สวัสดีครับ ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องความรักของผมเบื้องต้นก่อนนะครับ ผมอายุ ประมาณ30ปี ส่วนเธอ 26ปี
ผมคบกับเธอมาประมาณ3ปี โดยปกติเราจะอยู่ด้วยกันทุกวัน ทำงานที่เดียวกัน คนละแผนก ชีวิตความรักสำหรับผมก็มีความสุขมากครับ มีเรื่องไม่เข้ากันบ้าง ทะเลาะกันบ้างก็ปกติทั่วไป ทีนี้ผมถูกส่งไปทำงานต่างประเทศประมาณเดือน July 2024 และเธอก็ต้องไปทำงานอีกประเทศนึงในเดือน August 2024 เราก็มองกันว่า ก็ดีนะต่างคนต่างทำงานต่างประเทศจะได้ไม่ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งนั่งรออีกคน แต่ประเทศที่เราทั้งคู่ทำงานนั้น เวลาต่างกันประมาณ 14ชั่วโมง
ชีวิตการทำงานของผมในต่างประเทศ ก็ถือว่าหนักมาก อยู่คนเดียวแบบ 100% เครียดมาก กดดันมาก ส่วนเธอไปถูกส่งไปเป็นกลุ่ม มีเรียนภาษา เรียนงานต่างๆนาๆ ด้วยความที่เราอยู่ห่างกันมาก เวลาที่เราคุยกันก็น้อยลง ผมเช้าไปทำงาน เค้าก็กำลังจะเข้านอน กิจกรรมที่เราทำร่วมกันก็มีแค่ ส่งข้อความหากัน ถามถึงความเป็นอยู่ การใช้ชีวิต กินอะไร ทำอะไร แต่แล้วผมก็ได้สร้างสิ่งที่เป็นรอยร้าวเล็กๆ คือเวลาเค้าเครียด ผมก็บอกว่าผมเครียดกว่า เวลาเค้าเหนือย ผมจะบอกว่าผมก็เหนื่อยมากๆเช่นกัน กลายเป็นผมเริ่มไม่ได้มีพลังบวกให้กับเค้า แต่เค้ายังเป็นคนที่คอย support ผมได้อย่างดีเสมอ และจุดตัดสำคัญก็มาถึง ด้วยความที่เค้าอยู่กับเพื่อนๆ และวัฒณธรรม ของที่นั่นจะมีการกินเลี้ยง party บ่อยครั้ง และกลับดึกมาก ตี3 ตี4 บางที ซึ่งผมไม่ได้ติดอะไร แต่ผมขอแค่อย่างเดียวว่า ถ้าถึงบ้านบอกกันนะ เพราะห่วง ได้เกิดเหตุการณ์ที่เธอไม่ได้บอกผม ประมาณ 2-3 ครั้ง และเธอก็เสียใจ แต่ไม่สามารถรับปากเรื่องนี้กับผมได้ จนตัวผมเองพูดคำว่า "เซง" ออกมา หลังจากนั้น ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป
หลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เธอน่าจะพยายามคิดทบทวนสิ่งต่างๆในความสัมพันธ์ของเรา เธอก็อธิบายในสิ่งที่เธอคิดออกมา ซึ่งผมก็เริ่มฟูมฟาย แต่เธอก็ยังบอกว่ารักผมอยู่ ซึ่งตอนนั้นน่าจะประมาณปลายเดือน Nov แล้ว แต่พอมาต้นเดือน Dec ผมก็ไม่ได้รับคำว่ารักจากเธออีกเลย (ปกติผมจะบอกรักและคิดถึงเธอทุกวัน) ซึ่งเธอให้เหตุผลกับผมว่า เธอรู้สึกไม่เหมือนเดิม เธอสับสน ซึ่งผมก็คิดว่า ไม่แปลกหรอกเราอยู่ไกลกัน แต่ขอแค่เราอยากมีกันอยู่ ปัญหาแค่นี้เราแก้กันได้หน่ะ
