พ่ออายุ74. เวลาแกไปตลาดก็จะมีแม่ค้ามาพูดดี เอาอกเอาใจแกอย่างดี
จนหลายคนมาขอยืมเงินแก บอกจะเอาไปปิดหมวกกันน๊อคเงินกู้ร้อยละยี่สิบ
แกก็สงสาร บอกตายแน่โดนร้อยละยี่ทำมาหากินลงดอกหมด ก็ให้เงินไปโดยคิดร้อยละ5
ทีนี้แห่กันมาทั้งตลาด เดินเข้าเดินออกกัน เต็มบ้าน
เราก็เตือนบอกพ่อ. พ่อบอก น่าสงสารคนทำมาหากิน
หนีหนี้ย้ายบ้านเช่าไปหลายราย หมดไปหลายแสน
มีอยู่คนหนึ่ง เป็นผู้หญิฃอายุราว30
ทำมาเป็นขับรถพาพ่อหาหมอ เอาอกเอาใจพ่อตลอด มาขอยืมเงิน ช่วงแรกก็ 140,000. ลงชื่อไว้ว่าเอาเงินพ่อไป
ก็ส่งแต่ดอกพ่อ 5%
ผู้หญิงคนนี้มีลูก. ขายผลไม้ ท่าทางขยัน พ่อชอบคนขยันก็เลยยิ่งไว้ใจ
ต่อมาบอกรถค้างผ่อนหลายงวด มาขอวางรถ รถคันนี่ยังผ่อนอยู่ ผ่อนไปได้ครึ่งทาง
วางตอนแรก100,000 พ่อก็ไม่มีเงินแล้วไปเอาจากเพื่อน(ปากเปล่า) เพื่อนไว้ใจ.
พ่อบอกเพื่อนว่าสงสาร ผู้หญิงคนนี้ ต้องเลี้ยงลูก สามีไปทำงานญี่ปุ่นยังไม่กลับ. มีน้องสาวติดการพนัน ผู้หญิงคนนี้ต้องคอยปลดหนี้ให้น้องสาว
(. น้องสาวติดพนันจริงแต่เรื่องปลดหนี้ให้ ไม่รู้ เพราะทุกวันนี้ น้องสาวหล่อนยังหลบหนี้คนอื่นอยู่)
เพื่อนพ่อก็บอกให้จอดรถไว้ที่บ้านพ่อนั่นแหละ.
พ่อสงสารอีก ให้เอารถไปขายของ กลัวว่าจะไม่สามารถทำมาหากินได้
งวดสอง มาส่งดอก ขอเพิ่มวงเงิน
พ่อไปยืมเพื่อนอีกคนให้ ด้วยปากเปล่าเช่นเดิมอีก150,000
แต่ให้จอดรถทิ้งไว้เลย ผู้หญิงก็อ้างโน่นนี่. เดวเอาไปรับลูกก่อน เดวเอาไปขายของที่ม๊อบก่อน
จากนั้นพ่อโทรไปก็ไม่รับสาย. ล่าสุดเมื่อวานมีคนบอกแกว่าผู้หญิงคนนี้ไปขายเสื้อที่ราชดำเนินตรงข้ามกองสลาก
แกบั่งรถเมล์จากพระราม7 ไปเดินตามหาตั้งแต่โรงแรมรัตนโกสินทร์ถึงแยกคอกวัวตอนเที่ยงๆแเดดจัดๆ แต่ไม่เจอ
เมื่อเช้าเราตัดสินใจพาพ่อไปบ้านผู้หญิงคนนี้ตอนแปดโมง. มีรถจอดอยู่
พ่อตะโกนเรียก กดกริ่งก็ไม่ยอมลงมา
คอยอยู่พักนึงก็เงียบ
คนแถวนั้นบอกอยู่. แต่ไม่ออกมา
เราสงสารพ่อเรามาก. ถามแกว่ามีเซ็นเอกสารไว้ไหม. พ่อบอกเซ็นแค่ตอนแรก 140,000
แต่ตอนเอารถมาวาง ไม่ได้เซ็นต์
อยากปรึกษาว่าทำไรได้บ้างคะ
พ่อต้องมารับภาระจ่ายหนี้แทนอีก
ก็เป็นเราที่ต้องช่วยแก
เราสามารถปโรงพัก ให้ตำรวจพามาคุยตกลงได้ไหม
