มีหลายๆคนที่เป็นสุภาพสตรีอาจสงสัยว่า...
ในสมัยก่อนมีผู้หญิงเป็นพระอรหันต์มีไหม?
และมีผู้หญิงที่มีปัญญามากอย่างพระสารีบุตรมีไหม?
ผมได้อ่าน พตปฎ. เล่มที่ ๑๒ ข้อ ๕๐๕-๕๑๓
เป็นบทสนทนาธรรมระหว่าง นางวิสาข อุบาสก(เป็นฆารวาส) กับ ธรรมทินนา ภิกษุณี(เป็นภิกษุที่บรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว และ เป็นผู้มีปัญญามากจนพระพุทธเจ้ากล่าวเอง)...มาลองดูบทสนทนาธรรมบางส่วนดู..
" นางวิสาข อุบาสก : ข้าแต่พระแม่เจ้า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า สักกายะ สักกายะ ดังนี้ ธรรมอะไรที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า สักกายะ?
ธรรมทินนา ภิกษุณี : ดูกรวิสาขะผู้มีอายุ อุปาทานขันธ์ ๕ คือรูปูปาทานขันธ์ ๑
เวทนูปาทานขันธ์ ๑ สัญญูปาทานขันธ์ ๑ สังขารูปาทานขันธ์ ๑ วิญญาณูปาทานขันธ์ ๑ อุปาทานขันธ์ ๕ นี้แล พระผู้มีพระภาคตรัสว่า สักกายะ.
นางวิสาข อุบาสก : (ชื่นชม อนุโมทนา ภาษิตของธรรมทินนาภิกษุณีว่า) ถูกละพระแม่เจ้า ดังนี้แล้ว ได้ถามปัญหาต่อไปว่า ข้าแต่พระแม่เจ้า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า สักกายสมุทัย สักกายสมุทัย ดังนี้ ธรรมอะไรที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่าสักกายสมุทัย?
ธรรมทินนา ภิกษุณี : ดูกรวิสาขะผู้มีอายุ ตัณหาอันทำให้เกิดในภพใหม่ สหรคตด้วยความกำหนัดยินดีเพลิดเพลินยิ่งในอารมณ์นั้นๆ คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ตัณหานี้แล พระผู้มีพระภาคตรัสว่า สักกายสมุทัย.
.....
......"
ยังมีต่ออีกนะครับ..หากสนใจลองหาอ่านดู..เป็นการสนทนาธรรมที่มีคำตอบละเอียด ลึกซึ้ง แต่ เข้าใจได้ไม่ยาก ซึ่ง ธรรมทินนา ภิกษุณี พระพุทธเจ้าได้กล่าวกับ วิสาข อุบาสก หลังจากสนทนาธรรม กับ ธรรมทินนา ภิกษุณี ว่า
"ดูกรวิสาขะ ธรรมทินนา ภิกษุณี เป็นบัณฑิต มีปัญญามาก แม้หาก ท่านพึงสอบถามเนื้อความนั้นกะเรา แม้เราก็พึงพยากรณ์เนื้อความนั้น เหมือนที่ธรรมทินนาภิกษุณี พยากรณ์แล้ว เนื้อความแห่งพยากรณ์นั้นเป็นดังนั้นนั่นแล ท่านพึงทรงจำไว้อย่างนั้นเถิด.."
คำถาม.. มีผู้หญิงที่มีปัญญามากอย่างพระสารีบุตรไหม? ที่นี้มีคำตอบ... ไว้เป็นกำลังใจในการปฎิบัติสำหรับ สุภาพสตรีครับ
ในสมัยก่อนมีผู้หญิงเป็นพระอรหันต์มีไหม?
และมีผู้หญิงที่มีปัญญามากอย่างพระสารีบุตรมีไหม?
ผมได้อ่าน พตปฎ. เล่มที่ ๑๒ ข้อ ๕๐๕-๕๑๓
เป็นบทสนทนาธรรมระหว่าง นางวิสาข อุบาสก(เป็นฆารวาส) กับ ธรรมทินนา ภิกษุณี(เป็นภิกษุที่บรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว และ เป็นผู้มีปัญญามากจนพระพุทธเจ้ากล่าวเอง)...มาลองดูบทสนทนาธรรมบางส่วนดู..
" นางวิสาข อุบาสก : ข้าแต่พระแม่เจ้า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า สักกายะ สักกายะ ดังนี้ ธรรมอะไรที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า สักกายะ?
ธรรมทินนา ภิกษุณี : ดูกรวิสาขะผู้มีอายุ อุปาทานขันธ์ ๕ คือรูปูปาทานขันธ์ ๑
เวทนูปาทานขันธ์ ๑ สัญญูปาทานขันธ์ ๑ สังขารูปาทานขันธ์ ๑ วิญญาณูปาทานขันธ์ ๑ อุปาทานขันธ์ ๕ นี้แล พระผู้มีพระภาคตรัสว่า สักกายะ.
นางวิสาข อุบาสก : (ชื่นชม อนุโมทนา ภาษิตของธรรมทินนาภิกษุณีว่า) ถูกละพระแม่เจ้า ดังนี้แล้ว ได้ถามปัญหาต่อไปว่า ข้าแต่พระแม่เจ้า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า สักกายสมุทัย สักกายสมุทัย ดังนี้ ธรรมอะไรที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่าสักกายสมุทัย?
ธรรมทินนา ภิกษุณี : ดูกรวิสาขะผู้มีอายุ ตัณหาอันทำให้เกิดในภพใหม่ สหรคตด้วยความกำหนัดยินดีเพลิดเพลินยิ่งในอารมณ์นั้นๆ คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ตัณหานี้แล พระผู้มีพระภาคตรัสว่า สักกายสมุทัย.
.....
......"
ยังมีต่ออีกนะครับ..หากสนใจลองหาอ่านดู..เป็นการสนทนาธรรมที่มีคำตอบละเอียด ลึกซึ้ง แต่ เข้าใจได้ไม่ยาก ซึ่ง ธรรมทินนา ภิกษุณี พระพุทธเจ้าได้กล่าวกับ วิสาข อุบาสก หลังจากสนทนาธรรม กับ ธรรมทินนา ภิกษุณี ว่า
"ดูกรวิสาขะ ธรรมทินนา ภิกษุณี เป็นบัณฑิต มีปัญญามาก แม้หาก ท่านพึงสอบถามเนื้อความนั้นกะเรา แม้เราก็พึงพยากรณ์เนื้อความนั้น เหมือนที่ธรรมทินนาภิกษุณี พยากรณ์แล้ว เนื้อความแห่งพยากรณ์นั้นเป็นดังนั้นนั่นแล ท่านพึงทรงจำไว้อย่างนั้นเถิด.."