เครดิต :
http://9gag.com/gag/aBKLwZ2
1) ไม่ไปเที่ยวเมื่อมีโอกาส ทั้งนี้เมื่อเราแก่ตัวลง โอกาสจะไปเที่ยว ณ ที่ดังกล่าวก็ยิ่งยากขึ้น ซึ่งยังรวมถึงเมื่อแก่ตัวลง ก็มีคนที่ต้องพึ่งพาเรามากขึ้น ดังนั้นการจะไปเที่ยวที่ไหนสักที่ ก็ต้องหิ้วกันยกครอบครัวพะรุงพะรังกันไป ทั้งลำบากและเสียเงินเสียทองมากขึ้น
2) ไม่ขวนขวายเรียนรู้ภาษาอื่น ซึ่งมักจะมีโอกาสได้เรียนในช่วงมัธยม ซึ่งก็น่าจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์เสีย
3) มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อใครบางคน ซึ่งแม้ว่าจะแก้ไขนั้นยาก แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าการทิ้งความสัมพันธ์ที่แย่นั้นเอาไว้และทำให้เป็นภาระแก่ทุกๆ คน
4) ไม่ยอมใช้ครีมกันแดดตอนไปเที่ยว ซึ่ง ณ เวลานั้นอาจจะคิดว่าไม่ได้เป็นอะไรนักรอก แต่พอนานๆ เข้าแก่ตัวลง ผิวหนังเหี่ยวย่นตกกระเพราะแดด แล้วก็มานั่งเสียใจในภายหลัง
5) พลาดโอกาสที่จะไปดูการแสดงของวงดนตรีที่ชื่นชอบ เพราะเราไม่อาจรู้วันเวลาว่าอาจแยกวงกันเมื่อไหร่ และเมื่อนั้นโอกาสที่จะไปดูการแสดงก็เป็นอันหมดสิทธิ์
6) กลัวที่จะทำในเรื่องที่กล้าท้าทาย ความกลัวอาจยัำบยั้งชะงักเรา แต่ก็อย่าให้ความกลัวนั้นครอบงำเรา
7) ไม่ได้ใส่ใจสุขภาพความแข็งแรงของร่างกาย ยามแก่ตัวลงก็จะมานั่งนึกตระหนักเสียดายว่าตอนยามหนุ่มน่าจะใส่ใจมากกว่านี้
8) ปล่อยให้เรื่องเพศ มาเป็นตัวขัดขวางโอกาสในการทำสิ่งต่างๆ จงตั้งมั่นกำหนดแนวทางของตน อย่าให้สังคมรอบข้างมาเป็นตัวตัดสิน
9) ไม่ยอมออกจากงานที่ไม่ได้เรื่อง บางทีเพราะเราอาจคิดว่าเงินนั้นสำคัญกว่า แต่นั่นหมายความว่าเราจะต้องจมปลักอยู่กับเรื่องแย่ๆ ทุกวัน
10) ตอนเรียนไม่ยอมตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่ แม้ว่าเกรดนั้นสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการเรียนรู้ที่จะประยุกต์สิ่งต่างๆ ด้วยตนเองและมีความเอาใจใส่ในสิ่งที่กระทำ
11) อย่าคิดว่าตนนั้นไม่สวยไม่หล่อ ความสวยความหล่อนั้นสามารถนิยามได้จากหลายอย่าง อย่าคิดว่าตัวเรานั้นไม่มีค่าพอที่คนอื่นจะมาสนใจเรา
12) อย่ากลัวจะบอกรักใคร การบอกรักคือรางวัลที่มีค่ายิ่ง แม้ว่าจะไม่ได้รับความรักนั้นตอบกลับคืนมาอย่างเท่าเทียมกันก็ตาม
13) อย่าปิดกั้นโอกาสที่จะฟังคำแนะนำจากพ่อแม่ ท่านอาบน้ำร้อนมาก่อนท่านย่อมรู้ดีกว่าเรา
14) ช่วงวัยรุ่นอย่าเอาตนเองเป็นที่ตั้งจนไม่สนใจโลกรอบข้าง อย่าลืมว่ายังมีอะไรหลายๆ อย่างที่มากไปกว่าความเป็นตัวตนของเรา และสักวันหนึ่ง เราก็จะได้ตระหนัก
15) อย่าไปใส่ใจใครจะคิดอะไรกับเรามากจนเกินไป เมื่อยามเราแก่ตัวลง ยามนั้นเราจะระลึกได้ว่าความเห็นของคนอื่นไม่มีความสลักสำคัญอะไรในการสร้างความสุขเที่ยงแท้ในใจเรา
