ดิฉันมาแชร์ประสบการณ์ให้กับเพื่อนๆ ตอนนี้อายุ 44 ย่าง 45 ปี สายตายาว สวมแว่นขณะอ่านหนังสือ เมื่อตอนอายุ 40 ปี ได้ไปตรวจสายตาแล้วพบว่ามีมุมตาแคบ คุณหมออธิบาย แต่ไม่ค่อยเข้าใจคิดว่าไม่อันตราย เพราะตาเราก็ยังมองเห็นปกติ ไม่มีอาการอื่น แค่หนังสือระยะใกล้เบลอไม่ชัด จนมาตอนนี้ 44 ปี มองที่แสงไฟ จะเห็นมีจุดดำลอยไปมาตามการเคลื่อนไหวของลูกตา ทราบว่าเป็นอาการของน้ำวุ้นในตาเสื่อม แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการมองเห็น เพียงแค่รำคาญเวลาเห็น กรณีตั้งใจจ้องมองที่สว่าง ก็เลยได้มีโอกาสเข้าไปตรวจตาที่จักษุรัตนิน และพบว่าเป็นน้ำวุ้นในตาเสื่อม ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ แต่ดิฉันมีปัญหามุมตาแคบ ซึ่งจะทำให้มีภาวะเป็นต้อหินมุมปิดชนิดเฉียบพลัน ถึงขั้นตาบอดได้ อีกทั้งยังมีเซลล์กระจกตาอ่อนแอ หรือเสื่อมนั่นเอง คุณหมอจึงแนะนำว่าควรทำการเลเซอร์เจาะรูม่านตา เพื่อทำให้การระบายน้ำในลูกตาทำได้ดีและไม่เกิดภาวะความดันในตาสูง แต่ขอให้คุณหมอด้านกระจกตา ตรวจดูกระจกตาก่อนที่จะนัดทำเลเซอร์
ดิฉันได้พบหมอกระจกตา ก็แจ้งว่าเซลล์กระจกตาไม่แข็งแรง เสื่อมตามอายุ แต่อย่างไรก็แนะนำให้ทำการเลเซอร์เจาะรูม่านตา จึงได้ทำการนัดทำเลเซอร์วันที่ 16 มค 57
วันนัดทำเลเซอร์ ทำตาซ้ายเพียงข้างเดียวก่อน เริ่มต้นด้วยการหยอดยาหดรูม่านตา ประมาณ 1 ชม ก่อนเลเซอร์ ได้ถามคุณหมอว่าความดันตาปกติ ไม่สามารถเริ่มการรักษาด้วยการหยอดยาที่ดวงตาหรือ คุณหมอแจ้งว่า การหยอดตาทำได้กับผู้ป่วยที่เป็นต้อหินแล้ว แต่ case ดิฉันยังไม่เป็นต้อหิน แค่มีมุมตาแคบ เสี่ยงเป็นต้อหินมุมปิด วิธีป้องกันที่ดีสุดคือการทำเลเซอร์ LPI เจาะรูม่านตา คุยกันเรียบร้อย ก็เริ่มการทำเลเซอร์ โดยจะมีการยิง 2 เครื่อง เครื่องแรกมีแสงสีออกฟ้าๆ ถัดมาก็มายิงเครื่องเลเซอร์ซึ่งมีแสงสีออกแดงๆ คุณหมอบอกว่าอย่าดึงศรีษะออกขณะเลเซอร์ มองไปตามทางที่คุณหมอแจ้ง ดิฉันถูกยิงเลเซอร์ด้วยจำนวน 11 ครั้ง คุณหมอว่าก็ Ok นะ การจำนวนครั้งในการยิงก็มีส่วนทำลายเซลล์ในตาได้ ยิงน้อยจะดีที่สุด ใช้เวลา 2 เครื่องไม่ถึง 10 นาที จากนั้นก็หยอดตาให้ก่อนรับยาหยอดแล้วกลับบ้าน ไม่มีการปิดดวงตา คุณหมอแจ้งสามารถทำกิจกรรมทุกอย่างได้หมด แต่เราคิดว่าวันแรกงดกิจกรรมดีกว่าเพื่อความปลอดภัย
ยาหยอดที่รับกลับบ้านคือ PRED FORTE 1% (5 ml) ให้หยอด 4 ครั้ง ครั้งละ 1 หยด เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน 5 วัน จากนั้นลดเหลือ 2 ครั้ง เช้า - เย็น ต่อเนื่องอีก 5 วัน แล้วเลิกหยอด นัดพบคุณหมออีก 2 อาทิตย์
