เข้าใจว่า เคสของอิสลาม ของ Sam Morsy จะไม่สนับสนุน LGBTQ ก็ไม่โดนอะไร แต่เคสของมาร์ค เกฮี ที่เป็นคริสต์ ซึ่ง
คริสต์จริงๆ ก็ไม่สนับสนุน LGBTQ เช่นกัน แต่มาร์ค เกฮี ยินดีใส่ปลอกแขนสีรุ้งลงสนาม แค่เขียนว่า I love Jesus เท่านั้น ทำไมถึงโดนเอฟเอครับ
พ่อมาร์ค เกฮี ที่เป็นบาทหลวงก็บ่นเรื่องนี้เช่นกัน
พ่อของ มาร์ค เกฮี กองหลัง คริสตัล พาเลซ ออกมาวิจารณ์สมาคมฟุตบอล (เอฟเอ) หลังลูกชายของเขาถูกตำหนิเรื่องการเขียนคำว่า 'ผมรักพระเยซู' บนปลอกแขนกัปตันทีมสีรุ้งของเขา
เกฮี ถูกตำหนิอย่างเป็นทางการ หลังละเมิดกฎห้ามใช้คำขวัญ คำพูด หรือภาพทางการเมือง ศาสนา หรืออะไรส่วนบุคคล บนปลอกแขนของนักเตะเมื่อเล่นให้ คริสตัล พาเลซ
แต่พ่อของเขาซึ่งเป็นบาทหลวงของคริสตจักร โจมตีคืน เอฟเอ ว่าสองมาตรฐาน หลังนักเตะมุสลิมคนหนึ่งปฏิเสธที่จะสวมปลอกแขนแต่กลับไม่ถูกลงโทษ และอ้างว่าสมาคมฟุตบอลปฏิบัติตามความต้องการกลุ่ม LGBT ที่มีต่อชาวคริสเตียน
กองหลังวัย 24 ปี ถูกพบเห็นพร้อมกับสโลแกนที่เขียนด้วยลายมือระหว่างเกมที่เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในขณะที่ แซม มอร์ซี่ กัปตันทีม อิปสวิช ปฏิเสธที่จะสวมปลอกแขนแสดงความภาคภูมิใจเนื่องด้วยความเชื่อทางศาสนา แต่กลับรอดพ้นจากการถูกลงโทษ
ล่าสุด จอห์น ศิษยาภิบาลคริสตจักร ได้จุดชนวนความขัดแย้งนี้ขึ้นมาแล้ว
"ผมกำลังบอกว่าเขาทำให้ใครขุ่นเคืองเหรอ? ผมไม่คิดอย่างนั้น ผมเชื่อในสิ่งที่พระคัมภีร์กล่าวไว้ พระเยซูรักทุกคน และในความคิดของผม มาร์ค ไม่ได้ทำให้ใครขุ่นเคืองด้วยสิ่งที่เขาเขียน"
"พระเยซูรักทุกคน ดังนั้นเมื่อเขาบอกว่า 'ผมรักพระเยซู' บนปลอกแขนของเขา ผมจึงไม่เห็นว่าอะไรเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและอะไรคือปัญหา"
"หากคุณมองดูสิ่งที่กลุ่ม LGBT กำลังทำอยู่ พวกเขากำลังพยายามยัดเยียดความเชื่อของพวกเขาให้กับผู้อื่น มันคือความเชื่อที่ขัดแย้งกับความเชื่อ แต่ที่สุดแล้วทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น"
"แต่หากความคิดนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้คุณไม่พอใจ มันก็มีปัญหา แต่ถ้าความคิดเห็นของผมเป็นเพียงการแสดงสิ่งที่ผมรู้สึก ผมก็คิดว่าไม่เห็นเป็นไรเลย และผมไม่คิดว่าสิ่งที่ มาร์ค เขียนบนปลอกแขนนั้นน่ารังเกียจ"
"เขากำลังพูดถึงตัวเอง เขารักพระเยซู และเหมือนกับที่ผมพูดไป เขาไม่ได้ปฏิเสธที่จะสวมปลอกแขนนั้น เช่นเดียวกันกับ มอร์ซี่ ผู้คนควรให้ความสนใจกับบุคคลที่ปฏิเสธที่จะสวมปลอกแขนมากกว่าสิ"
"มาร์ค บอกว่า 'ได้' และทำสิ่งที่ถูกต้องด้วยการสวมมัน แต่ผู้คนกลับโจมตีเขาเพราะสิ่งที่เขาเขียน เขายอมสวมปลอกแขน เขาแค่พยายามรักษาสมดุลของข้อความ"
"เขาบอกว่า 'คุณให้ปลอกแขนผมมา ในฐานะชาวคริสเตียน ผมไม่เชื่อในเหตุผลของคุณ แต่ผมจะสวมมัน' แต่ มอร์ซี่ ไม่ได้สวมมันเพราะเขาบอกว่ามันขัดกับหลักศาสนาของเขา แต่ดูเหมือนว่าจะมีการพูดถึง มาร์ค มากกว่าเขา"
"เราหวั่นไหวมากในประเทศนี้ พระเจ้าอยู่ทุกหนทุกแห่งในประเทศนี้ และผมรู้ว่าสิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปเพราะความเชื่อที่แตกต่างกัน แต่ประเทศนี้ยังคงเป็นคริสเตียน ดังนั้นผมจึงไม่เห็นว่ามีอะไรที่น่ารังเกียจ"
"เขาเป็นคริสเตียนที่เคร่งศาสนา เป็นลูกชายของบาทหลวงในคริสตจักร และเขายอมสวมปลอกแขนเพื่อต้อนรับทุกคนในฟุตบอล แต่ปัญหาที่เรามีตอนนี้คือผู้เล่นถูกใช้เป็นกระบอกเสียง"
