นักปราชญ์แต่ละคนถือว่ามีบทบาทสำคัญในการต่อยอดความคิดให้กับโลกมาทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมไปถึงการต่อยอดความคิดในอนาคตข้างหน้าด้วย นักปราชญ์เป็นคนที่มีความคิดลึกซึ้งจนยากที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้าถึง และความคิดของพวกเขาส่วนใหญ่ล้วนเปลี่ยนแปลงโลกได้ทั้งใบนี้เลยก็ว่าได้ และนี่คือ 10 อันดับนักปราชญ์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ซึ่งมีดังนี้คือ
10.Rene Descartes (1596-1650)
เป็นนักคิดที่ถือว่าดีที่สุดคนหนึ่งในโลกก็ว่าได้ เขาเป็นทั้งนักปรัชญา นักวิทยาศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ เป็นคนที่ชอบสอนให้ผู้คนเน้นในเรื่องพลังอำนาจทางจิตใจโดยจะต้องเก็บเกี่ยวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเขาเชื่อว่าร่างกายกับจิตใจเป็นของแยกกัน หากเราแยกได้ เราก็จะเป็นอิสระทางความคิดจากกฎธรรมชาติ เขาเชื่อว่านี่แหละคืออิสรภาพที่แท้จริงของมนุษย์ เขายังเชื่ออีกด้วยว่าพระเจ้าสร้าง 2 สิ่งให้กับมนุษย์ก็คือ 1.ความคิดจิตใจ กับ 2.ร่างกายความเป็นอยู่ของมนุษย์
9.Avicenna (980-1037)
เขาคนนี้ไม่ใช่นักปราชญ์ธรรมดาเท่านั้น เขายังถือว่าเป็นแพทย์คนหนึ่งที่ประวัติศาสตร์โลกต้องจารึกเอาไว้ โดยเขียนตำราการแพทย์ตลอดกาลชื่อว่า “The Canon Of Medicine” กับ “The Book Of Healing” ถือว่าเป็นความคิดเกี่ยวกับทางการแพทย์ที่ถูกเผยแพร่จนถึงทุกวันนี้ โดยเขาเป็นนักปราชญ์คนแรกที่พูดถึงเรื่องประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์คือ รูป รส กลิ่น เสียง การได้ยิน
8.Zeno Of Citium (ก่อนค.ศ.334-262)
Zeno เป็นคนที่ก่อตั้งลัทธิ Stoicism ซึ่งเป็นลัทธิที่เน้นในเรื่องความเชื่อว่าความทุกข์เกิดมาจากการตัดสินใจในชีวิตที่ผิดพลาดของคนเรา เขาจึงสอนให้ผู้คนฝึกควบคุมอารมณ์และจะต้องหลีกเลี่ยงความทุกข์ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก็ยกตัวอย่างเช่น หากเราโมโหเกรี้ยวกราวขึ้นมา อารมณ์ของเราก็ชักนำไปสู่ความทุกข์ทันที ด้วยเหตุนี้เขาจึงเห็นว่าการควบคุมอารมณ์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะนำไปสู่สันติภาพให้กับโลกมนุษย์
7.Epicurus (ก่อนค.ศ.341-270)
แน่นอนว่าเขาคนนี้ถูกทางศาสนาคริตส์ต่อต้านอย่างรุนแรงมาก เนื่องจากเป็นนักปราชญ์ที่สอนให้ผู้คนอย่าต้องการความสุขที่ได้รับจากพระผู้เป็นเจ้า เพราะว่าความสุขที่ได้มาง่ายๆก็มักจะทำให้เราขาดความอดทนในการดำรงชีวิต โดยความเชื่อของเขาเน้นในเรื่องสอนให้ผู้คนอย่าไปกลัวกับสิ่งที่จับต้องไม่ได้อย่างเช่น พระผู้เป็นเจ้า แต่ผู้คนจะต้องเชื่อในสิ่งที่สัมผัสจับต้องได้เท่านั้น โดยเขาคนนี้ยังสอนในเรื่องการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย และก็วิธีการดำรงชีวิตที่ถูกต้องอีกด้วย
6.John Locke (1632-1704)
เป็นนักปราชญ์ที่มีความสำคัญต่อการเมืองสมัยใหม่ โดยอิทธิพลทางความคิดเกี่ยวกับการเมืองก็ถูกนำไปใช้มาก โดยเขาจะเน้นในเรื่องสิทธิเสรีภาพของมนุษย์และมนุษย์ธรรม และหลายประเทศก็ได้นำแนวคิดของเขาไปใช้ในการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เขาเป็นคนต่อต้านแนวคิดที่ว่าคนรวยก็จะต้องรวยมากขึ้น คนจนก็จะต้องจนลงอยู่วันยันค่ำ จึงทำให้เขาต่อต้านระบบขุนนางศักดินาในทวีปยุโรปในช่วงนั้นเป็นอย่างมาก ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาคนหนึ่งที่จุดชนวนประชาธิปไตยขึ้นมา
