คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
.. น้า..ศศบ. (การสื่อสารมวลชน) ที่จบก่อนคุณแค่ 20 ปี ..เจ้าเก่าเองนะคะ ^^
น้ามีรุ่นน้อง , ลูกน้องเก่า ที่ทำงานในสายงานร้านอาหารอยู่หลายคน
เท่าที่น้าทราบนะ ตำแหน่งงานผู้จัดการร้านอาหารนั้น JD ( Job Description ) หลักๆ ได้แก่
- ควบคุมมาตรฐานงานบริการลูกค้าหน้าร้าน
- ควบคุมมาตรฐานการผลิตสินค้า รวมถึงต้นทุนการผลิต
- กระตุ้นยอดขาย - รักษาฐานลูกค้า
- บริหารงานบุคคลในสาขา (ดูแลความไปเป็นของพนักงานในสาขา)
ผู้ช่วย ผจก.สาขา ..ก็คือช่วยงาน ผจก. ตาม JD ข้างบนนั่นแหล่ะค่ะ
น้าขอขยายความให้ ในฐานะที่ทำงานห้างมาหลายปี [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
..ถ้าคุณคิดว่าตัวเองมีใจรักในการให้บริการ มี service mind เต็มร้อย รู้ว่าลูกค้าเข้ามาใช้บริการพร้อมความคาดหวัง
ว่าจะได้รับบริการที่น่าพึงพอใจ ..และสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ..คุณจะผ่านข้อแรกได้สบายๆ
..ถ้าคุณคิดว่าสามารถเรียนรู้และมีความเข้าใจในกระบวนการผลิต ( ร้านอาหาร product ก็คือ อาหารนั่นแหล่ะค่ะ ) ได้ไม่ยาก
และสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ดี ..วิเคราะห์ตัวเลขในรายงานได้ ทำงานเอกสารได้ดี เพราะงานหลังร้าน paper / report เยอะแยะ
..น้าก็เชื่อว่าคุณจะสามารถผ่านข้อ 2 ได้
..ถ้าคุณสามารถนำความคิดสร้างสรรค์ทางด้านการสื่อสารมวลชน - งานโฆษณา - ประชาสัมพันธ์ ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา
มาใช้ในการกระตุ้นยอดขายของสาขาได้ .. คุณก็จะผ่านข้อ 3 ได้อย่างชิลล์ๆ
..และถ้าคุณรู้จักใช้ทักษะในการพูด และรู้จักใช้จิตวิทยาในการทำงานกับผู้คน ..
ไม่ว่าระหว่างคุณกับผู้บังคับบัญชา ( How to manage your boss ) หรือกับผู้ใต้บังคับบัญชา ..
รู้จักการพูดเพื่อจูงใจ เช่น ในการอบรมพนักงานสาขาให้เข้าใจและปฏิบัติตามทิศทางการดำเนินงานและเป้าหมายขององค์กร
รวมไปถึงจิตวิทยาในการพูดเพื่อให้รางวัล และการลงโทษ ..แน่นอนอยู่แล้วว่าในการทำงาน คนเราพลาดกันได้
แต่พลาดแล้ว มันมีบทลงโทษ ..และคนต้องลงโทษพนักงานสาขา ก็คือ ผจก.สาขา ( หรือ ผช. ผจก. )
เช่น คนที่ชอบขาด ลา มาสายเสมอ หรือแคชเชียร์ที่ทำเงินขาด ( เช่น ทอนเงินเกิน ) ..
คุณจะพูดกับพนักงานยังไง ว่าเค้าต้องถูกลงโทษนะ แต่ไม่ให้พนักงานหมดกำลังใจในการทำงาน
ถ้าคุณคิดว่าคุณสามารถจัดการเรื่องพวกนี้ได้ .. คุณก็น่าจะผ่าน JD ข้อนี้ได้เช่นกันค่ะ
และโดย Nature งานที่ชั่วโมงการทำงานอยู่ในห้างซึ่งเปิดให้บริการ 7 วันใน 1 สัปดาห์ ..
