อยากทราบอย่างนี้ค่ะ ใครมีความรู้เรื่องนี้ช่วยตอบให้หายข้องใจหน่อยนะคะ
- มีประชาชนมีสิทธิ์ 30 บาท ทั้งประเทศ ประมาณกี่ล้านคน จากประชากรทั้งหมดประมาณ 60 กว่าล้านคนนี้
- จำนวนผู้ใช้สิทธิ์ มาก น้อย ของแต่ละโรงพยาบาลมีผลกับการเบิกเงินค่ารักษานี้หรือไม่
- ผู้ที่มีสิทธิ์ ปี ๆ นึงไปโรงพยาบาลแล้วใช้สิทธิ์ 30 บาท กี่ล้านคน จากจำนวนที่ได้สิทธิ์นี้
- รพ.รักษาไปแล้ว เบิกคืนจากรัฐได้ตามจริงแต่ไม่เกิน กี่บาทนะคะ 2,000 ใช่ไหม? แล้วคนที่ไปใช้บริการส่วนมากจะเกินกว่าที่เบิกคืนจากรัฐมากหรือไม่
- ปี ๆ หนึ่ง รัฐจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนนี้ โดยประมาณทั้งสิ้น เท่าไหร่
- ถ้าไม่มี 30 บาท เลย รพ.จะขาดทุน หรือไม่
- การขาดทุนของแต่ละ รพ.ที่ว่าขาดทุน คิดเป็นประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ทั้งหมดต่อไปของ รพ. เช่น ขาดทุน 5-10%
- การที่คนไทยไปใช้บริการ รพ.กันมากทุกวันนี้ คิดว่าเป็นเพราะการรณรงค์เรื่องที่ให้คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพตัวเองมีส่วนหรือเปล่า (แทนที่จะโทษว่าเพราะค่ารักษาถูกแค่ 30 บาท - อ้นนี้ไม่รู้นะ แต่ จกท.ก็เห็นว่า แม้จะเป็นอะไรไม่มาก แต่คนไทยไปพบหมอ มันก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะโรคมันเยอะแยะ จะได้ไม่ประมาท)
- การเพิ่มแพทย์ในประเทศไทยให้มากขึ้น จะช่วยให้แพทย์ต้องรับมือกับคนไข้น้อยลง อันนี้จะช่วยได้หรือเปล่านะ
- จกท.เห็นว่า มีนักเรียนที่มีความรู้ความสามารถ เยอะแยะ มากมายนะ แต่คนสอน และโรงเรียนแพทย์ในประเทศไทยมีน้อย ทำให้ผลิตแพทย์มาน้อยไป ทำให้แพทย์เมื่อมีจำนวนน้อย ก็ต้องทำงานหนัก
- เรียนแพทย์ ตอนเรียนก็หนัก ตอนทำงานก็หนัก แต่น่าจะหนักน้อยกว่าตอนเรียน แต่ทำไมแพทย์เขาบ่นกันจังว่างานหน้ก (บางคนนะคะ) แต่ที่เห็นนะคะ แพทย์เป็นอาชีพที่มีรายได้ดีกว่า สาขาอาชีพอื่น จนหมอบางคนก็เรียกได้ว่ารวยจากการมีอาชีพหมอ หมอส่วนใหญ่คิดว่ารายได้ตรงนั้นคุ้มหรือไม่คุ้มกับการทำงานหนักของเขากันนะ

เพราะอย่าง จกท ก็ทำงานมาตั้งแต่อายุ 18 ปี ทำมาจนอายุจะ 50 ปีแล้ว ใช้แต่สิทธิ์ ประกันกลุ่มที่บริษัททำบ้าง และเคยใช้สิทธิ์ประกันสังคมไม่กี่ครั้งตามที่โรงพยาบาลแนะนำ ส่วนใหญ่ จะใช้สิทธิ์ ประกันกลุ่มจากที่ทำงานบริษัทฯ เอกชนเขาทำให้ ทั้งครอบครัว
มีพ่อ เคยรักษาตัวที่ ตจว. ใช้สิทธิ์ 30 บาท บางว้นนอน รพ. ไม่เจอหน้าหมอเลย ก็ทนไม่ไหว จึงนำเข้ามารักษาที่ กทม.
ก็เข้า รพ.ของรัฐ ยื่นบัตรนี้ล่ะ ที่ไหนคิดเงินเพิ่ม ก็จ่ายเขา หลายหมื่นก็เคยจ่าย ก็คือบอกเขาเลยว่าถ้ามีส่วนเกิน ก็บอกมา ก็พร้อมจะจ่าย
ส่วนแม่ ก็พาเข้ารักษาตัว รพ.เอกชนเลย เวลาเข้าทีก็จะเห็นเลยนะค่าหมอบางคนก็ 300 บาท บางคนก็ 350 บาท (คนไข้นอก)

