" ถ้าคุณศึกษาข้อกฎหมายสักหน่อย คุณจะรู้ว่าหากมองในแง่กฎหมาย รัฐบาลไม่เหลืออะไรให้ม๊อบเรียกร้องจะเอาอีกแล้ว " เนื่องจาก
1. รัฐบาลรักษาการ ลาออกไม่ได้ ลาออกจะโดนมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทันที ไม่มีใครกล้าลอง เพราะถ้าไปหาอ่านจากข้อฎีกาเก่าๆ มันมีโอกาสสูงที่จะโดน
2. มาตรา 7 ใช้ได้กรณีที่ ครม ตายทุกคน เหลือคนเดียวก็ไม่ได้ กับอีกข้อคือ ฉีก รธนปี 50 ทิ้งโดยรัฐประหารนั่นเอง
3. เลื่อนเลือกตั้งทุกเขตทั่วประเทศไม่ได้ กฎหมายให้อำนาจกกต เลื่อน เฉพาะหน่วยที่มีปัญหา แล้วต้องกลับมาเลือกตั้งใหม่ภายใน 7 วัน และเลือกตั้งไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบ ระหว่างนี้ให้รัฐบาลรักษาการทำหน่าที่ไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ (กกต ก็ไม่กล้าเลื่อนเองโยนให้รัฐบาล เพราะมันไม่มีข้อกฎหมายที่เขียนไว้ชัดเจน ทำผิดโดนฟ้องทันที)
4. หากรัฐบาลไม่ออก และม๊อบไม่หยุด ทางตันของข้อกฎหมาย มันคือสิ้นปี งบประมาณเดือน ก.ย. ปี 57
5. หากรัฐประหาร ข้อ 1-4 ที่กล่าวมาข้างต้น จะเป็นโมฆะทันที เนื่องจากต้องฟัง คนทำรัฐประหารสั่งอย่างเดียว
6. ที่คุณรู้ๆกันอยู่ว่า รัฐบาลปูโกงไอ้นั่น โกงไอ้นี่ (ทั้งๆที่ยังไม่มีคำพิพากษาศาล) ก็เพราะว่ามันคือระบอบประชาธิปไตย ที่มีโครงสร้างการตรวจสอบอยู่ หากต้องการให้รัฐประหาร คุณจะตรวจสอบรัฐบาลเผด็จการไม่ได้เลยสักบาทเดียว ทำได้แค่นั่งฟังคำสั่ง ให้เขาเบิกงบลับไปฟรีๆ
7. นายกมาตรา 7 เคยมีคนล่ารายชื่อเสนอในหลวงไปแล้วเมื่อปี 49 แต่โดนตีกลับออกมา พร้อมพระราชดำรัสว่า มาตรา 7 ไม่เป็นประชาธิปไตย ไปหาอ่านได้จากพระราชดำรัส
8. ทั้งประเทศมีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 48 ล้านคน ม๊อบจะมากแค่ไหน ก็ไม่มากไปกว่าคนทั้งประเทศ หากอีกฝั่งไม่ยอม เพราะม๊อบไปริดลอนสิทธิของพวกเขา มันจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้มองว่าทุกคนในชาติมี 1 เสียง 1 สิทธิ เท่ากันทุกคน
ปล.อย่าเพิ่งเชื่อผม ให้ไปนั่งอ่านข้อกฎหมายเอาเองแล้วจะเข้าใจ อย่าปล่อยให้จินตนาการอยู่เหนือความรู้ของคุณ
เหตุการณ์ 14 ตุลา, 6 ตุลา,พฤษภาทมิฬ, เสื้อเหลืองปี 49 และเสื้อแดงปี 53 มันบอกไว้ชัดแล้วว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แกนนำรอดทุกคน นักการเมืองได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว คนที่ตายคือประชาชนที่ไปม๊อบนั่นเอง
จาก Facebook วิวาทะ
อย่าปล่อยให้จินตนาการอยู่เหนือความรู้และเหตุผลของคุณ แชร์จาก facebook
1. รัฐบาลรักษาการ ลาออกไม่ได้ ลาออกจะโดนมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทันที ไม่มีใครกล้าลอง เพราะถ้าไปหาอ่านจากข้อฎีกาเก่าๆ มันมีโอกาสสูงที่จะโดน
2. มาตรา 7 ใช้ได้กรณีที่ ครม ตายทุกคน เหลือคนเดียวก็ไม่ได้ กับอีกข้อคือ ฉีก รธนปี 50 ทิ้งโดยรัฐประหารนั่นเอง
3. เลื่อนเลือกตั้งทุกเขตทั่วประเทศไม่ได้ กฎหมายให้อำนาจกกต เลื่อน เฉพาะหน่วยที่มีปัญหา แล้วต้องกลับมาเลือกตั้งใหม่ภายใน 7 วัน และเลือกตั้งไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบ ระหว่างนี้ให้รัฐบาลรักษาการทำหน่าที่ไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ (กกต ก็ไม่กล้าเลื่อนเองโยนให้รัฐบาล เพราะมันไม่มีข้อกฎหมายที่เขียนไว้ชัดเจน ทำผิดโดนฟ้องทันที)
4. หากรัฐบาลไม่ออก และม๊อบไม่หยุด ทางตันของข้อกฎหมาย มันคือสิ้นปี งบประมาณเดือน ก.ย. ปี 57
5. หากรัฐประหาร ข้อ 1-4 ที่กล่าวมาข้างต้น จะเป็นโมฆะทันที เนื่องจากต้องฟัง คนทำรัฐประหารสั่งอย่างเดียว
6. ที่คุณรู้ๆกันอยู่ว่า รัฐบาลปูโกงไอ้นั่น โกงไอ้นี่ (ทั้งๆที่ยังไม่มีคำพิพากษาศาล) ก็เพราะว่ามันคือระบอบประชาธิปไตย ที่มีโครงสร้างการตรวจสอบอยู่ หากต้องการให้รัฐประหาร คุณจะตรวจสอบรัฐบาลเผด็จการไม่ได้เลยสักบาทเดียว ทำได้แค่นั่งฟังคำสั่ง ให้เขาเบิกงบลับไปฟรีๆ
7. นายกมาตรา 7 เคยมีคนล่ารายชื่อเสนอในหลวงไปแล้วเมื่อปี 49 แต่โดนตีกลับออกมา พร้อมพระราชดำรัสว่า มาตรา 7 ไม่เป็นประชาธิปไตย ไปหาอ่านได้จากพระราชดำรัส
8. ทั้งประเทศมีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 48 ล้านคน ม๊อบจะมากแค่ไหน ก็ไม่มากไปกว่าคนทั้งประเทศ หากอีกฝั่งไม่ยอม เพราะม๊อบไปริดลอนสิทธิของพวกเขา มันจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้มองว่าทุกคนในชาติมี 1 เสียง 1 สิทธิ เท่ากันทุกคน
ปล.อย่าเพิ่งเชื่อผม ให้ไปนั่งอ่านข้อกฎหมายเอาเองแล้วจะเข้าใจ อย่าปล่อยให้จินตนาการอยู่เหนือความรู้ของคุณ
เหตุการณ์ 14 ตุลา, 6 ตุลา,พฤษภาทมิฬ, เสื้อเหลืองปี 49 และเสื้อแดงปี 53 มันบอกไว้ชัดแล้วว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แกนนำรอดทุกคน นักการเมืองได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว คนที่ตายคือประชาชนที่ไปม๊อบนั่นเอง
จาก Facebook วิวาทะ