อ่อ ผมลืมบอกไปอย่างนึง ตอนเราแยกย้ายกันไปอยู่ต่างประเทศ เราวางแผนว่าเราจะเที่ยวช่วง Christmas & New Year ด้วยกัน โดยผมจะบินไปหาเธอ ผมเลยอยากใช้โอกาสนี้ไปเจอเธอ เพื่อทำให้เธอมั่นใจว่าเรารักกันและไปต่อกันได้ *** แต่ในระหว่างต้นเดือน Dec ผมเหมือนคนอกหักไปแล้วครับ จากการที่เธอไม่บอกรัก บอกว่าไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิมอีกแล้ว ผมพยายาม list ข้อดี ข้อเสียของตัวเอง และวิธีแก้ไข วิธีจัดการต่างๆนาๆ ทำยังไงถึงจะรักกันได้แบบทางไกล ทำ diary เรื่องราวของเรา เพื่อให้ผมเองสามารถรู้สึกถึงความรักในอดีตเพื่อผ่านแต่ละวันไปได้ *** ผมคิดว่าพอผมบินไปเจอเธอผมอยากฟังคำตอบจากเธอ สิ่งที่ผมต้องการได้ยินจริงๆคือ เราจะจับมือแก้ปัญหานี้ไปด้วยกันแค่นั้นเอง
วันที่ผมเจอเธอก็มาถึง ผมบิน 16ชม เพื่อมาเจอ แต่เหมือนผมรู้คำตอบนั้นได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอกัน จากสายตา และรอยยิ้มของเธอ พอกอดดกันยิ่งชัดเจนยิ่งกว่าเดิม แต่ผมก็อยากทำในสิ่งที่ผมคิด ผมอยากทำให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่ทำได้ ผมไม่เคยรักเธอลดลงเลย ผมรักเหมือนที่ผมรักเธอวันแรก โดยคำตอบที่ผมได้จากเธอคือ "ไม่ได้รู้สึกรักเหมือนเดิมแล้ว ไม่ได้อยากจับมือกันไว้อีกแล้ว" สิ่งที่เธอมีให้ได้คือ ความหวังดี แบบเพื่อนคนนึง สำหรับผมเหมือนโลกนี้ทั้งใบได้พังลงไป สิ่งที่วาดฝันไว้ (ผมคิดว่าจะแต่งงานกับเธอในอีก 4ปี ซึ่งเธอมองว่าเร็วไป เธอยังไม่พร้อมและเป็นหนึ่งในสิ่งที่เธอพิจารณาในความสัมพันธ์นี้) ผมร้องไห้หนักมากในคืนนั้นตอนทีเธอหลับ ซึ่งตัวผมเองไม่เคยร้องไห้เลย ตั้งแต่ผมจำความได้ แต่ผมก็คิดได้ว่า ผมยังมีโอกาสเหลืออยู่ในระหว่างที่เที่ยวกับเธอ แต่เธอก็รักษาระยะห่าง แบบเพื่อนตลอด 1-2 วันต่อมาผมก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมากมากๆ เพราะเราก็ใช้ชีวิตเหมือนปกติเวลาอยู่ด้วยกัน กิน เที่ยว คุย และยิ่งเพิ่มความหวังให้ผมอีกเพราะเธอ tag ผมลง ig story (นี่คือครั้งที่ 2 ทีเธอ tag ผม) ปกติเราทั้งคู่ไม่ได้เล่น social เท่าไหร่ มันทำให้ผมคิดว่าทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น แต่แล้วผมก็ทำสิ่งที่พลาดที่สุดในความสัมพันธ์นี้ วันต่อมาผมขอ tag เธอบ้าง แต่เธอปฏิเสธ ผมก็โกรธ โมโห (ในใจผมคือ ทำไมความรักที่เรามีให้ มันดูไร้ค่า พอคิดแบบนี้ก็โมโหเป็นบ้าเลย) และคืนนั้น 31 Dec 2024 ผมก็ระเบิดอารมณ์ โดยใช้คำพูด หน้าตา น้ำเสียง ที่รุนแรง และประชดประชัน " ความรักของเราที่มีให้มันไร้ค่ามากเลยหรอ ถ้ามันจะเจ็บขนาดนี้เราหายไปเลยดีไหม" และคาดคั้นคำตอบจากเธออีกรอบ เธอกลัวผมมาก panic สุดถึงขั้นหวาดระแวง ผมใช้เวลาจากนั้นไม่กี่นาที และรับรู้ได้ว่า ทุกอย่างมันจบลงเเล้ว ผมได้ทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดลงไปแล้ว แม้แต่ผมก็ผิดหวังในตัวเองเช่นกัน