ช่วยพ่อเราด้วย เพราะสงสารถึงโดนหลอก
จนหลายคนมาขอยืมเงินแก บอกจะเอาไปปิดหมวกกันน๊อคเงินกู้ร้อยละยี่สิบ
แกก็สงสาร บอกตายแน่โดนร้อยละยี่ทำมาหากินลงดอกหมด ก็ให้เงินไปโดยคิดร้อยละ5
ทีนี้แห่กันมาทั้งตลาด เดินเข้าเดินออกกัน เต็มบ้าน
เราก็เตือนบอกพ่อ. พ่อบอก น่าสงสารคนทำมาหากิน
หนีหนี้ย้ายบ้านเช่าไปหลายราย หมดไปหลายแสน
มีอยู่คนหนึ่ง เป็นผู้หญิฃอายุราว30
ทำมาเป็นขับรถพาพ่อหาหมอ เอาอกเอาใจพ่อตลอด มาขอยืมเงิน ช่วงแรกก็ 140,000. ลงชื่อไว้ว่าเอาเงินพ่อไป
ก็ส่งแต่ดอกพ่อ 5%
ผู้หญิงคนนี้มีลูก. ขายผลไม้ ท่าทางขยัน พ่อชอบคนขยันก็เลยยิ่งไว้ใจ
ต่อมาบอกรถค้างผ่อนหลายงวด มาขอวางรถ รถคันนี่ยังผ่อนอยู่ ผ่อนไปได้ครึ่งทาง
วางตอนแรก100,000 พ่อก็ไม่มีเงินแล้วไปเอาจากเพื่อน(ปากเปล่า) เพื่อนไว้ใจ.
พ่อบอกเพื่อนว่าสงสาร ผู้หญิงคนนี้ ต้องเลี้ยงลูก สามีไปทำงานญี่ปุ่นยังไม่กลับ. มีน้องสาวติดการพนัน ผู้หญิงคนนี้ต้องคอยปลดหนี้ให้น้องสาว
(. น้องสาวติดพนันจริงแต่เรื่องปลดหนี้ให้ ไม่รู้ เพราะทุกวันนี้ น้องสาวหล่อนยังหลบหนี้คนอื่นอยู่)
เพื่อนพ่อก็บอกให้จอดรถไว้ที่บ้านพ่อนั่นแหละ.
พ่อสงสารอีก ให้เอารถไปขายของ กลัวว่าจะไม่สามารถทำมาหากินได้
งวดสอง มาส่งดอก ขอเพิ่มวงเงิน
พ่อไปยืมเพื่อนอีกคนให้ ด้วยปากเปล่าเช่นเดิมอีก150,000
แต่ให้จอดรถทิ้งไว้เลย ผู้หญิงก็อ้างโน่นนี่. เดวเอาไปรับลูกก่อน เดวเอาไปขายของที่ม๊อบก่อน
จากนั้นพ่อโทรไปก็ไม่รับสาย. ล่าสุดเมื่อวานมีคนบอกแกว่าผู้หญิงคนนี้ไปขายเสื้อที่ราชดำเนินตรงข้ามกองสลาก
แกบั่งรถเมล์จากพระราม7 ไปเดินตามหาตั้งแต่โรงแรมรัตนโกสินทร์ถึงแยกคอกวัวตอนเที่ยงๆแเดดจัดๆ แต่ไม่เจอ
เมื่อเช้าเราตัดสินใจพาพ่อไปบ้านผู้หญิงคนนี้ตอนแปดโมง. มีรถจอดอยู่
พ่อตะโกนเรียก กดกริ่งก็ไม่ยอมลงมา
คอยอยู่พักนึงก็เงียบ
คนแถวนั้นบอกอยู่. แต่ไม่ออกมา
เราสงสารพ่อเรามาก. ถามแกว่ามีเซ็นเอกสารไว้ไหม. พ่อบอกเซ็นแค่ตอนแรก 140,000
แต่ตอนเอารถมาวาง ไม่ได้เซ็นต์
อยากปรึกษาว่าทำไรได้บ้างคะ
พ่อต้องมารับภาระจ่ายหนี้แทนอีก
ก็เป็นเราที่ต้องช่วยแก
เราสามารถปโรงพัก ให้ตำรวจพามาคุยตกลงได้ไหม