มนุษย์อย่างพวกเราก็มีทั้งเชื่อใจบ้าง ไม่เชื่อใจบ้าง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของมนุษย์แต่ละประเภทด้วย ที่ทำให้มนุษย์เกลียดมนุษย์ด้วยกันเอง อย่างเช่น ปัญหาเรื่องสีผิว เผ่าพันธุ์ เรื่องพวกนี้ดูเหมือนก็ยังเป็นปัญหาสำหรับมนุษยชาติอยู่ แต่จะมีเหตุผลอะไรบ้าง ลองมาดู 10 อันดับกันดีกว่า
10.จิตวิญญาณ
เรื่องนี้จะอยู่ที่ประเด็นทางศาสนาเป็นหลัก ที่พวกเราเชื่อว่าจิตวิญญาณยังคงอยู่หลังจากที่เราหมดลมหายใจไปแล้ว และแน่นอนว่าจิตวิญญาณไม่เคยบุบสลาย เป็นอมตะ แต่ว่าจะมีใครพิสูจน์เรื่องพวกนี้ได้หรือเปล่านั้น ก็ยังไม่สามารถรู้ได้ จนทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาในที่สุด
9.ความสลับซับซ้อนในตัวมนุษย์
บางส่วนอาจจะคิดว่ามนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาโดยพระผู้เป็นเจ้า ก็เป็นความคิดดั้งเดิมจนถึงตอนนี้ แต่ยังไงก็ยังมีบางส่วนที่หลายคนอาจจะยังไม่เชื่อในพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งความสลับซับซ้อนนี้นำไปสู่ความชิงชังกับมนุษย์ด้วยกันเองในเวลาต่อมา และดูเหมือนจะมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
8.อัตถิภาวนิยม
เป็นปรัชญาที่เน้นไปในเรื่องปัจเจกตัวบุคคล ประสบการณ์ของแต่ละคน ทำให้เหตุผลของแต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป มีความคิดทัศนคติไม่ตรงกัน หมายความว่าตัวเราเป็นคนกำหนดความเชื่อ ความคิดด้วยตัวเอง แน่นอนว่าปรัชญานี้จะคิดนอกกรอบจากสังคมส่วนใหญ่ จนเกิดความขัดแย้งขึ้นมา
7.ความไม่เป็นมิตร
ธรรมชาติมนุษย์ก็ต้องมีการแบ่งพรรค แบ่งพวกบ้างเป็นธรรมดา พวกเราก็จะเริ่มรู้สึกแย้ง ไม่เห็นด้วยกับอีกฝ่ายหนึ่ง และหากเราไม่เห็นด้วยกับพรรคพวกตัวเองก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นพวกนอกคอกบ้างหรืออะไรบ้าง ซึ่งบุคคลที่เป็นสาธารณะจะรู้เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะต้องพบปะกับผู้คนหลายหน้า หลายตา
6.อิสรภาพ
อิสรภาพหลายคนก็มองว่าเป็นข้อดี แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นข้อดีสำหรับคนอื่นๆด้วย เพราะว่าอิสรภาพบางทีอาจจะไปทำลายความคิด ความเชื่อของอีกฝ่ายได้ และก็นำไปสู่ความขัดแย้งได้หลายรูปแบบด้วยกัน จะเห็นได้จากการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของเสรีภาพ ที่แม้ว่าอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนกับคำว่าอิสรภาพ แต่เพียงแค่เสรีภาพก็มีข้อโต้แย้งอีกมากมายนับไม่ถ้วน แล้วจะเอาอะไรกับอิสรภาพล่ะ
5.ความท้อแท้
ความท้อแท้ถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มนุษย์เกลียดมนุษย์ด้วยกันเอง พวกเขาไม่สามารถทำตามที่ตัวเองใฝ่ฝันเอาไว้ มนุษย์ย่อมมีการแข่งขันชิงดีชิงเด่นกัน ก็ต้องมีทั้งสมหวังและผิดหวังไป และก็เป็นตัวจุดชนวนความเกลียดชังมนุษย์ได้เป็นอย่างดี
4.ความเห็นแก่ตัว