หลังจากนนั้นเราก็เที่ยวกันปกติ3-4วัน แบบเป็นเพื่อน และผมก็ขอร้องให้เธอพูดบอกเลิกผมออกมาและผมพร้อมที่จะยอมรับอย่างยินดี ผมมีสติ และสงบอารมณ์มากพอที่จะรับฟังคำนี้ สุดท้ายมันก็จบลงครับ
วันสุดท้ายที่เราอยู่ด้วยกันก่อนผมบินกลับ เราก็ได้คุยกัน คงเป็นครั้งสุดท้าย เพราะผมตั้งใจว่ากลับไปผมก็จะฮีลตัวเองและให้เกียรติการตัดสินใจเค้าด้วยการเลิกติดต่อเค้า ปกติเค้าเป็นคนไม่ค่อยสื่อสารครับ ครั้งนี้เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้รักแล้ว เค้าเลยพูดเพื่อให้ผมได้ลองคิดและปรับปรุงเพื่อเป็นคนที่ดีขึ้น
*ผมเชื่อว่ามนุษย์สามารถพัฒนา แต่เธอเชื่อว่านิสัยเปลี่ยนไม่ได้*
1. สิ่งที่เค้าไม่โอเคที่สุดเลยคืออารมณ์โมโหของผม มันทำร้ายเค้ามากๆ มากจนเค้าบอกว่าพ่อแม่เค้ายังไม่ทำให้เค้ารู้สึกแบบนี้มาก่อน ระหว่างคบกัน ผมไม่ได้โมโหบ่อย น่าจะไม่ถึง 5ครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่หนักเท่าเมื่อวันสิ้นปี และทุกครั้งที่ผมโมโห เค้ารู้สึกไม่ปลอดภัย
2. ต่อมาเรื่อง ผมไม่เป็นผู้รับฟังที่ดี ผมชอบมีความคิดของตัวเอง เสนอตลอด ครั้งนึง เธอเคยพูดผมว่า เครียดเรื่องงานจัง เป็นมีปัญหาแบบนั้นแบบนี้ ผมกลับพูดว่า ผมรับฟังนะ แต่ผมไม่เข้าข้าง ผมจะตอบตามเหตุและผล ซึ่งเธอก็เก็บไว้ในใจตลอด "ถ้าคนรักไม่สามารถ รับฟังปัญหา ให้กำลังใจ จะเป็นคู่ชีวิตกันได้ยังไง"
3. ผมไม่ค่อยช่วยในการตัดสินใจ เธอเป็นคนที่สุดยอดมากๆในการจัดแผน กิน เที่ยว ในชีวิตผม สถานที่เที่ยวและอาหารที่อร่อย 80% เธอเป็นคนพาผมไป เวลาเธอถาม ผมจะชอบตอบว่า เอาที่เธอว่าดี เธอจัดได้ดีที่สุดแล้ว แต่เธอก็จะไม่ได้โอเคเท่าไหร่ เพราะอยากให้ช่วยกัน มีส่วนร่วมกัน ไม่ใช่เธอแค่คนเดียว
4. ผมเป็นคนเวลาอยากรู้คำตอบ ผมจะชอบถาม ซอกแซก ถามในหลายๆมุมทั้งทางตรง ทางอ้อม ซึ่งเธอจะรู้สึกกดดัน และไม่สบายใจ
5. ผมเป็นคนไม่ค่อยเข้าอกเข้าใจผู้อื่น ผมจะเน้นเหตุและผล เลือกที่จะพูดตรงๆ มากกว่าการถนอมน้ำใจ ทั้งในการทำงานและเพื่อนๆ (ตอนนี้น่าจะเป็นประโยคฮิตใน social ว่ามันคือการไม่มีมารยาท)
ข้างบนก็จะเป็นสิ่งที่เธอบอกว่า มันสะสมมานานและทำให้เธอหมดรักผมลงนั่นเอง ซึ่งผมเอง ก็อยากรู้สิ่งที่เธอรักผมหรือข้อดีของผมบ้าง และเธอตอบได้ข้อเดียว คือ ผมดูแลเธอได้ดีมากๆ แค่นั้นครับ ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ แม้แต่ผมเองที่เป็นคนเล่า ผมก็เห็นด้วยกับสิ่งที่เธอตัดสินใจ และผมเองก็พร้อมจะปล่อยเธอไปเจอสิ่งที่ดีกว่า เจอชีวิตที่ดีกว่า มีความสุขมากกว่า