5.Confucius (ก่อนค.ศ. 551-479)
ก็รู้จักกันดีสำหรับขงจื้อที่ถือว่าเป็นมหาปราชญ์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในแดนตะวันออก โดยขงจื้อมีตำราศาสตร์เกี่ยวกับการปกครองบ้านเมืองและก็กฎวินัยในการบริหารบ้านเมืองเน้นในเรื่องคุณธรรม จริยธรรมเป็นที่ตั้ง เขาเชื่อว่าบุคคลที่เข้ามาบริหารบ้านเมืองเป็นสิ่งสำคัญมากในการร่างกฎหมายให้มีความเป็นธรรม ขงจื้อมีคำกล่าวเด็ดอยู่อย่างหนึ่งก็คือ “รัฐบาลจะต้องทำสิ่งที่ถูกต้องก่อน หากว่ารัฐบาลเริ่มทำตัวเองให้ถูกต้องก่อน ถามหน่อยว่าแล้วจะมีใครกล้าทำผิดบ้างหรือเปล่าล่ะ”
4.Karl Marx (1818-1883)
เป็นบิดาลัทธิคอมมิวนิสต์และก็เป็นนักปราชญ์ที่นับได้ว่าเป็นผู้พลิกโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งเขามีทฤษฎีที่ว่าโลกใบนี้จะต้องถูกปกครองอย่างเท่าเทียมกัน ความคิดของเขามีผลต่อระบบการเมือง เศรษฐกิจ สังคมมากจนถึงทุกวันนี้ ที่เน้นในเรื่องระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม ทำให้แนวคิดของเขามีการปฏิวัติไปทั่วโลก อย่างเช่น สหภาพโซเวียต คิวบา เขาเชื่อว่าระบบทุนนิยมทำให้สังคมถูกกดหัวแบบไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เขาจึงเน้นในเรื่องชนชั้นล่างหันมาลุกฮือขึ้นมาสู้กับระบบทุนนิยมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
3.Plato (ก่อนค.ศ.428-347)
เป็นนักปราชญ์ที่เน้นในเรื่องปรัชญา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เขาสอนผู้คนว่าสันติภาพเป็นเรื่องที่จะต้องส่งเสริม และสิ่งที่ชั่วร้ายจะต้องกำจัดให้สิ้นซากไป ทั้งเขาเป็นที่ชอบสนทนากับลูกศิษย์ต่างๆเกี่ยวกับความเห็นต่างๆทำให้ได้มุมมองเพิ่มขึ้น เขาเขียนทฤษฎีต่างๆไว้เป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องศิลปะศาสตร์ต่างๆ หลักๆแล้วก็จะเน้นในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม และก็ตรรกะศาสตร์ ความคิดจิตใจ จิตวิญญาณ และก็ยังมีแนวคิดใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นจนเกิดความเชื่อต่างๆมากมาย
2.Aristotle (ก่อนค.ศ.384-322)
เป็นนักปราชญ์ตลอดกาลคนหนึ่งที่แนวคิดของเขานำไปสู่โลกสมัยใหม่ โดยปรัชญาของเขาจะเน้นในเรื่องความเป็นอิสระในการเรียนรู้ ทั้งยังมีการวิจัยเกี่ยวกับพืชและสัตว์ต่างๆด้วย เขาเชื่อว่าจิตวิญญาณของมนุษย์กับร่างกายมีความสัมพันธ์กัน จิตวิญญาณมีอิสระจากร่างกายมนุษย์ และที่สำคัญที่สุดเขายังเป็นบิดาแห่งศาสตร์ต่างๆหลายแขนงเป็นจำนวนมากเช่นการเมือง และชีววิทยา รวมไปถึงการต่อยอดทางความคิดให้คนรุ่นใหม่สานต่อจนถึงทุกวันนี้
1.Socrates (ก่อนค.ศ.469-399)
เป็นนักปราชญ์ที่ถือว่าเป็นมีความคิดอันลึกซึ้งที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมาเลยก็ว่าได้ เขาจะเน้นในเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประดิษฐ์คิดค้นเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้า ที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็ไม่ได้เอะใจกันเรื่องนี้เท่าไรนักในเวลานั้น เขาเชื่อว่าพระเจ้าเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของความฝันและคำพยากรณ์ต่างๆเท่านั้น เขาเชื่อว่าจิตวิญญาณไม่มีวันตายไปจากมนุษย์ไปได้ โดยอิทธิพลของเขามักจะชอบสนทนากับผู้คนตามท้องถนนไปเรื่อยเปื่อยในการตั้งคำถามพูดคุยต่างๆนาๆแบบลึกซึ้งกินบรรยาย และยังปลุกปั้นนักปราชญ์ที่สำคัญระดับโลกอย่าง Plato กับ Aristotle และก็ใครต่างๆอีกหลายคนเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าเป็นมหาปราชญ์ตลอดกาลของโลกก็เป็นได้
