โดยสมใจ ปฏิยุทธ
คุณหมอบอกว่า ข้าพเจ้าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 2 ต้องได้รับการผ่าตัดด่วน ตอนนั้นอายุ 63 ปี หลังจากการผ่าตัด ต่อมาได้รับเคมีบำบัดรวม 11 ครั้ง (ครั้งที่ 12 งดไปเพราะข้าพเจ้าไม่ไหวแล้ว คุณหมอยอมหยุด) ช่วงระยะที่รับเคมีบำบัด ข้าพเจ้าอ่อนแอมาก ต้องจ้างแม่บ้านมาดูแลเรื่องอาหาร ดูแลบ้าน กินอาหารเช้าเสร็จนั่งพักสักครู่ ก็ต้องนอน หลับบ้างไม่หลับบ้าง เที่ยงกินอาหารเที่ยง พัก ขึ้นนอน ตื่นขึ้นมากินอาหารเย็น นอน ทำเช่นนี้อยู่นาน 6 – 7 เดือน เสร็จจากเคมีบำบัดได้ตัดสินใจไปศูนย์ธรรมชาติบำบัด บัลวี (จ.เชียงใหม่) ตื่นเช้า 6:30 น. ขับรถ (~ 10 กิโลเมตร) ไปออกกำลังกาย อบตัว นวดตัว อาบแดด รับน้ำเกลือ+วิตามินซี รับการอบรม กินอาหารมังสวิรัติ ร่างกายก็ค่อย ๆ แข็งแรงขึ้น หลังจากเข้าคอร์สอย่างเข้มข้น 7 วัน ข้าพเจ้ายังคงไปรับน้ำเกลือ+วิตามินซีอีกสัปดาห์ละครั้งนาน 6 เดือน หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ เว้นระยะห่างเป็น 2 สัปดาห์/ครั้ง 1 เดือน/ครั้ง ตามลำดับ ทำเช่นนี้ 2 ปี เริ่มกินปลาได้ กินแกงส้ม ต้มปลา ต้มเห็ด 3 อย่าง ต้มผัก และพยายามทำอาหารเอง (แม่บ้านได้ขอลาออก) รู้สึกดีที่ได้ทำอะไรเอง ได้ออกกำลังกายบ้าง
4 ปี หลังจากปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดตามที่คุณหมอศูนย์ธรรมชาติบำบัดแนะนำไป x-ray ที่โรงพยาบาล คุณหมอตรวจพบก้อนเนื้อที่ปอด คุณมะเร็งกลับมา จะทำยังไงได้นอกจากเข้ารับการผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออก คุณหมอจะทำเคมีบำบัดครั้งที่ 2 ไม่ไหว ข้าพเจ้าไม่ยอม เข็ดขยาด กลัว ไม่พร้อม กลับไปตรวจระยะเวลาห่างกันเพียง 6 เดือน มะเร็งกลับมาอีก ก้อนเนื้อที่ 2 งอกออกมา ครั้งนี้คุณหมอได้ตัดปอดกลีบบนด้านขวาออกไป และได้ทำเคมีบำบัดครบ 12 ครั้ง แปลกที่ว่าข้าพเจ้าทนยาเคมีครั้งที่ 2 ได้ดีกว่าครั้งแรก ไม่ต้องถึงกับล้มหมอนนอนทั้งวัน ทำอาหารกินเองได้ เดินเล่น ฝึกโยคะ ไปซูเปอร์ ไปวัด ไปสังสรรค์ได้
เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี เพื่อนคนหนึ่งได้ส่งหนังสือ “ธรรมชาติช่วยชีวิต” (Dr. Tom Wu เขียน ชาญ ชนประกอบ แปล) เป็นหนังสือที่ดีมาก เพียงแต่เราปรับเปลี่ยนอาหาร และวิธีการกิน ทำให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้ ดร.อู๋ ได้เน้นเรื่องการกินผัก 60% ข้าว 10% ผลไม้ 10% ถั่ว 10% โปรตีนจากสัตว์ 5% เมล็ดพืชเปลือกแข็งและเมล็ดพืชดิบ 5% ข้าพเจ้าได้ปั่นน้ำผัก+ผลไม้ดื่มทุกวัน เปอร์เซ็นต์อาจจะไม่ได้ตามสูตรเป๊ะ ๆ ปรับเปลี่ยนบ้างให้มีรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ไม่จืดเกินไป พยายามทำอาหารเอง ส่วนใหญ่เป็นประเภทปลา ผักและผลไม้ ขนมปังโฮลวีท ข้าวกล้อง เป็นต้น