16) โอกาสในการช่วยเหลือสานฝันแก่ผู้อื่นจนไม่เหลือเวลาในการสานฝันให้ตนเอง การเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่นั้นเป็นสิ่งดี แต่จะมีประโยชน์อะไรที่เราต้องสละความสุขที่ตนควรจะมี
17) พะว้าพะวงลังเลไม่ตัดสินใจอะไรลงไปสักที อย่าถ่วงเวลาตัดสินใจทำอะไรนานจนเกินไป เพราะในที่สุดก็จะมานั่งนึกเสียใจในภายหลังกับเวลาที่เสียไป
18) อาฆาตแค้นคนอื่น โดยเฉพาะกับคนที่คุณรัก ควรตัดสินใจปล่อยความความเจ็บปวดที่ได้รับ ดีกว่าที่จะมานั่งจมปลักอยู่กับความอาฆาตแค้นเหล่านั้น
19) ไม่ยืนหยัดเชื่อมั่นในความคิดของตนเอง เพียงแค่กลัวว่าคนอื่นอาจจะไม่เห็นด้วย การที่คนอื่นไม่เห็นด้วย ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเสียจุดยืนต่อความเห็นของเราไป
20) ทิ้งโอกาสที่จะช่วยเหลือคนอื่น มีเหตุผลสนับสนุนได้นับไม่ถ้วนที่จะช่วยเหลือผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ
21) ไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพฟันของตน แม้ว่าการขัดฟันแปรงฟันของตนดูเป็นเรื่องที่น่าเบื่อไม่อยากทำ แต่การใส่ใจสุขภาพฟันตั้งแต่ยามเล็กๆดีกว่าจะมามีปัญหาเรื่องฟันในภายหลัง
22) ไม่ได้ใช้โอกาสพูดคุยกับปู่ย่าตายายก่อนที่ท่านจะจากไป ท่านสะสมความรู้ไว้มากและท่านมีโอกาสที่จะอยู่กับเราสั้นนัก
23) อย่ามัวแต่โหมงานมากจนเกินไป เพราะอาจจะสูญเสียโอกาสในการทำสิ่งอื่นๆ ที่มีคุณค่ายิ่งในชีวิตไป หรือโหมงานจนไม่เป็นอันทำงานด้วยความสุข
24) พลาดโอกาสที่จะทำครัว หัดทำอาหารที่ดีๆ สักมื้อ การที่มีส่วนช่วยทำให้ครอบครัวและเพื่อนฝูงมาพร้อมหน้ากัน นั้นมีค่ายิ่งกว่าที่เราคิดมากนัก
25) พลาดโอกาสที่จะได้ดื่มด่ำกับช่วงเวลาดีดีที่ได้ประสบ อย่ามัวแต่ใช้สมาร์ทโฟนส่งข้อความหรือถ่ายรูปจนลืมไปว่า แท้จริงแล้วเรามาทำอะไร
26) เริ่มอะไรแล้วก็ต้องทำให้เสร็จ มีโอกาสที่จะทำได้ทุกวัน ดังนั้นอย่าปล่อยให้เสียเปล่า
27) ไม่ได้หัดฝึกกลเม็ดเคล็ดลับไว้โชว์เพื่อนฝูง แม้ว่าจะดูไม่มีค่าอะไร แต่ลองคิดดูถึงโอกาสที่จะสร้างความประทับใจดีดีแก่คนรอบข้าง
28) ปล่อยให้สังคมขีดขั้นอนาคตในตัวเรา ถ้าครอบครัวหรือสังคมคนรอบข้างคิดว่าเราควรทำอะไร ประกอบอาชีพอะไร เราก็ไม่จำเป็นต้องทำไปตามความเห็นเหล่านั้น ไม่ควรเลยจริงๆ
29) ไม่ยอมสานความสัมพันธ์ฉันมิตรกับผู้อื่นเมื่อยามมีโอกาส เมื่อยามต้องห่างไกลกัน การพยายามจะไปสร้างความสัมพันธ์ยามห่างไกล จะสร้างปัญหามากกว่าสร้างประโยชน์
30) ขาดโอกาสที่จะเอาใจใส่เล่นกับลูกของตนอย่างเพียงพอ เด็กๆ มีความแจ่มใสร่าเริงไร้เดียงสา ดังนั้นเราก็ควรจะให้ตัวเราได้พบกับสิ่งดังกล่าวด้วย แทนที่จะหลีกเลี่ยงโอกาสอันดีนี้