อยู่มาจนอายุเท่านี้ (จะ 50) ไม่เคยได้ยิน รพ.ไหน ให้การรักษาต่อคนที่รู้จักแบบอนาถา ขนาดคนไข้เป็นพระ ไม่มีรายได้อะไร จกท ก็ยังต้องหาญาติโยมไปจ่ายให้เลย คือเขาอาจจะเก็บไว้ให้คนหนักจริง ๆ ก็ได้นะ ไม่ได้อคติอะไร แต่ว่าญาติ พี่น้อง ที่ยากจน ขนาดข้าวบางว้นยังไม่มีจะหุงกินเลย ก็มีนะ แต่ก็ไม่เคยได้ร้บการรักษาแบบอนาถา อาจจะไม่รู้ด้วยมั๊ง ก็เลยต้องหยิบยืมเงินทอง จากคนอื่น ไปรักษากันตามมีตามเกิด และคนที่ ตจว.ส่วนมากนะ ถ้าไม่เป็นอะไรจนแย่ หรือมีอาการมาก ๆ เขาจะไม่ไปหาหมอนะ แต่จะไปซื้อยามากินเอง ซึ่งเดี๋ยวนี้ยากินเองแค่เป็นหวัด คออ้กเสบ 30 บาท ไม่พอซื้อนะคะ

จกท.มีความเห็นว่า การที่คนไทยไปโรงพยาบาลมากขึ้น น่าจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้เห็นคนไทยใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น
หมอ เรามีน้อยเกินไป น่าจะผลิตหมอมาให้มากกว่านี้ เพื่อช่วยเฉลี่ยให้หมอไม่ต้องเหนื่อยกันเกินไป (แต่ก็ต้องทำใจเมื่อทำงานน้อยลง ผลตอบแทนก็ต้องน้อยลงเป็นธรรมดา)รวมถึงพยาบาลด้วย เพราะเดี๋ยวนี้เห็นแต่ผู้ช่วยพยาบาลทั้งนั้นที่เยอะที่สุดใน รพ.ของรัฐ
โครงการอะไรก็ได้ จะต้องจ่าย 30 หรือไม่จ่ายเลย ก็แล้วแต่ ควรมีไว้ อันนี้เป็นการเฉลี่ยทุกข์สุขให้คนเดือดร้อน (คนป่วยคือคนเดือดร้อนทุกคน)คงไม่มีใครที่ป่วยหนักแล้วใช้เงินเยอะ ๆ กันทุกคน ถ้าจะมีคนใช้เยอะบ้างแล้วเขาไม่มี ก็เห็นใจกันเถอะ ยิ่งเป็นคนแก่เฒ่า ที่ตรากตรำทำงานหน้กเลี้ยงลูกหลานมาจนไม่มีเงินเหลือจะรักษาตัว ลูกหลานก็ไม่มีเงินมากมายที่จะรักษา คนพวกนี้อยากรู้จริง ๆ ว่ามีอยู่ซักกี่เปอร์เซ็น ของประเทศ เงินภาษีของคนที่ยังพอมีโอกาสดีกว่า พอจะมาอุ้มชูคนพวกนี้ได้บ้างพอจะมีเหลือไหมนะ .......เพราะเราสร้างถนนหนทางแต่ละตารางเมตรใช้เงินมากมาย เพื่อให้คนท่ว ๆ ไปอยู่กันสุขสบายไม่ใช่หรือ แล้วถ้าเราจะช่วยคนที่เจ็บป่วยเหล่านี้บ้าง น่าจะใช้เงินไม่ถึงกับทำถนนแต่ละสาย ในแต่ละปีนะ