สวัสดีคะ เพื่อนๆชาวพันทิป
เราเป็นสาวประเภทสองค่ะ อายุ15 สิวเยอะมาก โดยเฉพาะสิวอุดตัน สิวอักเสบ
ไปหาคุณหมอมา คุณหมอแนะนำให้กินยาแอคโนติน --- ซึ่งยาแอคโนตินเนี่ย น่าจะมีข้อมูลประมาณนี้ค่ะ
กลไกการออกฤทธิ์ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ Isotretinoin จะลดการหลั่งไขมัน (Sebum) ดังนั้นขนาดและการทำงานของต่อมไขมันจึงลดลง ปริมาณ sebum จะลดลงเพียงใดขึ้นอยู่ากับระยะเวลาในการใช้ยา
การรับประทานยา Acnotin ร่วมกับอาหารจะเพิ่มปริมาณยาในกระแสเลือดได้มากกว่าเมื่อรับประทานยาตอนท้องว่าง เนื่องจากคุณสมบัติของ Isotretinoin มีคุณสมบัติในการละลายได้ดีในไขมัน จึงถูกดูดซึมได้ดีเมื่อทานพร้อมอาหาร
ข้อห้ามใช้
1. ห้ามใช้ Acnotin ในผู้ป่วยโรคตับ, โรคไต, ผู้ได้รับวิตามินเอมากเกินไป, ผู้ป่วยที่มีระดับไขมันในเลือดมากเกินไป
2. ห้ามบริจาคโลหิตให้แก่สตรีที่มีแนวโน้มว่าจะตั้งครรภ์ ในระหว่างที่รักษาด้วย Acnotin หรือภายใน 1 เดือน นบจากวันที่หยุดใช้ยา
3. ในสตรีมีครรภ์หรือคาวว่าจะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
คำเตือน
1. ห้ามใช้ยานี้ในหญิงมีครรภ์เพราะมีรายงานว่าทำให้ทารกพิการได้
2. ยานี้อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการซึมเศร้า จิตผิดปกติ
3. ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคตับ โรคไต ผู้ที่มีระดับบไขมันในเลือดสูง
4. ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่แพ้หรือไวต่อยานี้
5. ควรใช้ยา acnotin นี้ภายใต้การดูแลรักษาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังอย่างใก้ลชิด
ขนาดของยาที่รับประทาน
มักเริ่มที่ วันละ 0.5 มก./ก.ก. หรือ ประมาณ 10 มก.ต่อวัน ( โดยยาที่มีจำหน่ายทั่วไป มี 2 ขนาด คือ แคบซูล 10 มก. และ 20 มก.) และอาจจะเพิ่มขนาดยาจนถึง วันละ 1 มก./ก.ก. ถ้าอาการไม่ดีขึ้น และรับประทานต่อเนื่องจนมีขนาดยาสะสม คือ 120 มก.ต่อก.ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ปี แต่ส่วนใหญ่มักใช้ในรายที่มีสิวรุนแรง และอักเสบมาก กรณีที่เป็นไม่มาก แพทย์มักให้รับประทานระยะเวลาสั้นๆ 3-6 เดือน แล้วหยุดยา ถ้ามีอาการขึ้นมาใหม่ถึงให้รับประทานยาต่อ และฤทธิ์ยาจะสะสมต่อเนื่อง
โดยทั่วไป 90% อาการสิวมักจะหายไปหลังการรักษา 3-6 เดือน และถ้ารับประทานต่อเนื่องจนมีขนาดยาสะสม คือ 120 มก.ต่อก.ก พบว่า 80% ของผู้ป่วยจะหายขาดไม่เป็นใหม่
ผลข้างเคียงและข้อห้ามใช้ยา มีดังต่อไปนี้
ผลข้างเคียงและข้อห้ามใช้ยา มีดังต่อไปนี้
- ริมฝีปากแห้ง คอแห้ง
- จมูกและตาแห้ง
- ผิวหน้าแห้งตึง
- สิวอาจเห่อได้ เมื่อรับประทานยาใน 1-4 สัปดาห์แรก- ห้ามใช้ยาในหญิงมีครรภ์ เนื่องจากทำให้ทารกในครรภ์พิการได้ ดังนั้นในสตรีวัยเจริญพันธ์ที่รับประทานยา แนะนำให้ คุมกำเนิดร่วมด้วย และจะต้อง-หยุดยาอย่างน้อย 1 เดือนก่อน จึงจะตั้งครรภ์ได้
- ไม่แนะนำให้บริจาคเลือดขณะรับประทานยา กลุ่ม Retinoids
- มีอาการซึมเศร้าได้ หลังหยุดยาทันที แต่อัตราการเกิดน้อย ถ้าอยู่ในความดูแลของแพทย์
- รับประทานยาเกิน 6 เดือน ควรตรวจเลือด และร่างกายเกี่ยวกับการทำงานของตับ ระดับไขมันในเลือด เพราะอาจจะทำให้ระดับ SGOT,SGPT และ Triglyceride สูงขึ้นจากปกติ
- ถ้าการทำงานของตับไม่ผิดปกติการกิน Acnotin ในปริมาณต่ำๆ (20-30 mg/สัปดาห์) สามารถทำใด้ในระยะยาว
ใครเคยกินยาแอคโนตินช่วยตอบด้วยค่ะ -- ว่าต้องกินยังไง เพราะเราต้องสั่งซื้อทางเน็ตเอาค่ะ ขายตามร้านเภสัชจะขายเป็นแพ็คให้เรา แล้วราคามันสูงมาก เลยต้องซื้อเป็นแผงแบบในเน็ตค่ะ
สิวจะหายไหมคะ แล้วต้องกินยังไงให้สิวลดคะ ขอบคุณค่ะ