ระยะหลังจากการรับเคมีบำบัดครั้งที่ 2 ข้าพเจ้าได้ตัดสินใจกินยา “ไฟโตเพล็กซ์” (ยานี้เป็นสูตรตำรายาของคุณหมอสมหมาย ที่ได้มอบให้องค์การเภสัชกรรมไปพัฒนาและผลิตจำหน่าย) และใบ “ทุเรียนเทศ” หรือ “ทุเรียนน้ำ” ต้มสลับกัน คือ กินยา 3 วัน ดื่มใบทุเรียนน้ำต้ม 3 วัน หยุด 1 วัน ทำเช่นนี้ 6 เดือน หลังจากนั้นจึงค่อย ๆ ลดจำนวนยา และใช้ใบทุเรียนน้ำชงเป็นชาดื่ม ผ่านไป 3 ปีกว่าแล้ว ไปตรวจ x-ray ครั้งหลัง คุณหมอถึงกับอุทานว่า “miracle” “ปอดของคุณป้าสะอาดมาก ไม่มีอะไรเลย” ผลการตรวจค่า CEA = 1.1 (ค่า CEA ของคนปกติไม่ควรเกิน 2.5) สยบมะเร็งได้แล้วใช่ไหม เพื่อนหลายคนประหลาดใจ เมื่อเห็นข้าพเจ้าเดินเข้าไปที่งานสังสรรค์รุ่น ได้เข้ามาถามไถ่เรื่องอาหารและสูตรยาสยบมะเร็ง
เมื่อ 2 ปีก่อน ข้าพเจ้าได้ไปสืบเสาะหาทุเรียนน้ำ เมื่อพบแล้วได้ขอใบเขามาต้มดื่ม เมื่อมีลูกก็เอามาปั่นดื่ม เจ้าของไม่หวงเพราะตัวเขาเองไม่กิน เพราะไม่อร่อย เปรี้ยว ปัจจุบันนี้ไม่กล้าขอฟรีอีกแล้ว บางจังหวัดมีชาวสวนนำมาขายกิโลกรัมละ 100 – 150 บาท ขายทางอินเตอร์เนตแพงกว่ามาก ดีใจที่ชาวสวนมีรายได้ และมีความรู้เกี่ยวกับทุเรียนน้ำมากขึ้น แม้แต่ชาวเขาบนดอยอมก๋อย (จ.เชียงใหม่) ญาติของข้าพเจ้าเห็นลูกทุเรียนน้ำที่ต้นลูกใหญ่ลูกหนึ่ง ขอซื้อเขาไม่ขาย บอกว่าจะเก็บไว้ให้ลูกหลานกิน
เนื้อทุเรียนน้ำเหมือนน้อยหน่าไม่มีผิด รสชาติก็คล้ายๆแต่มีรสเปรี้ยวผสม
การต้มใบทุเรียนน้ำดื่มเห็นผลชัดเจนกับข้าพเจ้าและผู้ป่วยมะเร็ง รายหนึ่งเธอเป็นมะเร็งลำไส้ครั้งแรก และเป็นมะเร็งปากมดลูกครั้งที่ 2 ได้ไปรับคีโมจนผมร่วง คลื่นไส้ อาเจียน ทนไม่ไหวแล้วขอหยุด ข้าพเจ้าได้นำเอกสารฝากไปให้ผู้ป่วยรายนี้ เธอเชื่อและต้มใบทุเรียนน้ำดื่ม กินไฟโตเพล็กซ์ ปรากฏว่า มะเร็งหายไป เธอดีใจมาก และได้ถ่ายเอกสารแจกจ่ายให้ผู้ป่วยรายอื่นทราบ เวลาผ่านมา 2 ปีแล้ว เธอยังคงแข็งแรงดีไปทำงานได้
ขอให้ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งจงมีกำลังใจที่เข้มแข็ง ต่อสู้กับโรคอย่างอดทนเหมือนคนเป็นโรคอื่น ๆ ใช้ชีวิตตามปกติ แต่ต้องไม่ทำงานหนักหรือมุ่งมั่นอยากให้โรคหายโดยเร็ว การดื่มใบทุเรียนเทศต้มหรือปั่นผลทุเรียนเทศกินเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้เซลล์มะเร็งลดน้อยลงไปได้ งานวิจัยทั้งหลายมีเฉพาะในหลอดทดลองและการทดลองกับหนูเท่านั้น การทดลองในคนยังมีเฉพาะผู้ป่วยที่ทดลองดื่มกินกันเอง บางคนหาย (หลังจากรับเคมีบำบัดร่วมด้วย) บางคนไม่หาย แต่ก็มีความหวังว่าพืชชนิดนี้จะเป็นทางเลือกของผู้ป่วยมะเร็งที่แพ้กับการรับเคมีบำบัด หรือเป็นตัวเสริมให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น ขอให้ผู้ป่วยมะเร็งทั้งหลายจงโชคดี