31) ไม่ยอมเสี่ยงการใหญ่การลงทุนเสี่ยงในเรื่องใหญ่ๆ ที่สำคัญ ก็มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ใหญ่ยิ่งด้วยเช่นกัน
32) ไม่หาโอกาสในการสร้างเครือข่ายคนรู้จักให้กว้างขวาง ซึ่งแม้อาจจะดูราวกับให้เป็นคนช่างจ้อช่างเข้าสังคม แต่กระนั้นการสร้างเครือข่ายคนให้กว้างขวางเข้าไว้จะเป็นประโยชน์ต่ออาชีพของตนในระยะยาว
33) มัวแต่เป็นกังวลมากจนเกินไป การห่วงกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึงเป็นเรื่องไร้ประโยชน์สิ้นดี
34) มัวแต่เสียเวลาใส่ใจกับเรื่องคนทะเลาะกันมากจนเกินไป การดูคนข้ดแย้งกันนั้นมันน่าติดตามก็จริง แต่ก็นับเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ ดังนั้นอย่าเอาเรื่องคนตีกันมาทำให้ใจเราขุ่นมัวไปทั้งวันเลยจะดีกว่า
35) ไม่ใช้เวลากับคนที่เรารักอย่างเพียงพอ เราแต่ละคนต่างใช้เวลาอยู่บนโลกนี้ไม่นานนักหรอก อย่าคิดว่าจะเจอกันได้อีกนานเลย
36) กลัวที่จะเป็นคนกล้าแสดงออก ซึ่งแม้ว่าการแสดงออกนั้นอาจจะไม่ได้ทำให้เราเกิดเด่นดังขึ้นมา แต่การลองอะไรสักตั้งย่อมเป็นประสบการณ์ที่สำคัญยิ่งแก่ชีวิตของเราเช่นกัน
37) ไม่แสดงความกรุณาปราณีเห็นอกเห็นใจผู้อื่นยามเมื่อมีโอกาส รู้จักที่จะขอบคุณผู้อื่นอย่างจริงใจ แล้วเราจะพบว่าชีวิตของเราจะดีขึ้นเมื่อยามได้กระทำ
37 สิ่งที่คนใกล้จะตายเอ่ยปากเสียดายที่ไม่ได้ทำ
1) ไม่ไปเที่ยวเมื่อมีโอกาส ทั้งนี้เมื่อเราแก่ตัวลง โอกาสจะไปเที่ยว ณ ที่ดังกล่าวก็ยิ่งยากขึ้น ซึ่งยังรวมถึงเมื่อแก่ตัวลง ก็มีคนที่ต้องพึ่งพาเรามากขึ้น ดังนั้นการจะไปเที่ยวที่ไหนสักที่ ก็ต้องหิ้วกันยกครอบครัวพะรุงพะรังกันไป ทั้งลำบากและเสียเงินเสียทองมากขึ้น
2) ไม่ขวนขวายเรียนรู้ภาษาอื่น ซึ่งมักจะมีโอกาสได้เรียนในช่วงมัธยม ซึ่งก็น่าจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์เสีย
3) มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อใครบางคน ซึ่งแม้ว่าจะแก้ไขนั้นยาก แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าการทิ้งความสัมพันธ์ที่แย่นั้นเอาไว้และทำให้เป็นภาระแก่ทุกๆ คน
4) ไม่ยอมใช้ครีมกันแดดตอนไปเที่ยว ซึ่ง ณ เวลานั้นอาจจะคิดว่าไม่ได้เป็นอะไรนักรอก แต่พอนานๆ เข้าแก่ตัวลง ผิวหนังเหี่ยวย่นตกกระเพราะแดด แล้วก็มานั่งเสียใจในภายหลัง
5) พลาดโอกาสที่จะไปดูการแสดงของวงดนตรีที่ชื่นชอบ เพราะเราไม่อาจรู้วันเวลาว่าอาจแยกวงกันเมื่อไหร่ และเมื่อนั้นโอกาสที่จะไปดูการแสดงก็เป็นอันหมดสิทธิ์
6) กลัวที่จะทำในเรื่องที่กล้าท้าทาย ความกลัวอาจยัำบยั้งชะงักเรา แต่ก็อย่าให้ความกลัวนั้นครอบงำเรา
7) ไม่ได้ใส่ใจสุขภาพความแข็งแรงของร่างกาย ยามแก่ตัวลงก็จะมานั่งนึกตระหนักเสียดายว่าตอนยามหนุ่มน่าจะใส่ใจมากกว่านี้
