***เรื่องนี้บางช่วงมีเนื้อหาค่อนข้างแรง บางช่วงก็จะเป็นคอมมาดี้นะคะ***
บทนำ
โต๊ะอาหารหรูเรียบกลางห้องโถงอันโอ่อ่าตกแต่งไสตล์แบบล้านนา ผู้เป็นเจ้าของคุ้มสืบเชื้อสายมาจากเจ้าทางเหนือ เป็นที่ยอมรับนับถือของผู้คนในจังหวัดนี้และแทบภาคเหนือว่าเป็นมหาเศรษฐีตัวจริงและยังมีเชื้อสายเจ้าเป็นผู้ดีเก่ามีทั้งยศฐาและบรรดาศักดิ์พร้อมไปด้วยบริวาร แต่เขากลับไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทยกลับไปใช้ชีวิตส่วนมากที่ต่างประเทศ ที่กลับมาเพราะได้รับข่าวดีเรื่องครอบครัวของพี่ชายที่หายสาปสูญไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วอย่างมีเงื่อนงำเขาเริ่มสืบจนรู้ว่าการที่เขาทิ้งคุ้มไปใช้ชีวิตอยู่ที่สวีเดนกับภรรยาสาวคนสวยที่เมืองทรอลฮัตตัน ประเทศสวีเดน เป็นเมืองทางใต้อันเงียบสงบเสียหลายปีทำให้คนเป็นพี่ชายแท้ๆ แต่ต่างมารดาซึ่งเป็นคนใจดี มีเมตตา และใจอ่อน ถูกลูกพี่ลูกน้องตระกูลเดียวกันโกงทรัพย์สมบัติและหมายเอาชีวิตจนต้องหอบลูกสามคนและภรรยาหนีหายสาปสูญไปจากจังหวัดบ้านเกิด กว่าเขาจะตามเจอหลานชายคนนี้กินเวลาไปหลายปีเพราะทุกคนเปลี่ยนชื่อนามสกุล อีกทั้งการพบกันเขายังได้พบแค่หลานชายคนเดียว หากไม่มีสร้อยพระประจำตระกูลของพี่ชายติดตัวมาเขาคงจำหลานชายไม่ได้เลย ยิ่งคิดถึงเรื่องที่ครอบครัวของหลานชายได้เจอมาคนวัยสี่สิบเจ็ดปีก็รู้สึกสงสารและเจ็บแค้นแทนหลานชายกับโชคชะตาที่เกิดมาในตระกูลอันสูงศักดิ์แต่ก็แสนจะอาภัพในช่วงวัยเยาว์จนถึงวัยรุ่น แต่ไม่ใช่เวลานี้เพราะเวลานี้หากเอ่ยชื่อ พ่อเลี้ยง กานต์นที วงศ์ดารารัตน์ คงไม่มีใครไม่รู้จัก ซึ่งนามสกุลนี้สืบเชื้อสายมาจากเจ้าหลวงองค์หนึ่ง
เวลานี้เขาทวงความยุติธรรมกลับมาให้หลานชายแล้ว ยังไม่นับทรัพย์สมบัติส่วนตัวที่เขายกให้อีกมากมายเพราะเขากับอัญญ่าภรรยาสาวไม่สามารถมีลูกกันได้และไม่ปรารถนาในสมบัติมากมายอยากใช้ชีวิตที่เรียบง่ายมากกว่า เจ้านันทิถอนหายใจการที่พักหลังได้ศึกษาเกี่ยวกับธรรมะทำให้เจ้านันทิรู้สึกปลงกับอะไรหลายอย่างได้มากแล้ว และมักสอนให้หลานชายเพียงคนเดียวรู้จักคำว่าอภัยแต่เสียดายที่ว่าคำว่าอภัยยังใช้ไม่ได้กับพ่อเลี้ยงกานต์นที เพราะตอนนี้เขารู้จักแต่คำว่าแก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย
เสียงร้องเอะอะโวยวายแต่เช้านั้นเจ้านันทิเริ่มคุ้นเคยเสียแล้วว่าเป็นเสียงใครนั่นยิ่งทำให้เจ้านันทิถอนหายใจเพราะเขาจะเดินทางกลับไปยังต่างประเทศแล้วตอนนี้ทุกอย่างลงตัวแล้วกานต์นทีหลานรัก ก็เข้มแข็งและแกร่งมากแถมยังมีไหวพริบในเรื่องธุรกิจยอดเยี่ยม แต่เรื่องที่ยังห่วงหลานชายอยู่คือเรื่องความพยาบาทส่วนตัวที่ทำอย่างไรกานต์นทีก็ปลงไม่ตกกับเรื่องที่ผ่านมาเขาหันไปมองหน้าภรรยาสาวชาวสวีเดนชื่ออัญญ่า ก่อนจะส่งภาษาอังกฤษซึ่งใช้เป็นภาษาที่คุยกันระหว่างเขากับเธอ ว่าขอตัวไปดูหลานชายสักครู่ให้เธอทานอาหารไปพลาง ๆ ก่อนอัญญ่าพยักหน้ารับคำและเห็นใจกับเรื่องที่สามีเล่าให้ฟังกับสิ่งที่หลานของเขาได้เผชิญมาอัญญ่าเองเข้าใจและคิดว่าหากเกิดขึ้นกับใครก็คงจะลืมยาก
เจ้านันทิเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของหลานชายและพบชายหนุ่มหน้าตาดีเอามากๆรูปร่างล่ำสันสูงใหญ่ไม่ผิดกับเขาเมื่อวัยหนุ่มใครหลายคนบอกว่ากานต์นทีหน้าตาคล้ายคลึงเมือนตอนสมัยเขาเป็นหนุ่มมากทีเดียวคนบนเตียงกำลังเอะอะโวยวายทั้งที่หลับตาเขาคงฝันร้ายอีกตามเคยเพราะใจไม่ยอมปล่อยวางคนเป็นอาถอนหายใจแต่แววตาอาทร
“ไอ้หลานรัก เฮ้ย..เสียงเราน่ะดังลั่นคุ้ม ฝันร้ายตามเคยล่ะสิ ไม่รู้จักปล่อยวางเสียที”
“พ่อครับ แม่ครับ พี่นาวา ไม่จริง” ภาพ พ่อแม่ พี่ชายถูกไฟกำลังโหมคลอกเข้าใส่ ร้องดิ้นทุรนทุราย พวกเขาทั้งสามคนตายอย่างทรมานตัวเขาเองก็ถูกไฟโหมเข้าใส่เขาแสบร้อนไปทั่วร่างกายยามเปลวไฟร้อนโลมเลียใส่แต่โชคดีที่เขาไม่ได้รับอันตรายมากนัก
“ร้อน ร้อนเหลือเกิน ! ช่วยด้วย ช่วยด้วย” ในภาพฝันเขาเห็นพ่อแม่พี่ชายดิ้นทุรนทุรายกลางกองเพลิง
“ช่วยก็ได้” เจ้านันทิส่ายศีรษะ ก่อนจะหายไปประมาณห้านาที
โครม!