ขอขอบคุณเพื่อน (ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม) ที่ช่วยแปลและเรียบเรียงหนังสือเล่มนี้ ที่มีความเห็นตรงกันว่า จะช่วยนำความรู้เกี่ยวกับพืชชนิดนี้ให้แพร่หลายออกไป เพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วยมะเร็ง และผู้รักสุขภาพทั้งหลาย
หลังจากอ่านจบผมก็สนใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และได้ค้นคว้าพร้อมรวบรวมสิ่งที่น่าสนใจเอาไว้คร่าวๆดังนี้…….
มาทำความรู้จัก ความลับของทุเรียนน้ำ
Welcome To Graviola-Secret
ผมลองกินทั้งขณะที่ยังแข็ง และนิ่มแล้ว ( ทิ้งไว้ 2-3 วัน ) พบว่าผมชอบแบบแข็งมากกว่า แต่แบบนิ่มจะเหมือนน้อยหน่าเลย
Graviola Fruit : ยาธรรมชาติต่อสู้มะเร็ง
ทุเรียนน้ำ พบได้ในป่าฝนเขตร้อน ในแถบอเมซอน (Amazon) ซึ่งเป็นพืชที่ปฏิวัติความคิดของเรา ต่อวิธีการในการรักษาโรคมะเร็ง
การค้นพบสรรพคุณต่อสู้มะเร็ง อย่างได้ผลชะงัด ของ Graviola ทำให้อนาคตของชาวโลกดูสดใสขึ้น งานวิจัยหลาย ๆ ชิ้นแสดงให้เห็นว่าพืชมหัศจรรย์ตัวนี้ สามารถโจมตีโรคมะเร็งอย่างปลอดภัยต่อสุขภาพมนุษย์ และได้ผลดีด้วยกรรมวิธีอันเป็นธรรมชาติ และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใด ๆ ไม่ว่าการสูญเสียน้ำหนัก และเส้นผมหลุดร่วง ในขณะที่สามารถปกป้องระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ Graviola ยังออกฤทธิ์ต่อสู้กับโรคร้ายต่าง ๆ หลายชนิด ผู้ป่วยที่ได้รับสารสกัดจากทุเรียนน้ำนี้ จะมีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง และสุขภาพสมบูรณ์มากขึ้น มีพลังงานสูงขึ้น อีกทั้งทำให้การมองโลก มองชีวิตมีการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญ
ผลการวิจัยของบริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกา ผู้ผลิตยารายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งได้ทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการตั้งแต่ ปี 2513 แสดงให้เห็นว่า ทุเรียนน้ำ หรือ Graviola มีคุณสมบัติต่อสู้โรคร้ายต่าง ๆ ดังนี้
สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้ถึง 12 ชนิด
เมื่อเทียบกับการบำบัดรักษาด้วยเคโม (Chemotherapy) ซึ่งเป็นยาเคมีที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน สารสกัดจาก Graviola มีคุณสมบัติดีกว่าเมื่อใช้กับคนป่วยโรคมะเร็ง ถึงหมื่นเท่า
ต่างกันการบำบัดด้วยวิธีเคโม สารประกอบที่สกัดจาก Graviola จะเลือกไล่ล่าเฉพาะเซลล์มะเร็ง โดยไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ดีอื่น ๆ เลย