นักปรัชญาอย่างอริสโตเติลก็เคยกล่าวไว้เหมือนกันว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีความเห็นแก่ตัว พวกเราแน่นอนว่าจะต้องมีพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัวบ้างเป็นธรรมดา ซึ่งความเห็นแก่ตัวก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สร้างความเสียหายให้กับมวลมนุษย์เป็นจำนวนมาก อย่างเช่น การก่อสงครามเพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับตัวเอง เป็นต้น
3.ความไม่ยุติธรรม
ใครก็ตามที่เป็นเหยื่อความไม่ยุติธรรม ก็จะทำให้พวกเขากลายเป็นกบฏต่อสังคมไป และจำนวนไม่น้อยที่ก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว ทัศนคติเปลี่ยนไป ความเชื่อต่างๆก็เปลี่ยนแปลงไปจนเกิดชนวนความขัดแย้งอย่างที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้
2.ความสับสนของแต่ละคน
หลายคนก็คงมีปัญหาเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ถือเป็นปัญหาทางด้านจิตวิทยาที่ทำให้ผู้คนมีพฤติกรรม บุคลิกภาพเปลี่ยนไป และความสับสนวุ่นวายของแต่ละคนนี้ มันก็จะลามไปสู่ความเกลียดชังมนุษย์กันเองในที่สุด
1.กลุ่มปัญญาชน
ผมคิดว่ากลุ่มปัญญาชนถือเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญในการสร้างความขัดแย้งให้กับมนุษย์กันเองมาก ที่พวกเขาเหล่านี้มักจะยึดอัตตาตัวเองในการวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้ทัศนคติ ความเชื่อของผู้คนเปลี่ยนไป สร้างความสับสนให้กับผู้คนจำนวนมาก และบางคนก็มักจะอ้างว่าตัวเองฉลาด มีสติปัญญาที่เหนือกว่าผู้คนทั่วๆไป และบางคนก็ชอบคิดว่าตัวเองดีเลิศประเสริฐศรี มองผู้คนส่วนใหญ่ว่าเห็นแก่ตัว โง่ โลภมากบ้าง การคิดแบบนี้ถือเป็นตัวจุดชนวนสร้างความเสียหายให้ทั้งมนุษย์และก็โลกใบนี้ด้วย
ผู้เขียน Mr.lawrence10
(เรื่องน่ารู้) 10 อันดับเหตุผลที่ทำให้พวกเราถึงเกลียดมนุษย์ด้วยกันเอง
เรื่องนี้จะอยู่ที่ประเด็นทางศาสนาเป็นหลัก ที่พวกเราเชื่อว่าจิตวิญญาณยังคงอยู่หลังจากที่เราหมดลมหายใจไปแล้ว และแน่นอนว่าจิตวิญญาณไม่เคยบุบสลาย เป็นอมตะ แต่ว่าจะมีใครพิสูจน์เรื่องพวกนี้ได้หรือเปล่านั้น ก็ยังไม่สามารถรู้ได้ จนทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาในที่สุด
บางส่วนอาจจะคิดว่ามนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาโดยพระผู้เป็นเจ้า ก็เป็นความคิดดั้งเดิมจนถึงตอนนี้ แต่ยังไงก็ยังมีบางส่วนที่หลายคนอาจจะยังไม่เชื่อในพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งความสลับซับซ้อนนี้นำไปสู่ความชิงชังกับมนุษย์ด้วยกันเองในเวลาต่อมา และดูเหมือนจะมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
เป็นปรัชญาที่เน้นไปในเรื่องปัจเจกตัวบุคคล ประสบการณ์ของแต่ละคน ทำให้เหตุผลของแต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป มีความคิดทัศนคติไม่ตรงกัน หมายความว่าตัวเราเป็นคนกำหนดความเชื่อ ความคิดด้วยตัวเอง แน่นอนว่าปรัชญานี้จะคิดนอกกรอบจากสังคมส่วนใหญ่ จนเกิดความขัดแย้งขึ้นมา