..ทำใจไว้ล่วงหน้าเลยว่า คุณจะไม่รู้จักคำว่า "เสาร์-อาทิตย์-นักขัตฤกษ์" เพราะวันเหล่านั้น ลูกค้าออกมาจับจ่าย
พาครอบครัวออกมากินอาหารดีๆ ในร้านของคุณ .. ลูกค้าจะหนาแน่นเป็นพิเศษ ..คุณและพนักงานจึงต้องมาทำงาน !
..อาจต้องทำงานเป็นกะ เพราะระยะเวลาห้างเปิด ถึงห้างปิด นั้นเกิน 8 ชั่วโมง
แถมร้านค้าต้องเตรียมอาหาร ห้างเปิด 10 โมง แต่กะเช้าอาจต้องเข้างานตั้งแต่ 8 โมง เลิกงาน 17.00
กะบ่ายอาจเข้าเที่ยง เลิกงาน 3 ทุ่ม .. แต่ management ชั่วโมงการทำงานอาจไม่ใช่ 8 ชั่วโมงแบบพนักงาน
เพราะความรับผิดชอบคือ การจัดการทุกเรื่องราวให้ผ่านพ้นไปได้อย่างเรียบร้อย
เช่น คุณเข้ากะเช้า 8.00 น. ควรเลิก 17.00 น. แต่ช่วงเวลานั้นลูกค้าเข้ามาใช้บริการเยอะมาก
spirit ของ ผจก. คือไม่อาจเดินหลับตาทำเป็นมองไม่เห็นว่าลูกค้าเต็มร้าน แล้วกลับบ้านเฉยเลยได้
..และระดับจัดการ ไม่รู้องค์กรคุณ จะเหมือนของน้ามั้ยนะ ..แต่ management ไม่มี OT จ้า
..ถ้ามีความสามารถทางภาษาต่างประเทศ จะมีภาษีดีมากค่ะ ..โอกาสความก้าวหน้าสูงเลยล่ะ
..ความรับผิดชอบ , ความอดทน , ความสามารถในการทำงานภายใต้ความกดดัน ,
ความซื่อสัตย์ ( เพราะมีเรื่องการเงินร้านเข้ามาเกี่ยวด้วย ) และภาวะผู้นำ เป็นคุณลักษณะที่ดีของการเป็น "ผู้จัดการ" ค่ะ
คหสต. ของน้านะ .. งานนี้น่าสนุก , ท้าทายความสามารถ และสามารถต่อยอดได้ในอนาคต
แต่คุณจะต้องอุทิศเวลาในการทำงาน มากกว่าที่คุณเคยตั้งเงื่อนไขเอาไว้ว่า ไม่อยากทำงานเกิน 8 ชั่วโมง
เพราะคุณต้องการการพักผ่อนอย่างเพียงพอ และมีเวลาเป็นของตัวเอง เพื่อทำโน่น ทำนี่
..ซึ่งคุณต้องเลือก ว่าจะเอาเวลาในชีวิตตอนนี้ ไปนอน หรือทำงาน ..
