๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว มีหลังไมค์มาถามหลายข้อ ขออนุญาตตอบทางหน้าไมค์

สมาชิกหมายเลข 76... , วันศุกร์ เวลา 16:18 น.    Block



สวัสดีครับ..
รบกวนถามเรื่องการหาผลตอบเเทน การลงทุนหน่อยครับ ต่อปี
เราคิดง่ายๆได้ไม้ครับว่า

(ก่อนจะตอบ ต้องบอกก่อนว่า  แต่ละคนมีปัจจัยพื้นฐานไม่เหมือนกัน
ดังนั้น  วิธีการไหนที่จะทำ  มันต้องสอดคล้องกับตัวเราเอง
ผมไม่เคยใส่เงินเพิ่มเข้าตลาดหุ้น น่าจะนานเกินสิบปีแล้ว
ก็เลยคิดได้ง่ายๆ  แต่ถ้าใสเงินต้นเพิ่มเข้าไป ก็จะต้องคิดซับซ้อนมากขึ้นครับ)  

1.ต้นมกรา port เรามีค่าเท่าใด

ตอบ.  ผมจะเซพมูลค่าพอร์ตหลัก   ตอนปิดตลาดวันทำการสุดท้ายของปีก่อนหน้าเอาไว้
ไม่ได้นับเริ่มจากปิดตลาด วันทำการแรกของเดือนมกราคม


2.ปลายธันวา port เรามีค่าเท่าใด

ตอบ  จะเซฟมูลค่าพอร์ตตามที่โบรกเกอร์คำนวณให้ผ่านอินเตอร์เนต  ตอนปิดตลาด วันทำการสุดท้ายของปีล่าสุดเอาไว้ เช่นกัน

3.นำมาลบกันเเล้วได้ผลตอบเเทนต่อปีนั้น

ตอบ   ผมใช้โปรแกรมเพนท์ตัดแปเะ พอร์ตแต่ละปี  เอามาวางคู่กัน
เช่น
ป๊ ๒๕๕๔ เทียบกับ ๒๕๕๕    
๒๕๕๕ เทียบกับ ๒๕๕๖  
ระหว่างปี ชักเงินออกจากพอร์ตเท่าไร  ได้เงินปันผลรับ บวกเครดิตภาษีเท่าไร
ก็บวกเข้าไปในแต่ละปีนั้นๆ   แล้วก็นำมาเทียบกันแบบคร่าวๆว่า  
เงินมายาในพอร์ต กับเงินจริงนอกตลาดหุ้น รวมกันแล้วเพิ่มขึ้นหรือลดลง (ต้องหักเงินที่ใช้ไปในแต่ละปีออกด้วย)

คงไม่ได้ทำเหมือนนักลงทุนส่วนใหญ่  
ที่จะถือว่าระบบบัญชีของเงินในการลงทุน เป็นเรื่องสำคัญมากๆ


4.ส่วนในกรณีที่ใส่เงินเข้ามาระหว่างปีนั้นก็ให้คิดเหมือนว่าเป็นเงินที่เข้ามาช่วงมกราเลย
เเล้วคิดเเบบปกติ คิดอย่างนี้พอบอกคร่าวๆได้ไม้ครับ?

ตอบ  ผมจะคิดแบบรวมๆ  ไม่เคยจดเป็นรายละเอียด
ทุกวันนี้  ขายหุ้นตัวไหน กำไร เท่าไร  ขาดทุนเท่าไร  ไม่เคยจดไว้
จะจดแค่ เงินจริง กับเงินมายา  ณ. ขณะนั้น  เหลืออยู่เท่าไร
ถ้ามีการใส่เงินเพิ่มระหว่างปี  น่าจะนับแบบไหนก็ได้
แต่ให้ไปรวบยอดสรุปตอนปลายปี  ว่าส่วนไหนคือเงินต้น ส่วนไหนคือมูลค่าพอร์ต



* สำหรับตำถามข้อ ๔   ขอเล่าวิธีการซื้อขายหุ้น  ให้เพื่อนที่มอบอำนาจซื้อขายหุ้นให้ดังนี้

๑ ให้เปิดเงินฝากออมทรัพยฺ์ สำหรับซื้อขายหุ้นโดยเฉพาะ
ห้ามถอนหรือฝากเพิ่ม  จากกิจกรรมอื่นที่อยู่นอกตลาดหุ้น  เงินปันผลก็ถือเป็นกิจกรรมในตลาดหุ้น


๒  ให้ไปอัพเดทสมุดเงินฝากซักเดือนละครั้ง หรือสองครั้ง
มียอดเท่าไร  ก็นำมาบวกเข้ากับมูลค่าพอร์ต ณ.ขณะนั้น  บวกเงินวางค้ำประกันการซื้อขาย