ยาแอคโนติน
เราเป็นสาวประเภทสองค่ะ อายุ15 สิวเยอะมาก โดยเฉพาะสิวอุดตัน สิวอักเสบ
ไปหาคุณหมอมา คุณหมอแนะนำให้กินยาแอคโนติน --- ซึ่งยาแอคโนตินเนี่ย น่าจะมีข้อมูลประมาณนี้ค่ะ
กลไกการออกฤทธิ์ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ Isotretinoin จะลดการหลั่งไขมัน (Sebum) ดังนั้นขนาดและการทำงานของต่อมไขมันจึงลดลง ปริมาณ sebum จะลดลงเพียงใดขึ้นอยู่ากับระยะเวลาในการใช้ยา
การรับประทานยา Acnotin ร่วมกับอาหารจะเพิ่มปริมาณยาในกระแสเลือดได้มากกว่าเมื่อรับประทานยาตอนท้องว่าง เนื่องจากคุณสมบัติของ Isotretinoin มีคุณสมบัติในการละลายได้ดีในไขมัน จึงถูกดูดซึมได้ดีเมื่อทานพร้อมอาหาร
ข้อห้ามใช้
1. ห้ามใช้ Acnotin ในผู้ป่วยโรคตับ, โรคไต, ผู้ได้รับวิตามินเอมากเกินไป, ผู้ป่วยที่มีระดับไขมันในเลือดมากเกินไป
2. ห้ามบริจาคโลหิตให้แก่สตรีที่มีแนวโน้มว่าจะตั้งครรภ์ ในระหว่างที่รักษาด้วย Acnotin หรือภายใน 1 เดือน นบจากวันที่หยุดใช้ยา
3. ในสตรีมีครรภ์หรือคาวว่าจะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
คำเตือน
1. ห้ามใช้ยานี้ในหญิงมีครรภ์เพราะมีรายงานว่าทำให้ทารกพิการได้
2. ยานี้อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการซึมเศร้า จิตผิดปกติ
3. ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคตับ โรคไต ผู้ที่มีระดับบไขมันในเลือดสูง
4. ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่แพ้หรือไวต่อยานี้
5. ควรใช้ยา acnotin นี้ภายใต้การดูแลรักษาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังอย่างใก้ลชิด
ขนาดของยาที่รับประทาน
มักเริ่มที่ วันละ 0.5 มก./ก.ก. หรือ ประมาณ 10 มก.ต่อวัน ( โดยยาที่มีจำหน่ายทั่วไป มี 2 ขนาด คือ แคบซูล 10 มก. และ 20 มก.) และอาจจะเพิ่มขนาดยาจนถึง วันละ 1 มก./ก.ก. ถ้าอาการไม่ดีขึ้น และรับประทานต่อเนื่องจนมีขนาดยาสะสม คือ 120 มก.ต่อก.ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ปี แต่ส่วนใหญ่มักใช้ในรายที่มีสิวรุนแรง และอักเสบมาก กรณีที่เป็นไม่มาก แพทย์มักให้รับประทานระยะเวลาสั้นๆ 3-6 เดือน แล้วหยุดยา ถ้ามีอาการขึ้นมาใหม่ถึงให้รับประทานยาต่อ และฤทธิ์ยาจะสะสมต่อเนื่อง
โดยทั่วไป 90% อาการสิวมักจะหายไปหลังการรักษา 3-6 เดือน และถ้ารับประทานต่อเนื่องจนมีขนาดยาสะสม คือ 120 มก.ต่อก.ก พบว่า 80% ของผู้ป่วยจะหายขาดไม่เป็นใหม่
ผลข้างเคียงและข้อห้ามใช้ยา มีดังต่อไปนี้
ผลข้างเคียงและข้อห้ามใช้ยา มีดังต่อไปนี้
- ริมฝีปากแห้ง คอแห้ง
- จมูกและตาแห้ง
- ผิวหน้าแห้งตึง
- สิวอาจเห่อได้ เมื่อรับประทานยาใน 1-4 สัปดาห์แรก- ห้ามใช้ยาในหญิงมีครรภ์ เนื่องจากทำให้ทารกในครรภ์พิการได้ ดังนั้นในสตรีวัยเจริญพันธ์ที่รับประทานยา แนะนำให้ คุมกำเนิดร่วมด้วย และจะต้อง-หยุดยาอย่างน้อย 1 เดือนก่อน จึงจะตั้งครรภ์ได้
- ไม่แนะนำให้บริจาคเลือดขณะรับประทานยา กลุ่ม Retinoids
- มีอาการซึมเศร้าได้ หลังหยุดยาทันที แต่อัตราการเกิดน้อย ถ้าอยู่ในความดูแลของแพทย์
- รับประทานยาเกิน 6 เดือน ควรตรวจเลือด และร่างกายเกี่ยวกับการทำงานของตับ ระดับไขมันในเลือด เพราะอาจจะทำให้ระดับ SGOT,SGPT และ Triglyceride สูงขึ้นจากปกติ
- ถ้าการทำงานของตับไม่ผิดปกติการกิน Acnotin ในปริมาณต่ำๆ (20-30 mg/สัปดาห์) สามารถทำใด้ในระยะยาว
ใครเคยกินยาแอคโนตินช่วยตอบด้วยค่ะ -- ว่าต้องกินยังไง เพราะเราต้องสั่งซื้อทางเน็ตเอาค่ะ ขายตามร้านเภสัชจะขายเป็นแพ็คให้เรา แล้วราคามันสูงมาก เลยต้องซื้อเป็นแผงแบบในเน็ตค่ะ
สิวจะหายไหมคะ แล้วต้องกินยังไงให้สิวลดคะ ขอบคุณค่ะ