ตอน แมงเม่าที่กำลังบินเข้ากองไฟ (เล่าถึง ภาคอดีต)
สถานที่บรรยายฉาก โรงเรียนทวีศิลป์ (ตั้งฮั้วหมิน)
คำโปรย : เป็นการเล่าถึงอดีตในวัยเรียนของดรีม ดรีมพบความแปรปรวนทางด้านจิตใจของตัวเองอย่างหนัก ซึ่งแม้แต่หทัยภัทรเองก็ตกใจ ว่าทำไมดรีมถึงเปลี่ยนไป ไม่เหมือนคนเดิมที่เธอเคยรู้จักเลย ทั้งความคิดและสภาพอารมณ์ของเขาที่โลเล ไม่มั่นคงเอาเสียเลย และทั้งคู่เอง แอบมีความรู้สึกที่ดีต่อกันอยู่ลึกๆ แต่ในใจของเขาและเธอ ก็ยังไม่มั่นใจว่า "มันใช่รักเกินเพื่อน" หรือเปล่า ความรู้สึกของทั้ง 2 ถูกเก็บงำ ซ่อนไว้ในใจ ในขณะที่ ดรีม อลงกต เริ่มแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัว หทัยภัทร มากขึ้นเรื่อยๆ ดรีมยังรักคุณมิ้นท์ แต่เธอเหมือนดอกฟ้า ที่เขาเอื้อมไม่ถึง จนหมดปัญญา ส่วนกิ่งทิพย์ ก็เริ่มรุกคืบความสัมพันธ์กับดรีมอย่างร้อนแรง เพราะเธอต้องการทำคะแนนนำหน้าคุณมิ้นท์ โดยจับเอาจุดอ่อนของดรีม ที่ไม่เคยได้สัมผัสและลิ้มรสในสตรีเพศ มาทำให้เขาหลงใหลในตัวเธอ ส่วนดรีมก็เริ่มหวั่นไหวไปกับความสวย คำหวาน เนื้อตัวหอมกรุ่น และ มารยาหญิง ที่กิ่งทิพย์กำลังหยิบยื่นให้เขาอย่างเต็มใจ!
ตัวละครเด่นในฉากนี้ - หทัยภัทร - ดรีม อลงกต - กิ่งทิพย์
“เอาเลย อยากเชียร์พี่ตัวเองก็ตามสบาย ไอ้เรามันก็แค่เด็กรุ่นน้อง จนก็จน คงผิดนักล่ะสิ หากจะไปจีบแข่งกับเขา !” เจ้าดรีมกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ ใจขุ่นเสียยิ่งกว่าน้ำในคลองหน้าแล้ง
“คนอย่างคุณมิ้นท์ ใครบ้างไม่อยากได้เป็นพี่สะใภ้ กวางก็คนหนึ่งที่อยากได้ อยากม้าก...มาก”
เหมือนจะยั่วยุให้อีกฝ่ายเคือง เจ้าดรีมกำหมัดแน่น แต่แล้วค่อยคลาย เมื่อคิดถึงฐานะแห่งตัว ในใจก็กลับท้อและฝ่อลงเสียเดี๋ยวนั้น ปลงตกว่า วาสนาของมันคงมีเท่านี้
“จะว่าไปคู่นี้เขาก็เหมาะสมกันดีนะว่าไหมกวาง” กระแสเสียงที่เศร้าแลน้อยใจของเจ้าดรีม ทำให้หทัยภัทรนึกสงสารขึ้นมา จึงตอบและเล่าไปตามจริง
“ถึงพี่อาร์ทจะเป็นพี่กวางก็จริงอยู่ และเขาก็ดีพอจะวัดกับดรีมได้สบายๆ เผลอๆ อาจดีกว่ามากด้วยซ้ำไป แต่เรื่องแบบนี้กวางไม่เข้าข้างพี่ตัวเองหรอกค่ะ ของแบบนี้มันขึ้นอยู่ที่ตัวผู้หญิง ถ้าผู้หญิงไม่สนใจ ไม่เล่นด้วยซะอย่าง ต่อให้ตื๊อแค่ไหนก็เท่านั้น”
“หมายความว่า คุณมิ้นท์ไม่ได้ชอบพี่อาร์ทแบบคู่รักเหรอ” เจ้าดรีมรีบถาม ฉีกยิ้มกว้าง ตาเป็นประกาย
“ไม่รู้สิ แต่กวางเห็นเขางั้นๆ ก็คงคิดกันแบบเพื่อนกระมัง พี่อาร์ทพยายามเอาใจคุณมิ้นท์ทุกทาง ซื้อดอกไม้ซื้อขนมให้ แต่อย่างมากคุณมิ้นท์ก็แค่ขอบใจ ยิ้มให้ หรือบางทีก็แทบจะไม่รับของที่พี่อาร์ทให้เลยด้วยซ้ำ เธอบอกว่าที่ทนรับไว้ เพราะความเกรงใจต่างหาก”
“แต่กับอีตาดรีม คุณมิ้นท์เขาถามกวางว่า คิดว่าดรีมเป็นคนนิสัยยังไง น่าคบหามั้ย?”
“แล้วกวางบอกคุณมิ้นท์ไปว่าไง” ้ เจ้าดรีมรีบคาดคั้นถาม หัวใจเต้นโครมคราม อยากฟังคำตอบที่มันฝันไว้
“ก็บอกไปแล้วว่าดรีมกะล่อน หลายใจ โลเลที่หนึ่ง” หทัยภัทรตอบเนือยๆ นึกถึงพฤติกรรมของเจ้าดรีมแล้วยิ่งระอาใจ
“โธ่เอ๋ย...หมดกัน ยัยกวาง ไม่ได้ลุ้นเลย” เจ้าดรีมตบเข่าตัวเองอย่างเจ็บใจ พลางส่ายหน้าปลงๆ
“ทำไงได้ กวางหมั้นไส้ความใจง่ายของดรีมนี่ ก็เลยพูดไปแบบนั้น แต่อย่าฝันเลย ตอนนี้คะแนนรักเธอหล่นฮวบมาอยู่อันดับท้ายๆ แถวแล้วละ เมื่อวาน กวางเห็นลูกชายอัยการหล่อมาก รวยมาก เท่ห์มาก เขานั่งรถมาด้วยกันกับคุณมิ้นท์และพ่อของเธอ คงจะไปเที่ยวที่ไหนกันสักแห่ง”
“หวังว่าคุณมิ้นท์คงไม่ชอบอีตาคนนั้นหรอกนะ หรือว่าพ่อเขาจะจับลูกสาวตัวเองคลุมถุงชนกับคนรวยๆ ด้วยกัน มีการตีตราจองตัวกันไว้ก่อนล่วงหน้า และเมื่อเรียนจบก็อาจจะหมั้นหมายหรือแต่งงานกันเลย ถ้าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นดีเห็นงามด้วย เท่าที่ดรีมรู้มา พวกคนรวยๆ เขามักทำกันแบบนี้แหละ สมบัติมรดกจะได้ไม่รั่วไหลไปไหน มีหรือเขาจะให้คนจนๆ อย่างเราไปชายตาแลลูกสาวเขา เพราะกลัวจะมาเกาะกินเสียมากกว่ากระมัง”
“ไม่รู้สิ ใจคุณมิ้นท์เดายากยิ่งกว่าไพ่เสียอีก แต่ตัวเธอเลิกฝันเสียเถอะ ดิ้นให้ตายยังไง ตอนนี้ยัยกิ่งคงไม่ยอมแน่ๆ”
“ทำไมการที่จะทำให้คนน่ารักอย่างคุณมิ้นท์มารักเรามันถึงยากนักนะ” ดรีมเอ่ยเศร้า
“จริงๆ มันก็อาจจะไม่ยากนะ ว่าแต่ตาดรีม มีดีพอที่จะได้หัวใจคุณมิ้นท์แล้วเหรอ ” หทัยภัทรย้อนกลับ
“จ๊ะ ข้อนั้นรู้ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่อย่าลืมว่าไอ้หมาวัดตัวนี้ มันก็มีหัวใจเหมือนกัน !” เขาประชด
“แน้...เดี๋ยวนี้หัดเรียกร้องสิทธิทางหัวใจเป็นแล้วเหรอตาดรีม แล้วถ้าเจอตัวคุณมิ้นท์ กวางจะบอกให้นะว่ามีคนคิดถึง”
“อืม...แล้วถ้ารู้ว่าคุณมิ้นท์อยู่ไหน มีกิจกรรมอะไร ก็อย่าลืมคาบข่าวมาให้ดรีมรู้บ้าง จะได้ตามไปเจอให้หายคิดถึง”
“เหรอยะ..เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าตอนนี้ หากคุณมิ้นท์จะทำอะไร ต้องบอกนายดรีมคนนี้ด้วย”
“เออน่า...รบกวนหน่อย สนิทกันไม่ใช่หรือ เดี๋ยวดรีมให้ค่านายหน้ากวางเอง ไม่ต้องห่วง”
ค่านายหน้าของเจ้าดรีม ก็คือ ขนมที่ป้ามันทำขาย กิ๊บติดผม โบว์ผูกผมบ้าง หรือกำไลข้อมือสวยๆ สุดแท้แต่มันจะหามาได้
“อีตาดรีม ฉันรู้นะว่า นายไปเอากิ๊บติดผมสีชมพูนั่นมาจากไหน จากยัยแว่นปากจัดใช่มั้ยล่ะ ไปแอบขโมยใต้โต๊ะเขามาอีกล่ะสิ”
“โธ่...ก็ยัยแว่นน่ะ ขี้งกจะตาย มีตั้งไม่รู้กี่อัน บางอันก็เก่าจวนจะทิ้งขยะได้อยู่แล้ว แต่ก็ยังหวง วันนั้นดรีมยืมปากกาแค่ด้ามเดียว ยังทวงซะครึ่งวัน เลยเจ็บใจแอบขโมยโบว์ผูกผมมาซะหน่อย เค้าหมั้นไส้น่ะตัว”
หทัยภัทรฟังแล้วอดหัวร่อออกมาไม่ได้ นึกขันในความทึ่มและซื่อของเจ้าดรีม เธอรู้ว่าเจ้าดรีมได้อัฐมากินขนมแค่เพียงวันละ 20 บาทเท่านั้น แล้วเขาจะเจียดเงินที่ไหนมาซื้อของฟุ่มเฟือยให้เธอ ถ้าไม่แอบจิ๊กเพื่อนคนอื่นมา
“ดรีม อย่าหัดเป็นคนขี้ขโมยนะ มันไม่ดี ถึงของจะเก่าก็จริง แต่เจ้าของเขาไม่อนุญาตนี่”
“ย่ะ! แม่คนดีศรีโรงเรียน พรุ่งนี้ดรีมจะรีบเอาไปคืนแต่เช้าเลย”
เจ้าดรีมกับยัยแว่น ฉายาจอมงกประจำห้อง เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่เรียน ม.4 โดยนิสัยเจ้าดรีม เป็นคนขี้เล้นทะเล้น ส่วนยัยแว่นเองก็เป็นคนไม่ยอมใคร พอโดนเจ้าดรีมแกล้งทีไร ไอ้คนที่แพ้ภัยตัวเอง โดนเขาหยิกเขาตบข่วนเอา ก็มักจะไม่พ้นเจ้าดรีมคนเก่งของเธอนั่นเอง แต่ดรีม อลงกต มีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่ในนิสัย มันไม่เคยสู้หรือตบตีกับเพื่อนนักเรียนหญิงคนไหนในห้องเลย เว้นแต่ว่าจะโดนเพื่อนนักเรียนชายด้วยกันรังแกเข้าก่อน เจ้าดรีมก็จะออกลีลาพะบู๊สิงร่างขึ้นมาเป็นครั้งคราวไป ฉายา “สิงโตหลังโบถส์” จึงได้มาด้วยประการฉะนี้