คุณสมบัติอันน่าพิศวงในการต่อต้านมะเร็งของ Graviola ซึ่งผ่านการวิจัยทดสอบมามากมาย แต่เหตุใดเราจึงไม่ค่อยได้รับรู้อะไรเกี่ยวกับพืชชนิดนี้ แม้ว่า Graviola อาจออกฤทธิ์ได้เพียงครึ่งเดียวของคุณสมบัติแท้จริงของมัน ก็นับว่ามีคุณค่าอย่างยิ่ง เหตุใดเภสัชกรตามโรงพยาบาลใหญ่ ๆ จึงไม่ผลักดันให้ใช้กับคนไข้ คำตอบบนปลายแหลมของเรื่อง สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า สุขภาพของคนเราและชีวิตของทุก ๆ คนนั้นถูกควบคุมด้วยเงินและอำนาจได้ง่ายดายเพียงใด
คุณสมบัติด้านยาของ Graviola (Soursop)
การออกฤทธิ์ (หลัก) การออกฤทธิ์ (รอง)
Main Actions Other Actions
ฆ่าเซลล์มะเร็ง ลดความเครียด
ลดการเจริญเติบโตของก้อนเนื้อมะเร็ง ลดอาการกระตุก
ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ฆ่าเชื้อไวรัส
ฆ่าพยาธิต่าง ๆ ลดไข้
ลดความดันโลหิต ขับพยาธิ
ลดการเต้นของหัวใจ กระตุ้นการย่อยอาหาร
ขยายหลอดเลือด Stop convulsions
Sedates
ประโยชน์ 7 ข้อ ที่ได้รับจากทุเรียนเทศ (ทุเรียนน้ำ)
โดย Ahmd feri fauzi
ทุเรียนเทศไม่ใช้เป็นเพียงผลไม้ที่นำมาทำเป็นเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมารับประทานได้ทันที ประโยชน์ของทุเรียนเทศมีมากมาย แต่คนจำนวนมากยังไม่ทราบ ผลของทุเรียนเทศมีประโยชน์มาก แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือใบที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเซลล์มะเร็งได้
ผลของทุเรียนเทศเป็น natural cancer cell killer และยังมีประโยชน์ในการป้องกันเชื้อโรคได้หลายชนิด อีกทั้งมีประโยชน์ต่อสุขภาพดังนี้คือ
มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะมีปริมาณวิตามินซีสูง
ยับยั้งการเป็นโรคกระดูกพรุน เพราะมีปริมาณ P และ Ca มากเพียงพอที่จะป้องกันการเกิดโรคได้
มีเส้นใยสูง ทำให้ขบวนการย่อยอาหารได้ดี
ให้พลังงานแก่ร่างกาย เพราะมีคาร์โบไฮเดรทสูง
ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดี ป้องกันการเกิดไมเกรน
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ผลของทุเรียนเทศอุดมไปด้วย phytochemical conpounds ป้องกันเชื้อโรคและการเกิดเนื้องอก
ข้อควรระวัง ผู้ที่ตั้งครรภ์และเป็นโรคความดันโลหิตต่ำ ไม่ควรรับประทานใบ แต่สามารถรับประทานผลในปริมาณที่พอเหมาะได้
ปัจจุบันผมสามารถหาผลมาได้บ้าง และพยายามเพาะเมล็ดอยู่ ใครที่สนใจอยากได้ผล ใบที่จะใช้ทำชาดื่ม หรือต้นในอนาคต สามารถติดต่อมาได้นะครับที่เบอร์ 089-4405303 , 083-8247419 ผมยินดีขายให้ในราคาที่ไม่โหดเกินไปครับ ^___^
[CR] ทุเรียนน้ำ แก้ + กัน มะเร็ง ???
