หลังจากสิ้นสุดโปรคเจคพิเศษ (ที่เล่าไว้ในบท “จ้องจิก แทงข้างหลัง”..) นายใหญ่ก็มอบหมายให้ทำอีกหนึ่งโปรเจค เป็นการทำร่วมกันกับพี่ปวีณา (ชื่อสมมุติ) ซึ่งพี่ปวีณานี้จะสังกัดสำนักงานที่กรุงเทพฯ แต่บังเอิญว่าโปรเจคของพี่ปวีณาต้องลงพื้นที่เก็บข้อมูลกับคนไข้ในโรงพยาบาลชุมชน....
...,,......
ดังนั้น
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับพี่ปวีณา.... นายใหญ่จึงให้เราเป็นผู้ช่วยวิจัยในโปรเจคนี้
(ขออนุญาตเรียกมันว่าโปรคเจค X แล้วกันนะคะ)
........
และผลตอบแทนที่ฉันจะได้ในการเป็นผู้ช่วยวิจัยในโปรคเจคนี้ คือ การมีชื่อในงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในระดับนานาชาติ...
Oh!!....
โก้ๆๆๆ.....
รู้สึกดี...
รู้สึกว่า "win. Win" ทั้งคู่ ฉันจึงช่วยงานพี่ปวีณาอย่างเต็มที่
"พี่ปวีณา". เขียน "Proposal". วางแผนการวิจัย....
ส่วนเราเป็นผู้ประสานและจัดเตรียมพื้นที่ พร้อมทั้งอุปกรณ์ทุกๆๆๆ..... อย่าง...
ไม่ว่าจะเป็น.....
.......การติดต่อขอเก็บข้อมูลในโรงพยาบาล.......
......ยื่นเอกสาร ทำเรื่องขอให้ผู้อำนวยการและแพทย์ลงนามในโครงการวิจัย....
......สานความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่เพื่อให้การดำเนินงานสะดวกมากขึ้น...,
.......การทำเรื่องขอประวัติผู้ร่วมวิจัย......
.......ขอนัดประชุมกับทีมโรงพยาบาลเพื่อวางแผนการเก็บข้อมูล.....
.......สำเนาเอกสาร..... เย็บ.... เตรียมเอกสารที่จะต้อใช้ในการเก็บข้อมูล....
......จัดหาโปรเจคเตอร์แบะเครื่องเสียง......
.......และอื่นๆ อีกสารพัด...ฯลฯ...........ตามที่พี่ปวีณาสั่ง........
.............
และแล้วโครงการวิจัยก็เสร็จไป 50% แล้ว.
เย้ๆๆ. ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีจนกระทั้งวันที่จะต้องไปประชุมวางแผนเก็บข้อมูลกับโรงพยาบาลชุมชน
.........
อยู่ๆ หัวหน้าข้าวต้มก็ให้นางสตรอว์ ไปกับพวกเราด้วย....
จากประสบการณ์ในการทำโปรเจคพิเศษครั้งที่แล้ว.....
หากฉันไม่ทำอะไรสักอย่าง.... นางสตรอว์ต้องเข้ามาชุบมือเปิบแน่ๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้น....
พอเลิกประชุมปั๊บ.... เราส่งเมลล์ (Mail) ถึงนายใหญ่ทันที...
ส่งเมลล์... เพื่อเสนอว่า...
"หากจะให้นางสตรอว์ เข้ามาช่วยในโครงการนี้จริงๆ กรุณาให้นางได้ช่วยงานอย่างจริงจัง. เช่น เป็นล่ามช่วยแปลภาษาอีสานให้พี่ปวีณาฟัง (งานวิจัยชิ้นนี้เก็บข้อมูลกับคนไข้ชาวอีสาน) บริหารจัดการบัญชี. ซื้อขนมให้คนไข้หรือของตอบแทนให้เจ้าหน้าที่. เป็นผู้บันทึกการสนทนากลุ่ม หรือช่วยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ เป็นต้น"
อย่างน้อยๆ ก็น่าจะให้นางสตรอว์มีส่วนร่วมสัก 10% ก็ยังดี ....
แต่ข้อความที่นายใหญ่ตอบกลับมามีเพียงว่า......
"ไม่ใช่งานของสตรอว์ สตรอว์มีโปรเจคหลักที่ต้องทำอยู่แล้ว และเตรียมที่จะเปิดโปรเจคใหม่ ให้สตรอว์ไปด้วยเพื่อเรียนรู้ก็พอ"
อืมส์.....
อ่ะนะ.....
ในเมื่อเราเสนองานให้สตรอว์ได้มีส่วนร่วม.... แล้วนายใหญ่ไม่เห็นด้วย....
เราก็ทำตามที่นายสั่งโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ........
