เล่ห์แสงจันทร์
ดวงเด่นลอยกระจ่างฟ้า......เนตรนภาลอยเกลื่อนดิน.....
“เหม่อมองฟ้าอีกแล้วนะยัยเนตร” เนตรนภา หลุบตากลับมามองคนข้างหน้า หญิงสาว ผอมบาง แววตาเหม่อลอย อดทำให้ โสภิต หญิงกลางคน ทอดถอนหายใจไม่ได้ เมื่อไม่นานมานี้ หญิงสาว เคยสดใสร่าเริง แค่เวลา ครึ่งปี แต่เหมือนผ่านมาเป็น สิบปีแล้ว
“ยัยเนตร” สาววัย 22 นักศึกษาหมาดๆ จากรั้วมหาวิทยาลัย เหงยหน้าขึ้นมามอง ผ่านหน้าจอคอม
“ว่างัยยัยแจ่ม.....ตะโกนมาแต่ไกลเลย” ยัยแจ่ม หรือ แจ่มลักษณ์ เพื่อนสนิทผู้แก่นกะโหลก แต่น้อยกว่า เนตรนภาอีกหลายขุม
“แกรู้ยัง เราจะมีงานเลี้ยงรุ่นนะโว้ย”
“เมื่อไหร่อ่ะแก” ...ว่าแต่เพิ่งจบไม่นาน มีงานเลี้ยงรุ่น ตื่นเต้นตรงไหน หญิงสาวได้แต่ฉงนอยู่ในใจ
“ภูชี้ฟ้า”
ภูชี้ฟ้า......รัฐปัจฉิม ชื่ออย่างคุ้น เหมือนเพิ่งผ่านตามาเมื่อเช้าเลย ว่าแล้ว เธอเลยเริ่มเปิดดูเวปไซด์ต่อ ใช่จริงๆด้วย “แจ่ม แกได้อ่านข่าวหรือเปล่า ช่วงนี้แถวนั้น อย่างฮึมๆ แว่วมาว่า กองกำลังกู้ชาติ มีฐานลับ ติดชายแดนบ้านเรา”
“บ๊อง อ่ะแก เราไปเดินภูชี้ฟ้า ที่เที่ยวนะแก ไม่ได้ไปเดินป่า จะหลงไปไหนได้ ขอร้องเถอะ นิยาย อ่านเพลาๆหน่อย”
“ก็ได้ๆ ชั้นก็เผลอจินตนาการมากไปหน่อย เออ แล้วแกเอางัย ตกลงไปกันใช่ปล่าว แล้วไปกันเยอะไหม”
“ก็หมดทั้งรุ่นแหละ สรุปไปนะแก ชั้นจะได้ คอนเฟิร์ม” เธอก็ได้แต่พยักหน้า จบบทสนทนากันไป
บทที่ 1
“แกอ่ะ เหม่ออีกแล้ว ตั้งแต่เข้าป่ามา เหม่อตลอดเลย ชาติก่อนเคยอยู่แถวนี้เหรอจ๊ะ เพื่อนเนตร” ยัยแจ่มจอมยุ่ง โวยวายอีกแล้ว......เนี่ยชั้นก็อายเป็นนะ ดวงตากลมใส ผลุบกลับมามองเพื่อนสาวอีกครั้ง หญิงสาวได้แต่แอบคิดในใจ ช่างสังเกตจริงๆเพื่อนเรา
หญิงสาวมองไปรอบ ป่าก็เป็นป่า เดินมาหลายชั่วโมง ทัศนียภาพ ก็ยังคงดูเหมือนเดิม เนี่ยเราหลงทางหรือเปล่านะ....งานเลี้ยงรุ่น ท่ามกลางแสงจันทร์ แต่เนี่ย น่าจะเป็นท่ามกลางแสงแดดแผดเผา เนตรนภา ก็เนตรนภาเหอะ งานนี้มีเกรียมแน่นอน
“ชั้นว่า เราเหมือนหลงทางกันเลยนะ” อดเอ่ยปากเบาไม่ได้
“แก พูดเหมือนไม่เชื่อใจกันเลย ......เราเคยมาสำรวจ ทางนี้แน่ไม่หลงหรอก”…. ต้น ชายหนุ่มหุ่นโปร่งบาง แต่ทว่า แข็งแกร่ง ผู้ เป็นทั้งประธานรุ่น เป็นตัวตั้งตัวตี กับทริปนี้ ที่สำคัญ ชายหนุ่มตรงหน้าก็เคยทำให้เนตรนภาหวั่นไหวมาแล้วในอดีต ต้องบอกว่าอดีต เพราะหลังจากเจอชายหนุ่ม ควงสาวหน้าตาดี มาเดินที่มหาวิทยาลัย เนตรนภาได้แต่บอกกับตัวเองในใจว่า ที่เขาดีด้วย เพราะเป็นเพื่อนกัน