น้ำเย็นจัดจากตู้เย็นถูกสาดใส่คนที่กำลังดิ้นพล่านทุรนทุรายอยู่บนเตียงและเสียงร้องโวยวายว่าร้อนก็สงบลงไปเปลี่ยนเป็น
“เย็น เย็น ใครวะ ใครทำอะไร” พ่อเลี้ยงเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอนและเบิกตาโพลง
แต่เมื่อเห็นหน้าว่าใครที่เป็นคนทำ“โธ่.. อาก็แกล้งกันแต่เช้าเลย” เขาหน้ามุ่ยแต่ยังคงความหล่อคมสันเหมือนเจ้านันทิในวัยหนุ่ม เจ้านันทิถึงรักเขามากคิดว่าเขาคือทั้งหลานและลูกชายจึงได้เปลี่ยนชื่อให้จาก กิต กิตติศักดิ์ ภานุกิจ เป็น กานต์นที วงศ์ดารารัตน์ หวังให้หลานชายลืมเรื่องในอดีต
เจ้านันทิหัวเราะชอบใจ“แกล้งอะไร ก็ช่วยยังไงล่ะ ก็หลานบอกว่าร้อนๆ ไม่ใช่เหรอ อาก็หาน้ำเย็นมาให้”
“แบบนี้นี่เหรอครับที่ว่าช่วย” พ่อเลี้ยงกานต์นทีมองเตียงนอนที่เปียกแฉะ ก่อนจะลุกขึ้นมาและส่ายศีรษะ
“อาจะกลับสวีเดนแล้ว อากับอัญญ่า อยากใช้ชีวิตบั้นปลายที่นั่นหลานคงเข้าใจนะ”
พ่อเลี้ยงกานต์นทีเงียบไปพักหนึ่งก่อนถอนหายใจ เจ้าอาผู้แสนดีและชุบชีวิตใหม่ให้เขากำลังไปอยู่ที่แสนไกลไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถเดินทางไปสวีเดนได้หรอกแต่รู้สึกขาดที่พึ่งทางจิตใจมากกว่ามีเจ้านันทิอยู่ใกล้ๆ เหมือนกับคำว่าครอบครัวถูกเจ้านันทิช่วยเติมเต็มแต่ความสุขของท่านผู้มีพระคุณสูงสุดเขาจะกล้าขัดขวางหรือขอร้องให้ท่านอยู่เมืองไทยต่อได้อย่างไร
“รักษาตัวเองรักษาสมบัติของตระกูลเราและสมบัติที่อามอบให้อาเชื่อว่าหลานแข็งแกร่งและยืนขึ้นมาได้แล้ว หลานเป็นคนดีมีความสามารถ ทิ้งอดีตไปซะกานต์นทีและหลานจะพบแต่ความสุข”
“กานต์นที แปลว่า ผู้เป็นที่รักแห่งสายน้ำ อาพบหลานก็เพราะสายน้ำ สายน้ำคืนชีวิตหลานมาให้อา ลืมเรื่องร้ายซะ เลิกเจ็บแค้นพยาบาทเถอะนี่คือคำขอร้องจากอา”
“ครับอา” มันเป็นคำโกหกครั้งแรกตั้งแต่เขาและเจ้านันทิได้พบหน้ากันเมื่อหลายปีก่อนแต่นั่นก็เพื่อความสบายใจของคนเป็นอาไม่ใช่เหรอ รอให้อาเดินทางก่อนเถอะการคิดบัญชีมันกำลังจะเริ่มต้นขึ้น...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อลิชาผู้เป็นเจ้าของใบหน้าสวยเด่นรับกับเรือนร่างแบบบางที่นอนสลบไสลอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว โดยไม่รู้ว่าในอีกไม่กี่อึดใจภัยกำลังจะมาถึงตัวเธอ เสียงปิดประตูเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มหยักแกมสะใจ ยินดี หรือสมน้ำหน้าปนเปกันหลากหลายอารมณ์บนใบหน้าหล่อคม คิ้วเข้มแต่มีผิวขาวละเอียดผ่องใสเรียกว่าหล่อแบบมีออร่าน่าจะเหมาะ ยิ่งริมฝีปากได้รูปสีออกชมพูทำให้หญิงสาวเดินหลายคนเหลียวหลังกันมานักต่อนัก เธอกำลังนอนหลับไม่ได้สติรอรับการลงโทษจากเขา ชีวิตที่ อยู่กับความรู้สึกเจ็บแค้น ... เพื่อรอวันแก้แค้นอย่างสาสม วันนี้คือวันที่เขารอคอย วันเริ่มต้นแห่งการชำระแค้นและชำเราเธอได้มาถึงแล้วเขาขบกรามแน่นแววตาแฝงความอาฆาต ตัวต้นเหตุของเรื่องราวนอนรอเพื่อให้เขาเชือดเฉือนเธอ...
