[ท่านจ้าวสมุทรไดอารี่] นิทานเลอะเทอะที่กาลครั้งนึงไม่ไช่เรื่องเลอะเทอะ

สวัสดีครับ จริงๆวันนี้ไม่ได้โอกาสพิเศษอะไร
แต่วันนี้ ผมขอถอดหัวโขนลุคเกรียนๆ เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆคนนึง
เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่เคยผ่านพ้น เป็นประสบการณ์ชีวิตครั้งนึงที่เคยเกิดขึ้นของผม ผู้ชายธรรมดาๆคนนึง

ตามสไตล์ของผมอย่างที่เคยทำ ..
แต่จริงๆเรื่องมันจบไปแล้ว
แต่ก็เสียดาย อยากจะมารีรันใหม่



ลองเปิดเพลงนี้ฟังตอนอ่านไปด้วยสิครับ ^_^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


กาลครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณ หลายหมื่นแสนล้านวินาทีที่แล้ว..



ผมได้เจอกระทู้นึง ที่ขอความคิดเห็นเรื่องการขอเบอร์สาวในที่สาธารณะ ..
ผมเอง.. ก็เป็นคนที่มีแนวคิดชัดเจนกับเรื่องนี้ ผมก็เลยตัดสินใจเข้าไปอ่าน และแสดงความเห็นในกระทู้นั้นแหละ
ระหว่างนั้นก็เจอความเห็นที่หลากหลายย ให้บ้าง ไม่ให้บ้าง เหตุผลนานาร้อยแปดพันเก้า จนมาสะดุดอยู่กับความเห็นนึง..



ผมหยุดอ่าน และใช้สมาธิพยายามทำความเข้าใจ จึงได้เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเล็กน้อยย
ซึ่งเมื่อเสร็จกิจกำลังจะสโกรลเม้าส์ลงมาเพื่อไปอ่านความเห็นถัดไป..

ขาผมดันก้าวไม่ออกก..
เพราะสายตาได้เหลือบไปเห็นรูปของลอกอินที่ตอบคนนั้นน่ะแหละ
เธออ อ.ออ..
อ่อมม
เธอน่ารักงะ..





ตามประสาหมาโหยโฉดโสดหน้าม่อจึงเปิดเข้าไปดูในหน้าโปรไฟล์ของเธอออย่างไม่รอช้า ฟิ้วว
แล้วก็เป็นโชคดีของผม ที่เธอแปะเฟสบุ๊คของเธอเอาใว้ด้วย
ผมจึงไม่รอช้า..เข้าไปแอบส่องเล็กๆน้อยๆ
ก่อนที่จะตัดสินใจแอดแบบไม่ได้คิดอะไรมากมาย
โดยที่ฝากข้อความใว้ด้วยเล็กน้อย ว่ามาจากพันทิปแบบเป็นมารยาท



..เค้าคงจะรับอยู่หรอกกก ไอ้ตรูดด ไม่ได้รู้จักอะไรกันเล้ยย....







และเรื่องราวก็ได้เริ่มขึ้นจากตรงนี้...




วันรุ่งขึ้น....




ห๊ะะ เธอคนนั้นตั้งกระทู้แนะนำตัว !!
เชี่ยเอ๊ยย โอกาสเสนอหน้ามาเยือนแล้วว
จะช้าอยู่ทำไม ทหารไทยใจกล้า
ต้องรีบเข้าไปเสนอหน้าหน่อยและ ฮิฮิ



จากกระทู้นั้นผมจึงมีช่องทางที่สามารถเทำความรู้จักกับเธอได้อย่างไม่น่าเกลียด
ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดตัวที่น่าจดจำเลยทีเดียว ผมว่าผมทำได้ดีนะ
**หมายถึงในแง่ความเกรียนระเบิดอะนะ





จะยังไงก็ไม่รู้แหละ ผมถือว่าได้รู้จักสาวน่ารักๆคนนึงอย่างเป็นทางการละ
ผม..ก็ใช้ชีวิตบ้าบออะไรของผมไปเรื่อย...
จนวันนึง...


เธอคนนั้นก็รับแอดเฟสบุ๊ค...
...



คำแรกที่เธอพูดกับผมคือ.. ขอนลอยไช่มั้ยย.. ?

เชรดโด้ โอ้เดอะโค่ยเยฟ เธอจำผมได้ ..
อมยิ้ม02อมยิ้ม02อมยิ้ม02
ผมจึงตอบเธอว่า ช่ายยยย...



หลังจากนั้น มหกรรมการทำความรู้จักจึงได้เริ่มขึ้น
เธอคนนี้มองเห็นแว๊บแรกเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากๆคนนึงเลยแหละ แถมเธอยังเฟรนด์ลี่อีกตะหากก
ชายไทยขาเสี่ยวแบบผมไม่มีพลาดอยู่แล้นน...




จากนั้นผมจึงชอบเข้าไปทัก ไปกวนเธอบ่อยๆ
ชวนคุยบ้าง คุยแลกเปลี่ยนทัศนคติบ้าง
ดราม่าบ้าง ปรึกษากันบ้าง คอยปลอบเธอบ้าง
บ่นงอนอีคิมทันของเธอบ้าง 555+ โอยเยอะะ  
นู่นนี่นั่นบ้าง เล่นมุขบ้าง เสี่ยวบ้าง ขำบ้าง แป๊กบ้าง บ้าง บ้าง บ้างง
เพราะผมอยากให้เธอยิ้ม รู้มั้ยว่าทำไม ??