คุณหมอบอกว่า ข้าพเจ้าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 2 ต้องได้รับการผ่าตัดด่วน ตอนนั้นอายุ 63 ปี หลังจากการผ่าตัด ต่อมาได้รับเคมีบำบัดรวม 11 ครั้ง (ครั้งที่ 12 งดไปเพราะข้าพเจ้าไม่ไหวแล้ว คุณหมอยอมหยุด) ช่วงระยะที่รับเคมีบำบัด ข้าพเจ้าอ่อนแอมาก ต้องจ้างแม่บ้านมาดูแลเรื่องอาหาร ดูแลบ้าน กินอาหารเช้าเสร็จนั่งพักสักครู่ ก็ต้องนอน หลับบ้างไม่หลับบ้าง เที่ยงกินอาหารเที่ยง พัก ขึ้นนอน ตื่นขึ้นมากินอาหารเย็น นอน ทำเช่นนี้อยู่นาน 6 – 7 เดือน เสร็จจากเคมีบำบัดได้ตัดสินใจไปศูนย์ธรรมชาติบำบัด บัลวี (จ.เชียงใหม่) ตื่นเช้า 6:30 น. ขับรถ (~ 10 กิโลเมตร) ไปออกกำลังกาย อบตัว นวดตัว อาบแดด รับน้ำเกลือ+วิตามินซี รับการอบรม กินอาหารมังสวิรัติ ร่างกายก็ค่อย ๆ แข็งแรงขึ้น หลังจากเข้าคอร์สอย่างเข้มข้น 7 วัน ข้าพเจ้ายังคงไปรับน้ำเกลือ+วิตามินซีอีกสัปดาห์ละครั้งนาน 6 เดือน หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ เว้นระยะห่างเป็น 2 สัปดาห์/ครั้ง 1 เดือน/ครั้ง ตามลำดับ ทำเช่นนี้ 2 ปี เริ่มกินปลาได้ กินแกงส้ม ต้มปลา ต้มเห็ด 3 อย่าง ต้มผัก และพยายามทำอาหารเอง (แม่บ้านได้ขอลาออก) รู้สึกดีที่ได้ทำอะไรเอง ได้ออกกำลังกายบ้าง
4 ปี หลังจากปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดตามที่คุณหมอศูนย์ธรรมชาติบำบัดแนะนำไป x-ray ที่โรงพยาบาล คุณหมอตรวจพบก้อนเนื้อที่ปอด คุณมะเร็งกลับมา จะทำยังไงได้นอกจากเข้ารับการผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออก คุณหมอจะทำเคมีบำบัดครั้งที่ 2 ไม่ไหว ข้าพเจ้าไม่ยอม เข็ดขยาด กลัว ไม่พร้อม กลับไปตรวจระยะเวลาห่างกันเพียง 6 เดือน มะเร็งกลับมาอีก ก้อนเนื้อที่ 2 งอกออกมา ครั้งนี้คุณหมอได้ตัดปอดกลีบบนด้านขวาออกไป และได้ทำเคมีบำบัดครบ 12 ครั้ง แปลกที่ว่าข้าพเจ้าทนยาเคมีครั้งที่ 2 ได้ดีกว่าครั้งแรก ไม่ต้องถึงกับล้มหมอนนอนทั้งวัน ทำอาหารกินเองได้ เดินเล่น ฝึกโยคะ ไปซูเปอร์ ไปวัด ไปสังสรรค์ได้
เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี เพื่อนคนหนึ่งได้ส่งหนังสือ “ธรรมชาติช่วยชีวิต” (Dr. Tom Wu เขียน ชาญ ชนประกอบ แปล) เป็นหนังสือที่ดีมาก เพียงแต่เราปรับเปลี่ยนอาหาร และวิธีการกิน ทำให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้ ดร.อู๋ ได้เน้นเรื่องการกินผัก 60% ข้าว 10% ผลไม้ 10% ถั่ว 10% โปรตีนจากสัตว์ 5% เมล็ดพืชเปลือกแข็งและเมล็ดพืชดิบ 5% ข้าพเจ้าได้ปั่นน้ำผัก+ผลไม้ดื่มทุกวัน เปอร์เซ็นต์อาจจะไม่ได้ตามสูตรเป๊ะ ๆ ปรับเปลี่ยนบ้างให้มีรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ไม่จืดเกินไป พยายามทำอาหารเอง ส่วนใหญ่เป็นประเภทปลา ผักและผลไม้ ขนมปังโฮลวีท ข้าวกล้อง เป็นต้น