“ระวังยัยแว่น จะล้อว่าเธอเป็นตุ๊ดนะ เที่ยวไปขโมยโบว์เขามาให้กวางน่ะ”
“ก็ดี ล้อมากๆ จะได้จีบซะเลย ยัยแว่นเรียนเก่งจะตาย ดรีมจะจีบเอาไว้ลอกการบ้านกับไว้ลอกข้อสอบ”
ตั้งแต่สนิทเจ้ามี่ หทัยเริ่มรู้สึกว่าใจเจ้าดรีมมันชักกำเริบรัก กู่ไม่กลับ หูตาแพรวพราว เห็นใครเป็นจีบดะ ไม่เว้นแม้แต่ยัยแว่น คู่ปรับที่อ้วนเป็นตุ่ม ชั้นเชิงจีบสาวของไอ้มี่เหลี่ยมจัดนัก คงได้ถ่ายทอดเจ้าดรีมหมดแล้วทั้งสิ้น คอยดูเหอะ สบโอกาสวันไหน หทัยภัทรเจอ จะสวดให้ยาว ข้อหาทำเจ้าดรีมของเธอเสียคน....
“เอาเป็นว่า กวางเบื่อละ ของพวกนั้นอ่ะ ดรีมไม่ต้องลำบาก เราซื้อเองได้”
หทัยภัทรก้มหน้าท่องหนังสือต่อไป สังเกตว่าเจ้าดรีมเริ่มมีอาการแปลกๆ อีกครั้ง เขาจ้องหน้าเธอนิ่งนาน สาวน้อยพลันหลบหลีกสายตาไม่ให้พบกับเจ้าดรีม ด้วยกลัวใจตัวเองอยู่ด้วยเป็นหลัก
“งั้นๆ ดรีมให้ค่านายหน้ากวาง เป็นอย่างอื่นแทนได้ไหม เป็นแลกจูบสักครั้ง พอใจไหม” พูดตะกุกตะกักแต่มือไม้ดันไวกว่า คว้าแขนแม่เพื่อนรักคนดีขึ้นมาจับ มาลูบไล้ หทัยภัทรตัวสั่นเทิ้ม หน้าชาเป็นสีแดงระเรื่อ รู้สึกร้อนผะผ่าวตามเนื้อตัวเหมือนจะเป็นไข้ หรือเพราะเขาเป็นชาย เราเป็นหญิง เลยรู้สึกขนลุกซู่แปลกๆ แต่ทำไมกับเพื่อนชายคนอื่นอย่างเจ้าก้องก็จับมือเธอออกบ่อยเช่นกัน กลับไม่ใจเต้นรัวเท่าครั้งนี้
หทัยภัทรพยายามหาเหตุผลให้ดูน่าเชื่อ เธอยอมรับว่ากายภาพของเจ้าดรีมนั้นเปลี่ยนไปแล้วจริง จากเด็กตัวผอมโกร่ง ฟันหลอ หน้าเยินเป็นแผลเพราะชอบเล่นซนโลดโผน ที่เธอมักชอบล้อเขาบ่อยๆ ตอนประถมว่าเป็น “ไอ้หน้าแมวผี” แต่พอมันเริ่มโต ก็กลายเป็นหนุ่มรูปงาม ที่มีหน้าตางดงามคมสัน ท่าทีสง่าองอาจ เสียงเจ้ามีกังวานหวานหูน่าฟัง มีคมกวีอันจับใจไพเราะเป็นเลิศ คุณสมบัติเหล่านี้ ล้วนต้องตาต้องใจคนเป็นผู้หญิงทั้งสาวน้อยสาวใหญ่อยู่ใช่น้อยทีเดียวเชียว....
“ดรีมจ๋า... คือว่าเราก็โตๆ กันแล้วนะ เธอจะมาเล่นจับมือถือแขนเราเหมือนตอนเด็กได้ยังไง คนเห็นจะเข้าใจผิด” สาวน้อยพูดพลางแกะมือเขาออก แต่เจ้าดรีมไม่สนใจฟัง แกล้งพูดเฉไฉไปว่า
“ก็ช่างเขาประไร จะว่าไป กวางยิ่งโตก็ยิ่งสวยนะ ดูสิ แขนก็เรียว ผิวก็ดี ขาวกว่าดรีมอีก”
แต่ก่อนนั้น ใครๆ ก็ว่าหทัยภัทรสวยน่ารัก และต่างอิจฉาเจ้าดรีมที่ได้ชิดเชย แต่เจ้าดรีมก็ไม่เคยนึกไปในทางชื่นชม เพราะเห็นว่าเป็นของใกล้ตัว เจอหน้ากันแทบทุกวัน แต่นานวัน กลับพบว่าใจคอเริ่มหวั่นไหว ยิ่งโตเป็นสาว หทัยภัทรยิ่งสวยหวานล้ำเข้าตา มีเสน่ห์อยู่ในท่าทางที่แช่มช้อยอ่อนโยน และมีใจที่ปราณีต่อมันอย่างไม่มีใครเสมอเหมือน เจ้าดรีมก็เริ่มรู้สึกอบอุ่น จนแทบจะกลายเป็นโหยหาในบางคราว
ริมฝีปากรูปกลีบดอกไม้ที่สวยได้รูปน่าจุมพิต แม้ไม่แดงจัดและผิวไม่เป็นสีขาวไข่ปลอกขนาดคุณมิ้นท์ เพราะหทัยภัทรยังมีเชื้อไทยผสมอยู่มาก แต่คิ้วที่หรูอย่างหนึ่งไม่มีสอง และผิวงามผ่องค่อนไปทางเหลือง เป็นผิวสีน้ำผึ้งที่เนียนละเอียดอ่อนระเรื่อตาน่ามอง เส้นผมยาวดำสนิทตรงเป็นมันราวกับเส้นไหม ที่เจ้าดรีมเผลอไผลไปสัมผัสเข้าบางครั้งก็นุ่มมือน่าจับเสียจนไม่อยากปล่อย หุ่นสมส่วนบอบบางสะโอดสะองที่น่ากอดน่าถนอม จนถูกเพื่อนเลือกให้เป็นนางรำแถวหน้าของโรงเรียน ก็ไม่มีใครค้าน ทำให้เจ้าดรีมต้องหันกลับมาเพ่งเล็งเพื่อนสาวของมันคนนี้มากกว่าเก่า !
