ตั้งแต่เลิกลงทุนในหุ้นสักระยะ รู้สึกมีความสุขขึ้นมากเลยคะ ไม่ว้าวุ่นเหมือนเมื่อก่อน

กระทู้คำถาม
คิดว่าการทำธุรกิจนี่ยากแล้วนะคะ แต่พอเจอหุ้นแล้วมึนตึ้บยิ่งกว่า ปัจจัยแวดล้อมภายนอก ที่เราไม่สามารถควบคุมได้เยอะเกินไป ถ้าอยากรวย ต้องเป็นเหาฉลามเกาะเจ้าให้ได้เท่านั้น ถึงจะรอดได้ คงต้องหลีกเร้นจากที่นี่สักระยะแล้วคะ ตอนนี้ถือเงินสด 100% เพราะมีแค่ 100,000 บาทเองคะ ไม่คุ้มสมองที่ลงทุนใช้ไป เพราะเวลาเขาเล่นกันดัน Tfax มีแต่หุ้นตัวใหญ่ๆ เงินลงทุนเท่านี้ ได้กำไรทีไม่กี่ร้อย ไม่คุ้มค่าความเครียดคะ ขอเอาเวลาไปเรียนภาษาดีกว่าคะ น่าจะรุ่งกว่าไหมคะ แนะนำหนูทีคะ มันจะขึ้นได้ก็ขึ้นไปคะ ณ จุดนี้ ไม่สนใจ คิดว่าปีนี้มันคงไม่เหมือนปีที่แล้ว สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่เข้าที่เข้าทาง หุ้นเก็งกำไรจะขึ้นก็คงยาก เพราะคนไม่ค่อยกล้าเก็งกัน คงจะเล่นกันแต่หุ้นพื้นฐานดี ซึ่งมันไม่คุ้มกับสมองที่ลงไปคะ กว่าจะคิดได้ ได้กำไรมาแค่ร้อยสองร้อย กว่าราคาจะผ่านค่าคอมที่เสียไปแล้วทั้งขามาขาไป โอ้ยย ปวดสมองคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
เท่าที่อ่านดู น่าจะเป็นการเล่นหุ้น ไม่ได้ลงทุนในหุ้น
ถ้าลงทุนในหุ้น จิตใจจะไม่ว้าวุ่น
ซื้อหุ้นพื้นฐานดี ที่ผลประกอบการมีกำไรสม่ำเสมอ
และจ่ายเงินปันผล อัตรามากกว่า 6 % ต่อปี
ถือรับเงินปันผลไปเรื่อย ราคาหุ้นมีขึ้น มีลง เป็นไปตามแรงซื้อกับแรงขาย
ตามสภาวะตลาดที่คนส่วนใหญ่ เล่นเก็งกำไรเป็นหลัก
เจ้ามือก็มีไม่น้อย ที่เข้ามาลากขึ้น ทุบลง
อย่าไปหวั่นไหวกับส่วนต่างราคา เพราะมันเป็นแค่ตัวเลข
ถือลงทุนระยะยาว อย่ามองในช่วงสั้น
ที่สำคัญคือ ไม่เล่นหุ้นปั่น ไม่ซื้อหุ้นที่ผลประกอบการยังขาดทุน หรือ ไม่มีจ่ายเงินปันผล
คนที่หวังรวยเร็ว มักจะเล่นหุ้นพวกนี้


พอร์ตนี้ ถือมา 4 ปี ไม่เคยขายล้างพอร์ต หรือขายออก จนต่ำกว่า 70 %
รับเงินปันผลมาก็ซื้อเพิ่ม ตอนนี้ รับเงินปันผล ปีละมากกว่า 400,000 บาท
เฉลี่ยเงินปันผล มากกว่า 30,000 บาทต่อเดือน เงินลงทุนประมาณ 6 ล้านบาท
ต่อไปมูลค่าพอร์ต จะขึ้นถึง 10 ล้านบาท ฤดูกาลจ่ายเงินปันผลใกล้มาแล้ว
ถ้าถึงตอนนั้น ก็จะยังคงถือรับเงินปันผลต่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่