มือขาวสะอาดของชายวัยเกือบสามสิบนั้นช่างต่างกับจิตใจที่มีเงาดำมาครอบคลุมจนไม่เห็นผิดชอบชั่วดีนึกถึงแต่ไฟรักไฟแค้นที่มันสุมในอกมันเดือดปุดๆ และปะทุออกมาราวกับลาวาภูเขาไฟลูกใหญ่
“ในเมื่อคุณเคยดูถูกผมว่าชอบมองสูงไม่เจียมกะลาหัว มองผมไม่ต่างจากสุนัขขี้เรื้อน คืนนี้สุนัขขี้เรือนอย่างผมจะยัดเยียดตำแหน่งเมียสุนัขให้กับคุณเอง ผมขอมองต่ำ ๆ บ้างก็แล้วกันคุณหนูอลิชา” มือของเขาช้อนเข้าไปที่ใต้กระโปรงตัวสวยแล้วออกแรงดึงรั้งจนกางเกงชั้นในสีชมดูหวานเหลือเกินติดมือออกมาสีของมันช่าง ขัดแย้งกับการแต่งตัวสุดชีคและเปรี้ยวจี๊ดของอลิชาก่อนจะโยนทิ้งไป
“ตื่นขึ้นมาสิอลิชาจะได้รู้ว่าการตกนรกทั้งเป็นมันรู้สึกอย่างไรคุณจะได้รู้ว่าสุนัขขี้เรื้อนตัวนี้มันทำอะไรไว้กับคุณบ้างตื่นสิอลิชาทำไมไม่ตื่น” กานต์นทีหัวเราะอย่างสะใจนัยน์ตาไม่มีแววสงสารเจือปนเลยแม้แต่น้อยมีแต่แววสมเพชต่ออลิชาผู้หญิงวายร้ายที่ทำให้เขาอับอายและเคยสร้างบาดแผลในใจให้กับเขาอย่างแสนสาหัสเขากลับมาเป็นคนใหม่และเหนือกว่าทุกคนในตระกูลอัครนาคินทร์ กานต์นทีหัวเราะกับชัยชนะของตนอีกครั้งจากนั้นมองเหยื่อสาวที่หลับสนิทไม่ไหวติงไม่ถึงหนึ่งนาทีกระโปรงตัวสั้นสีแสบสันแนวชีคของอลิชาก็หล่นตามลงไปกองรวมกับเสื้อที่กองรออยู่ก่อนแล้ว
ตะวันซ่อนแสง (บทนำ)
บทนำ
โต๊ะอาหารหรูเรียบกลางห้องโถงอันโอ่อ่าตกแต่งไสตล์แบบล้านนา ผู้เป็นเจ้าของคุ้มสืบเชื้อสายมาจากเจ้าทางเหนือ เป็นที่ยอมรับนับถือของผู้คนในจังหวัดนี้และแทบภาคเหนือว่าเป็นมหาเศรษฐีตัวจริงและยังมีเชื้อสายเจ้าเป็นผู้ดีเก่ามีทั้งยศฐาและบรรดาศักดิ์พร้อมไปด้วยบริวาร แต่เขากลับไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทยกลับไปใช้ชีวิตส่วนมากที่ต่างประเทศ ที่กลับมาเพราะได้รับข่าวดีเรื่องครอบครัวของพี่ชายที่หายสาปสูญไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วอย่างมีเงื่อนงำเขาเริ่มสืบจนรู้ว่าการที่เขาทิ้งคุ้มไปใช้ชีวิตอยู่ที่สวีเดนกับภรรยาสาวคนสวยที่เมืองทรอลฮัตตัน ประเทศสวีเดน เป็นเมืองทางใต้อันเงียบสงบเสียหลายปีทำให้คนเป็นพี่ชายแท้ๆ แต่ต่างมารดาซึ่งเป็นคนใจดี มีเมตตา และใจอ่อน ถูกลูกพี่ลูกน้องตระกูลเดียวกันโกงทรัพย์สมบัติและหมายเอาชีวิตจนต้องหอบลูกสามคนและภรรยาหนีหายสาปสูญไปจากจังหวัดบ้านเกิด กว่าเขาจะตามเจอหลานชายคนนี้กินเวลาไปหลายปีเพราะทุกคนเปลี่ยนชื่อนามสกุล อีกทั้งการพบกันเขายังได้พบแค่หลานชายคนเดียว หากไม่มีสร้อยพระประจำตระกูลของพี่ชายติดตัวมาเขาคงจำหลานชายไม่ได้เลย ยิ่งคิดถึงเรื่องที่ครอบครัวของหลานชายได้เจอมาคนวัยสี่สิบเจ็ดปีก็รู้สึกสงสารและเจ็บแค้นแทนหลานชายกับโชคชะตาที่เกิดมาในตระกูลอันสูงศักดิ์แต่ก็แสนจะอาภัพในช่วงวัยเยาว์จนถึงวัยรุ่น แต่ไม่ใช่เวลานี้เพราะเวลานี้หากเอ่ยชื่อ พ่อเลี้ยง กานต์นที วงศ์ดารารัตน์ คงไม่มีใครไม่รู้จัก ซึ่งนามสกุลนี้สืบเชื้อสายมาจากเจ้าหลวงองค์หนึ่ง