เคสของมาร์ค เกฮีที่เขียนว่า ผมรักพระเยซู ถึงโดนเอฟเอตักเตือน แต่ของ Sam Morsy ถึงรอดครับ กรณีไม่สวมปลอกแขนสีรุ้ง
พ่อมาร์ค เกฮี ที่เป็นบาทหลวงก็บ่นเรื่องนี้เช่นกัน
พ่อของ มาร์ค เกฮี กองหลัง คริสตัล พาเลซ ออกมาวิจารณ์สมาคมฟุตบอล (เอฟเอ) หลังลูกชายของเขาถูกตำหนิเรื่องการเขียนคำว่า 'ผมรักพระเยซู' บนปลอกแขนกัปตันทีมสีรุ้งของเขา
เกฮี ถูกตำหนิอย่างเป็นทางการ หลังละเมิดกฎห้ามใช้คำขวัญ คำพูด หรือภาพทางการเมือง ศาสนา หรืออะไรส่วนบุคคล บนปลอกแขนของนักเตะเมื่อเล่นให้ คริสตัล พาเลซ
แต่พ่อของเขาซึ่งเป็นบาทหลวงของคริสตจักร โจมตีคืน เอฟเอ ว่าสองมาตรฐาน หลังนักเตะมุสลิมคนหนึ่งปฏิเสธที่จะสวมปลอกแขนแต่กลับไม่ถูกลงโทษ และอ้างว่าสมาคมฟุตบอลปฏิบัติตามความต้องการกลุ่ม LGBT ที่มีต่อชาวคริสเตียน
กองหลังวัย 24 ปี ถูกพบเห็นพร้อมกับสโลแกนที่เขียนด้วยลายมือระหว่างเกมที่เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในขณะที่ แซม มอร์ซี่ กัปตันทีม อิปสวิช ปฏิเสธที่จะสวมปลอกแขนแสดงความภาคภูมิใจเนื่องด้วยความเชื่อทางศาสนา แต่กลับรอดพ้นจากการถูกลงโทษ
ล่าสุด จอห์น ศิษยาภิบาลคริสตจักร ได้จุดชนวนความขัดแย้งนี้ขึ้นมาแล้ว
"ผมกำลังบอกว่าเขาทำให้ใครขุ่นเคืองเหรอ? ผมไม่คิดอย่างนั้น ผมเชื่อในสิ่งที่พระคัมภีร์กล่าวไว้ พระเยซูรักทุกคน และในความคิดของผม มาร์ค ไม่ได้ทำให้ใครขุ่นเคืองด้วยสิ่งที่เขาเขียน"
"พระเยซูรักทุกคน ดังนั้นเมื่อเขาบอกว่า 'ผมรักพระเยซู' บนปลอกแขนของเขา ผมจึงไม่เห็นว่าอะไรเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและอะไรคือปัญหา"
"หากคุณมองดูสิ่งที่กลุ่ม LGBT กำลังทำอยู่ พวกเขากำลังพยายามยัดเยียดความเชื่อของพวกเขาให้กับผู้อื่น มันคือความเชื่อที่ขัดแย้งกับความเชื่อ แต่ที่สุดแล้วทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น"
"แต่หากความคิดนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้คุณไม่พอใจ มันก็มีปัญหา แต่ถ้าความคิดเห็นของผมเป็นเพียงการแสดงสิ่งที่ผมรู้สึก ผมก็คิดว่าไม่เห็นเป็นไรเลย และผมไม่คิดว่าสิ่งที่ มาร์ค เขียนบนปลอกแขนนั้นน่ารังเกียจ"
"เขากำลังพูดถึงตัวเอง เขารักพระเยซู และเหมือนกับที่ผมพูดไป เขาไม่ได้ปฏิเสธที่จะสวมปลอกแขนนั้น เช่นเดียวกันกับ มอร์ซี่ ผู้คนควรให้ความสนใจกับบุคคลที่ปฏิเสธที่จะสวมปลอกแขนมากกว่าสิ"
"มาร์ค บอกว่า 'ได้' และทำสิ่งที่ถูกต้องด้วยการสวมมัน แต่ผู้คนกลับโจมตีเขาเพราะสิ่งที่เขาเขียน เขายอมสวมปลอกแขน เขาแค่พยายามรักษาสมดุลของข้อความ"
"เขาบอกว่า 'คุณให้ปลอกแขนผมมา ในฐานะชาวคริสเตียน ผมไม่เชื่อในเหตุผลของคุณ แต่ผมจะสวมมัน' แต่ มอร์ซี่ ไม่ได้สวมมันเพราะเขาบอกว่ามันขัดกับหลักศาสนาของเขา แต่ดูเหมือนว่าจะมีการพูดถึง มาร์ค มากกว่าเขา"
"เราหวั่นไหวมากในประเทศนี้ พระเจ้าอยู่ทุกหนทุกแห่งในประเทศนี้ และผมรู้ว่าสิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปเพราะความเชื่อที่แตกต่างกัน แต่ประเทศนี้ยังคงเป็นคริสเตียน ดังนั้นผมจึงไม่เห็นว่ามีอะไรที่น่ารังเกียจ"
"เขาเป็นคริสเตียนที่เคร่งศาสนา เป็นลูกชายของบาทหลวงในคริสตจักร และเขายอมสวมปลอกแขนเพื่อต้อนรับทุกคนในฟุตบอล แต่ปัญหาที่เรามีตอนนี้คือผู้เล่นถูกใช้เป็นกระบอกเสียง"