“แล้วถ้า....ต่อไป ดรีมกับกิ่ง นิสัยเข้ากันไม่ได้ล่ะ เลิกกัน ดรีมจะบาปไหม แล้วมาคบกับคนใกล้ๆ ตัวแทน”
เจ้าดรีมอึกอัก ในขณะที่ในใจกลับรู้สึกหวั่นไหวจนแทบจะกลายเป็นกระวนกระวาย ด้วยอากัปกริยาฉับพลัน เขาเผลอไผลตะปบกุมมือเธอไว้แน่น เหมือนจะสื่อให้รู้ว่าเขาหมายถึงเธอ หทัยภัทรเลยคืนสติให้ ด้วยการหยิกเข้าที่ต้นแขนเจ้าดรีมแรงๆ พอมันเจ็บจึงยอมปล่อย ร้องโอดโอย....นั่งมองเธอตาปริบๆ
“นี่อย่างไร คนใกล้ตัว อยู่ในใจที่นี่” เจ้าดรีมย้ำ เอามือตบอกข้างซ้ายตัวเอง“
“ใกล้ตัวเหรอ ไหนๆ ไม่เห็นมีสักคนเลยที่อยากคบกับตาดรีม” สาวน้อยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ บุ้ยปาก ชี้ไปที่จิ้งจกที่นอนนิ่งอยู่ข้างฝา
“นั่นไง จุ๊ๆ ไอ้เจ้าตัวนี้เอง ที่อยากเป็นแฟนกับตาดรีม” เจ้าดรีมทำหน้าแหย เมื่อเห็นเพื่อนสาวแกล้งหยิบซากจิ้งจกตายโยนใส่เขา
“เย้ย!..ผู้หญิงอะไรชอบเล่นกับจิ้งจก ไม่เอา อี๊ส์ ขยะแขยง”
“แล้วเธอจะทำอย่างไรกับแม่หวานใจของเธอต่อไปล่ะ” เมื่อเห็นดรีมเงียบไป เลยชวนคุยต่อ
“ไม่รู้สิ คงจะต้องตามใจเขา แต่ตอนนี้ชักหลงรักคนใกล้ตัวมากกว่า ชอบคนปากดี มือหนักๆ”
เจ้าดรีมมันโน้มหน้าเข้าไปใกล้ รวบตัวหทัยภัทร เข้ามากอดไว้ในซอกแขนอันอบอุ่น ยิ้มให้อย่างละมุนละไม สายตาลึกซึ้งและคารมของมันทำอีกฝ่ายหวั่นไหวอยู่บ้าง แต่แล้วก็รั้งใจกลับ กล่าวแก้ด้วยน้ำเสียงที่รู้ทันว่า
“ยอมรับนะว่าดรีมเองก็น่ารักบางครั้ง แต่ถ้าให้เป็นแฟนละก็ กวางคงต้องคิดแล้วคิดอีก คิดจนโดดน้ำตายเลยดีกว่า”
หันมาประสานตา พลางแลบลิ้นไส้เจ้าเพื่อนรักอย่างล้อๆ เหมือนเคย ก่อนจะดันอกเขาออกห่างตัว ฝ่ายเจ้าดรีมที่ถืออีโก้จัด กลัวเสียฟอร์มนักรัก เลยทำทีเป็นบ่ายเบี่ยงพูด
“แน่ะ! ยัยขี้ตู่ เค้าหมายถึงผู้หญิงคนอื่นต่างหาก ไม่มียัยหทัยภัทรรวมอยู่ในนั้น รับรองได้” มันพูดหน้าตาเฉย ทำให้หทัยภัทรนึกหมั้นไส้หนัก อยากจะซัดเจ้าคนปากแข็ง เข้าให้แรงๆ
“ย่ะ! พ่อหัวใจหลายเสี้ยว พ่อรถมือสอง กวางเองก็อยากได้คนโสดๆ ไม่เคยผ่านมือหญิงมาก่อนอ่ะนะ ฉะนั้นดรีมไม่อยู่ในสเปคของกวางแน่ ยิ่งเห็นยัยกิ่งทิพย์ทำท่าหวงก้างแฟนด้วยแล้ว ก็ยิ่งขนลุก อี๊ยส์! บอกตรงๆ กวางไม่อยากโดนตบ” หทัยภัทรทำท่าขนลุกเมื่อนึกถึงกิ่งทิพย์ !