แต่ผมเองก็ไม่สามารถทนต่อความเห็นแก่ตัวของตัวเองได้ ผมเลยคิดว่า ผมจะใช้เวลานี้ปรับปรุงตัวเอง และถ้าวันนึงผมกลับไปอยู่ไทย (น่าจะอีก 1.5ปี) ผมจะขอโอกาสเรียนรู้เธอใหม่อีกครั้งนึง ผมแค่คิดว่าผมไม่ได้รับรู้ข้อมูลพวกนี้มาก่อนเลย พอรู้ก็คือมันจบไปแล้ว ผมอยากได้โอกาสสุดท้ายแค่นั้นเอง
ตอนคบกันมันคือ ความสุข อบอุ่น สบาย ผมเลยไม่อยากจะเสียมันไป เพื่อนๆพี่ๆ ว่า มันพอจะมีโอกาสเป็นไปได้ไหมครับ เพราะผมอ่านหนังสือ ฟัง podcast youtube ทุกกูรู แทบจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่น่าเป็นไปได้ "คนหมดใจ คือคนที่เค้าไม่ได้อะไรกับชีวิตเราอีกแล้ว"
ปล. ผมเป็นผู้ชายธรรมดาๆครับ ไม่มีปัญหาด้านการเงิน ไม่ได้มีปัญหานอกกายหรือใจ ไม่เคยใช้ความรุนแรง ไม่พูดคำหยาบกับเธอ ไม่ติดเหล้าหรือพนัน ผมไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ผมพูดได้ว่าความรักครั้งนี้ผมตั้งใจรักมาก แต่ก็ยังมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นอยู่ดี
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบ ผมอาการหนักมากเพราะอยู่คนเดียวที่ต่างประเทศ ด้วยสภาพแวดล้อมที่ผมอยู่มันไม่ค่อยเอื้อสำหรับการฮีลใจเท่าไหร่ แต่ผมมั่นใจว่าผมสามารถผ่านไปได้ ขอบคุณทุกความคิดเห็นมันสามารถทำให้ผมไปต่อได้ ผมเชื่อแบบนั้นครับ
ถูกบอกเลิก เพราะเธอหมดรัก แต่ผมอยากได้โอกาสอีกสักครั้ง
ผมคบกับเธอมาประมาณ3ปี โดยปกติเราจะอยู่ด้วยกันทุกวัน ทำงานที่เดียวกัน คนละแผนก ชีวิตความรักสำหรับผมก็มีความสุขมากครับ มีเรื่องไม่เข้ากันบ้าง ทะเลาะกันบ้างก็ปกติทั่วไป ทีนี้ผมถูกส่งไปทำงานต่างประเทศประมาณเดือน July 2024 และเธอก็ต้องไปทำงานอีกประเทศนึงในเดือน August 2024 เราก็มองกันว่า ก็ดีนะต่างคนต่างทำงานต่างประเทศจะได้ไม่ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งนั่งรออีกคน แต่ประเทศที่เราทั้งคู่ทำงานนั้น เวลาต่างกันประมาณ 14ชั่วโมง
ชีวิตการทำงานของผมในต่างประเทศ ก็ถือว่าหนักมาก อยู่คนเดียวแบบ 100% เครียดมาก กดดันมาก ส่วนเธอไปถูกส่งไปเป็นกลุ่ม มีเรียนภาษา เรียนงานต่างๆนาๆ ด้วยความที่เราอยู่ห่างกันมาก เวลาที่เราคุยกันก็น้อยลง ผมเช้าไปทำงาน เค้าก็กำลังจะเข้านอน กิจกรรมที่เราทำร่วมกันก็มีแค่ ส่งข้อความหากัน ถามถึงความเป็นอยู่ การใช้ชีวิต กินอะไร ทำอะไร แต่แล้วผมก็ได้สร้างสิ่งที่เป็นรอยร้าวเล็กๆ คือเวลาเค้าเครียด ผมก็บอกว่าผมเครียดกว่า เวลาเค้าเหนือย ผมจะบอกว่าผมก็เหนื่อยมากๆเช่นกัน กลายเป็นผมเริ่มไม่ได้มีพลังบวกให้กับเค้า แต่เค้ายังเป็นคนที่คอย support ผมได้อย่างดีเสมอ และจุดตัดสำคัญก็มาถึง ด้วยความที่เค้าอยู่กับเพื่อนๆ และวัฒณธรรม ของที่นั่นจะมีการกินเลี้ยง party บ่อยครั้ง และกลับดึกมาก ตี3 ตี4 บางที ซึ่งผมไม่ได้ติดอะไร แต่ผมขอแค่อย่างเดียวว่า ถ้าถึงบ้านบอกกันนะ เพราะห่วง ได้เกิดเหตุการณ์ที่เธอไม่ได้บอกผม ประมาณ 2-3 ครั้ง และเธอก็เสียใจ แต่ไม่สามารถรับปากเรื่องนี้กับผมได้ จนตัวผมเองพูดคำว่า "เซง" ออกมา หลังจากนั้น ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป
หลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เธอน่าจะพยายามคิดทบทวนสิ่งต่างๆในความสัมพันธ์ของเรา เธอก็อธิบายในสิ่งที่เธอคิดออกมา ซึ่งผมก็เริ่มฟูมฟาย แต่เธอก็ยังบอกว่ารักผมอยู่ ซึ่งตอนนั้นน่าจะประมาณปลายเดือน Nov แล้ว แต่พอมาต้นเดือน Dec ผมก็ไม่ได้รับคำว่ารักจากเธออีกเลย (ปกติผมจะบอกรักและคิดถึงเธอทุกวัน) ซึ่งเธอให้เหตุผลกับผมว่า เธอรู้สึกไม่เหมือนเดิม เธอสับสน ซึ่งผมก็คิดว่า ไม่แปลกหรอกเราอยู่ไกลกัน แต่ขอแค่เราอยากมีกันอยู่ ปัญหาแค่นี้เราแก้กันได้หน่ะ
อ่อ ผมลืมบอกไปอย่างนึง ตอนเราแยกย้ายกันไปอยู่ต่างประเทศ เราวางแผนว่าเราจะเที่ยวช่วง Christmas & New Year ด้วยกัน โดยผมจะบินไปหาเธอ ผมเลยอยากใช้โอกาสนี้ไปเจอเธอ เพื่อทำให้เธอมั่นใจว่าเรารักกันและไปต่อกันได้ *** แต่ในระหว่างต้นเดือน Dec ผมเหมือนคนอกหักไปแล้วครับ จากการที่เธอไม่บอกรัก บอกว่าไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิมอีกแล้ว ผมพยายาม list ข้อดี ข้อเสียของตัวเอง และวิธีแก้ไข วิธีจัดการต่างๆนาๆ ทำยังไงถึงจะรักกันได้แบบทางไกล ทำ diary เรื่องราวของเรา เพื่อให้ผมเองสามารถรู้สึกถึงความรักในอดีตเพื่อผ่านแต่ละวันไปได้ *** ผมคิดว่าพอผมบินไปเจอเธอผมอยากฟังคำตอบจากเธอ สิ่งที่ผมต้องการได้ยินจริงๆคือ เราจะจับมือแก้ปัญหานี้ไปด้วยกันแค่นั้นเอง
วันที่ผมเจอเธอก็มาถึง ผมบิน 16ชม เพื่อมาเจอ แต่เหมือนผมรู้คำตอบนั้นได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอกัน จากสายตา และรอยยิ้มของเธอ พอกอดดกันยิ่งชัดเจนยิ่งกว่าเดิม แต่ผมก็อยากทำในสิ่งที่ผมคิด ผมอยากทำให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่ทำได้ ผมไม่เคยรักเธอลดลงเลย ผมรักเหมือนที่ผมรักเธอวันแรก โดยคำตอบที่ผมได้จากเธอคือ "ไม่ได้รู้สึกรักเหมือนเดิมแล้ว ไม่ได้อยากจับมือกันไว้อีกแล้ว" สิ่งที่เธอมีให้ได้คือ ความหวังดี แบบเพื่อนคนนึง สำหรับผมเหมือนโลกนี้ทั้งใบได้พังลงไป สิ่งที่วาดฝันไว้ (ผมคิดว่าจะแต่งงานกับเธอในอีก 4ปี ซึ่งเธอมองว่าเร็วไป