ยิ่งลักษณ์ ยิ้มเย้ยยุทธจักร ตอน ปฏิวัติ ประวิตร เปรม ประยุทธ์ ( 3 )

ท่านที่เคารพรักครับ ในเรื่องผู้ชนะสิบทิศนั้น  มหาเถระให้จะเด็ดคุกเข่าอธิฐานสัตย์สาบานว่า

จะไม่ข้องเกี่ยวหรือแตะต้องแย่งชิงราชบัลลังค์กับ มังตราอย่างเด็ดขาด  นี่คือคุณธรรมของคนที่มีญาณรับรู้ว่า

หากมีการต่อสู้แย่งชิงอำนาจ   ประชาชนจะเดือดร้อน ทุกข์เข็ญ ยิ่งนัก

แต่โบราณนานมา ปุโรหิต โหรหลวง ในหนังจักๆวงศ์ๆ หรือเหล่าบรรดากุนซือ ในพงศาวดารสงครามชาติต่างๆ ประดาโหรล้วนมีอุบายแฝง ในการใช้คำทำนายเพื่อแย่งชิงอำนาจหรือแม้แต่เปลี่ยนราชวงศ์ ก็มีมาแล้วในประวัติศาสตร์

ในวงการโหงวเฮ้ง ฮวงจุ๊ย โหราศาสตร์ มีคำพูดหนึ่งที่พูดเอาไว้ว่า  " ในดีมีร้าย ในร้ายมีดี "
เพื่อเตือนสติให้มนุษย์ได้พึงสังวรณ์และตั้งอยู่ในความไม่ประมาท  

หากหมอดู ดูว่าดี ก็อย่างมงาย โง่งม

หากหมอดู ดูว่าร้าย ก็อย่าฟูมฟาย คร่ำครวญ

เรื่องราวเกี่ยวกับโหงวเฮ้ง มีมาแต่โบราณเช่น อะแซหวุ่นกี้ขอดูตัว เจ้าพระยาจักรี เมื่อได้พบเห็นหน้ากัน หลังจากพินิจดูลักษณะโหงวเฮ้งแล้ว  อะแซหวุ่นกี้ก็ทำนายทายทักว่า  ต่อไปจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์

เรื่องนี้ พอมาถึงปัจจุบัน โดนวิเคราะห์ว่าแท้จริงคืออุบายยุแยงให้แตกแยกกันเองของ อะแซหวุ่นกี้ ที่เชี่ยวและกร้านชีวิตมามากกว่า  
เพราะเวลานั้น อะแซหวุ่นกี้อายุ 72 ปี  ส่วนพระยาจักรี อายุ 30 กว่าๆ
  
ในเรื่องสามก๊ก ไม่ใช่แต่เพียงขงเบ้งคนเดียว โจโฉ จิวยี่ สุมาอี้ ต่างก็ล้วนนำความรู้เรื่องฮวงจุ้ย โหงวเฮ้ง โหราศาสตร์มาปรับใช้ในการศึก
และแม้ว่า ยอดคนยอดฝีมือสมัยก่อนเหล่านี้จะพยายามที่จะฝืนดวงชะตาอย่างไร    แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้แก่ลิขิตสวรรค์  
ไม่สามารถที่จะเป็นไปได้ดั่งใจหวัง  อาจจะเป็นได้เพียงใกล้เคียง

ยกตัวอย่างโจโฉ

โจโฉมีดวงชะตาราชันเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ตามโหรทำนาย  แต่ตลอดเวลา โจโฉเป็นได้เพียงนั่งเก้าอี้มังกรแปดตัว  เขาไม่มีวาสนาได้นั่งเก้าอี้มังกรเก้าตัวตามที่มุ่งหวัง

แม้ในชีวิตจริงนั้น โจโฉเป็นถึงสมุหนายกแห่งรัฐวุ่ย ซึ่งก็คือ ฮ่องเต้เงา ผู้โอังสามารถเข้าออกวังโดยพกกระบี่ติดตัวได้
เข้าหาฮ่องเต้โดยไม่ต้องขออนุญาติฮ่องเต้ก่อนได้   มีขบวนแห่ไปใหนมาใหน แบบพิธีการของฮ่องเต้ทุกอย่าง

อำนาจของโจโฉไม่ต่างกษัตริย์เหี้ยนเต้ แต่โจโฉก็ไม่ได้เป็นฮ่องเต้  

ขอบเขตการต่อสู้ช่วงชิงอำนาจตลอดเวลาที่ผ่านมา จำกัดอยู่เพียงนักการเมือง การปกครอง หรือแม้แต่ชาวยุทธจักร  
คนประดานี้ มักไม่ข้องเกี่ยวกับราชสำนัก
เว้นแต่ราชสำนักเอื้อมมือลงมายุ่งเกี่ยวเอง   ในหนังกำลังภายในนั้น  เราจึงมักจะพบเห็นคำว่า....

รับราชโองการ   ซึ่งคนที่ขัดราชโองการจะโดนเนรเทศ หรือยึดทรัพย์ทั้งหมด  

ท่านที่เคารพรักครับ  แต่มีอยู่เรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นครั้งเดียวที่การต่อสู้ระหว่างชาวยุทธจักร  ดำเนินไปโดยมีความเกี่ยวพันกับราชบัลลังค์ หรือ " ฮ่องเต้ " คนต่อไป  นั่นคือเรื่อง  สองนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ของท่านโกวเล้ง

เบื้องหลังการต่อสู้ของไซมึ้งซวยเซาะและเอี๊ยบโกวเซี๊ยะ ที่คนคิดไม่ถึงก็คือว่า  เบื้องลึกนั้นมีแผนร้ายที่น่าสะพรึงกลัวซ่อนอยู่ เกี่ยวกับกฏมณเทียรบาล   การสืบราชสันตติวงศ์


ท่านที่เคารพรักครับ  สารขัณฑ์นามสมมุติยุทธจักรแห่งนี้ เคยมีคำพูดเอาไว้ว่า หากเราโยนกระป๋องเปล่าเบียร์สิงห์ออกไป  ไม่โดนหัวนายพลก็โดนหัวโหร

เพราะแผ่นดินนี้ นายพลกับโหรมีมากมายเหลือเกิน  

และเรื่องๆหนึ่งที่นายพลมักสุมหัวกันกับโหร   นั่นก็คือการ ปฏิวัติ รัฐประหาร

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่