ที่น้าบอกข้างต้นมานี้ เป็นข้อมูลในพุงที่น้ามี ซึ่งมันจะตรงกับองค์กรที่คุณจะไปสัมภาษณ์บ้างหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจนะคะ
ไงก็อย่าเพิ่งใจฝ่อกับคำขู่ของน้าซะก่อนล่ะ ...555
..ไปสัมภาษณ์มาได้ความยังไง ..ก็มาเล่าให้น้าฟังบ้างนะคะ
โชคดีนะครับ
น้ามีรุ่นน้อง , ลูกน้องเก่า ที่ทำงานในสายงานร้านอาหารอยู่หลายคน
เท่าที่น้าทราบนะ ตำแหน่งงานผู้จัดการร้านอาหารนั้น JD ( Job Description ) หลักๆ ได้แก่
- ควบคุมมาตรฐานงานบริการลูกค้าหน้าร้าน
- ควบคุมมาตรฐานการผลิตสินค้า รวมถึงต้นทุนการผลิต
- กระตุ้นยอดขาย - รักษาฐานลูกค้า
- บริหารงานบุคคลในสาขา (ดูแลความไปเป็นของพนักงานในสาขา)
ผู้ช่วย ผจก.สาขา ..ก็คือช่วยงาน ผจก. ตาม JD ข้างบนนั่นแหล่ะค่ะ
น้าขอขยายความให้ ในฐานะที่ทำงานห้างมาหลายปี [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
..ถ้าคุณคิดว่าตัวเองมีใจรักในการให้บริการ มี service mind เต็มร้อย รู้ว่าลูกค้าเข้ามาใช้บริการพร้อมความคาดหวัง
ว่าจะได้รับบริการที่น่าพึงพอใจ ..และสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ..คุณจะผ่านข้อแรกได้สบายๆ
..ถ้าคุณคิดว่าสามารถเรียนรู้และมีความเข้าใจในกระบวนการผลิต ( ร้านอาหาร product ก็คือ อาหารนั่นแหล่ะค่ะ ) ได้ไม่ยาก
และสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ดี ..วิเคราะห์ตัวเลขในรายงานได้ ทำงานเอกสารได้ดี เพราะงานหลังร้าน paper / report เยอะแยะ
..น้าก็เชื่อว่าคุณจะสามารถผ่านข้อ 2 ได้
..ถ้าคุณสามารถนำความคิดสร้างสรรค์ทางด้านการสื่อสารมวลชน - งานโฆษณา - ประชาสัมพันธ์ ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา
มาใช้ในการกระตุ้นยอดขายของสาขาได้ .. คุณก็จะผ่านข้อ 3 ได้อย่างชิลล์ๆ
..และถ้าคุณรู้จักใช้ทักษะในการพูด และรู้จักใช้จิตวิทยาในการทำงานกับผู้คน ..
ไม่ว่าระหว่างคุณกับผู้บังคับบัญชา ( How to manage your boss ) หรือกับผู้ใต้บังคับบัญชา ..
รู้จักการพูดเพื่อจูงใจ เช่น ในการอบรมพนักงานสาขาให้เข้าใจและปฏิบัติตามทิศทางการดำเนินงานและเป้าหมายขององค์กร
รวมไปถึงจิตวิทยาในการพูดเพื่อให้รางวัล และการลงโทษ ..แน่นอนอยู่แล้วว่าในการทำงาน คนเราพลาดกันได้
แต่พลาดแล้ว มันมีบทลงโทษ ..และคนต้องลงโทษพนักงานสาขา ก็คือ ผจก.สาขา ( หรือ ผช. ผจก. )
เช่น คนที่ชอบขาด ลา มาสายเสมอ หรือแคชเชียร์ที่ทำเงินขาด ( เช่น ทอนเงินเกิน ) ..
คุณจะพูดกับพนักงานยังไง ว่าเค้าต้องถูกลงโทษนะ แต่ไม่ให้พนักงานหมดกำลังใจในการทำงาน
ถ้าคุณคิดว่าคุณสามารถจัดการเรื่องพวกนี้ได้ .. คุณก็น่าจะผ่าน JD ข้อนี้ได้เช่นกันค่ะ
และโดย Nature งานที่ชั่วโมงการทำงานอยู่ในห้างซึ่งเปิดให้บริการ 7 วันใน 1 สัปดาห์ ..
..ทำใจไว้ล่วงหน้าเลยว่า คุณจะไม่รู้จักคำว่า "เสาร์-อาทิตย์-นักขัตฤกษ์" เพราะวันเหล่านั้น ลูกค้าออกมาจับจ่าย
พาครอบครัวออกมากินอาหารดีๆ ในร้านของคุณ .. ลูกค้าจะหนาแน่นเป็นพิเศษ ..คุณและพนักงานจึงต้องมาทำงาน !