เธอยังไม่พร้อมและเป็นหนึ่งในสิ่งที่เธอพิจารณาในความสัมพันธ์นี้) ผมร้องไห้หนักมากในคืนนั้นตอนทีเธอหลับ ซึ่งตัวผมเองไม่เคยร้องไห้เลย ตั้งแต่ผมจำความได้ แต่ผมก็คิดได้ว่า ผมยังมีโอกาสเหลืออยู่ในระหว่างที่เที่ยวกับเธอ แต่เธอก็รักษาระยะห่าง แบบเพื่อนตลอด 1-2 วันต่อมาผมก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมากมากๆ เพราะเราก็ใช้ชีวิตเหมือนปกติเวลาอยู่ด้วยกัน กิน เที่ยว คุย และยิ่งเพิ่มความหวังให้ผมอีกเพราะเธอ tag ผมลง ig story (นี่คือครั้งที่ 2 ทีเธอ tag ผม) ปกติเราทั้งคู่ไม่ได้เล่น social เท่าไหร่ มันทำให้ผมคิดว่าทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น แต่แล้วผมก็ทำสิ่งที่พลาดที่สุดในความสัมพันธ์นี้ วันต่อมาผมขอ tag เธอบ้าง แต่เธอปฏิเสธ ผมก็โกรธ โมโห (ในใจผมคือ ทำไมความรักที่เรามีให้ มันดูไร้ค่า พอคิดแบบนี้ก็โมโหเป็นบ้าเลย) และคืนนั้น 31 Dec 2024 ผมก็ระเบิดอารมณ์ โดยใช้คำพูด หน้าตา น้ำเสียง ที่รุนแรง และประชดประชัน " ความรักของเราที่มีให้มันไร้ค่ามากเลยหรอ ถ้ามันจะเจ็บขนาดนี้เราหายไปเลยดีไหม" และคาดคั้นคำตอบจากเธออีกรอบ เธอกลัวผมมาก panic สุดถึงขั้นหวาดระแวง ผมใช้เวลาจากนั้นไม่กี่นาที และรับรู้ได้ว่า ทุกอย่างมันจบลงเเล้ว ผมได้ทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดลงไปแล้ว แม้แต่ผมก็ผิดหวังในตัวเองเช่นกัน
หลังจากนนั้นเราก็เที่ยวกันปกติ3-4วัน แบบเป็นเพื่อน และผมก็ขอร้องให้เธอพูดบอกเลิกผมออกมาและผมพร้อมที่จะยอมรับอย่างยินดี ผมมีสติ และสงบอารมณ์มากพอที่จะรับฟังคำนี้ สุดท้ายมันก็จบลงครับ
วันสุดท้ายที่เราอยู่ด้วยกันก่อนผมบินกลับ เราก็ได้คุยกัน คงเป็นครั้งสุดท้าย เพราะผมตั้งใจว่ากลับไปผมก็จะฮีลตัวเองและให้เกียรติการตัดสินใจเค้าด้วยการเลิกติดต่อเค้า ปกติเค้าเป็นคนไม่ค่อยสื่อสารครับ ครั้งนี้เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้รักแล้ว เค้าเลยพูดเพื่อให้ผมได้ลองคิดและปรับปรุงเพื่อเป็นคนที่ดีขึ้น
*ผมเชื่อว่ามนุษย์สามารถพัฒนา แต่เธอเชื่อว่านิสัยเปลี่ยนไม่ได้*
1. สิ่งที่เค้าไม่โอเคที่สุดเลยคืออารมณ์โมโหของผม มันทำร้ายเค้ามากๆ มากจนเค้าบอกว่าพ่อแม่เค้ายังไม่ทำให้เค้ารู้สึกแบบนี้มาก่อน ระหว่างคบกัน ผมไม่ได้โมโหบ่อย น่าจะไม่ถึง 5ครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่หนักเท่าเมื่อวันสิ้นปี และทุกครั้งที่ผมโมโห เค้ารู้สึกไม่ปลอดภัย
2. ต่อมาเรื่อง ผมไม่เป็นผู้รับฟังที่ดี ผมชอบมีความคิดของตัวเอง เสนอตลอด ครั้งนึง เธอเคยพูดผมว่า เครียดเรื่องงานจัง เป็นมีปัญหาแบบนั้นแบบนี้ ผมกลับพูดว่า ผมรับฟังนะ แต่ผมไม่เข้าข้าง ผมจะตอบตามเหตุและผล ซึ่งเธอก็เก็บไว้ในใจตลอด "ถ้าคนรักไม่สามารถ รับฟังปัญหา ให้กำลังใจ จะเป็นคู่ชีวิตกันได้ยังไง"