ผู้เขียน Mr.lawrence10
(เรื่องน่ารู้) 10 อันดับนักปราชญ์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก
เป็นนักคิดที่ถือว่าดีที่สุดคนหนึ่งในโลกก็ว่าได้ เขาเป็นทั้งนักปรัชญา นักวิทยาศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ เป็นคนที่ชอบสอนให้ผู้คนเน้นในเรื่องพลังอำนาจทางจิตใจโดยจะต้องเก็บเกี่ยวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเขาเชื่อว่าร่างกายกับจิตใจเป็นของแยกกัน หากเราแยกได้ เราก็จะเป็นอิสระทางความคิดจากกฎธรรมชาติ เขาเชื่อว่านี่แหละคืออิสรภาพที่แท้จริงของมนุษย์ เขายังเชื่ออีกด้วยว่าพระเจ้าสร้าง 2 สิ่งให้กับมนุษย์ก็คือ 1.ความคิดจิตใจ กับ 2.ร่างกายความเป็นอยู่ของมนุษย์
เขาคนนี้ไม่ใช่นักปราชญ์ธรรมดาเท่านั้น เขายังถือว่าเป็นแพทย์คนหนึ่งที่ประวัติศาสตร์โลกต้องจารึกเอาไว้ โดยเขียนตำราการแพทย์ตลอดกาลชื่อว่า “The Canon Of Medicine” กับ “The Book Of Healing” ถือว่าเป็นความคิดเกี่ยวกับทางการแพทย์ที่ถูกเผยแพร่จนถึงทุกวันนี้ โดยเขาเป็นนักปราชญ์คนแรกที่พูดถึงเรื่องประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์คือ รูป รส กลิ่น เสียง การได้ยิน
Zeno เป็นคนที่ก่อตั้งลัทธิ Stoicism ซึ่งเป็นลัทธิที่เน้นในเรื่องความเชื่อว่าความทุกข์เกิดมาจากการตัดสินใจในชีวิตที่ผิดพลาดของคนเรา เขาจึงสอนให้ผู้คนฝึกควบคุมอารมณ์และจะต้องหลีกเลี่ยงความทุกข์ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก็ยกตัวอย่างเช่น หากเราโมโหเกรี้ยวกราวขึ้นมา อารมณ์ของเราก็ชักนำไปสู่ความทุกข์ทันที ด้วยเหตุนี้เขาจึงเห็นว่าการควบคุมอารมณ์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะนำไปสู่สันติภาพให้กับโลกมนุษย์
แน่นอนว่าเขาคนนี้ถูกทางศาสนาคริตส์ต่อต้านอย่างรุนแรงมาก เนื่องจากเป็นนักปราชญ์ที่สอนให้ผู้คนอย่าต้องการความสุขที่ได้รับจากพระผู้เป็นเจ้า เพราะว่าความสุขที่ได้มาง่ายๆก็มักจะทำให้เราขาดความอดทนในการดำรงชีวิต โดยความเชื่อของเขาเน้นในเรื่องสอนให้ผู้คนอย่าไปกลัวกับสิ่งที่จับต้องไม่ได้อย่างเช่น พระผู้เป็นเจ้า แต่ผู้คนจะต้องเชื่อในสิ่งที่สัมผัสจับต้องได้เท่านั้น โดยเขาคนนี้ยังสอนในเรื่องการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย และก็วิธีการดำรงชีวิตที่ถูกต้องอีกด้วย
เป็นนักปราชญ์ที่มีความสำคัญต่อการเมืองสมัยใหม่ โดยอิทธิพลทางความคิดเกี่ยวกับการเมืองก็ถูกนำไปใช้มาก โดยเขาจะเน้นในเรื่องสิทธิเสรีภาพของมนุษย์และมนุษย์ธรรม และหลายประเทศก็ได้นำแนวคิดของเขาไปใช้ในการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เขาเป็นคนต่อต้านแนวคิดที่ว่าคนรวยก็จะต้องรวยมากขึ้น คนจนก็จะต้องจนลงอยู่วันยันค่ำ จึงทำให้เขาต่อต้านระบบขุนนางศักดินาในทวีปยุโรปในช่วงนั้นเป็นอย่างมาก ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาคนหนึ่งที่จุดชนวนประชาธิปไตยขึ้นมา