เวลานี้เขาทวงความยุติธรรมกลับมาให้หลานชายแล้ว ยังไม่นับทรัพย์สมบัติส่วนตัวที่เขายกให้อีกมากมายเพราะเขากับอัญญ่าภรรยาสาวไม่สามารถมีลูกกันได้และไม่ปรารถนาในสมบัติมากมายอยากใช้ชีวิตที่เรียบง่ายมากกว่า เจ้านันทิถอนหายใจการที่พักหลังได้ศึกษาเกี่ยวกับธรรมะทำให้เจ้านันทิรู้สึกปลงกับอะไรหลายอย่างได้มากแล้ว และมักสอนให้หลานชายเพียงคนเดียวรู้จักคำว่าอภัยแต่เสียดายที่ว่าคำว่าอภัยยังใช้ไม่ได้กับพ่อเลี้ยงกานต์นที เพราะตอนนี้เขารู้จักแต่คำว่าแก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย
เสียงร้องเอะอะโวยวายแต่เช้านั้นเจ้านันทิเริ่มคุ้นเคยเสียแล้วว่าเป็นเสียงใครนั่นยิ่งทำให้เจ้านันทิถอนหายใจเพราะเขาจะเดินทางกลับไปยังต่างประเทศแล้วตอนนี้ทุกอย่างลงตัวแล้วกานต์นทีหลานรัก ก็เข้มแข็งและแกร่งมากแถมยังมีไหวพริบในเรื่องธุรกิจยอดเยี่ยม แต่เรื่องที่ยังห่วงหลานชายอยู่คือเรื่องความพยาบาทส่วนตัวที่ทำอย่างไรกานต์นทีก็ปลงไม่ตกกับเรื่องที่ผ่านมาเขาหันไปมองหน้าภรรยาสาวชาวสวีเดนชื่ออัญญ่า ก่อนจะส่งภาษาอังกฤษซึ่งใช้เป็นภาษาที่คุยกันระหว่างเขากับเธอ ว่าขอตัวไปดูหลานชายสักครู่ให้เธอทานอาหารไปพลาง ๆ ก่อนอัญญ่าพยักหน้ารับคำและเห็นใจกับเรื่องที่สามีเล่าให้ฟังกับสิ่งที่หลานของเขาได้เผชิญมาอัญญ่าเองเข้าใจและคิดว่าหากเกิดขึ้นกับใครก็คงจะลืมยาก
เจ้านันทิเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของหลานชายและพบชายหนุ่มหน้าตาดีเอามากๆรูปร่างล่ำสันสูงใหญ่ไม่ผิดกับเขาเมื่อวัยหนุ่มใครหลายคนบอกว่ากานต์นทีหน้าตาคล้ายคลึงเมือนตอนสมัยเขาเป็นหนุ่มมากทีเดียวคนบนเตียงกำลังเอะอะโวยวายทั้งที่หลับตาเขาคงฝันร้ายอีกตามเคยเพราะใจไม่ยอมปล่อยวางคนเป็นอาถอนหายใจแต่แววตาอาทร
“ไอ้หลานรัก เฮ้ย..เสียงเราน่ะดังลั่นคุ้ม ฝันร้ายตามเคยล่ะสิ ไม่รู้จักปล่อยวางเสียที”
“พ่อครับ แม่ครับ พี่นาวา ไม่จริง” ภาพ พ่อแม่ พี่ชายถูกไฟกำลังโหมคลอกเข้าใส่ ร้องดิ้นทุรนทุราย พวกเขาทั้งสามคนตายอย่างทรมานตัวเขาเองก็ถูกไฟโหมเข้าใส่เขาแสบร้อนไปทั่วร่างกายยามเปลวไฟร้อนโลมเลียใส่แต่โชคดีที่เขาไม่ได้รับอันตรายมากนัก
“ร้อน ร้อนเหลือเกิน ! ช่วยด้วย ช่วยด้วย” ในภาพฝันเขาเห็นพ่อแม่พี่ชายดิ้นทุรนทุรายกลางกองเพลิง
“ช่วยก็ได้” เจ้านันทิส่ายศีรษะ ก่อนจะหายไปประมาณห้านาที
โครม!