วันนี้ 21 มค 57 ตาก็ยังมองเห็นปกติ ไม่รู้สึกว่าทำเลเซอร์มา รอวันนัดคุณหมอว่าถ้าตา ok จะทำการขยายม่านตา เพื่อตรวจในลูกตารวมถึงจอประสาทตา แล้วจะมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะ
หมายเหตุ: วันนัดทำเลเซอร์ ไม่ควรขับรถมา
การทำเลเซอร์ ไม่เจ็บเลย นั่งต่อหน้าคุณหมอ จ้องตาเราผ่านกล้องและทำการเลเซอร์
ตอนหยอดตาหดรูม่านตา ก่อนเลเซอร์ สังเกตได้ว่าข้างที่หยอดยา จะมองเห็นแสงอ่อนลง ถ้าเทียบกับด้านที่ไม่ได้หยอด
ทำการเลเซอร์เจาะรูม่านตากับคุณหมอหทัยรัตน์ จักษุรัตนิน ชำนาญต้อหิน ให้ข้อมูลกับคนไข้ดีมาก
คนที่มีมุมตาแคบมากๆ ช่องระบายน้ำในลูกตาจะทำได้ไม่ดี และอาจเป็นต้อหินมุมปิดเฉียบพลันได้ ถ้าไม่เจาะรูม่านตา จะไม่สามารถหยอดยาขยายม่านตาได้ เพราะมันเสี่ยงและอันตราย เพราะการขยายม่านตาอาจทำให้มุมที่แคบปิดลงเฉียบพลันได้
หลังจากทำเลเซอร์ จึงคิดว่าถ้ามีโอกาสเป็น เราสามารถเลือกที่จะป้องกันภาวะมุมตาแคบ โดยความดันตาปกติ ได้โดยการเลเซอร์ เจาะรูม่านตา ซึ่งถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดและปลอดภัย
ที่ดิฉันมาแชร์ให้เพื่อนๆอ่านกัน เพราะตอนที่ตรวจพบ ดิฉันมาหาข้อมูลในเน็ตไม่มีข้อมูลที่คนไปเลเซอร์มา มาเล่าให้ฟังเลย ดิฉันแค่ระแวงว่า ทำให้ความดันตาปกติ มองอะไรก็ยังปกติ แค่มุมตาแคบ ทำให้ต้องเลเซอร์ ซึ่งไปพบหมอมาทั้งหมด 3 ท่าน เพื่อตรวจให้แน่ใจ จึงพบคำตอบว่า เลเซอร์ป้องกันได้ดีที่สุด เพราะถ้าเป็นแล้ว รักษายากกว่ามาก
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่มีภาวะมุมตาแคบ อย่างดิฉัน จะได้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจและไม่เกิดความกลัวที่จะได้รับการทำเลเซอร์ค่ะ
[SR] การทำเลเซอร์ LPI (Laser Peripheral Iridotomy) ตรวจพบมุมตาแคบ ในภาวะความดันตาปกติ
ดิฉันได้พบหมอกระจกตา ก็แจ้งว่าเซลล์กระจกตาไม่แข็งแรง เสื่อมตามอายุ แต่อย่างไรก็แนะนำให้ทำการเลเซอร์เจาะรูม่านตา จึงได้ทำการนัดทำเลเซอร์วันที่ 16 มค 57
วันนัดทำเลเซอร์ ทำตาซ้ายเพียงข้างเดียวก่อน เริ่มต้นด้วยการหยอดยาหดรูม่านตา ประมาณ 1 ชม ก่อนเลเซอร์ ได้ถามคุณหมอว่าความดันตาปกติ ไม่สามารถเริ่มการรักษาด้วยการหยอดยาที่ดวงตาหรือ คุณหมอแจ้งว่า การหยอดตาทำได้กับผู้ป่วยที่เป็นต้อหินแล้ว แต่ case ดิฉันยังไม่เป็นต้อหิน แค่มีมุมตาแคบ เสี่ยงเป็นต้อหินมุมปิด วิธีป้องกันที่ดีสุดคือการทำเลเซอร์ LPI เจาะรูม่านตา คุยกันเรียบร้อย ก็เริ่มการทำเลเซอร์ โดยจะมีการยิง 