คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ทำไมหมอไม่แนะนำให้ทานชุบไก่สกัด มาดูกัน(จากgoogle)
เรามาดูกันว่า ซุปไก่สกัด 1 ขวดมีอะไรบ้าง
คุณค่าทาง โภชนาการ
ซุปไก่ขวดเล็ก ปริมาณ 42 cc.
เทียบกับ
นมสด UHT ปริมาน 42 cc.
สารอาหาร ซุปไก่ นมสด
------------------------------------------------------------------------
พลังงาน (กิโลแคลลอรี่) 13.4 25.9
น้ำ (กรัม) 32.2 37.9
โปรตีน(กรัม) 3.4 1.4
ไขมัน (กรัม) 0 1.3
น้ำตาล(กรัม) 0 2.1
แคลเซี่ยม(มล.) 1.4 43.4
ฟอสฟอรัส(มล.) 30.2 42
เหล็ก (มล.) 0.08 0.04
โซเดียม(มล.) 37.8 -
โพแทสเซี่ยม(มล.) 105 -
วิตามินบี2 (มล.) 0.04 0.06
ไนอาซิน(มล.) 21 0.04
ดูๆแล้วไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ราคาต่างกันมาก
และตรงโพแทสเซี่ยมที่ในนมไม่มีนั้นไม่มีปัญหา
โพแทสเซียมนั้นมีอยู่ในอาหารเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะในเนื้อสัตว์ต่างๆ และผักผลไม้ ทุเรียน ลำไย กล้วย หัวผลี ผักชี ต้นกระเทียม โหระพา หน่อไม้ฝรั่ง หอมแดง มะเขือเปราะ ผักกวางตุ้ง เห็ดฟาง แครอท มะเขือพวง ผักบุ้งไทย ผักและผลไม้ที่มีโพแทสเซียมปานกลาง เช่น สับปะรด ฝรั่ง เงาะ ส้ม มะม่วง องุ่น ลิ้นจี่ แอปเปิด ขนุน มะละกอ เห็ดนางฟ้า ฟักเขียว ผักกาดขาว มะเขือยาว มะละกอดิบ พริกหยวก ผักบุ้งจีน
ดังนั้นคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ขาดโพแทสเซี่ยมอยู่แล้ว
อ้อ โพแทสเซียมคือ แร่ธาตุที่เป็นเกลือแร่ และเป็นส่วนประกอบของเซลล์ทุกเซลล์ หน้าที่ของโพแทสเซียมนอกจากเป็นส่วนประกอบของเซลล์แล้ว ยังช่วยควบคุมความดันออสโมติกภายในเซลล์ ช่วยรักษาความสมดุลของน้ำและความเป็นกรดด่างของร่างกาย ช่วยในการหดตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยในการนำกระแสไฟฟ้าของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยในการทำงานของเอนไซม์ภายในเซลล์ โดยเฉพาะการสลายกลูโคสและการเผาผลาญพลังงาน
และอีกตัวคือโซเดียม โซเดียมมีอยู่ในอาหารรสเค็ม หรือ อาหารที่มีส่วนผสมของเกลืออยู่แล้ว เช่น เกลือแกง ซีอิ้ว เครื่องปรุงรสต่างๆ ดังนั้นหากคนที่กินข้าวธรรมดาๆไม่มีทางขาด
โซเดียมคือ เกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย มีหน้าที่ควบคุมความดันออสโมติก (Osmotic pressure) คือ แรงดันของของเหลวที่ไหลเข้าออกระหว่างภายนอกกับภายในเซลล์ผ่านเยื่อหุ้ม เซลล์ เพื่อรักษาปริมาตรของน้ำนอกเซลล์และช่วยในการรักษาความเป็นกรดด่างของร่าง กาย ช่วยในการนำกระแสไฟฟ้าของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยในการนำกลูโคสและกรดอะมิโนเข้าสู่เซลล์
---------------------------------------------------------
ดังนั้นจึงขอสรุปว่า ที่แพทย์ไม่แนะนำ หรือสั่งให้กิน เพราะไม่มีความจำเป็นครับ
ในโฆษณาที่กินแล้วปิ้งๆ เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ
การดื่มนมวันละ 250 cc (1 กล่อง) ก็ได้คุณค่าทางอาหารมากกว่า ซุปไก่สกัดหลายเท่า แถมถูกกว่า
เรามาดูกันว่า ซุปไก่สกัด 1 ขวดมีอะไรบ้าง
คุณค่าทาง โภชนาการ
ซุปไก่ขวดเล็ก ปริมาณ 42 cc.