..อาจต้องทำงานเป็นกะ เพราะระยะเวลาห้างเปิด ถึงห้างปิด นั้นเกิน 8 ชั่วโมง
แถมร้านค้าต้องเตรียมอาหาร ห้างเปิด 10 โมง แต่กะเช้าอาจต้องเข้างานตั้งแต่ 8 โมง เลิกงาน 17.00
กะบ่ายอาจเข้าเที่ยง เลิกงาน 3 ทุ่ม .. แต่ management ชั่วโมงการทำงานอาจไม่ใช่ 8 ชั่วโมงแบบพนักงาน
เพราะความรับผิดชอบคือ การจัดการทุกเรื่องราวให้ผ่านพ้นไปได้อย่างเรียบร้อย
เช่น คุณเข้ากะเช้า 8.00 น. ควรเลิก 17.00 น. แต่ช่วงเวลานั้นลูกค้าเข้ามาใช้บริการเยอะมาก
spirit ของ ผจก. คือไม่อาจเดินหลับตาทำเป็นมองไม่เห็นว่าลูกค้าเต็มร้าน แล้วกลับบ้านเฉยเลยได้
..และระดับจัดการ ไม่รู้องค์กรคุณ จะเหมือนของน้ามั้ยนะ ..แต่ management ไม่มี OT จ้า
..ถ้ามีความสามารถทางภาษาต่างประเทศ จะมีภาษีดีมากค่ะ ..โอกาสความก้าวหน้าสูงเลยล่ะ
..ความรับผิดชอบ , ความอดทน , ความสามารถในการทำงานภายใต้ความกดดัน ,
ความซื่อสัตย์ ( เพราะมีเรื่องการเงินร้านเข้ามาเกี่ยวด้วย ) และภาวะผู้นำ เป็นคุณลักษณะที่ดีของการเป็น "ผู้จัดการ" ค่ะ
คหสต. ของน้านะ .. งานนี้น่าสนุก , ท้าทายความสามารถ และสามารถต่อยอดได้ในอนาคต
แต่คุณจะต้องอุทิศเวลาในการทำงาน มากกว่าที่คุณเคยตั้งเงื่อนไขเอาไว้ว่า ไม่อยากทำงานเกิน 8 ชั่วโมง
เพราะคุณต้องการการพักผ่อนอย่างเพียงพอ และมีเวลาเป็นของตัวเอง เพื่อทำโน่น ทำนี่
..ซึ่งคุณต้องเลือก ว่าจะเอาเวลาในชีวิตตอนนี้ ไปนอน หรือทำงาน ..
ที่น้าบอกข้างต้นมานี้ เป็นข้อมูลในพุงที่น้ามี ซึ่งมันจะตรงกับองค์กรที่คุณจะไปสัมภาษณ์บ้างหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจนะคะ
ไงก็อย่าเพิ่งใจฝ่อกับคำขู่ของน้าซะก่อนล่ะ ...555
..ไปสัมภาษณ์มาได้ความยังไง ..ก็มาเล่าให้น้าฟังบ้างนะคะ
โชคดีนะครับ
แสดงความคิดเห็น
>>> "ผู้ช่วยผู้จัดการร้านอาหาร" ทำหน้าที่อะไรบ้าง? <<<
ที่ตอบรับง่ายกับที่นี่ก็เพราะว่า เขาบอกตำแหน่งเราชัดเจน คือ "ผู้ช่วยผู้จัดการ" บอกเงินเดือนชัดเจน "หมื่นห้า" ผ่านโปรมีเพิ่มเงินเดือน
เรื่องการเดินทางไม่เป็นปัญหาเพราะจะบรจุให้สาขาใกล้บ้าน ทุกอย่างชัดเจนดี ผมก็เลยขอลองดู คิดว่าอาชีพนี้น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดี เพราะอาชีพบริการ ผมก็ชอบรองมาจากงานขีดๆเขียนๆของผมอยู่แล้ว
ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะครับ ที่เขาเปิดโอกาสให้บัณฑิตสื่อสารมวลชนเช่นผมเข้าไปสัมภาษณ์งาน ได้ไม่ได้ ไม่เป็นไร แต่ถ้าได้ก็จะเป็นโอกาสที่ดี
เพื่อการเตรียมพร้อม ผมจึงอยากทราบว่า ตำแหน่ง "ผู้ช่วยผู้จัดการร้านอาหาร" นี่ เขาทำหน้าที่อะไรบ้าง??
ขอขอบคุณทุกคำตอบล่วงหน้าครับ