ในการอบรม จัดทัพลงทุน ของ ดร.สมจินต์ ศรไพศาล มีการสอนเรื่อง การจับจังหวะการลงุทน (Earning Yield Gap)
คือ การเปรียบเทียบผลตอบแทนของ set กับ อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี
ว่า ณ เวลา ขณะนั้น ทรัพย์สินใด น่าลงทุนมากกว่ากัน ซึ่งเป็นหลักในการนำมาคิดเรื่องการบริหารความเสี่ยง

ถ้าผลออกมาต่ำกว่า 4 ให้ลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น
ถ้า 4-7 ก็ถือว่า ปรกตินะ เล่นได้
ถ้าเกิน 7 ถือว่า น่าลงทุนมาก

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล ท่านทำไว้ถึงปี 2552 ผมเลยเอามาทำต่อ
ปรากฏว่า ระยะเวลา 14 ปี มีคลาดเคลื่อนแค่ 2 ครั้ง ถือว่า แม่นใช้ได้เลยนะ

ผมเลยลองเอามาทำเปรียบเทียบกันเป็นรายวัน
โดยใส่ค่าเงินเพิ่มเข้าไป กับยอดซื้อขายของต่างชาติ กับกองทุน

สิ่งที่เห็นจากตาราง
1.ดูจาก Earning Yield Gap แล้วตอนนี้ ลงทุนในตราสารหนี้ น่าสนใจกว่า เพราะความเสี่ยงน้อยกว่า
และ gap ต่างกันแค่ประมาณ 3%
2.ดูจากค่าเงินแล้ว กองทุนต่างชาติ ยังลงทุนได้ เพราะต่ำกว่า 32 บาท
(แต่มีแนวโน้มว่าจะอ่อนค่าต่อไปเพราะ US จะแข็งค่าขึ้น)
3.ดูจากยอดซื้อขาย จะเห็นว่า ฝรั่ง กับ กองทุน ซื้อขาย สลับกันตลอด 11 วันที่ผ่านมา
(เพิ่งจะมียอดซื้อสุทธิไปในทางเดียวกัน วันนี้)

สรุปคิดว่าที่ตลาดขึ้น เพราะปัจจัยของ กนง.ที่จะประชุมกันในวันที่ 22 ม.ค.57
ที่ตลาดคาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีก 0.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
กองทุน เลยทยอยเก็บหุ้นเพื่อทำ sale on fact