เนื่องจากยาตัวนี้ แม้จะได้ผลดีจริงในหลาย ๆ คน
แต่มันก็มีผลข้างเคียงที่พึงระวังด้วย
ส่วนใหญ่เราจะรู้ว่ามันทำให้ ผิวแห้ง ปากแห้ง ตาแห้ง
(เราเคยแห้งจนคอนแทคเลนส์ใส่แทบไม่อยู่เลย) ไม่ดีต่อตับ และไม่ดีต่อสตรีมีครรภ์
แต่ยังมีอาการข้างเคียงอีกแบบหนึ่ง ที่เราเพิ่งรู้ และเพิ่งเคยเป็น
เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ฝากไว้ด้วยนะคะ



ภาพประกอบจาก: http://bit.ly/18OBg4Z

. . . . . . . . . .

เราเริ่มกิน โรแอคคิวเทน มาเมื่อต้นปีนี้เองค่ะ
หลังจากผ่านฤดูงานแต่งงานเมื่อปลายปี
จากปกติที่เราไม่ค่อยแต่งหน้า ไปให้ช่างแต่งหน้าแต่งให้หลายงานเข้า
สิวก็ผุดพรายแบบหมอบอกว่า สิวอุดตันคุณขึ้นเป็นคอนโดเลย
หมอก็เลยเริ่มแนะนำให้เราทาน "โรแอคคิวเทน"

เราเคยทานแล้วแหละค่ะ เมื่อสักสิบกว่าปีที่แล้ว
แต่เดี๋ยวนี้ห่วงสุขภาพ ก็เลยบอกหมอตรง ๆ ว่า ห่วงตับอ่ะค่ะหมอ
หมอยืนยันว่าอยู่ในการดูแลของแพทย์
และที่ให้กินก็ Dose ต่ำ ก็เลยว่า อ่ะ หมอว่าโอเค ก็โอเค

ผ่านไปราว ๑ เดือน กลับไปให้หมอดูอีกที
หมอบอก อืม ยังไม่ดี... ให้เพิ่ม Dose จากเดิมวันละเม็ด
เป็นสลับกัน ๑ เม็ด - ๒ เม็ด - ๑ เม็ด - ๒ เม็ด ทุกวัน
ก็ยังห่วงว่าจะเยอะไปไหม หมอก็ยืนยันว่า Dose แค่นี้ไม่ต้องห่วง


ก็พอดีช่วงนั้นงานหนัก โปรเจคท์กำลังจะขึ้น คิดว่าคงเครียด
มันจะปวดหัว แบบปวดหัวตึ้บ ๆ เพื่อนก็คอยมาถามอาการ แล้วถามว่า
"ในหัวมันเหมือนมีแรงดันแบบว่าเหมือนหัวมันจะระเบิดออกมาได้เลยใช่มั้ย" - "ใช่!!"
เพื่อนบอกนั่นแหละ "ไมเกรน..." เขาเคยเป็นมาก่อน (ห๊าา นี่ชั้นเป็นไมเกรนเหรอเนี่ย?!)
เขาบอก มันไม่มีทางรักษาหรอกนะ ต้องอย่าเครียด แล้วพักผ่อนเยอะ ๆ -- โอว... Y_Y

ช่วงนั้น เริ่มมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ แบบอ๊อกแห้ง ๆ บ่อย ๆ เป็นทุกวัน
ยิ่งตกเย็น ยิ่งกลางคืน นอนคลื่นไส้ น้ำตาเล็ด ทรมานมาก
บางวันลางานเช้า บางวันลาบ่าย บางวันมาทำงานก็นอนห้องพยาบาล
บางทีเราคิดว่าเราอาจใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์กับไอโฟนมากเกินไปหรือเปล่า
รู้แต่มันปวดหัว คลื่นไส้ โอย... นี่เราเครียดจนเป็นไมเกรนเข้าแล้วจริง ๆ เหรอเนี่ย



note: แปลกจริง ๆ นะคะ มันดั๊นน... ไปตรงกับช่วงที่ดาวพฤหัสย้ายใหญ่พอดี ^^'
มีน้องที่ศึกษาเรื่องพวกนี้บอกไว้ก่อนแล้วว่า พอดาวย้าย เราจะมีปัญหาสุขภาพ
เกี่ยวกับสมอง ในแบบที่หาสาเหตุไม่ได้ (เข้าเรือนมรณะ คือ ทึม ๆ แบบไม่รู้สาเหตุ)
พอเป็นงี้ขึ้นมา เราแบบ ฮึ้ยย... มันเรื่องจริงเหรอเนี่ย เพราะเราก็หาสาเหตุไม่ได้จริง ๆ

แต่เดชะบุญ... บังเอิญมาเจอรุ่นน้องที่เป็นหมอที่รู้จักกัน
ก็เล่าสู่กันฟังว่าช่วงนี้เป็นไมเกรนล่ะ
เขาคงจำได้ว่าเราเคยว่าเรากินโรแอคคิวเทน
ฟังปั๊บ เขาก็ทักเลยว่า "แต่พี่กินโรฯ นี่คะ"