ดังนั้น.....
งานที่คิดว่าจะให้สตรอว์ช่วยทำ. ฉันนั้นแหล่ะต้องเป็นคนทำเองทั้งหมด....
แม้กระทั้งขั้นตอนสุดท้าย........
ฉันต้องนั่งฟังและถอดเทปการสนทนากลุ่มคนเดียวทั้งหมด!!!!
...............
เมื่อถอดเทปเสร็จแล้ว. ฉันก็ส่งข้อมูลดิบให้พี่ปวีณาเพื่อสังเคราะห์ผลการวิจัยออกมา
และขั้นตอนสุดท้าย.... คือ เขียนโครงร่างงานวิจัยที่จะส่งตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศ......
ก่อนส่งตีพิมพ์.... พี่ปวีณาก็ส่งโครงร่างงานวิจัยกลับคืนมาให้ช่วยตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง.....
ชื่อผู้วิจัย... ชื่อพี่ปวีณาคนแรก. ต่อมาก็ชื่อฉัน. ส่วนอีกชื่อที่ปรากฏอยู่ในงานวิจัยชิ้นนี้ คือ ชื่อของนางสตรอว์!!!!
...........เจี้ย!!!!.......... มาก.........
😠😠😠😡😡😡😡😡😤😤😤😖😖😖😖
ไหนว่างานนี้ไม่ใช่งานของนางสตรอว์ไงว่า
แล้วชื่อของมันอยู่ในผู้ทำวิจัยได้ไงเนี๊ยะ!!!!!
..........แ-ร่งเอ้ย!!!......
แค่ยกน้ำ... เสริฟขนม... ประจบเจ้านาย... ทำแค่เนี๊ยะ!!! แล้วมีชื่อในผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ.......
เหอะ!!! อยากรู้นักว่า "มันน่าภูมิใจมากหรือไง" หะ!!!
ตรูอยากจะตะโกนให้ได้ยินถึงนรกไปเลย!!!... ว่า
ไอ้คนที่มีชื่อในวารสารที่ตีพิมพ์ระดับนานาชาติ...นะ.... มันมีส่วนร่วมแค่หางอึ่ง!!!!!
เย๋ย!!!!!!
ย้ากกกกกก..........
.,,.,,..............(คือ ทำอะไรไม่ได้. นอกจากระบายให้ท่านผู้อ่านฟัง.... แง๋ๆๆๆๆ. เรื่องมันเศร้า. 😩😩😩😫)................
....................................................
นี่หล่ะคะพี่น้อง...... สุดยอดความเป็นเลิศของนางสตรอว์... ที่สามารถทำให้ผลงานของคนอื่นมาเป็นของตนได้โดยบริสุทธิ์มากๆๆๆๆ. โอ๊ะ... ขออภัยต้องบอกว่า "บริสุทธิ์มากที่สุด". เพราะเจ้านายเป็นคนยกผลงานของฉันให้นางแบบซึ้งๆๆๆ. หน้า.....
................................
พอเจอเหตุการณ์นี้..... แล้วรู้สึกว่า..... "ความขลัง" ของวารสารต่างประเทศระดับนานาชาติลดลงไปทันที... ใครจะคิดว่าคนที่ช่วยงานนิดๆ หน่อยๆ จะมีชื่อเป็นคนทำวิจัยได้ด้วย.......
เอ่อ....... อนิจจา........ โลกของความเป็นจริงมันเป็นเช่นนี้เอง......
นี่แหล่ะนา.... เป็นบ่อเกิดของคำว่า...... "ไถ่งานเป็นหลังคน" !!!!
..........
พอจบเรื่องนี้. ผู้เขียนรู้สึกว่า... มีเขางอกออกมาบนหัวยังไงยังงั้น....
....เหอๆๆๆ.... 😳😳😳😳😰😪
..................
เหตุการณ์นี้.....สอนให้รู้ว่า.......
เรื่องบางเรื่อง.... ถ้าเราพยายามทำดีที่สุดแล้ว. แต่ถ้าเขายังเอาเปรียบเราได้ลงคอ.... ก็ปล่อยเขาไปเถอะ!!!
คิดอย่างเดียวว่า.... "ช่างหัวมัน". แล้วก็อโหสิกรรม ให้ก็พอ....
พูดง่ายๆ คือ ทำใจ คะ ทำใจ
เพราะคุณค่าของการทำงาน... มันเกิดที่ตัวเรา.... ใครทำใครได้..... มันเป็นเช่นนั้นเอง......
..........................
สู้ต่อไปค่ะ....... มนุษย์เงินเดือนทุกท่าน!!!
สู้ๆๆๆ. เป็นกำลังให้คนทำงาน. เพื่อสร้างคุณค่าให้ตนเองเสมอคะ. สู้!!!!