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! (หน้ากากสิง) ตอน แมงเม่าที่กำลังบินเข้ากองไฟ
สถานที่บรรยายฉาก โรงเรียนทวีศิลป์ (ตั้งฮั้วหมิน)
คำโปรย : เป็นการเล่าถึงอดีตในวัยเรียนของดรีม ดรีมพบความแปรปรวนทางด้านจิตใจของตัวเองอย่างหนัก ซึ่งแม้แต่หทัยภัทรเองก็ตกใจ ว่าทำไมดรีมถึงเปลี่ยนไป ไม่เหมือนคนเดิมที่เธอเคยรู้จักเลย ทั้งความคิดและสภาพอารมณ์ของเขาที่โลเล ไม่มั่นคงเอาเสียเลย และทั้งคู่เอง แอบมีความรู้สึกที่ดีต่อกันอยู่ลึกๆ แต่ในใจของเขาและเธอ ก็ยังไม่มั่นใจว่า "มันใช่รักเกินเพื่อน" หรือเปล่า ความรู้สึกของทั้ง 2 ถูกเก็บงำ ซ่อนไว้ในใจ ในขณะที่ ดรีม อลงกต เริ่มแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัว หทัยภัทร มากขึ้นเรื่อยๆ ดรีมยังรักคุณมิ้นท์ แต่เธอเหมือนดอกฟ้า ที่เขาเอื้อมไม่ถึง จนหมดปัญญา ส่วนกิ่งทิพย์ ก็เริ่มรุกคืบความสัมพันธ์กับดรีมอย่างร้อนแรง เพราะเธอต้องการทำคะแนนนำหน้าคุณมิ้นท์ โดยจับเอาจุดอ่อนของดรีม ที่ไม่เคยได้สัมผัสและลิ้มรสในสตรีเพศ มาทำให้เขาหลงใหลในตัวเธอ ส่วนดรีมก็เริ่มหวั่นไหวไปกับความสวย คำหวาน เนื้อตัวหอมกรุ่น และ มารยาหญิง ที่กิ่งทิพย์กำลังหยิบยื่นให้เขาอย่างเต็มใจ!
ตัวละครเด่นในฉากนี้ - หทัยภัทร - ดรีม อลงกต - กิ่งทิพย์
“เอาเลย อยากเชียร์พี่ตัวเองก็ตามสบาย ไอ้เรามันก็แค่เด็กรุ่นน้อง จนก็จน คงผิดนักล่ะสิ หากจะไปจีบแข่งกับเขา !” เจ้าดรีมกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ ใจขุ่นเสียยิ่งกว่าน้ำในคลองหน้าแล้ง
“คนอย่างคุณมิ้นท์ ใครบ้างไม่อยากได้เป็นพี่สะใภ้ กวางก็คนหนึ่งที่อยากได้ อยากม้าก...มาก”
เหมือนจะยั่วยุให้อีกฝ่ายเคือง เจ้าดรีมกำหมัดแน่น แต่แล้วค่อยคลาย เมื่อคิดถึงฐานะแห่งตัว ในใจก็กลับท้อและฝ่อลงเสียเดี๋ยวนั้น ปลงตกว่า วาสนาของมันคงมีเท่านี้
“จะว่าไปคู่นี้เขาก็เหมาะสมกันดีนะว่าไหมกวาง” กระแสเสียงที่เศร้าแลน้อยใจของเจ้าดรีม ทำให้หทัยภัทรนึกสงสารขึ้นมา จึงตอบและเล่าไปตามจริง
“ถึงพี่อาร์ทจะเป็นพี่กวางก็จริงอยู่ และเขาก็ดีพอจะวัดกับดรีมได้สบายๆ เผลอๆ อาจดีกว่ามากด้วยซ้ำไป แต่เรื่องแบบนี้กวางไม่เข้าข้างพี่ตัวเองหรอกค่ะ ของแบบนี้มันขึ้นอยู่ที่ตัวผู้หญิง ถ้าผู้หญิงไม่สนใจ ไม่เล่นด้วยซะอย่าง ต่อให้ตื๊อแค่ไหนก็เท่านั้น”
“หมายความว่า คุณมิ้นท์ไม่ได้ชอบพี่อาร์ทแบบคู่รักเหรอ” เจ้าดรีมรีบถาม ฉีกยิ้มกว้าง ตาเป็นประกาย
“ไม่รู้สิ แต่กวางเห็นเขางั้นๆ ก็คงคิดกันแบบเพื่อนกระมัง พี่อาร์ทพยายามเอาใจคุณมิ้นท์ทุกทาง ซื้อดอกไม้ซื้อขนมให้ แต่อย่างมากคุณมิ้นท์ก็แค่ขอบใจ ยิ้มให้ หรือบางทีก็แทบจะไม่รับของที่พี่อาร์ทให้เลยด้วยซ้ำ เธอบอกว่าที่ทนรับไว้ เพราะความเกรงใจต่างหาก”
“แต่กับอีตาดรีม คุณมิ้นท์เขาถามกวางว่า คิดว่าดรีมเป็นคนนิสัยยังไง น่าคบหามั้ย?”