3. ผมไม่ค่อยช่วยในการตัดสินใจ เธอเป็นคนที่สุดยอดมากๆในการจัดแผน กิน เที่ยว ในชีวิตผม สถานที่เที่ยวและอาหารที่อร่อย 80% เธอเป็นคนพาผมไป เวลาเธอถาม ผมจะชอบตอบว่า เอาที่เธอว่าดี เธอจัดได้ดีที่สุดแล้ว แต่เธอก็จะไม่ได้โอเคเท่าไหร่ เพราะอยากให้ช่วยกัน มีส่วนร่วมกัน ไม่ใช่เธอแค่คนเดียว
4. ผมเป็นคนเวลาอยากรู้คำตอบ ผมจะชอบถาม ซอกแซก ถามในหลายๆมุมทั้งทางตรง ทางอ้อม ซึ่งเธอจะรู้สึกกดดัน และไม่สบายใจ
5. ผมเป็นคนไม่ค่อยเข้าอกเข้าใจผู้อื่น ผมจะเน้นเหตุและผล เลือกที่จะพูดตรงๆ มากกว่าการถนอมน้ำใจ ทั้งในการทำงานและเพื่อนๆ (ตอนนี้น่าจะเป็นประโยคฮิตใน social ว่ามันคือการไม่มีมารยาท)
ข้างบนก็จะเป็นสิ่งที่เธอบอกว่า มันสะสมมานานและทำให้เธอหมดรักผมลงนั่นเอง ซึ่งผมเอง ก็อยากรู้สิ่งที่เธอรักผมหรือข้อดีของผมบ้าง และเธอตอบได้ข้อเดียว คือ ผมดูแลเธอได้ดีมากๆ แค่นั้นครับ ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ แม้แต่ผมเองที่เป็นคนเล่า ผมก็เห็นด้วยกับสิ่งที่เธอตัดสินใจ และผมเองก็พร้อมจะปล่อยเธอไปเจอสิ่งที่ดีกว่า เจอชีวิตที่ดีกว่า มีความสุขมากกว่า
แต่ผมเองก็ไม่สามารถทนต่อความเห็นแก่ตัวของตัวเองได้ ผมเลยคิดว่า ผมจะใช้เวลานี้ปรับปรุงตัวเอง และถ้าวันนึงผมกลับไปอยู่ไทย (น่าจะอีก 1.5ปี) ผมจะขอโอกาสเรียนรู้เธอใหม่อีกครั้งนึง ผมแค่คิดว่าผมไม่ได้รับรู้ข้อมูลพวกนี้มาก่อนเลย พอรู้ก็คือมันจบไปแล้ว ผมอยากได้โอกาสสุดท้ายแค่นั้นเอง
ตอนคบกันมันคือ ความสุข อบอุ่น สบาย ผมเลยไม่อยากจะเสียมันไป เพื่อนๆพี่ๆ ว่า มันพอจะมีโอกาสเป็นไปได้ไหมครับ เพราะผมอ่านหนังสือ ฟัง podcast youtube ทุกกูรู แทบจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่น่าเป็นไปได้ "คนหมดใจ คือคนที่เค้าไม่ได้อะไรกับชีวิตเราอีกแล้ว"
ปล. ผมเป็นผู้ชายธรรมดาๆครับ ไม่มีปัญหาด้านการเงิน ไม่ได้มีปัญหานอกกายหรือใจ ไม่เคยใช้ความรุนแรง ไม่พูดคำหยาบกับเธอ ไม่ติดเหล้าหรือพนัน ผมไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ผมพูดได้ว่าความรักครั้งนี้ผมตั้งใจรักมาก แต่ก็ยังมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นอยู่ดี
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบ ผมอาการหนักมากเพราะอยู่คนเดียวที่ต่างประเทศ ด้วยสภาพแวดล้อมที่ผมอยู่มันไม่ค่อยเอื้อสำหรับการฮีลใจเท่าไหร่ แต่ผมมั่นใจว่าผมสามารถผ่านไปได้ ขอบคุณทุกความคิดเห็นมันสามารถทำให้ผมไปต่อได้ ผมเชื่อแบบนั้นครับ