"หือ... ปวดหัวเนี่ยนะ?! กินโร มันเกี่ยวกับปวดหัวด้วยเหรอ??"
(ก็เคยกินเมื่อสักสิบปีที่แล้ว ก็มีแค่ผิวแห้ง ตาแห้งนี่นา ไม่เห็นเป็นไร)

"ก็จากอาการที่พี่เล่ามา ก็น่าจะใช่เลยอ่ะค่ะ"

กลับมารีบไปค้น ๆ ๆ กูเกิ้ล เปิดดู มันใช่จริง ๆ ด้วย!
อ่านเจอทั้งคำว่า "ปวดหัว คลื่นไส้ แบบไมเกรน"
และคำว่า "แรงดันในสมองสูงขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ" -- อันนี้น่ากลัว
แต่ในหัวมันมีแรงดันแบบเหมือนหัวจะระเบิดได้จริง ๆ นะคะ +_+



บทความบอกว่าอาการ "แรงดันในสมองสูงขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ"
จะเกิดขึ้นได้ถ้ากินร่วมกับยา tetracycline ซึ่งเราไม่ได้กินร่วมด้วยเลยค่ะ
อาจจะมีบ้างก็ยาหอมไทย เพราะเราคิดว่ามันคงช่วยเรื่องปวดหัวคลื่นไส้ของเรา

น้องหมอบอกว่า "แล้วพี่เลิกกินโรฯ หรือยังคะ
บางคนเลิกไปเดือนนึงเลยนะคะ กว่าอาการจะหาย"

เลิกแล้วค่ะ... Y_Y
หลังจากหยุดยาไปสักราว ๆ สองอาทิตย์กว่า ๆ
อาการเดิม ๆ ก็ค่อยหาย จนเป็นปลิดทิ้ง และไม่เป็นอีกเลย
พอ ๆ กันกับประมาณที่หน้าเราก็เริ่มกลับมามันเหมือนเดิมด้วย
ยิ่งทำให้แน่ใจว่า อาการมาจากโรแอคคิวเทนแน่นอน

รู้ว่าเวลาที่กินยาและอยู่ในการดูแลของแพทย์
พอผิดปกติ เราก็ควรกลับไปหาแพทย์ เพื่อให้ปรับยาให้
ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกค่ะว่า เราไปทานอะไร ให้ผิดสำแดงขึ้นมาหรือเปล่า
แต่เราเลือกที่จะไม่กลับไปปรึกษาหาหมออีกเลย
เพราะเราไม่คิดจะกินยานี้อีกแล้ว เด็ดขาดเลยล่ะค่ะ

แต่เมื่อสักสิบปีที่แล้ว ที่เคยกินโรฯ ก็ไม่เป็นไรนะคะ
แค่หน้าแห้ง ปากแห้ง ตาแห้ง แต่สิวหายเกลี้ยง ใสกิ๊ง ๆ จำได้แต่ว่ามันเวิร์คสุด ๆ
แต่นานปีนานไป เหตุมี สิวมันก็กลับมาได้อีกอยู่ดี
และก็ไม่การันตีเลยว่า กลับมากินยาแบบเดิม แล้วเราจะไม่เกิดอาการข้างเคียงอะไร

ตอนนี้ที่บ้านยังเหลืออยู่เป็นแผงหลายเม็ดเลย
ยังคิดว่าจะเอาไปให้คนอื่นที่ทานอยู่ฟรี ๆ ไป จะได้ไม่ต้องไปซื้อ
แต่คิดอีกที ไม่เอาดีกว่า เราไม่รู้ว่าคนรับไปจะได้ผลยังไง เรายังแทบแย่ ไม่เสี่ยงดีกว่า

. . . . . . . . . .

เลยอยากเขียนแชร์ฝากไว้ สำหรับคนที่กำลังทานยาชนิดนี้นะคะ
มีคนที่ได้ผลดีจริงจากมันอยู่จริง แต่มันก็มีโทษจากผลข้างเคียงของมันด้วย

ท่านใดที่ทานอยู่ แนะนำหาข้อมูล ศึกษาข้อดีข้อเสีย ผลข้างเคียงไว้หน่อย
แล้วต้องคอยหมั่นสังเกตอาการตัวเองนะคะ จะได้รู้ว่ามันผิดปกติหรือเปล่า
(ตอนแรกเราไม่รู้ว่านี่คืออาการข้างเคียงของมัน เกือบแย่เลยค่ะ
คิดว่าตัวเองเป็นไมเกรนไปเสียแล้ว ถ้ากินต่อไปเรื่อย ๆ คงแย่แน่ ๆ)
และอย่างไรก็ควรปรึกษาแพทย์ใกล้ชิดด้วยนะคะ