“แล้วกวางบอกคุณมิ้นท์ไปว่าไง” ้ เจ้าดรีมรีบคาดคั้นถาม หัวใจเต้นโครมคราม อยากฟังคำตอบที่มันฝันไว้
“ก็บอกไปแล้วว่าดรีมกะล่อน หลายใจ โลเลที่หนึ่ง” หทัยภัทรตอบเนือยๆ นึกถึงพฤติกรรมของเจ้าดรีมแล้วยิ่งระอาใจ
“โธ่เอ๋ย...หมดกัน ยัยกวาง ไม่ได้ลุ้นเลย” เจ้าดรีมตบเข่าตัวเองอย่างเจ็บใจ พลางส่ายหน้าปลงๆ
“ทำไงได้ กวางหมั้นไส้ความใจง่ายของดรีมนี่ ก็เลยพูดไปแบบนั้น แต่อย่าฝันเลย ตอนนี้คะแนนรักเธอหล่นฮวบมาอยู่อันดับท้ายๆ แถวแล้วละ เมื่อวาน กวางเห็นลูกชายอัยการหล่อมาก รวยมาก เท่ห์มาก เขานั่งรถมาด้วยกันกับคุณมิ้นท์และพ่อของเธอ คงจะไปเที่ยวที่ไหนกันสักแห่ง”
“หวังว่าคุณมิ้นท์คงไม่ชอบอีตาคนนั้นหรอกนะ หรือว่าพ่อเขาจะจับลูกสาวตัวเองคลุมถุงชนกับคนรวยๆ ด้วยกัน มีการตีตราจองตัวกันไว้ก่อนล่วงหน้า และเมื่อเรียนจบก็อาจจะหมั้นหมายหรือแต่งงานกันเลย ถ้าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นดีเห็นงามด้วย เท่าที่ดรีมรู้มา พวกคนรวยๆ เขามักทำกันแบบนี้แหละ สมบัติมรดกจะได้ไม่รั่วไหลไปไหน มีหรือเขาจะให้คนจนๆ อย่างเราไปชายตาแลลูกสาวเขา เพราะกลัวจะมาเกาะกินเสียมากกว่ากระมัง”
“ไม่รู้สิ ใจคุณมิ้นท์เดายากยิ่งกว่าไพ่เสียอีก แต่ตัวเธอเลิกฝันเสียเถอะ ดิ้นให้ตายยังไง ตอนนี้ยัยกิ่งคงไม่ยอมแน่ๆ”
“ทำไมการที่จะทำให้คนน่ารักอย่างคุณมิ้นท์มารักเรามันถึงยากนักนะ” ดรีมเอ่ยเศร้า
“จริงๆ มันก็อาจจะไม่ยากนะ ว่าแต่ตาดรีม มีดีพอที่จะได้หัวใจคุณมิ้นท์แล้วเหรอ ” หทัยภัทรย้อนกลับ
“จ๊ะ ข้อนั้นรู้ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่อย่าลืมว่าไอ้หมาวัดตัวนี้ มันก็มีหัวใจเหมือนกัน !” เขาประชด
“แน้...เดี๋ยวนี้หัดเรียกร้องสิทธิทางหัวใจเป็นแล้วเหรอตาดรีม แล้วถ้าเจอตัวคุณมิ้นท์ กวางจะบอกให้นะว่ามีคนคิดถึง”
“อืม...แล้วถ้ารู้ว่าคุณมิ้นท์อยู่ไหน มีกิจกรรมอะไร ก็อย่าลืมคาบข่าวมาให้ดรีมรู้บ้าง จะได้ตามไปเจอให้หายคิดถึง”
“เหรอยะ..เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าตอนนี้ หากคุณมิ้นท์จะทำอะไร ต้องบอกนายดรีมคนนี้ด้วย”
“เออน่า...รบกวนหน่อย สนิทกันไม่ใช่หรือ เดี๋ยวดรีมให้ค่านายหน้ากวางเอง ไม่ต้องห่วง”
ค่านายหน้าของเจ้าดรีม ก็คือ ขนมที่ป้ามันทำขาย กิ๊บติดผม โบว์ผูกผมบ้าง หรือกำไลข้อมือสวยๆ สุดแท้แต่มันจะหามาได้
“อีตาดรีม ฉันรู้นะว่า นายไปเอากิ๊บติดผมสีชมพูนั่นมาจากไหน จากยัยแว่นปากจัดใช่มั้ยล่ะ ไปแอบขโมยใต้โต๊ะเขามาอีกล่ะสิ”
“โธ่...ก็ยัยแว่นน่ะ ขี้งกจะตาย มีตั้งไม่รู้กี่อัน บางอันก็เก่าจวนจะทิ้งขยะได้อยู่แล้ว แต่ก็ยังหวง วันนั้นดรีมยืมปากกาแค่ด้ามเดียว ยังทวงซะครึ่งวัน เลยเจ็บใจแอบขโมยโบว์ผูกผมมาซะหน่อย เค้าหมั้นไส้น่ะตัว”
หทัยภัทรฟังแล้วอดหัวร่อออกมาไม่ได้ นึกขันในความทึ่มและซื่อของเจ้าดรีม เธอรู้ว่าเจ้าดรีมได้อัฐมากินขนมแค่เพียงวันละ 20 บาทเท่านั้น แล้วเขาจะเจียดเงินที่ไหนมาซื้อของฟุ่มเฟือยให้เธอ ถ้าไม่แอบจิ๊กเพื่อนคนอื่นมา
“ดรีม อย่าหัดเป็นคนขี้ขโมยนะ มันไม่ดี ถึงของจะเก่าก็จริง แต่เจ้าของเขาไม่อนุญาตนี่”
“ย่ะ! แม่คนดีศรีโรงเรียน พรุ่งนี้ดรีมจะรีบเอาไปคืนแต่เช้าเลย”
เจ้าดรีมกับยัยแว่น ฉายาจอมงกประจำห้อง เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่เรียน ม.4 โดยนิสัยเจ้าดรีม เป็นคนขี้เล้นทะเล้น ส่วนยัยแว่นเองก็เป็นคนไม่ยอมใคร พอโดนเจ้าดรีมแกล้งทีไร ไอ้คนที่แพ้ภัยตัวเอง โดนเขาหยิกเขาตบข่วนเอา ก็มักจะไม่พ้นเจ้าดรีมคนเก่งของเธอนั่นเอง แต่ดรีม อลงกต มีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่ในนิสัย มันไม่เคยสู้หรือตบตีกับเพื่อนนักเรียนหญิงคนไหนในห้องเลย เว้นแต่ว่าจะโดนเพื่อนนักเรียนชายด้วยกันรังแกเข้าก่อน เจ้าดรีมก็จะออกลีลาพะบู๊สิงร่างขึ้นมาเป็นครั้งคราวไป ฉายา “สิงโตหลังโบถส์” จึงได้มาด้วยประการฉะนี้