ธรรมชาติมนุษย์ก็ต้องมีการแบ่งพรรค แบ่งพวกบ้างเป็นธรรมดา พวกเราก็จะเริ่มรู้สึกแย้ง ไม่เห็นด้วยกับอีกฝ่ายหนึ่ง และหากเราไม่เห็นด้วยกับพรรคพวกตัวเองก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นพวกนอกคอกบ้างหรืออะไรบ้าง ซึ่งบุคคลที่เป็นสาธารณะจะรู้เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะต้องพบปะกับผู้คนหลายหน้า หลายตา
อิสรภาพหลายคนก็มองว่าเป็นข้อดี แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นข้อดีสำหรับคนอื่นๆด้วย เพราะว่าอิสรภาพบางทีอาจจะไปทำลายความคิด ความเชื่อของอีกฝ่ายได้ และก็นำไปสู่ความขัดแย้งได้หลายรูปแบบด้วยกัน จะเห็นได้จากการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของเสรีภาพ ที่แม้ว่าอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนกับคำว่าอิสรภาพ แต่เพียงแค่เสรีภาพก็มีข้อโต้แย้งอีกมากมายนับไม่ถ้วน แล้วจะเอาอะไรกับอิสรภาพล่ะ
ความท้อแท้ถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มนุษย์เกลียดมนุษย์ด้วยกันเอง พวกเขาไม่สามารถทำตามที่ตัวเองใฝ่ฝันเอาไว้ มนุษย์ย่อมมีการแข่งขันชิงดีชิงเด่นกัน ก็ต้องมีทั้งสมหวังและผิดหวังไป และก็เป็นตัวจุดชนวนความเกลียดชังมนุษย์ได้เป็นอย่างดี
นักปรัชญาอย่างอริสโตเติลก็เคยกล่าวไว้เหมือนกันว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีความเห็นแก่ตัว พวกเราแน่นอนว่าจะต้องมีพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัวบ้างเป็นธรรมดา ซึ่งความเห็นแก่ตัวก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สร้างความเสียหายให้กับมวลมนุษย์เป็นจำนวนมาก อย่างเช่น การก่อสงครามเพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับตัวเอง เป็นต้น
ใครก็ตามที่เป็นเหยื่อความไม่ยุติธรรม ก็จะทำให้พวกเขากลายเป็นกบฏต่อสังคมไป และจำนวนไม่น้อยที่ก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว ทัศนคติเปลี่ยนไป ความเชื่อต่างๆก็เปลี่ยนแปลงไปจนเกิดชนวนความขัดแย้งอย่างที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้
หลายคนก็คงมีปัญหาเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ถือเป็นปัญหาทางด้านจิตวิทยาที่ทำให้ผู้คนมีพฤติกรรม บุคลิกภาพเปลี่ยนไป และความสับสนวุ่นวายของแต่ละคนนี้ มันก็จะลามไปสู่ความเกลียดชังมนุษย์กันเองในที่สุด
ผมคิดว่ากลุ่มปัญญาชนถือเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญในการสร้างความขัดแย้งให้กับมนุษย์กันเองมาก ที่พวกเขาเหล่านี้มักจะยึดอัตตาตัวเองในการวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้ทัศนคติ ความเชื่อของผู้คนเปลี่ยนไป สร้างความสับสนให้กับผู้คนจำนวนมาก และบางคนก็มักจะอ้างว่าตัวเองฉลาด มีสติปัญญาที่เหนือกว่าผู้คนทั่วๆไป และบางคนก็ชอบคิดว่าตัวเองดีเลิศประเสริฐศรี มองผู้คนส่วนใหญ่ว่าเห็นแก่ตัว โง่ โลภมากบ้าง การคิดแบบนี้ถือเป็นตัวจุดชนวนสร้างความเสียหายให้ทั้งมนุษย์และก็โลกใบนี้ด้วย
ผู้เขียน Mr.lawrence10