ติดตามตอนต่อไป.... ได้ที่ลิงค์นี้จร้า....
http://writer.dek-d.com/yaifun/writer/viewlongc.php?id=1067525&chapter=15
ประสบการณ์ลับ!! การตีพิมพ์ผลงานวิจัยระดับนานาชาติ!!!
...,,......
ดังนั้น
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับพี่ปวีณา.... นายใหญ่จึงให้เราเป็นผู้ช่วยวิจัยในโปรเจคนี้
(ขออนุญาตเรียกมันว่าโปรคเจค X แล้วกันนะคะ)
........
และผลตอบแทนที่ฉันจะได้ในการเป็นผู้ช่วยวิจัยในโปรคเจคนี้ คือ การมีชื่อในงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในระดับนานาชาติ...
Oh!!....
โก้ๆๆๆ.....
รู้สึกดี...
รู้สึกว่า "win. Win" ทั้งคู่ ฉันจึงช่วยงานพี่ปวีณาอย่างเต็มที่
"พี่ปวีณา". เขียน "Proposal". วางแผนการวิจัย....
ส่วนเราเป็นผู้ประสานและจัดเตรียมพื้นที่ พร้อมทั้งอุปกรณ์ทุกๆๆๆ..... อย่าง...
ไม่ว่าจะเป็น.....
.......การติดต่อขอเก็บข้อมูลในโรงพยาบาล.......
......ยื่นเอกสาร ทำเรื่องขอให้ผู้อำนวยการและแพทย์ลงนามในโครงการวิจัย....
......สานความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่เพื่อให้การดำเนินงานสะดวกมากขึ้น...,
.......การทำเรื่องขอประวัติผู้ร่วมวิจัย......
.......ขอนัดประชุมกับทีมโรงพยาบาลเพื่อวางแผนการเก็บข้อมูล.....
.......สำเนาเอกสาร..... เย็บ.... เตรียมเอกสารที่จะต้อใช้ในการเก็บข้อมูล....
......จัดหาโปรเจคเตอร์แบะเครื่องเสียง......
.......และอื่นๆ อีกสารพัด...ฯลฯ...........ตามที่พี่ปวีณาสั่ง........
.............
และแล้วโครงการวิจัยก็เสร็จไป 50% แล้ว.
เย้ๆๆ. ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีจนกระทั้งวันที่จะต้องไปประชุมวางแผนเก็บข้อมูลกับโรงพยาบาลชุมชน
.........
อยู่ๆ หัวหน้าข้าวต้มก็ให้นางสตรอว์ ไปกับพวกเราด้วย....
จากประสบการณ์ในการทำโปรเจคพิเศษครั้งที่แล้ว.....
หากฉันไม่ทำอะไรสักอย่าง.... นางสตรอว์ต้องเข้ามาชุบมือเปิบแน่ๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้น....
พอเลิกประชุมปั๊บ.... เราส่งเมลล์ (Mail) ถึงนายใหญ่ทันที...
ส่งเมลล์... เพื่อเสนอว่า...
"หากจะให้นางสตรอว์ เข้ามาช่วยในโครงการนี้จริงๆ กรุณาให้นางได้ช่วยงานอย่างจริงจัง. เช่น เป็นล่ามช่วยแปลภาษาอีสานให้พี่ปวีณาฟัง (งานวิจัยชิ้นนี้เก็บข้อมูลกับคนไข้ชาวอีสาน) บริหารจัดการบัญชี. ซื้อขนมให้คนไข้หรือของตอบแทนให้เจ้าหน้าที่. เป็นผู้บันทึกการสนทนากลุ่ม หรือช่วยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ เป็นต้น"
อย่างน้อยๆ ก็น่าจะให้นางสตรอว์มีส่วนร่วมสัก 10% ก็ยังดี ....
แต่ข้อความที่นายใหญ่ตอบกลับมามีเพียงว่า......
"ไม่ใช่งานของสตรอว์ สตรอว์มีโปรเจคหลักที่ต้องทำอยู่แล้ว และเตรียมที่จะเปิดโปรเจคใหม่ ให้สตรอว์ไปด้วยเพื่อเรียนรู้ก็พอ"
อืมส์.....
อ่ะนะ.....
ในเมื่อเราเสนองานให้สตรอว์ได้มีส่วนร่วม.... แล้วนายใหญ่ไม่เห็นด้วย....
เราก็ทำตามที่นายสั่งโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ........
ดังนั้น.....
งานที่คิดว่าจะให้สตรอว์ช่วยทำ. ฉันนั้นแหล่ะต้องเป็นคนทำเองทั้งหมด....
แม้กระทั้งขั้นตอนสุดท้าย........