มล มลทิรา สาวสวยประจำรุ่น แถมยังเป็นเพื่อนสนิทในก๊วนเดียวกันกับเนตรนภา โวยวายขึ้น “แก ทำไม ขึ้นภู ไม่ขับรถมา...จะมาเดินป่าให้เมื่อยทำไม”
“อ้าวแก กระชับความสัมพันธ์ เรายังวัยหนุ่มสาวกันอยู่” ....ประทิน หนุ่มขี้เล่น นัยน์ตาโศก รองประธานรุ่น ที่แสนจะปากไว แต่เพื่อนๆทุกคนก็เข้าใจกันดีอยู่
“เอาเหอะ ไหนๆก็เดินมาได้เป็นวันๆแล้ว ว่าแต่อีกไกล ปล่าวต้น”....จักรินทร์ ริน ผู้ชายแสนดี ที่มักได้รับแต่บทพระรองตลอด ตัดบท
“อืมจริง โวยวายไป ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา แกดูอย่างแก้งค์ สาวสวยไฮโซ แบบพวกชั้นสิ ยังไม่บ่น” ......แก้งค์สาวสวย ที่เราจะไม่เอ่ยถึงก็คงไม่ได้ จ๋า ทานสรร์ สาวสวย ผมยาว ชาติกำเนิดดี แอ๊ด วีรพันธ์ ตลกประจำกลุ่ม ไม่ใช่นางไม่สวยนะ นางสวยและไฮโซ แถมตลกด้วย ผิว ผ่องพรรณ ขาว สวยสมชื่อเลย จิ๋ว จริญญา สาวจิ๋ว ผู้มีแววตากลมโต เป็นเนืองนิจ
ก็จริงของยัยจ๋านะ ......แม้พวกเราจะมีกลุ่มมีแก้งค์กันในรุ่น แต่พวกเราก็รักกันมาก ไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ ฐานะกัน เป็นสิ่งที่ดี ของรุ่นเรา .........เนตรนภาอดคิดในใจว่า เราไม่ควรมาทะเลาะกันในเรื่องที่เราตกลงกันมาแล้ว......กว่าจะรวมรุ่นได้ทั้ง 30 คน ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
ความเงียบกระจายอยู่กลางวงได้เพียงวูบเดียวก่อนที่จะมีเสียงหนึ่งเอ่ยทำลายความเงียบ
“หิวข้าว”แป๋วแหวว ผู้หญิงเรียบร้อยประจำรุ่น เปรียบเสมือนแม่ชีผู้สูงศักดิ์ของพวกเรา.....เอ่ยเบาๆ
“งั้นเราพักกันเถอะต้น ทุกคนก็ล้ามาพอควรแล้ว อย่างมาก เราก็นอนกลางป่าล่ะกันเนอะ” จบคำพูดของชิว ชีวา เรียกเสียงฮือฮา ทั้งโวย ทั้งชม ไม่อยากนอนกลางป่า .....55555
“เราว่า ถ้าเราเดิน 3 วันแล้วยังไม่ถึง เรากลับกรุงเทพกันนะ”...โป๊ก “มะเหงกเนะแก เดิน 3 วัน ใครจะบ้าเดินต่อ” น้ำ ธารทิพย์ นักเรียนดีเด่น สี่ปีซ้อน อดเขกหัว เพื่อนไป หนึ่งที ไม่ได้...... “เจ็บนะแก เขกมาเต็มแรง เค คเนศ อดบ่นไม่ได้ พร้อมกับลูบหัว ปอยๆ พูดๆก็พูดไปงั้น แต่อดแอบมองไปที่สาวน้ำไม่ได้
สี่ปี ที่เฝ้าแอบมอง แต่เหมือนสาวเจ้าจะไม่รู้ตัวเลย.....หนุ่มชาวเหนือ ร่างเล็ก ได้แต่แอบถอนใจ
ตกลงว่ะ....พักกันก่อน ขอโทษด้วยที่พาเดินจนเหนื่อย......สาวๆพักกันเถอะ ส่วนหนุ่มๆขอแรงแจกข้าวแจกน้ำกัน ต้น พูดพลางปลดเป้พลาง พร้อมกับยิ้มน้อยๆ ส่งอาหารมาให้หญิงสาว ผู้หญิงที่อยู่ในใจเสมอ แต่เหมือน เนตรจะไม่เคยรู้เลย!!