2 เครื่อง เครื่องแรกมีแสงสีออกฟ้าๆ ถัดมาก็มายิงเครื่องเลเซอร์ซึ่งมีแสงสีออกแดงๆ คุณหมอบอกว่าอย่าดึงศรีษะออกขณะเลเซอร์ มองไปตามทางที่คุณหมอแจ้ง ดิฉันถูกยิงเลเซอร์ด้วยจำนวน 11 ครั้ง คุณหมอว่าก็ Ok นะ การจำนวนครั้งในการยิงก็มีส่วนทำลายเซลล์ในตาได้ ยิงน้อยจะดีที่สุด ใช้เวลา 2 เครื่องไม่ถึง 10 นาที จากนั้นก็หยอดตาให้ก่อนรับยาหยอดแล้วกลับบ้าน ไม่มีการปิดดวงตา คุณหมอแจ้งสามารถทำกิจกรรมทุกอย่างได้หมด แต่เราคิดว่าวันแรกงดกิจกรรมดีกว่าเพื่อความปลอดภัย
ยาหยอดที่รับกลับบ้านคือ PRED FORTE 1% (5 ml) ให้หยอด 4 ครั้ง ครั้งละ 1 หยด เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน 5 วัน จากนั้นลดเหลือ 2 ครั้ง เช้า - เย็น ต่อเนื่องอีก 5 วัน แล้วเลิกหยอด นัดพบคุณหมออีก 2 อาทิตย์
วันนี้ 21 มค 57 ตาก็ยังมองเห็นปกติ ไม่รู้สึกว่าทำเลเซอร์มา รอวันนัดคุณหมอว่าถ้าตา ok จะทำการขยายม่านตา เพื่อตรวจในลูกตารวมถึงจอประสาทตา แล้วจะมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะ
หมายเหตุ: วันนัดทำเลเซอร์ ไม่ควรขับรถมา
การทำเลเซอร์ ไม่เจ็บเลย นั่งต่อหน้าคุณหมอ จ้องตาเราผ่านกล้องและทำการเลเซอร์
ตอนหยอดตาหดรูม่านตา ก่อนเลเซอร์ สังเกตได้ว่าข้างที่หยอดยา จะมองเห็นแสงอ่อนลง ถ้าเทียบกับด้านที่ไม่ได้หยอด
ทำการเลเซอร์เจาะรูม่านตากับคุณหมอหทัยรัตน์ จักษุรัตนิน ชำนาญต้อหิน ให้ข้อมูลกับคนไข้ดีมาก
คนที่มีมุมตาแคบมากๆ ช่องระบายน้ำในลูกตาจะทำได้ไม่ดี และอาจเป็นต้อหินมุมปิดเฉียบพลันได้ ถ้าไม่เจาะรูม่านตา จะไม่สามารถหยอดยาขยายม่านตาได้ เพราะมันเสี่ยงและอันตราย เพราะการขยายม่านตาอาจทำให้มุมที่แคบปิดลงเฉียบพลันได้
หลังจากทำเลเซอร์ จึงคิดว่าถ้ามีโอกาสเป็น เราสามารถเลือกที่จะป้องกันภาวะมุมตาแคบ โดยความดันตาปกติ ได้โดยการเลเซอร์ เจาะรูม่านตา ซึ่งถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดและปลอดภัย
ที่ดิฉันมาแชร์ให้เพื่อนๆอ่านกัน เพราะตอนที่ตรวจพบ ดิฉันมาหาข้อมูลในเน็ตไม่มีข้อมูลที่คนไปเลเซอร์มา มาเล่าให้ฟังเลย ดิฉันแค่ระแวงว่า ทำให้ความดันตาปกติ มองอะไรก็ยังปกติ แค่มุมตาแคบ ทำให้ต้องเลเซอร์ ซึ่งไปพบหมอมาทั้งหมด 3 ท่าน เพื่อตรวจให้แน่ใจ จึงพบคำตอบว่า เลเซอร์ป้องกันได้ดีที่สุด เพราะถ้าเป็นแล้ว รักษายากกว่ามาก
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่มีภาวะมุมตาแคบ อย่างดิฉัน จะได้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจและไม่เกิดความกลัวที่จะได้รับการทำเลเซอร์ค่ะ