“ระวังยัยแว่น จะล้อว่าเธอเป็นตุ๊ดนะ เที่ยวไปขโมยโบว์เขามาให้กวางน่ะ”
“ก็ดี ล้อมากๆ จะได้จีบซะเลย ยัยแว่นเรียนเก่งจะตาย ดรีมจะจีบเอาไว้ลอกการบ้านกับไว้ลอกข้อสอบ”
ตั้งแต่สนิทเจ้ามี่ หทัยเริ่มรู้สึกว่าใจเจ้าดรีมมันชักกำเริบรัก กู่ไม่กลับ หูตาแพรวพราว เห็นใครเป็นจีบดะ ไม่เว้นแม้แต่ยัยแว่น คู่ปรับที่อ้วนเป็นตุ่ม ชั้นเชิงจีบสาวของไอ้มี่เหลี่ยมจัดนัก คงได้ถ่ายทอดเจ้าดรีมหมดแล้วทั้งสิ้น คอยดูเหอะ สบโอกาสวันไหน หทัยภัทรเจอ จะสวดให้ยาว ข้อหาทำเจ้าดรีมของเธอเสียคน....
“เอาเป็นว่า กวางเบื่อละ ของพวกนั้นอ่ะ ดรีมไม่ต้องลำบาก เราซื้อเองได้”
หทัยภัทรก้มหน้าท่องหนังสือต่อไป สังเกตว่าเจ้าดรีมเริ่มมีอาการแปลกๆ อีกครั้ง เขาจ้องหน้าเธอนิ่งนาน สาวน้อยพลันหลบหลีกสายตาไม่ให้พบกับเจ้าดรีม ด้วยกลัวใจตัวเองอยู่ด้วยเป็นหลัก
“งั้นๆ ดรีมให้ค่านายหน้ากวาง เป็นอย่างอื่นแทนได้ไหม เป็นแลกจูบสักครั้ง พอใจไหม” พูดตะกุกตะกักแต่มือไม้ดันไวกว่า คว้าแขนแม่เพื่อนรักคนดีขึ้นมาจับ มาลูบไล้ หทัยภัทรตัวสั่นเทิ้ม หน้าชาเป็นสีแดงระเรื่อ รู้สึกร้อนผะผ่าวตามเนื้อตัวเหมือนจะเป็นไข้ หรือเพราะเขาเป็นชาย เราเป็นหญิง เลยรู้สึกขนลุกซู่แปลกๆ แต่ทำไมกับเพื่อนชายคนอื่นอย่างเจ้าก้องก็จับมือเธอออกบ่อยเช่นกัน กลับไม่ใจเต้นรัวเท่าครั้งนี้
หทัยภัทรพยายามหาเหตุผลให้ดูน่าเชื่อ เธอยอมรับว่ากายภาพของเจ้าดรีมนั้นเปลี่ยนไปแล้วจริง จากเด็กตัวผอมโกร่ง ฟันหลอ หน้าเยินเป็นแผลเพราะชอบเล่นซนโลดโผน ที่เธอมักชอบล้อเขาบ่อยๆ ตอนประถมว่าเป็น “ไอ้หน้าแมวผี” แต่พอมันเริ่มโต ก็กลายเป็นหนุ่มรูปงาม ที่มีหน้าตางดงามคมสัน ท่าทีสง่าองอาจ เสียงเจ้ามีกังวานหวานหูน่าฟัง มีคมกวีอันจับใจไพเราะเป็นเลิศ คุณสมบัติเหล่านี้ ล้วนต้องตาต้องใจคนเป็นผู้หญิงทั้งสาวน้อยสาวใหญ่อยู่ใช่น้อยทีเดียวเชียว....
“ดรีมจ๋า... คือว่าเราก็โตๆ กันแล้วนะ เธอจะมาเล่นจับมือถือแขนเราเหมือนตอนเด็กได้ยังไง คนเห็นจะเข้าใจผิด” สาวน้อยพูดพลางแกะมือเขาออก แต่เจ้าดรีมไม่สนใจฟัง แกล้งพูดเฉไฉไปว่า
“ก็ช่างเขาประไร จะว่าไป กวางยิ่งโตก็ยิ่งสวยนะ ดูสิ แขนก็เรียว ผิวก็ดี ขาวกว่าดรีมอีก”
แต่ก่อนนั้น ใครๆ ก็ว่าหทัยภัทรสวยน่ารัก และต่างอิจฉาเจ้าดรีมที่ได้ชิดเชย แต่เจ้าดรีมก็ไม่เคยนึกไปในทางชื่นชม เพราะเห็นว่าเป็นของใกล้ตัว เจอหน้ากันแทบทุกวัน แต่นานวัน กลับพบว่าใจคอเริ่มหวั่นไหว ยิ่งโตเป็นสาว หทัยภัทรยิ่งสวยหวานล้ำเข้าตา มีเสน่ห์อยู่ในท่าทางที่แช่มช้อยอ่อนโยน และมีใจที่ปราณีต่อมันอย่างไม่มีใครเสมอเหมือน เจ้าดรีมก็เริ่มรู้สึกอบอุ่น จนแทบจะกลายเป็นโหยหาในบางคราว
ริมฝีปากรูปกลีบดอกไม้ที่สวยได้รูปน่าจุมพิต แม้ไม่แดงจัดและผิวไม่เป็นสีขาวไข่ปลอกขนาดคุณมิ้นท์ เพราะหทัยภัทรยังมีเชื้อไทยผสมอยู่มาก แต่คิ้วที่หรูอย่างหนึ่งไม่มีสอง และผิวงามผ่องค่อนไปทางเหลือง เป็นผิวสีน้ำผึ้งที่เนียนละเอียดอ่อนระเรื่อตาน่ามอง เส้นผมยาวดำสนิทตรงเป็นมันราวกับเส้นไหม ที่เจ้าดรีมเผลอไผลไปสัมผัสเข้าบางครั้งก็นุ่มมือน่าจับเสียจนไม่อยากปล่อย หุ่นสมส่วนบอบบางสะโอดสะองที่น่ากอดน่าถนอม จนถูกเพื่อนเลือกให้เป็นนางรำแถวหน้าของโรงเรียน ก็ไม่มีใครค้าน ทำให้เจ้าดรีมต้องหันกลับมาเพ่งเล็งเพื่อนสาวของมันคนนี้มากกว่าเก่า !