น้ำเย็นจัดจากตู้เย็นถูกสาดใส่คนที่กำลังดิ้นพล่านทุรนทุรายอยู่บนเตียงและเสียงร้องโวยวายว่าร้อนก็สงบลงไปเปลี่ยนเป็น
“เย็น เย็น ใครวะ ใครทำอะไร” พ่อเลี้ยงเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอนและเบิกตาโพลง
แต่เมื่อเห็นหน้าว่าใครที่เป็นคนทำ“โธ่.. อาก็แกล้งกันแต่เช้าเลย” เขาหน้ามุ่ยแต่ยังคงความหล่อคมสันเหมือนเจ้านันทิในวัยหนุ่ม เจ้านันทิถึงรักเขามากคิดว่าเขาคือทั้งหลานและลูกชายจึงได้เปลี่ยนชื่อให้จาก กิต กิตติศักดิ์ ภานุกิจ เป็น กานต์นที วงศ์ดารารัตน์ หวังให้หลานชายลืมเรื่องในอดีต
เจ้านันทิหัวเราะชอบใจ“แกล้งอะไร ก็ช่วยยังไงล่ะ ก็หลานบอกว่าร้อนๆ ไม่ใช่เหรอ อาก็หาน้ำเย็นมาให้”
“แบบนี้นี่เหรอครับที่ว่าช่วย” พ่อเลี้ยงกานต์นทีมองเตียงนอนที่เปียกแฉะ ก่อนจะลุกขึ้นมาและส่ายศีรษะ
“อาจะกลับสวีเดนแล้ว อากับอัญญ่า อยากใช้ชีวิตบั้นปลายที่นั่นหลานคงเข้าใจนะ”
พ่อเลี้ยงกานต์นทีเงียบไปพักหนึ่งก่อนถอนหายใจ เจ้าอาผู้แสนดีและชุบชีวิตใหม่ให้เขากำลังไปอยู่ที่แสนไกลไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถเดินทางไปสวีเดนได้หรอกแต่รู้สึกขาดที่พึ่งทางจิตใจมากกว่ามีเจ้านันทิอยู่ใกล้ๆ เหมือนกับคำว่าครอบครัวถูกเจ้านันทิช่วยเติมเต็มแต่ความสุขของท่านผู้มีพระคุณสูงสุดเขาจะกล้าขัดขวางหรือขอร้องให้ท่านอยู่เมืองไทยต่อได้อย่างไร
“รักษาตัวเองรักษาสมบัติของตระกูลเราและสมบัติที่อามอบให้อาเชื่อว่าหลานแข็งแกร่งและยืนขึ้นมาได้แล้ว หลานเป็นคนดีมีความสามารถ ทิ้งอดีตไปซะกานต์นทีและหลานจะพบแต่ความสุข”
“กานต์นที แปลว่า ผู้เป็นที่รักแห่งสายน้ำ อาพบหลานก็เพราะสายน้ำ สายน้ำคืนชีวิตหลานมาให้อา ลืมเรื่องร้ายซะ เลิกเจ็บแค้นพยาบาทเถอะนี่คือคำขอร้องจากอา”
“ครับอา” มันเป็นคำโกหกครั้งแรกตั้งแต่เขาและเจ้านันทิได้พบหน้ากันเมื่อหลายปีก่อนแต่นั่นก็เพื่อความสบายใจของคนเป็นอาไม่ใช่เหรอ รอให้อาเดินทางก่อนเถอะการคิดบัญชีมันกำลังจะเริ่มต้นขึ้น...