เทียบกับ
นมสด UHT ปริมาน 42 cc.
สารอาหาร ซุปไก่ นมสด
------------------------------------------------------------------------
พลังงาน (กิโลแคลลอรี่) 13.4 25.9
น้ำ (กรัม) 32.2 37.9
โปรตีน(กรัม) 3.4 1.4
ไขมัน (กรัม) 0 1.3
น้ำตาล(กรัม) 0 2.1
แคลเซี่ยม(มล.) 1.4 43.4
ฟอสฟอรัส(มล.) 30.2 42
เหล็ก (มล.) 0.08 0.04
โซเดียม(มล.) 37.8 -
โพแทสเซี่ยม(มล.) 105 -
วิตามินบี2 (มล.) 0.04 0.06
ไนอาซิน(มล.) 21 0.04
ดูๆแล้วไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ราคาต่างกันมาก
และตรงโพแทสเซี่ยมที่ในนมไม่มีนั้นไม่มีปัญหา
โพแทสเซียมนั้นมีอยู่ในอาหารเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะในเนื้อสัตว์ต่างๆ และผักผลไม้ ทุเรียน ลำไย กล้วย หัวผลี ผักชี ต้นกระเทียม โหระพา หน่อไม้ฝรั่ง หอมแดง มะเขือเปราะ ผักกวางตุ้ง เห็ดฟาง แครอท มะเขือพวง ผักบุ้งไทย ผักและผลไม้ที่มีโพแทสเซียมปานกลาง เช่น สับปะรด ฝรั่ง เงาะ ส้ม มะม่วง องุ่น ลิ้นจี่ แอปเปิด ขนุน มะละกอ เห็ดนางฟ้า ฟักเขียว ผักกาดขาว มะเขือยาว มะละกอดิบ พริกหยวก ผักบุ้งจีน
ดังนั้นคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ขาดโพแทสเซี่ยมอยู่แล้ว
อ้อ โพแทสเซียมคือ แร่ธาตุที่เป็นเกลือแร่ และเป็นส่วนประกอบของเซลล์ทุกเซลล์ หน้าที่ของโพแทสเซียมนอกจากเป็นส่วนประกอบของเซลล์แล้ว ยังช่วยควบคุมความดันออสโมติกภายในเซลล์ ช่วยรักษาความสมดุลของน้ำและความเป็นกรดด่างของร่างกาย ช่วยในการหดตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยในการนำกระแสไฟฟ้าของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยในการทำงานของเอนไซม์ภายในเซลล์ โดยเฉพาะการสลายกลูโคสและการเผาผลาญพลังงาน
และอีกตัวคือโซเดียม โซเดียมมีอยู่ในอาหารรสเค็ม หรือ อาหารที่มีส่วนผสมของเกลืออยู่แล้ว เช่น เกลือแกง ซีอิ้ว เครื่องปรุงรสต่างๆ ดังนั้นหากคนที่กินข้าวธรรมดาๆไม่มีทางขาด
โซเดียมคือ เกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย มีหน้าที่ควบคุมความดันออสโมติก (Osmotic pressure) คือ แรงดันของของเหลวที่ไหลเข้าออกระหว่างภายนอกกับภายในเซลล์ผ่านเยื่อหุ้ม เซลล์ เพื่อรักษาปริมาตรของน้ำนอกเซลล์และช่วยในการรักษาความเป็นกรดด่างของร่าง กาย ช่วยในการนำกระแสไฟฟ้าของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยในการนำกลูโคสและกรดอะมิโนเข้าสู่เซลล์
---------------------------------------------------------
ดังนั้นจึงขอสรุปว่า ที่แพทย์ไม่แนะนำ หรือสั่งให้กิน เพราะไม่มีความจำเป็นครับ
ในโฆษณาที่กินแล้วปิ้งๆ เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ
การดื่มนมวันละ 250 cc (1 กล่อง) ก็ได้คุณค่าทางอาหารมากกว่า ซุปไก่สกัดหลายเท่า แถมถูกกว่า
สมาชิกหมายเลข 6758056 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 967479 ถูกใจ, ทานูกิตัวอ้วน ถูกใจ, jazzzero ถูกใจ, hamzabahrain ถูกใจ, วิวเฟรโด้โกเมส ซานวาดอซานเชส ทึ่ง
แสดงความคิดเห็น
เคยได้ยินมาว่า ซุปไก่สกัด ที่เรานิยมซื้อกันเป็นของขวัญปีใหม่ ประโยชน์น้อยมากจริงหรือ ?