ระยะหลังจากการรับเคมีบำบัดครั้งที่ 2 ข้าพเจ้าได้ตัดสินใจกินยา “ไฟโตเพล็กซ์” (ยานี้เป็นสูตรตำรายาของคุณหมอสมหมาย ที่ได้มอบให้องค์การเภสัชกรรมไปพัฒนาและผลิตจำหน่าย) และใบ “ทุเรียนเทศ” หรือ “ทุเรียนน้ำ” ต้มสลับกัน คือ กินยา 3 วัน ดื่มใบทุเรียนน้ำต้ม 3 วัน หยุด 1 วัน ทำเช่นนี้ 6 เดือน หลังจากนั้นจึงค่อย ๆ ลดจำนวนยา และใช้ใบทุเรียนน้ำชงเป็นชาดื่ม ผ่านไป 3 ปีกว่าแล้ว ไปตรวจ x-ray ครั้งหลัง คุณหมอถึงกับอุทานว่า “miracle” “ปอดของคุณป้าสะอาดมาก ไม่มีอะไรเลย” ผลการตรวจค่า CEA = 1.1 (ค่า CEA ของคนปกติไม่ควรเกิน 2.5) สยบมะเร็งได้แล้วใช่ไหม เพื่อนหลายคนประหลาดใจ เมื่อเห็นข้าพเจ้าเดินเข้าไปที่งานสังสรรค์รุ่น ได้เข้ามาถามไถ่เรื่องอาหารและสูตรยาสยบมะเร็ง
เมื่อ 2 ปีก่อน ข้าพเจ้าได้ไปสืบเสาะหาทุเรียนน้ำ เมื่อพบแล้วได้ขอใบเขามาต้มดื่ม เมื่อมีลูกก็เอามาปั่นดื่ม เจ้าของไม่หวงเพราะตัวเขาเองไม่กิน เพราะไม่อร่อย เปรี้ยว ปัจจุบันนี้ไม่กล้าขอฟรีอีกแล้ว บางจังหวัดมีชาวสวนนำมาขายกิโลกรัมละ 100 – 150 บาท ขายทางอินเตอร์เนตแพงกว่ามาก ดีใจที่ชาวสวนมีรายได้ และมีความรู้เกี่ยวกับทุเรียนน้ำมากขึ้น แม้แต่ชาวเขาบนดอยอมก๋อย (จ.เชียงใหม่) ญาติของข้าพเจ้าเห็นลูกทุเรียนน้ำที่ต้นลูกใหญ่ลูกหนึ่ง ขอซื้อเขาไม่ขาย บอกว่าจะเก็บไว้ให้ลูกหลานกิน
เนื้อทุเรียนน้ำเหมือนน้อยหน่าไม่มีผิด รสชาติก็คล้ายๆแต่มีรสเปรี้ยวผสม
การต้มใบทุเรียนน้ำดื่มเห็นผลชัดเจนกับข้าพเจ้าและผู้ป่วยมะเร็ง รายหนึ่งเธอเป็นมะเร็งลำไส้ครั้งแรก และเป็นมะเร็งปากมดลูกครั้งที่ 2 ได้ไปรับคีโมจนผมร่วง คลื่นไส้ อาเจียน ทนไม่ไหวแล้วขอหยุด ข้าพเจ้าได้นำเอกสารฝากไปให้ผู้ป่วยรายนี้ เธอเชื่อและต้มใบทุเรียนน้ำดื่ม กินไฟโตเพล็กซ์ ปรากฏว่า มะเร็งหายไป เธอดีใจมาก และได้ถ่ายเอกสารแจกจ่ายให้ผู้ป่วยรายอื่นทราบ เวลาผ่านมา 2 ปีแล้ว เธอยังคงแข็งแรงดีไปทำงานได้
ขอให้ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งจงมีกำลังใจที่เข้มแข็ง ต่อสู้กับโรคอย่างอดทนเหมือนคนเป็นโรคอื่น ๆ ใช้ชีวิตตามปกติ แต่ต้องไม่ทำงานหนักหรือมุ่งมั่นอยากให้โรคหายโดยเร็ว การดื่มใบทุเรียนเทศต้มหรือปั่นผลทุเรียนเทศกินเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้เซลล์มะเร็งลดน้อยลงไปได้ งานวิจัยทั้งหลายมีเฉพาะในหลอดทดลองและการทดลองกับหนูเท่านั้น การทดลองในคนยังมีเฉพาะผู้ป่วยที่ทดลองดื่มกินกันเอง บางคนหาย (หลังจากรับเคมีบำบัดร่วมด้วย) บางคนไม่หาย แต่ก็มีความหวังว่าพืชชนิดนี้จะเป็นทางเลือกของผู้ป่วยมะเร็งที่แพ้กับการรับเคมีบำบัด หรือเป็นตัวเสริมให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น ขอให้ผู้ป่วยมะเร็งทั้งหลายจงโชคดี
