกี่ยวข้องแล้วก็แลกเปลี่ยนเบอร์โทรหรืออีเมลล์ก็ว่ากันไป กรณีนี้ถึงมีนามบัตรก็เก็บไว้คะไม่ต้องใช้เขียนเอาหรือเม็มไว้ในมือถือเค้าจะดีกว่าคะมีเวลาคุยกันอีกหน่อยด้วย
•    ที่เที่ยวกลางคืน: การเจอในสถานที่ที่แบบนี้น่ากลัวที่สุดเพราะว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะกลายเป็น one night stand แบบว่าไม่รู้ตัว แต่ถึงยังไงก็สามารถใช้สูตรยิ้มให้แล้วเข้าไปคุยได้คะ ถ้าหากว่าเค้าชวนกลับไปกับเค้าก็อย่ากลับไปเท่านั้นเป็นพอคะเอาเป็นว่าจบแค่แลกเปลี่ยนเบอร์อีเมลล์ก็พอ เพราะมันวัดฝรั่งราตรีได้ฝรั่งบางคนเข้าผับหาสาวปั๊บๆแค่นั้นจบ เค้าไม่คิดว่าจะมาหาแฟนในราตรีกาลหรอกคะ

4.    ทำความรู้จัก
ถ้าเค้าอยากรู้จักกับเราต่อก็ต้องออกเดทคะ ไม่ว่าจะเป็นกินข้าวดูหนังทำกิจกรรมที่น่าสนใจ แต่จะต่างกันไปที่เราต้องให้เค้าชวนนะคะและเวลาไปเดทเนี่ยยยยไปกันสองต่อสองพอ!!! ไม่ต้องพาเพื่อนไปนะคะ แต่ก่อนไปเราต้องมั่นใจนะคะว่าผู้ชายที่เราไปด้วยน่าเชื่อถือมีความเป็นสุภาพบุรุษฝรั่งที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิงไม่ต้องไปเสียดายไม่ต้องเอามาทำพันธ์หรอกคะ ทางฝั่งเมกาแคนาดาเค้าจะมีกฎ 3 เดท แล้วค่อยตกลงปลงใจว่าจะเอายังไงกันแน่ ที่จริงกฎอะไรนี่ก็ไม่ตายตัวอะไรหรอกคะเอาเป็นว่าเราก็ยึด เวลาเดทก็แสดงความเป็นตัวเราคะไม่ต้องเกร็งและไม่ต้องเยอะบางทีพอบอกว่าแสดงความเป็นตัวตนแต่ละคนก็จะเผยธาตุแท้ที่แย่ๆสุดโต่งออกมาเช่นเป็นคนชอบดื่มน้ำเมาก็จะเมาให้เค้าดู อันนี้ไม่งามนะคะ

5.    ตัดสินใจ
หลังจากออกเดทจนเป็นที่พอใจแล้วก็ถึงเวลาตัดสินใจว่าจะไปต่อกันหรือไม่เค้าก็จะถามเองแหระคะว่าคิดยังไงกับเค้า แต่ถ้าเค้าไม่ถามพยายามลวนลามก็รักนวลสงวนตัวไว้นะคะบอกไปก็ได้คะว่าอยากเรียนรู้ให้มากกว่านี้หอมแก้มพอเป็นพิธีก็พอคะทำได้สุดๆก็จุ๊บปากพอนะคะถ้าเรายังชอบเค้าอยู่ก็ไปต่อคะกรณีนี้ควรออกเดทสักสามครั้งนะคะเลขสวยถึงจะถามเค้าว่าระหว่างเราจะเอายังไง ไม่ปฎิเสธเลยคะว่าคบกับฝรั่งต้องมีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองละว่าจะเอายังไง แต่ถ้าจะให้ดีก็บอกเค้าก่อนคะว่าประเพณีไทยเป็นยังไงเพราะทุกวันนี้ฝั่งไทยเราเรียนรู้อะไรจากฝรั่งมาเยอะแต่ฝั่งฝรั่งเองเค้าไม่ค่อยรู้หรอกคะว่าบ้านเราเป็นยังไง

ถ้าใครขึ้เกียจอ่านเด่วจะสรุปให้นะคะ 55555555[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ปล. กระทู้นี้เป็นกระทู้ต่อยอดที่มีแรงบันดาลใจจากคุณ คห.30 ใน  http://ppantip.com/topic/31615682
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่