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อลิชาผู้เป็นเจ้าของใบหน้าสวยเด่นรับกับเรือนร่างแบบบางที่นอนสลบไสลอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว โดยไม่รู้ว่าในอีกไม่กี่อึดใจภัยกำลังจะมาถึงตัวเธอ เสียงปิดประตูเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มหยักแกมสะใจ ยินดี หรือสมน้ำหน้าปนเปกันหลากหลายอารมณ์บนใบหน้าหล่อคม คิ้วเข้มแต่มีผิวขาวละเอียดผ่องใสเรียกว่าหล่อแบบมีออร่าน่าจะเหมาะ ยิ่งริมฝีปากได้รูปสีออกชมพูทำให้หญิงสาวเดินหลายคนเหลียวหลังกันมานักต่อนัก เธอกำลังนอนหลับไม่ได้สติรอรับการลงโทษจากเขา ชีวิตที่ อยู่กับความรู้สึกเจ็บแค้น ... เพื่อรอวันแก้แค้นอย่างสาสม วันนี้คือวันที่เขารอคอย วันเริ่มต้นแห่งการชำระแค้นและชำเราเธอได้มาถึงแล้วเขาขบกรามแน่นแววตาแฝงความอาฆาต ตัวต้นเหตุของเรื่องราวนอนรอเพื่อให้เขาเชือดเฉือนเธอ...
มือขาวสะอาดของชายวัยเกือบสามสิบนั้นช่างต่างกับจิตใจที่มีเงาดำมาครอบคลุมจนไม่เห็นผิดชอบชั่วดีนึกถึงแต่ไฟรักไฟแค้นที่มันสุมในอกมันเดือดปุดๆ และปะทุออกมาราวกับลาวาภูเขาไฟลูกใหญ่
“ในเมื่อคุณเคยดูถูกผมว่าชอบมองสูงไม่เจียมกะลาหัว มองผมไม่ต่างจากสุนัขขี้เรื้อน คืนนี้สุนัขขี้เรือนอย่างผมจะยัดเยียดตำแหน่งเมียสุนัขให้กับคุณเอง ผมขอมองต่ำ ๆ บ้างก็แล้วกันคุณหนูอลิชา” มือของเขาช้อนเข้าไปที่ใต้กระโปรงตัวสวยแล้วออกแรงดึงรั้งจนกางเกงชั้นในสีชมดูหวานเหลือเกินติดมือออกมาสีของมันช่าง ขัดแย้งกับการแต่งตัวสุดชีคและเปรี้ยวจี๊ดของอลิชาก่อนจะโยนทิ้งไป
“ตื่นขึ้นมาสิอลิชาจะได้รู้ว่าการตกนรกทั้งเป็นมันรู้สึกอย่างไรคุณจะได้รู้ว่าสุนัขขี้เรื้อนตัวนี้มันทำอะไรไว้กับคุณบ้างตื่นสิอลิชาทำไมไม่ตื่น” กานต์นทีหัวเราะอย่างสะใจนัยน์ตาไม่มีแววสงสารเจือปนเลยแม้แต่น้อยมีแต่แววสมเพชต่ออลิชาผู้หญิงวายร้ายที่ทำให้เขาอับอายและเคยสร้างบาดแผลในใจให้กับเขาอย่างแสนสาหัสเขากลับมาเป็นคนใหม่และเหนือกว่าทุกคนในตระกูลอัครนาคินทร์ กานต์นทีหัวเราะกับชัยชนะของตนอีกครั้งจากนั้นมองเหยื่อสาวที่หลับสนิทไม่ไหวติงไม่ถึงหนึ่งนาทีกระโปรงตัวสั้นสีแสบสันแนวชีคของอลิชาก็หล่นตามลงไปกองรวมกับเสื้อที่กองรออยู่ก่อนแล้ว