ซุปไก่สกัดที่เราเห็นขายกันอย่างมากมายนั้น แท้ที่จริงได้จากการนำไก่ไปนึ่งเป็น เวลานานๆ จนมีน้ำออกมาจากตัวไก่ แล้วนำน้ำที่ได้ไปเคี่ยวให้เข้มข้นแล้วเอาไขมันออก กลายมาเป็นซุปไก่สกัด<br />
ซุปไก่สกัดนี้ มีการโฆษณาว่าเป็นอาหารเสริมบำรุงกำลังเหมาะกับทุกเพศทุกวัย มีการกล่าวอ้างถึงสถาบันในต่างประเทศเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของสินค้ารวมไปถึง การใช้กลยุทธ์ทางการโฆษณาโดยใช้ดารานักแสดงเพื่อดึงดูดความสนใจและโน้มน้าวให้เกิดความเชื่อถือในผลิตภัณฑ์ในคุณประโยชน์ในโฆษณานั้น ๆ
นอกจากนี้ยังได้มีความพยายามที่จะปรับปรุงสูตรโดยมีการเติมวิตามิน เกลือแร่และสมุนไพรลงไป อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาข้อมูลทั้งราคาและคุณค่าทางโภชนาการของซุปไก่เมื่อเทียบกับไข่ไก่และนมสด ซึ่งเป็นอาหารที่เราบริโภคกันเป็นปกติประจำวันหาง่ายและราคาไม่แพง จะเห็นได้ว่าเมื่อเทียบราคา ถ้าเรามีเงิน 30 บาท ซื้อซุปไก่ ได้ 1 ขวด
เราจะสามารถซื้อไข่ไก่ 15 ฟอง หรือ ซื้อนมสด (250มล.) 3 กล่อง
และเมื่อเทียบคุณค่าทางโภชนาการแล้วโปรตีนในซุปไก่ 1 ขวด เท่ากับโปรตีนใน ไข่ไก่ 1/2 ฟอง และโปรตีนในนมสด 1/3 กล่อง ยิ่งไปกว่านี้เมื่อพิจารณาสารอาหาร อื่นๆ โดยรวมแล้วในซุปไก่จะมีน้อยกว่าไข่ไก่ 1/2 ฟอง และนมสด 1/3 กล่องมากทีเดียว
ซุปไก่สกัด 1 ขวดมีโปรตีนน้อยกว่า ซุปไก่สกัด 1 ขวดมีแคลเซียมน้อยกว่า น่องไก่ย่าง 4.8 เท่า 5,000 เท่า <br />
นมสด 3.2 เท่า 290,000 เท่า <br />
ไข่ 2.4 เท่า 24,000 เท่า
อ้างอิงจาก มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
http://www.consumerthai.org/behind_pro/notes/B2/b2-3.html
รวมไปถึงพวกรังนกทั้งหลายที่ สื่อโฆษณาทำให้หลายคนเชื่อว่า มีคุณค่า ให้สารอาหารมากมายกับคนที่คุณรัก เอาเข้าจริง มันเป็นแบบนั้นจริงหรือครับ ? สิ่งที่ผมเห็นพวกเขาพยายามกล่อมให้ ผู้บริโภคเชื่อว่า มีรายงานวิจัยที่โน้น ที่นั่นว่า ทานแล้ว มีผลต่อสมอง ต่อกระบวนการคิดจริง ๆ อยากรู้ครับว่า จริงเท็จแค่ไหนกันแน่ ?
สมัยนี้ ลูกค้า เค้ามีความฉลาดกันมากขึ้น มีข้อมูลเยอะขึ้น ไม่ยอมให้โดนหลอกง่าย ๆอีกต่อไปแล้ว ใช่ไหมครับ