8) ปล่อยให้เรื่องเพศ มาเป็นตัวขัดขวางโอกาสในการทำสิ่งต่างๆ จงตั้งมั่นกำหนดแนวทางของตน อย่าให้สังคมรอบข้างมาเป็นตัวตัดสิน
9) ไม่ยอมออกจากงานที่ไม่ได้เรื่อง บางทีเพราะเราอาจคิดว่าเงินนั้นสำคัญกว่า แต่นั่นหมายความว่าเราจะต้องจมปลักอยู่กับเรื่องแย่ๆ ทุกวัน
10) ตอนเรียนไม่ยอมตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่ แม้ว่าเกรดนั้นสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการเรียนรู้ที่จะประยุกต์สิ่งต่างๆ ด้วยตนเองและมีความเอาใจใส่ในสิ่งที่กระทำ
11) อย่าคิดว่าตนนั้นไม่สวยไม่หล่อ ความสวยความหล่อนั้นสามารถนิยามได้จากหลายอย่าง อย่าคิดว่าตัวเรานั้นไม่มีค่าพอที่คนอื่นจะมาสนใจเรา
12) อย่ากลัวจะบอกรักใคร การบอกรักคือรางวัลที่มีค่ายิ่ง แม้ว่าจะไม่ได้รับความรักนั้นตอบกลับคืนมาอย่างเท่าเทียมกันก็ตาม
13) อย่าปิดกั้นโอกาสที่จะฟังคำแนะนำจากพ่อแม่ ท่านอาบน้ำร้อนมาก่อนท่านย่อมรู้ดีกว่าเรา
14) ช่วงวัยรุ่นอย่าเอาตนเองเป็นที่ตั้งจนไม่สนใจโลกรอบข้าง อย่าลืมว่ายังมีอะไรหลายๆ อย่างที่มากไปกว่าความเป็นตัวตนของเรา และสักวันหนึ่ง เราก็จะได้ตระหนัก
15) อย่าไปใส่ใจใครจะคิดอะไรกับเรามากจนเกินไป เมื่อยามเราแก่ตัวลง ยามนั้นเราจะระลึกได้ว่าความเห็นของคนอื่นไม่มีความสลักสำคัญอะไรในการสร้างความสุขเที่ยงแท้ในใจเรา
16) โอกาสในการช่วยเหลือสานฝันแก่ผู้อื่นจนไม่เหลือเวลาในการสานฝันให้ตนเอง การเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่นั้นเป็นสิ่งดี แต่จะมีประโยชน์อะไรที่เราต้องสละความสุขที่ตนควรจะมี
17) พะว้าพะวงลังเลไม่ตัดสินใจอะไรลงไปสักที อย่าถ่วงเวลาตัดสินใจทำอะไรนานจนเกินไป เพราะในที่สุดก็จะมานั่งนึกเสียใจในภายหลังกับเวลาที่เสียไป
18) อาฆาตแค้นคนอื่น โดยเฉพาะกับคนที่คุณรัก ควรตัดสินใจปล่อยความความเจ็บปวดที่ได้รับ ดีกว่าที่จะมานั่งจมปลักอยู่กับความอาฆาตแค้นเหล่านั้น
19) ไม่ยืนหยัดเชื่อมั่นในความคิดของตนเอง เพียงแค่กลัวว่าคนอื่นอาจจะไม่เห็นด้วย การที่คนอื่นไม่เห็นด้วย ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเสียจุดยืนต่อความเห็นของเราไป
20) ทิ้งโอกาสที่จะช่วยเหลือคนอื่น มีเหตุผลสนับสนุนได้นับไม่ถ้วนที่จะช่วยเหลือผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ
21) ไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพฟันของตน แม้ว่าการขัดฟันแปรงฟันของตนดูเป็นเรื่องที่น่าเบื่อไม่อยากทำ แต่การใส่ใจสุขภาพฟันตั้งแต่ยามเล็กๆดีกว่าจะมามีปัญหาเรื่องฟันในภายหลัง
22) ไม่ได้ใช้โอกาสพูดคุยกับปู่ย่าตายายก่อนที่ท่านจะจากไป ท่านสะสมความรู้ไว้มากและท่านมีโอกาสที่จะอยู่กับเราสั้นนัก