หญิงสาวส่งยิ้มกลับ “ขอบใจนะต้น”......
แจ่มขยับมานั่งใกล้ๆ พร้อมส่งยิ้มแปลกๆมาให้ รู้หรอกว่าคิดไรอยู่ เจ้าเพื่อนตัวแสบ อดีตย่ะอดีต
เนตรนภา มองไปรอบๆ ถึงจะปะทะฝีปากกันไปบ้าง แต่ก็อดมีความสุขไม่ได้ ยิ่งเห็นสีหน้าของแต่ละคน แม้จะเหนื่อยล้า แต่แววตา ยังฉายแสงเห็นความสุข.......สุขเพราะได้ มาเจอกัน สุข ที่ได้มาปะทะฝีปากกัน เหมือนวันเก่า สุข เพราะรู้ว่าวันนี้เรายังมีกันและกัน เพื่อนกัน สายสัมพันธ์ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ........หากแม้นว่าเราจะสามารถรู้เหตุการณ์ ล่วงหน้ากันนะ
เดือนเด่นลอยกระจ่างฟ้า เนตรนภาลอยเกลื่อนดิน.......หากในเพลานี้คงต้องเป็น แสงแดดสว่างจ้า เนตรนภาหลบหลังดิน
บทที่ 2
“สูเจ้า เป็นใคร มาทำอะไรกันที่นี่” .......ท่ามกลางเสียงดังโหวกเหวก เนตรนภา สะดุ้งสุดตัว เงยหน้ามาเห็น มีผู้คนมารายล้อม แต่ละคนแต่งกายแปลกตา ถืออาวุธครบมือ เนี่ยมันเรื่องอะไรกัน!!!
To be continue.......
ฝากผลงานด้วยค่ะ เพิ่งเคยหัดเขียนครั้งแรก ยังไม่แน่ใจเลยว่าแต่ละบท ควรยาวแค่ไหน เกริ่นเรื่องได้แค่ไหน
ที่สำคัญ เป็นคนภาษาไทยไม่สวย เลยพยายามหัดเขียนนิยาย เพื่อจะได้ใช้ภาษาไทยได้หลากหลายกว่าเดิม...ขอบคุณทุกคำติชม ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ ^^
เล่ห์แสงจันทร์ ......มนตราแห่งแสงจันทร์ หรือเป็นที่เธอ ตอน 1 (หัดเขียนครั้งแรกค่ะ)
ดวงเด่นลอยกระจ่างฟ้า......เนตรนภาลอยเกลื่อนดิน.....
“เหม่อมองฟ้าอีกแล้วนะยัยเนตร” เนตรนภา หลุบตากลับมามองคนข้างหน้า หญิงสาว ผอมบาง แววตาเหม่อลอย อดทำให้ โสภิต หญิงกลางคน ทอดถอนหายใจไม่ได้ เมื่อไม่นานมานี้ หญิงสาว เคยสดใสร่าเริง แค่เวลา ครึ่งปี แต่เหมือนผ่านมาเป็น สิบปีแล้ว
“ยัยเนตร” สาววัย 22 นักศึกษาหมาดๆ จากรั้วมหาวิทยาลัย เหงยหน้าขึ้นมามอง ผ่านหน้าจอคอม
“ว่างัยยัยแจ่ม.....ตะโกนมาแต่ไกลเลย” ยัยแจ่ม หรือ แจ่มลักษณ์ เพื่อนสนิทผู้แก่นกะโหลก แต่น้อยกว่า เนตรนภาอีกหลายขุม
“แกรู้ยัง เราจะมีงานเลี้ยงรุ่นนะโว้ย”
“เมื่อไหร่อ่ะแก” ...ว่าแต่เพิ่งจบไม่นาน มีงานเลี้ยงรุ่น ตื่นเต้นตรงไหน หญิงสาวได้แต่ฉงนอยู่ในใจ
“ภูชี้ฟ้า”
ภูชี้ฟ้า......รัฐปัจฉิม ชื่ออย่างคุ้น เหมือนเพิ่งผ่านตามาเมื่อเช้าเลย ว่าแล้ว เธอเลยเริ่มเปิดดูเวปไซด์ต่อ ใช่จริงๆด้วย “แจ่ม แกได้อ่านข่าวหรือเปล่า ช่วงนี้แถวนั้น อย่างฮึมๆ แว่วมาว่า กองกำลังกู้ชาติ มีฐานลับ ติดชายแดนบ้านเรา”
“บ๊อง อ่ะแก เราไปเดินภูชี้ฟ้า ที่เที่ยวนะแก ไม่ได้ไปเดินป่า จะหลงไปไหนได้ ขอร้องเถอะ นิยาย อ่านเพลาๆหน่อย”