ขอขอบคุณเพื่อน (ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม) ที่ช่วยแปลและเรียบเรียงหนังสือเล่มนี้ ที่มีความเห็นตรงกันว่า จะช่วยนำความรู้เกี่ยวกับพืชชนิดนี้ให้แพร่หลายออกไป เพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วยมะเร็ง และผู้รักสุขภาพทั้งหลาย
หลังจากอ่านจบผมก็สนใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และได้ค้นคว้าพร้อมรวบรวมสิ่งที่น่าสนใจเอาไว้คร่าวๆดังนี้…….
มาทำความรู้จัก ความลับของทุเรียนน้ำ
Welcome To Graviola-Secret
ผมลองกินทั้งขณะที่ยังแข็ง และนิ่มแล้ว ( ทิ้งไว้ 2-3 วัน ) พบว่าผมชอบแบบแข็งมากกว่า แต่แบบนิ่มจะเหมือนน้อยหน่าเลย
Graviola Fruit : ยาธรรมชาติต่อสู้มะเร็ง
ทุเรียนน้ำ พบได้ในป่าฝนเขตร้อน ในแถบอเมซอน (Amazon) ซึ่งเป็นพืชที่ปฏิวัติความคิดของเรา ต่อวิธีการในการรักษาโรคมะเร็ง
การค้นพบสรรพคุณต่อสู้มะเร็ง อย่างได้ผลชะงัด ของ Graviola ทำให้อนาคตของชาวโลกดูสดใสขึ้น งานวิจัยหลาย ๆ ชิ้นแสดงให้เห็นว่าพืชมหัศจรรย์ตัวนี้ สามารถโจมตีโรคมะเร็งอย่างปลอดภัยต่อสุขภาพมนุษย์ และได้ผลดีด้วยกรรมวิธีอันเป็นธรรมชาติ และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใด ๆ ไม่ว่าการสูญเสียน้ำหนัก และเส้นผมหลุดร่วง ในขณะที่สามารถปกป้องระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ Graviola ยังออกฤทธิ์ต่อสู้กับโรคร้ายต่าง ๆ หลายชนิด ผู้ป่วยที่ได้รับสารสกัดจากทุเรียนน้ำนี้ จะมีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง และสุขภาพสมบูรณ์มากขึ้น มีพลังงานสูงขึ้น อีกทั้งทำให้การมองโลก มองชีวิตมีการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญ
ผลการวิจัยของบริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกา ผู้ผลิตยารายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งได้ทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการตั้งแต่ ปี 2513 แสดงให้เห็นว่า ทุเรียนน้ำ หรือ Graviola มีคุณสมบัติต่อสู้โรคร้ายต่าง ๆ ดังนี้
สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้ถึง 12 ชนิด
เมื่อเทียบกับการบำบัดรักษาด้วยเคโม (Chemotherapy) ซึ่งเป็นยาเคมีที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน สารสกัดจาก Graviola มีคุณสมบัติดีกว่าเมื่อใช้กับคนป่วยโรคมะเร็ง ถึงหมื่นเท่า
ต่างกันการบำบัดด้วยวิธีเคโม สารประกอบที่สกัดจาก Graviola จะเลือกไล่ล่าเฉพาะเซลล์มะเร็ง โดยไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ดีอื่น ๆ เลย