ฉันต้องนั่งฟังและถอดเทปการสนทนากลุ่มคนเดียวทั้งหมด!!!!
...............
เมื่อถอดเทปเสร็จแล้ว. ฉันก็ส่งข้อมูลดิบให้พี่ปวีณาเพื่อสังเคราะห์ผลการวิจัยออกมา
และขั้นตอนสุดท้าย.... คือ เขียนโครงร่างงานวิจัยที่จะส่งตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศ......
ก่อนส่งตีพิมพ์.... พี่ปวีณาก็ส่งโครงร่างงานวิจัยกลับคืนมาให้ช่วยตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง.....
ชื่อผู้วิจัย... ชื่อพี่ปวีณาคนแรก. ต่อมาก็ชื่อฉัน. ส่วนอีกชื่อที่ปรากฏอยู่ในงานวิจัยชิ้นนี้ คือ ชื่อของนางสตรอว์!!!!
...........เจี้ย!!!!.......... มาก.........
😠😠😠😡😡😡😡😡😤😤😤😖😖😖😖
ไหนว่างานนี้ไม่ใช่งานของนางสตรอว์ไงว่า
แล้วชื่อของมันอยู่ในผู้ทำวิจัยได้ไงเนี๊ยะ!!!!!
..........แ-ร่งเอ้ย!!!......
แค่ยกน้ำ... เสริฟขนม... ประจบเจ้านาย... ทำแค่เนี๊ยะ!!! แล้วมีชื่อในผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ.......
เหอะ!!! อยากรู้นักว่า "มันน่าภูมิใจมากหรือไง" หะ!!!
ตรูอยากจะตะโกนให้ได้ยินถึงนรกไปเลย!!!... ว่า
ไอ้คนที่มีชื่อในวารสารที่ตีพิมพ์ระดับนานาชาติ...นะ.... มันมีส่วนร่วมแค่หางอึ่ง!!!!!
เย๋ย!!!!!!
ย้ากกกกกก..........
.,,.,,..............(คือ ทำอะไรไม่ได้. นอกจากระบายให้ท่านผู้อ่านฟัง.... แง๋ๆๆๆๆ. เรื่องมันเศร้า. 😩😩😩😫)................
....................................................
นี่หล่ะคะพี่น้อง...... สุดยอดความเป็นเลิศของนางสตรอว์... ที่สามารถทำให้ผลงานของคนอื่นมาเป็นของตนได้โดยบริสุทธิ์มากๆๆๆๆ. โอ๊ะ... ขออภัยต้องบอกว่า "บริสุทธิ์มากที่สุด". เพราะเจ้านายเป็นคนยกผลงานของฉันให้นางแบบซึ้งๆๆๆ. หน้า.....
................................
พอเจอเหตุการณ์นี้..... แล้วรู้สึกว่า..... "ความขลัง" ของวารสารต่างประเทศระดับนานาชาติลดลงไปทันที... ใครจะคิดว่าคนที่ช่วยงานนิดๆ หน่อยๆ จะมีชื่อเป็นคนทำวิจัยได้ด้วย.......
เอ่อ....... อนิจจา........ โลกของความเป็นจริงมันเป็นเช่นนี้เอง......
นี่แหล่ะนา.... เป็นบ่อเกิดของคำว่า...... "ไถ่งานเป็นหลังคน" !!!!
..........
พอจบเรื่องนี้. ผู้เขียนรู้สึกว่า... มีเขางอกออกมาบนหัวยังไงยังงั้น....
....เหอๆๆๆ.... 😳😳😳😳😰😪
..................
เหตุการณ์นี้.....สอนให้รู้ว่า.......
เรื่องบางเรื่อง.... ถ้าเราพยายามทำดีที่สุดแล้ว. แต่ถ้าเขายังเอาเปรียบเราได้ลงคอ.... ก็ปล่อยเขาไปเถอะ!!!
คิดอย่างเดียวว่า.... "ช่างหัวมัน". แล้วก็อโหสิกรรม ให้ก็พอ....
พูดง่ายๆ คือ ทำใจ คะ ทำใจ
เพราะคุณค่าของการทำงาน... มันเกิดที่ตัวเรา.... ใครทำใครได้..... มันเป็นเช่นนั้นเอง......
..........................
สู้ต่อไปค่ะ....... มนุษย์เงินเดือนทุกท่าน!!!
สู้ๆๆๆ. เป็นกำลังให้คนทำงาน. เพื่อสร้างคุณค่าให้ตนเองเสมอคะ. สู้!!!!
ติดตามตอนต่อไป.... ได้ที่ลิงค์นี้จร้า....
http://writer.dek-d.com/yaifun/writer/viewlongc.php?id=1067525&chapter=15