ก็รู้จักกันดีสำหรับขงจื้อที่ถือว่าเป็นมหาปราชญ์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในแดนตะวันออก โดยขงจื้อมีตำราศาสตร์เกี่ยวกับการปกครองบ้านเมืองและก็กฎวินัยในการบริหารบ้านเมืองเน้นในเรื่องคุณธรรม จริยธรรมเป็นที่ตั้ง เขาเชื่อว่าบุคคลที่เข้ามาบริหารบ้านเมืองเป็นสิ่งสำคัญมากในการร่างกฎหมายให้มีความเป็นธรรม ขงจื้อมีคำกล่าวเด็ดอยู่อย่างหนึ่งก็คือ “รัฐบาลจะต้องทำสิ่งที่ถูกต้องก่อน หากว่ารัฐบาลเริ่มทำตัวเองให้ถูกต้องก่อน ถามหน่อยว่าแล้วจะมีใครกล้าทำผิดบ้างหรือเปล่าล่ะ”
เป็นบิดาลัทธิคอมมิวนิสต์และก็เป็นนักปราชญ์ที่นับได้ว่าเป็นผู้พลิกโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งเขามีทฤษฎีที่ว่าโลกใบนี้จะต้องถูกปกครองอย่างเท่าเทียมกัน ความคิดของเขามีผลต่อระบบการเมือง เศรษฐกิจ สังคมมากจนถึงทุกวันนี้ ที่เน้นในเรื่องระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม ทำให้แนวคิดของเขามีการปฏิวัติไปทั่วโลก อย่างเช่น สหภาพโซเวียต คิวบา เขาเชื่อว่าระบบทุนนิยมทำให้สังคมถูกกดหัวแบบไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เขาจึงเน้นในเรื่องชนชั้นล่างหันมาลุกฮือขึ้นมาสู้กับระบบทุนนิยมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
เป็นนักปราชญ์ที่เน้นในเรื่องปรัชญา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เขาสอนผู้คนว่าสันติภาพเป็นเรื่องที่จะต้องส่งเสริม และสิ่งที่ชั่วร้ายจะต้องกำจัดให้สิ้นซากไป ทั้งเขาเป็นที่ชอบสนทนากับลูกศิษย์ต่างๆเกี่ยวกับความเห็นต่างๆทำให้ได้มุมมองเพิ่มขึ้น เขาเขียนทฤษฎีต่างๆไว้เป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องศิลปะศาสตร์ต่างๆ หลักๆแล้วก็จะเน้นในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม และก็ตรรกะศาสตร์ ความคิดจิตใจ จิตวิญญาณ และก็ยังมีแนวคิดใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นจนเกิดความเชื่อต่างๆมากมาย
เป็นนักปราชญ์ตลอดกาลคนหนึ่งที่แนวคิดของเขานำไปสู่โลกสมัยใหม่ โดยปรัชญาของเขาจะเน้นในเรื่องความเป็นอิสระในการเรียนรู้ ทั้งยังมีการวิจัยเกี่ยวกับพืชและสัตว์ต่างๆด้วย เขาเชื่อว่าจิตวิญญาณของมนุษย์กับร่างกายมีความสัมพันธ์กัน จิตวิญญาณมีอิสระจากร่างกายมนุษย์ และที่สำคัญที่สุดเขายังเป็นบิดาแห่งศาสตร์ต่างๆหลายแขนงเป็นจำนวนมากเช่นการเมือง และชีววิทยา รวมไปถึงการต่อยอดทางความคิดให้คนรุ่นใหม่สานต่อจนถึงทุกวันนี้
เป็นนักปราชญ์ที่ถือว่าเป็นมีความคิดอันลึกซึ้งที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมาเลยก็ว่าได้ เขาจะเน้นในเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประดิษฐ์คิดค้นเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้า ที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็ไม่ได้เอะใจกันเรื่องนี้เท่าไรนักในเวลานั้น เขาเชื่อว่าพระเจ้าเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของความฝันและคำพยากรณ์ต่างๆเท่านั้น เขาเชื่อว่าจิตวิญญาณไม่มีวันตายไปจากมนุษย์ไปได้ โดยอิทธิพลของเขามักจะชอบสนทนากับผู้คนตามท้องถนนไปเรื่อยเปื่อยในการตั้งคำถามพูดคุยต่างๆนาๆแบบลึกซึ้งกินบรรยาย และยังปลุกปั้นนักปราชญ์ที่สำคัญระดับโลกอย่าง Plato กับ Aristotle และก็ใครต่างๆอีกหลายคนเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าเป็นมหาปราชญ์ตลอดกาลของโลกก็เป็นได้
ผู้เขียน Mr.lawrence10