คุณสมบัติอันน่าพิศวงในการต่อต้านมะเร็งของ Graviola ซึ่งผ่านการวิจัยทดสอบมามากมาย แต่เหตุใดเราจึงไม่ค่อยได้รับรู้อะไรเกี่ยวกับพืชชนิดนี้ แม้ว่า Graviola อาจออกฤทธิ์ได้เพียงครึ่งเดียวของคุณสมบัติแท้จริงของมัน ก็นับว่ามีคุณค่าอย่างยิ่ง เหตุใดเภสัชกรตามโรงพยาบาลใหญ่ ๆ จึงไม่ผลักดันให้ใช้กับคนไข้ คำตอบบนปลายแหลมของเรื่อง สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า สุขภาพของคนเราและชีวิตของทุก ๆ คนนั้นถูกควบคุมด้วยเงินและอำนาจได้ง่ายดายเพียงใด
คุณสมบัติด้านยาของ Graviola (Soursop)
การออกฤทธิ์ (หลัก) การออกฤทธิ์ (รอง)
Main Actions Other Actions
ฆ่าเซลล์มะเร็ง ลดความเครียด
ลดการเจริญเติบโตของก้อนเนื้อมะเร็ง ลดอาการกระตุก
ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ฆ่าเชื้อไวรัส
ฆ่าพยาธิต่าง ๆ ลดไข้
ลดความดันโลหิต ขับพยาธิ
ลดการเต้นของหัวใจ กระตุ้นการย่อยอาหาร
ขยายหลอดเลือด Stop convulsions
Sedates
ประโยชน์ 7 ข้อ ที่ได้รับจากทุเรียนเทศ (ทุเรียนน้ำ)
โดย Ahmd feri fauzi
ทุเรียนเทศไม่ใช้เป็นเพียงผลไม้ที่นำมาทำเป็นเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมารับประทานได้ทันที ประโยชน์ของทุเรียนเทศมีมากมาย แต่คนจำนวนมากยังไม่ทราบ ผลของทุเรียนเทศมีประโยชน์มาก แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือใบที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเซลล์มะเร็งได้
ผลของทุเรียนเทศเป็น natural cancer cell killer และยังมีประโยชน์ในการป้องกันเชื้อโรคได้หลายชนิด อีกทั้งมีประโยชน์ต่อสุขภาพดังนี้คือ
มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะมีปริมาณวิตามินซีสูง
ยับยั้งการเป็นโรคกระดูกพรุน เพราะมีปริมาณ P และ Ca มากเพียงพอที่จะป้องกันการเกิดโรคได้
มีเส้นใยสูง ทำให้ขบวนการย่อยอาหารได้ดี
ให้พลังงานแก่ร่างกาย เพราะมีคาร์โบไฮเดรทสูง
ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดี ป้องกันการเกิดไมเกรน
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ผลของทุเรียนเทศอุดมไปด้วย phytochemical conpounds ป้องกันเชื้อโรคและการเกิดเนื้องอก
ข้อควรระวัง ผู้ที่ตั้งครรภ์และเป็นโรคความดันโลหิตต่ำ ไม่ควรรับประทานใบ แต่สามารถรับประทานผลในปริมาณที่พอเหมาะได้
ปัจจุบันผมสามารถหาผลมาได้บ้าง และพยายามเพาะเมล็ดอยู่ ใครที่สนใจอยากได้ผล ใบที่จะใช้ทำชาดื่ม หรือต้นในอนาคต สามารถติดต่อมาได้นะครับที่เบอร์ 089-4405303 , 083-8247419 ผมยินดีขายให้ในราคาที่ไม่โหดเกินไปครับ ^___^