สวัสดีครับ ผมขอคำปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับที่ดินหน่อยนะครับ

เรื่องมีอยู่ว่า ทางบ้านผมได้ซื้อที่ดินแปลงหนึ่งมาจากนาง A มา 18 ปีแล้ว ทุกวันนี้ที่แถวนั้นราคาสูงขึ้นมาก จนมาวันนึง นาง B ซึ่งเป็นน้องสาวของนาง A เข้ามาคุยกับครอบครัวผม บอกว่าที่แปลงนี้เป็นที่มรดก อยากซื้อคืน ซึ่งก็ไม่มีปัญหาเพราะที่มีราคาแล้ว ผมยินดีขาย แต่แม่เจ้า เจ๊แกจะซื้อคืนราคาเดิมเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ซึ่งแน่นอนผมไม่ขาย เรื่องราวจึงเกิดขึ้น

นาง B (ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่แปลงนี้เลย) ได้ทำเรื่องฟ้องศาลปกครองโดยฟ้องกรมที่ดินว่าเจ้าพนักงานที่ดินปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบว่าจริงๆแล้ว นาง A พี่สาว ไม่เคยขายที่แปลงนี้ให้ผม และเมื่อทนายของนาง A ได้ไปขอดูสัญญาเอกสารการซื้อขายที่กรมที่ดิน (มีหลักฐานลายเซนต์ว่ามาเค้ามาขอคัดสำเนา) ก็ปรากฎว่า ไม่มีเอกสารเหล่านั้นที่กรมที่ดินเลย ทำไมจึงสลักหลังโฉนดใส่ชื่อผมได้

ทางที่ดินเดือดร้อนจึงติดต่อถามผมมาว่า ผมเก็บสัญญาและใบเสร็จการโอนไว้หรือไม่ ซึ่งเคราะห์ดี ผมเก็บเอาไว้ครบถ้วน ขาดแต่เพียงหนังสือมอบอำนาจที่นาง A มอบให้ผมไปจัดการเรื่องการโอน (หนังสือมอบอำนาจต้องให้ทางกรมที่ดินไป) ผมถ่ายสำเนาสัญญาและใบเสร็จการโอนไปให้เจ้าหน้าที่ที่ดินใช้ชี้แจงกับศาล พอนาง A ทราบว่าผมมีหลักฐานการซื้อขายแต่ขาดหนังสือมอบอำนาจ ก็ร้องเรียนต่อว่า เจ้าพนักงานมีพิรุธเอกสารสำคัญขนาดนี้อ้างว่าหายได้อย่างไรและผมอาจจะปลอมแปลงเอกสารเองก็ได้ ทว่าผมซึ่งไม่ใช่จำเลยจึงแก้ต่างอะไรไม่ได้เลยตอนนี้

คำถามของผมคือ
1. หากกรมที่ดินทำเอกสารการซื้อขายหายไป การซื้อขายที่ดินแปลงนั้นถือเป็นโมฆะได้หรือไม่? โฉนดไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้เลยหรือ
2. เป็นไปได้ว่า ทนายของ นาง A ได้ดึงเอกสารเหล่านี้ออกไปขณะที่มาขอคัดสำเนา จะมีมาตรการใดที่จะช่วยปกป้องผมและกรมที่ดินในกรณีนี้ได้บ้าง?

ขอบคุณมากครับ