23) อย่ามัวแต่โหมงานมากจนเกินไป เพราะอาจจะสูญเสียโอกาสในการทำสิ่งอื่นๆ ที่มีคุณค่ายิ่งในชีวิตไป หรือโหมงานจนไม่เป็นอันทำงานด้วยความสุข
24) พลาดโอกาสที่จะทำครัว หัดทำอาหารที่ดีๆ สักมื้อ การที่มีส่วนช่วยทำให้ครอบครัวและเพื่อนฝูงมาพร้อมหน้ากัน นั้นมีค่ายิ่งกว่าที่เราคิดมากนัก
25) พลาดโอกาสที่จะได้ดื่มด่ำกับช่วงเวลาดีดีที่ได้ประสบ อย่ามัวแต่ใช้สมาร์ทโฟนส่งข้อความหรือถ่ายรูปจนลืมไปว่า แท้จริงแล้วเรามาทำอะไร
26) เริ่มอะไรแล้วก็ต้องทำให้เสร็จ มีโอกาสที่จะทำได้ทุกวัน ดังนั้นอย่าปล่อยให้เสียเปล่า
27) ไม่ได้หัดฝึกกลเม็ดเคล็ดลับไว้โชว์เพื่อนฝูง แม้ว่าจะดูไม่มีค่าอะไร แต่ลองคิดดูถึงโอกาสที่จะสร้างความประทับใจดีดีแก่คนรอบข้าง
28) ปล่อยให้สังคมขีดขั้นอนาคตในตัวเรา ถ้าครอบครัวหรือสังคมคนรอบข้างคิดว่าเราควรทำอะไร ประกอบอาชีพอะไร เราก็ไม่จำเป็นต้องทำไปตามความเห็นเหล่านั้น ไม่ควรเลยจริงๆ
29) ไม่ยอมสานความสัมพันธ์ฉันมิตรกับผู้อื่นเมื่อยามมีโอกาส เมื่อยามต้องห่างไกลกัน การพยายามจะไปสร้างความสัมพันธ์ยามห่างไกล จะสร้างปัญหามากกว่าสร้างประโยชน์
30) ขาดโอกาสที่จะเอาใจใส่เล่นกับลูกของตนอย่างเพียงพอ เด็กๆ มีความแจ่มใสร่าเริงไร้เดียงสา ดังนั้นเราก็ควรจะให้ตัวเราได้พบกับสิ่งดังกล่าวด้วย แทนที่จะหลีกเลี่ยงโอกาสอันดีนี้
31) ไม่ยอมเสี่ยงการใหญ่การลงทุนเสี่ยงในเรื่องใหญ่ๆ ที่สำคัญ ก็มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ใหญ่ยิ่งด้วยเช่นกัน
32) ไม่หาโอกาสในการสร้างเครือข่ายคนรู้จักให้กว้างขวาง ซึ่งแม้อาจจะดูราวกับให้เป็นคนช่างจ้อช่างเข้าสังคม แต่กระนั้นการสร้างเครือข่ายคนให้กว้างขวางเข้าไว้จะเป็นประโยชน์ต่ออาชีพของตนในระยะยาว
33) มัวแต่เป็นกังวลมากจนเกินไป การห่วงกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึงเป็นเรื่องไร้ประโยชน์สิ้นดี
34) มัวแต่เสียเวลาใส่ใจกับเรื่องคนทะเลาะกันมากจนเกินไป การดูคนข้ดแย้งกันนั้นมันน่าติดตามก็จริง แต่ก็นับเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ ดังนั้นอย่าเอาเรื่องคนตีกันมาทำให้ใจเราขุ่นมัวไปทั้งวันเลยจะดีกว่า
35) ไม่ใช้เวลากับคนที่เรารักอย่างเพียงพอ เราแต่ละคนต่างใช้เวลาอยู่บนโลกนี้ไม่นานนักหรอก อย่าคิดว่าจะเจอกันได้อีกนานเลย
36) กลัวที่จะเป็นคนกล้าแสดงออก ซึ่งแม้ว่าการแสดงออกนั้นอาจจะไม่ได้ทำให้เราเกิดเด่นดังขึ้นมา แต่การลองอะไรสักตั้งย่อมเป็นประสบการณ์ที่สำคัญยิ่งแก่ชีวิตของเราเช่นกัน
37) ไม่แสดงความกรุณาปราณีเห็นอกเห็นใจผู้อื่นยามเมื่อมีโอกาส รู้จักที่จะขอบคุณผู้อื่นอย่างจริงใจ แล้วเราจะพบว่าชีวิตของเราจะดีขึ้นเมื่อยามได้กระทำ