เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมในการตรวจสอบเส้นทางการจราจรภายหลังกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนเปลงประเทศไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ( กปปส.) ชุมนุมปิดพื้นที่หลายจุดทั่วบริเวณกรุงเทพฯ ว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโซนเหนือตั้งแต่รังสิต จนถึงอู่รถเมล์บางเขน และสถานีรถไฟบางเขน ไม่พบความผิดปกติ ชาว กทม.ยังใช้ชีวิตตามปกติ นอกจากนี้ ยังพบว่าเมื่อประชาชนบางส่วนหยุดงาน การใช้รถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ รวมถึงการใช้ทางด่วนมีปริมาณลดลง แต่การใช้แอร์พอรต์ลิงค์ รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (รฟม.) รถไฟฟ้าใต้ดินมีจำนวนเพิ่มขึ้น ส่วนการจัดสถานที่สำหรับให้จอดนั้นสามารถรองรับได้จำนวน 18,000 คัน ซึ่งมีผู้มาใช้บริการประมาณ 1,000 คัน รวมถึงได้จัดจุดจอดรถให้กับผู้ชุมนุมทั้ง 2 กลุ่มด้วย เพื่อไม่ให้มาเผชิญหน้ากัน และจะยังดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า หากสถานการณ์การชุมนุมยืดเยื้อ กระทรวงคมนาคมก็ยังคงจะให้บริการประชาชนตลอด ซึ่งรถโดยสารประจำทางจะยังวิ่งตามปกติ เพียงแต่ปรับเส้นทางประมาณ 87 สายรถเมล์ ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ พบผู้ที่เดือดร้อนและประชาชนที่จะได้รับผลกระทบ เช่น กลุ่มคนขับรถแท็กซี่ รถตู้ ได้รับความเดือดร้อน ตนจึงอยากขอให้ใช้ความอดทน เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุกระทบกระทั่งกัน ทั้งนี้ อยากขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลและวางแผนการเดินทางล่วงหน้า รวมถึงลดการใช้รถส่วนตัว เพื่อลดปัญหาในการเดินทาง
ส่วนกรณีที่กลุ่ม กปปส.ประกาศปิดวิทยุการบินได้ตรวจสอบเรื่องนี้แล้วหรือยัง นายชัชชาติ กล่าวว่า ทราบว่ามีการประกาศบนเวที จึงต้องชี้แจงว่าการปิดวิทยุการบินถือเป็นเรื่องอันตราย เพราะมีผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และมีผลผูกพันทั่วโลก เนื่องจากเราให้บริการสายการบินทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะแค่คนไทย รวมถึงสายการบินที่บินผ่านประเทศไทยก็ต้องดูแลด้วย และที่สำคัญจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงต้องขอร้องว่าอย่าทำแบบนี้เลย เพราะไม่มีประโยชน์กับใครทั้งสิ้น
"เราได้เตรียมความพร้อมโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารเตรียมประจำในพื้นที่ โดยเราได้เตรียมแผนสำรองไว้แล้ว คิดว่าการจะมาปิดคงทำได้ยาก เพราะตามกฏหมาย ผู้ดำเนินการจะมีความผิดคล้ายกับการปิดสนามบิน เนื่องจากทำให้เครื่องบินขึ้น-ลงไม่ได้ ผมจึงอยากขอให้ผู้ที่เข้าไปร่วมชุมนุมพิจารณาในเรื่องของข้อกฏหมายด้วย"นายชัชชาติ กล่าว
เมื่อถามว่าได้มีการประสานไปยังกลุ่ม กปปส. และกลุ่มคปท.หรือไม่ในเรืองดังกล่าวหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ก็คงให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อธิบดีกรมการบินพลเรือน ผู้อำนวยการวิทยุการบิน เป็นผู้ประสานงาน แต่เรื่องการพูดคุย ต้องไปพูดคุยกับกลุ่ม คปท.ไม่ใช่กลุ่ม กปปส. ส่วนได้มีการเตรียมแผนรองรองรับการคมนาคมไปจนถึง 1 สัปดาห์เลยหรือไม่นั้น เราได้เตรียมแผนรองรับตลอด เพราะเป็นหน้าที่ที่เราต้องดูแลอยู่แล้ว และทุกหน่วยก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ถ้าการชุมนุมยืดเยื้อก็จะมีการปรับแผนสำรองรองรับวันต่อวัน รวมถึงประเมินสถานการณ์แบบรายชั่วโมง ซึ่งตนยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าวการปิดสนามบิน.