“ก็ได้ๆ ชั้นก็เผลอจินตนาการมากไปหน่อย เออ แล้วแกเอางัย ตกลงไปกันใช่ปล่าว แล้วไปกันเยอะไหม”
“ก็หมดทั้งรุ่นแหละ สรุปไปนะแก ชั้นจะได้ คอนเฟิร์ม” เธอก็ได้แต่พยักหน้า จบบทสนทนากันไป
บทที่ 1
“แกอ่ะ เหม่ออีกแล้ว ตั้งแต่เข้าป่ามา เหม่อตลอดเลย ชาติก่อนเคยอยู่แถวนี้เหรอจ๊ะ เพื่อนเนตร” ยัยแจ่มจอมยุ่ง โวยวายอีกแล้ว......เนี่ยชั้นก็อายเป็นนะ ดวงตากลมใส ผลุบกลับมามองเพื่อนสาวอีกครั้ง หญิงสาวได้แต่แอบคิดในใจ ช่างสังเกตจริงๆเพื่อนเรา
หญิงสาวมองไปรอบ ป่าก็เป็นป่า เดินมาหลายชั่วโมง ทัศนียภาพ ก็ยังคงดูเหมือนเดิม เนี่ยเราหลงทางหรือเปล่านะ....งานเลี้ยงรุ่น ท่ามกลางแสงจันทร์ แต่เนี่ย น่าจะเป็นท่ามกลางแสงแดดแผดเผา เนตรนภา ก็เนตรนภาเหอะ งานนี้มีเกรียมแน่นอน
“ชั้นว่า เราเหมือนหลงทางกันเลยนะ” อดเอ่ยปากเบาไม่ได้
“แก พูดเหมือนไม่เชื่อใจกันเลย ......เราเคยมาสำรวจ ทางนี้แน่ไม่หลงหรอก”…. ต้น ชายหนุ่มหุ่นโปร่งบาง แต่ทว่า แข็งแกร่ง ผู้ เป็นทั้งประธานรุ่น เป็นตัวตั้งตัวตี กับทริปนี้ ที่สำคัญ ชายหนุ่มตรงหน้าก็เคยทำให้เนตรนภาหวั่นไหวมาแล้วในอดีต ต้องบอกว่าอดีต เพราะหลังจากเจอชายหนุ่ม ควงสาวหน้าตาดี มาเดินที่มหาวิทยาลัย เนตรนภาได้แต่บอกกับตัวเองในใจว่า ที่เขาดีด้วย เพราะเป็นเพื่อนกัน
มล มลทิรา สาวสวยประจำรุ่น แถมยังเป็นเพื่อนสนิทในก๊วนเดียวกันกับเนตรนภา โวยวายขึ้น “แก ทำไม ขึ้นภู ไม่ขับรถมา...จะมาเดินป่าให้เมื่อยทำไม”
“อ้าวแก กระชับความสัมพันธ์ เรายังวัยหนุ่มสาวกันอยู่” ....ประทิน หนุ่มขี้เล่น นัยน์ตาโศก รองประธานรุ่น ที่แสนจะปากไว แต่เพื่อนๆทุกคนก็เข้าใจกันดีอยู่
“เอาเหอะ ไหนๆก็เดินมาได้เป็นวันๆแล้ว ว่าแต่อีกไกล ปล่าวต้น”....จักรินทร์ ริน ผู้ชายแสนดี ที่มักได้รับแต่บทพระรองตลอด ตัดบท
“อืมจริง โวยวายไป ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา แกดูอย่างแก้งค์ สาวสวยไฮโซ แบบพวกชั้นสิ ยังไม่บ่น” ......แก้งค์สาวสวย ที่เราจะไม่เอ่ยถึงก็คงไม่ได้ จ๋า ทานสรร์ สาวสวย ผมยาว ชาติกำเนิดดี แอ๊ด วีรพันธ์ ตลกประจำกลุ่ม ไม่ใช่นางไม่สวยนะ นางสวยและไฮโซ แถมตลกด้วย ผิว ผ่องพรรณ ขาว สวยสมชื่อเลย จิ๋ว จริญญา สาวจิ๋ว ผู้มีแววตากลมโต เป็นเนืองนิจ
ก็จริงของยัยจ๋านะ ......แม้พวกเราจะมีกลุ่มมีแก้งค์กันในรุ่น แต่พวกเราก็รักกันมาก ไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ ฐานะกัน เป็นสิ่งที่ดี ของรุ่นเรา .........เนตรนภาอดคิดในใจว่า เราไม่ควรมาทะเลาะกันในเรื่องที่เราตกลงกันมาแล้ว......กว่าจะรวมรุ่นได้ทั้ง 30 คน ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