“แล้วถ้า....ต่อไป ดรีมกับกิ่ง นิสัยเข้ากันไม่ได้ล่ะ เลิกกัน ดรีมจะบาปไหม แล้วมาคบกับคนใกล้ๆ ตัวแทน”
เจ้าดรีมอึกอัก ในขณะที่ในใจกลับรู้สึกหวั่นไหวจนแทบจะกลายเป็นกระวนกระวาย ด้วยอากัปกริยาฉับพลัน เขาเผลอไผลตะปบกุมมือเธอไว้แน่น เหมือนจะสื่อให้รู้ว่าเขาหมายถึงเธอ หทัยภัทรเลยคืนสติให้ ด้วยการหยิกเข้าที่ต้นแขนเจ้าดรีมแรงๆ พอมันเจ็บจึงยอมปล่อย ร้องโอดโอย....นั่งมองเธอตาปริบๆ
“นี่อย่างไร คนใกล้ตัว อยู่ในใจที่นี่” เจ้าดรีมย้ำ เอามือตบอกข้างซ้ายตัวเอง“
“ใกล้ตัวเหรอ ไหนๆ ไม่เห็นมีสักคนเลยที่อยากคบกับตาดรีม” สาวน้อยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ บุ้ยปาก ชี้ไปที่จิ้งจกที่นอนนิ่งอยู่ข้างฝา
“นั่นไง จุ๊ๆ ไอ้เจ้าตัวนี้เอง ที่อยากเป็นแฟนกับตาดรีม” เจ้าดรีมทำหน้าแหย เมื่อเห็นเพื่อนสาวแกล้งหยิบซากจิ้งจกตายโยนใส่เขา
“เย้ย!..ผู้หญิงอะไรชอบเล่นกับจิ้งจก ไม่เอา อี๊ส์ ขยะแขยง”
“แล้วเธอจะทำอย่างไรกับแม่หวานใจของเธอต่อไปล่ะ” เมื่อเห็นดรีมเงียบไป เลยชวนคุยต่อ
“ไม่รู้สิ คงจะต้องตามใจเขา แต่ตอนนี้ชักหลงรักคนใกล้ตัวมากกว่า ชอบคนปากดี มือหนักๆ”
เจ้าดรีมมันโน้มหน้าเข้าไปใกล้ รวบตัวหทัยภัทร เข้ามากอดไว้ในซอกแขนอันอบอุ่น ยิ้มให้อย่างละมุนละไม สายตาลึกซึ้งและคารมของมันทำอีกฝ่ายหวั่นไหวอยู่บ้าง แต่แล้วก็รั้งใจกลับ กล่าวแก้ด้วยน้ำเสียงที่รู้ทันว่า
“ยอมรับนะว่าดรีมเองก็น่ารักบางครั้ง แต่ถ้าให้เป็นแฟนละก็ กวางคงต้องคิดแล้วคิดอีก คิดจนโดดน้ำตายเลยดีกว่า”
หันมาประสานตา พลางแลบลิ้นไส้เจ้าเพื่อนรักอย่างล้อๆ เหมือนเคย ก่อนจะดันอกเขาออกห่างตัว ฝ่ายเจ้าดรีมที่ถืออีโก้จัด กลัวเสียฟอร์มนักรัก เลยทำทีเป็นบ่ายเบี่ยงพูด
“แน่ะ! ยัยขี้ตู่ เค้าหมายถึงผู้หญิงคนอื่นต่างหาก ไม่มียัยหทัยภัทรรวมอยู่ในนั้น รับรองได้” มันพูดหน้าตาเฉย ทำให้หทัยภัทรนึกหมั้นไส้หนัก อยากจะซัดเจ้าคนปากแข็ง เข้าให้แรงๆ
“ย่ะ! พ่อหัวใจหลายเสี้ยว พ่อรถมือสอง กวางเองก็อยากได้คนโสดๆ ไม่เคยผ่านมือหญิงมาก่อนอ่ะนะ ฉะนั้นดรีมไม่อยู่ในสเปคของกวางแน่ ยิ่งเห็นยัยกิ่งทิพย์ทำท่าหวงก้างแฟนด้วยแล้ว ก็ยิ่งขนลุก อี๊ยส์! บอกตรงๆ กวางไม่อยากโดนตบ” หทัยภัทรทำท่าขนลุกเมื่อนึกถึงกิ่งทิพย์ !