ก็จะรู้ว่า ได้กำไร หรือขาดทุนจากการลงทุน

ผลของการให้เพื่อนทำแบบนี้   ผมไม่ต้องค่อยจดกำไรขาดทุนให้เพื่อน
ให้เขาคิดเอาเอง

ล่าสุดน่าจะประมาณว่า  เงินฝากเริ่มต้นที่หนึ่งล้านบาท
ตอนนี้มีเงินฝาก หนึ่งล้านแปดแสนบาท  บวกมูลค่าพอร์ตสองแสนเศษ  มีผลขาดทุนเงินมายาอยู่ประมาณสองหมื่นบาท
ซึ่งผมมองแป๊บเดียวก็รู้ว่า  เพื่อนยังได้กำไรจากตลาดหุ้น ประมาณ เก้าแสนแปดหมื่นบาท


ถ้าคิดเเบบ dynamic เเล้วมันค่อนข้างมั่วมากในกรณีที่ใส่เงินเข้ามาระหว่างปีอ่ะครับ.

* คงต้องให้คนที่ลงบัญชีซื้อขายอย่างละเอียดเข้ามาตอบครับ



คุณendophine มี logic คิดอย่างไรครับ?
เเล้วคุณ endophine หาผลตอบเเทนรายปีเทียบกับตลาดทุกปีไม้ครับ?
ถ้ามี excel รบกวนขอศึกษาหน่อยนะครับ.


ลองนึกๆดูแล้ว
ผมคิดว่า  ข้อความสามบรรทัดสุดท้าย ของหลังไมค์
มันจะกลับไปตอบ คำถามแต่ละข้อที่ถามไว้ครับ

ข้อความสามบรรทัดสุดท้าย  ขอแยกเป็นดังนี้

ก. คุณendophine มี logic คิดอย่างไรครับ?

ตอบ.  ผมจะคิดแบบองค์รวมครับ  คือเงินจริงนอกตลาด บวกกับเงินมายาในพอร์ต เป็นเท่าไร
ก็เท่ากับว่า    ในแต่ละวันนั้นๆ   ผมมีสินทรัพย์ ที่ได้จากตลาดหุ้นเป็นเท่าไร
ทั้งที่เป็นเงินจริง และเงินมายา


+



ข.เเล้ว endophine หาผลตอบเเทนรายปีเทียบกับตลาดทุกปีไม้ครับ?
ตอบ  จะว่า ไม่ได้เทียบก็คงได้ครับ  เพราะผมแทบไม่เคยจำได้จริงๆว่า  ดัชนีตลาดหุ้นเป็นเท่าไร
จะว่าเล่นลิ้นก็ได้  ผมจะเทียบกับตัวเองว่า  ชีวิตแต่ละเวลาในตลาดหุ้น
เราพึงพอใจกับชีวิตที่จำเป็นต้องใช้เงิน จำนวนหนึ่ง มากเท่าไร

ผมคิดแบบนั้  ก็เลยมั่นใจว่า  ผมยังพึงพอใจกับการเดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้นได้
โดยไม่ต้องไปเปรียบเทียบว่า  ทำไมผลงานเราสู้คนโน้นไม่ได้  สู้คนที่เข้ามาที่หลังเราไม่ได้

หลักคิดง่ายก็คงประมาณว่า  ถ้าเปรียบเทียบแล้วเกิดความทุกข์  ก็อย่าไปเปรียบเทียบ
ถ้าเปรียบเทียบแล้วเป็นแรงบันดาลใจ ไม่ได้เกิดความทุกข์  ก็ให้เปรียบเทียบได้

ค. ถ้ามี excel รบกวนขอศึกษาหน่อยนะครับ.

ต้องยอมรับตามตรงว่า  ผมทำ excel ไม่เป็น
และมีเอกสารที่ผมได้เก็บไว้นอกอินเตอร์เนตก็คือ

รายงานพอร์ตประจำเดือน ที่ทางโบรกเกอร์ส่งให้ทางไปรษณีย์
และเงินปันผลรับ บวกเครดิตภาษีของแต่ละปี ครับ

นอกจากนี้ผมไม่ได้จด
และค่าใช้จ่ายประจำปี   ผมก็จะเริ่มคำนวณจากเงินปันผลรับ บวกเครติดภาษีแต่ละปี
แล้วเอาสิบสองเดือนหาร   แล้วใช้จ่ายให้อยู่กรอบที่ได้คำนวณไว้
โดยต้องไม่พยายามให้ค่าใช้จ่ายรายปี  มากกว่าเงินปันผลบวกเครดิตภาษีรับ
งบการใช้จ่ายของผม  จึงเริ่มจากเดือนมิถุนายน ซึ่งได้รับเงินปันผลส่วนใหญ่แล้ว

ชีวิตแต่ละคนไม่มีสูตรสำเร็จครับ
สิ่งสำคัญอย่างเดียว ที่ผมกับภรรยาทำมามากกว่ายี่สิบปีคือ

จะไม่ก่อหนี้เพื่อการบริโภคโดยเด็ดขาด  มีเท่าไรก็ใช้ได้แค่นั้น




++
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่