ชัชชาติ ลงสำรวจพื้นที่ ไม่พบปัญหา ชาว กทม.ยังใช้ชีวิตตามปกติ
เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมในการตรวจสอบเส้นทางการจราจรภายหลังกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนเปลงประเทศไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ( กปปส.) ชุมนุมปิดพื้นที่หลายจุดทั่วบริเวณกรุงเทพฯ ว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโซนเหนือตั้งแต่รังสิต จนถึงอู่รถเมล์บางเขน และสถานีรถไฟบางเขน ไม่พบความผิดปกติ ชาว กทม.ยังใช้ชีวิตตามปกติ นอกจากนี้ ยังพบว่าเมื่อประชาชนบางส่วนหยุดงาน การใช้รถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ รวมถึงการใช้ทางด่วนมีปริมาณลดลง แต่การใช้แอร์พอรต์ลิงค์ รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (รฟม.) รถไฟฟ้าใต้ดินมีจำนวนเพิ่มขึ้น ส่วนการจัดสถานที่สำหรับให้จอดนั้นสามารถรองรับได้จำนวน 18,000 คัน ซึ่งมีผู้มาใช้บริการประมาณ 1,000 คัน รวมถึงได้จัดจุดจอดรถให้กับผู้ชุมนุมทั้ง 2 กลุ่มด้วย เพื่อไม่ให้มาเผชิญหน้ากัน และจะยังดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า หากสถานการณ์การชุมนุมยืดเยื้อ กระทรวงคมนาคมก็ยังคงจะให้บริการประชาชนตลอด ซึ่งรถโดยสารประจำทางจะยังวิ่งตามปกติ เพียงแต่ปรับเส้นทางประมาณ 87 สายรถเมล์ ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ พบผู้ที่เดือดร้อนและประชาชนที่จะได้รับผลกระทบ เช่น กลุ่มคนขับรถแท็กซี่ รถตู้ ได้รับความเดือดร้อน ตนจึงอยากขอให้ใช้ความอดทน เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุกระทบกระทั่งกัน ทั้งนี้ อยากขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลและวางแผนการเดินทางล่วงหน้า รวมถึงลดการใช้รถส่วนตัว เพื่อลดปัญหาในการเดินทาง
ส่วนกรณีที่กลุ่ม กปปส.ประกาศปิดวิทยุการบินได้ตรวจสอบเรื่องนี้แล้วหรือยัง นายชัชชาติ กล่าวว่า ทราบว่ามีการประกาศบนเวที จึงต้องชี้แจงว่าการปิดวิทยุการบินถือเป็นเรื่องอันตราย เพราะมีผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และมีผลผูกพันทั่วโลก เนื่องจากเราให้บริการสายการบินทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะแค่คนไทย รวมถึงสายการบินที่บินผ่านประเทศไทยก็ต้องดูแลด้วย และที่สำคัญจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงต้องขอร้องว่าอย่าทำแบบนี้เลย เพราะไม่มีประโยชน์กับใครทั้งสิ้น
"เราได้เตรียมความพร้อมโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารเตรียมประจำในพื้นที่ โดยเราได้เตรียมแผนสำรองไว้แล้ว คิดว่าการจะมาปิดคงทำได้ยาก เพราะตามกฏหมาย ผู้ดำเนินการจะมีความผิดคล้ายกับการปิดสนามบิน เนื่องจากทำให้เครื่องบินขึ้น-ลงไม่ได้ ผมจึงอยากขอให้ผู้ที่เข้าไปร่วมชุมนุมพิจารณาในเรื่องของข้อกฏหมายด้วย"นายชัชชาติ กล่าว
เมื่อถามว่าได้มีการประสานไปยังกลุ่ม กปปส. และกลุ่มคปท.หรือไม่ในเรืองดังกล่าวหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ก็คงให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อธิบดีกรมการบินพลเรือน ผู้อำนวยการวิทยุการบิน เป็นผู้ประสานงาน แต่เรื่องการพูดคุย ต้องไปพูดคุยกับกลุ่ม คปท.ไม่ใช่กลุ่ม กปปส. ส่วนได้มีการเตรียมแผนรองรองรับการคมนาคมไปจนถึง 1 สัปดาห์เลยหรือไม่นั้น เราได้เตรียมแผนรองรับตลอด เพราะเป็นหน้าที่ที่เราต้องดูแลอยู่แล้ว และทุกหน่วยก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ถ้าการชุมนุมยืดเยื้อก็จะมีการปรับแผนสำรองรองรับวันต่อวัน รวมถึงประเมินสถานการณ์แบบรายชั่วโมง ซึ่งตนยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าวการปิดสนามบิน.