ความเงียบกระจายอยู่กลางวงได้เพียงวูบเดียวก่อนที่จะมีเสียงหนึ่งเอ่ยทำลายความเงียบ
“หิวข้าว”แป๋วแหวว ผู้หญิงเรียบร้อยประจำรุ่น เปรียบเสมือนแม่ชีผู้สูงศักดิ์ของพวกเรา.....เอ่ยเบาๆ
“งั้นเราพักกันเถอะต้น ทุกคนก็ล้ามาพอควรแล้ว อย่างมาก เราก็นอนกลางป่าล่ะกันเนอะ” จบคำพูดของชิว ชีวา เรียกเสียงฮือฮา ทั้งโวย ทั้งชม ไม่อยากนอนกลางป่า .....55555
“เราว่า ถ้าเราเดิน 3 วันแล้วยังไม่ถึง เรากลับกรุงเทพกันนะ”...โป๊ก “มะเหงกเนะแก เดิน 3 วัน ใครจะบ้าเดินต่อ” น้ำ ธารทิพย์ นักเรียนดีเด่น สี่ปีซ้อน อดเขกหัว เพื่อนไป หนึ่งที ไม่ได้...... “เจ็บนะแก เขกมาเต็มแรง เค คเนศ อดบ่นไม่ได้ พร้อมกับลูบหัว ปอยๆ พูดๆก็พูดไปงั้น แต่อดแอบมองไปที่สาวน้ำไม่ได้
สี่ปี ที่เฝ้าแอบมอง แต่เหมือนสาวเจ้าจะไม่รู้ตัวเลย.....หนุ่มชาวเหนือ ร่างเล็ก ได้แต่แอบถอนใจ
ตกลงว่ะ....พักกันก่อน ขอโทษด้วยที่พาเดินจนเหนื่อย......สาวๆพักกันเถอะ ส่วนหนุ่มๆขอแรงแจกข้าวแจกน้ำกัน ต้น พูดพลางปลดเป้พลาง พร้อมกับยิ้มน้อยๆ ส่งอาหารมาให้หญิงสาว ผู้หญิงที่อยู่ในใจเสมอ แต่เหมือน เนตรจะไม่เคยรู้เลย!!
หญิงสาวส่งยิ้มกลับ “ขอบใจนะต้น”......
แจ่มขยับมานั่งใกล้ๆ พร้อมส่งยิ้มแปลกๆมาให้ รู้หรอกว่าคิดไรอยู่ เจ้าเพื่อนตัวแสบ อดีตย่ะอดีต
เนตรนภา มองไปรอบๆ ถึงจะปะทะฝีปากกันไปบ้าง แต่ก็อดมีความสุขไม่ได้ ยิ่งเห็นสีหน้าของแต่ละคน แม้จะเหนื่อยล้า แต่แววตา ยังฉายแสงเห็นความสุข.......สุขเพราะได้ มาเจอกัน สุข ที่ได้มาปะทะฝีปากกัน เหมือนวันเก่า สุข เพราะรู้ว่าวันนี้เรายังมีกันและกัน เพื่อนกัน สายสัมพันธ์ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ........หากแม้นว่าเราจะสามารถรู้เหตุการณ์ ล่วงหน้ากันนะ
เดือนเด่นลอยกระจ่างฟ้า เนตรนภาลอยเกลื่อนดิน.......หากในเพลานี้คงต้องเป็น แสงแดดสว่างจ้า เนตรนภาหลบหลังดิน
บทที่ 2
“สูเจ้า เป็นใคร มาทำอะไรกันที่นี่” .......ท่ามกลางเสียงดังโหวกเหวก เนตรนภา สะดุ้งสุดตัว เงยหน้ามาเห็น มีผู้คนมารายล้อม แต่ละคนแต่งกายแปลกตา ถืออาวุธครบมือ เนี่ยมันเรื่องอะไรกัน!!!
To be continue.......
ฝากผลงานด้วยค่ะ เพิ่งเคยหัดเขียนครั้งแรก ยังไม่แน่ใจเลยว่าแต่ละบท ควรยาวแค่ไหน เกริ่นเรื่องได้แค่ไหน
ที่สำคัญ เป็นคนภาษาไทยไม่สวย เลยพยายามหัดเขียนนิยาย เพื่อจะได้ใช้ภาษาไทยได้หลากหลายกว่าเดิม...ขอบคุณทุกคำติชม ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ ^^