ก็เพราะเวลาเธอยิ้มอะ เธอน่ารักสุดๆไปเลย
//แต่ยิ้มจริงยิ้มไม่จริงผมไม่รู้หรอก แต่ที่รู้คือมักโดนเอือม 555+








จากที่คุยกันทุกวัน นานเข้า แล้วก็นานเข้า
เห็นโพสต์ของเธอในฟีดของเฟสบุ๊คบ้าง
หรือจากการตอบกระทู้ในพันทิปบ้าง
ได้รู้จักเธอเพิ่มมากขึ้นจากการคุยบ้าง

...
....



จนวันแล้ว วันเล่า ทุกๆคืนผ่านไป ด้วยการที่บอกฝันดีกับเธอ
และทุกๆเช้าลืมตาตื่น และเช็คโลกโซเชียล
คนที่แรกที่ผมมองหาในนิวส์ฟีดของเฟสบุ๊ค
กลายเป็นเธอตั้งแต่เมื่อใหร่ก็ไม่รู้
และโดยที่ผมไม่เคยรู้สึกตัวเลย...
ว่า...



เอิ่มม

จะบอกดีมั้ยนะ...





ตั้งแต่ที่ผมได้รู้จักกับเธอคนนี้ ผมได้รู้อะไรหลายๆอย่าง
เคยมีประโยคนึง ที่เธอเคยพูดใว้ และมันยังอยู่ในใจผมมาตลอด
คือ...
การที่เราชอบใครสักคน...ไม่ไช่ว่าสักแต่จะพยายามอย่างเดียว
เราเลือกที่จะ พยายามฝืนในสิ่งที่ไม่ไช่ จนเสียความเป็นตัวเองไป
หรือเลือก.. ที่จะใช้ความพยายามนั้น ทำตัวเองให้ดีกว่าเดิม..

ถึงแม้ว่าจริงๆแล้ว ไอ้ที่เรียกว่า ดีกว่าเดิม มันมีนิยามว่ายังไงก็เถอะ..




จริงๆที่ทำไปทั้งหมดนี้ มันไม่ได้มากมายอะไร
ไม่ว่าจะเป็นกระทู้นี้ หรืออะไรหลายๆอย่างที่ไม่ได้เอ่ยถึง
จะเรียกว่าทำเพื่อเธอ.. มันก็ไม่ไช่ซะทีเดียว
เหมือนเป็นการเติมเต็มความรู้สึกของเรามากกว่า
เราทำเพราะเราอยากทำ อยากให้เพราะอยากให้ ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านั้น...
เพราะงั้น เธอไม่ต้องรู้สึกอึดอัดหรืออะไรนะ ^_^


เส้นกันระหว่างเราที่มันมีอยู่ และความรู้สึกที่เรามี
หลายๆคำ หลายๆอย่าง เราไม่สามารถแสดงออกได้อย่างชัดเจน
มีหลายครั้งที่อยากจะพูด ว่าเป็นห่วง อยากจะพูด ว่าคิดถึง แต่มันก็ไม่เป็นไรหรอก




จริงๆแล้ว...
เราไม่ได้หวังที่จะให้เธอหันมามองทางนี้          มากกว่าที่เธอเคยทำ
ไม่ได้หวังที่จะให้ระยะห่างระหว่างเรามันสั้นลง           มากกว่าที่เราเคยยืน
ไม่ได้หวังที่จะให้เส้นกั้นที่ขีดใว้ระหว่างเรามันจางลง        มากกว่าที่มันเคยชัดเจน
และไม่ได้หวังที่จะให้อะไรๆต่อแต่นี้..มันต่างไปจากเดิม
เส้นกั้นนี้.. จริงๆ มันก็ไม่ได้แย่นักหรอกเนาะ ระยะขนาดนี้ มันก็สบายใจดีทั้งเธอ และก็ทั้งเรา . . .



สุดท้ายนี้ ขอโทษ ที่เก็บความรู้สึกนี้ใว้ฝ่ายเดียวตลอด
เราแค่อยากแน่ใจ ว่าความรู้สึกที่มีให้เธออันนี้ มันเป็นของจริงรึเปล่า
สมมติสักวันนึง หากเราได้เดินคู่ไปกับเธอ . .
การเป็นเพื่อนที่ดีกับเธอให้ได้เสียก่อนนั้น มันทำให้เรามั่นใจได้ว่า
ช่วงเวลาที่อยู่ข้างๆกัน มันไม่ไช่อะไรที่ฉาบฉวย
และเช่นกัน..ถ้าหากว่าเราไม่ได้ไปต่อ มิตรภาพของเราก็จะยังคงอยู่แบบนี้ต่อไป ^_^




เรื่องราว ก็ประมาณนี้ล่ะครับ...

สุดท้ายแล้วยังไง
ชีวิต..  มันก็ต้องเดินไปต่อข้างหน้า มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมเองก็ไม่รู้
ตอนนั้นก็มีความสุขดี และตอนนี้เองก็เช่นกันน
ซึ่งผมเอง ก็ได้เลือกที่จะเดินในเส้นทางใหม่ไปแล้ว
และเชื่อว่าถ้ายังไม่ย่ำเท้าอยู่กับที่ ชีวิตก็มีอะไรใหม่ๆเข้ามาเสมอ
สำหรับคนที่กำลังก้มหน้าคุกเข่า ลองเงยหน้าแล้วออกวิ่งดูสิครับ


^________________^
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่