หากเราคิดกันแค่เรื่องที่ว่า รถไฟฟ้าจะขาดทุน ผมก็เห็นด้วยครับ โอกาสจะขาดทุนเรื่องรถไฟฟ้าน่ะ มี ใช่ว่าไม่มี

ถ้าเทียบกันเรื่อง เครื่องบินกับรถไฟฟ้าความเร็วสูง ยกตัวอย่างเอาว่าถ้าไปเชียงใหม่ ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงพอๆกันครับ มันเป็นอีก option นึง ในราคาที่ใกล้เคียงกัน ถ้าไม่ขึ้นรถไฟก็ไปเครื่องบิน หรือเปล่า

แต่ถ้าเรามองในแง่การลงทุนล่ะครับ ?
ยกตัวอย่าง สายกรุงเทพ-เชียงใหม่ จะมีกี่สถานี ที่จะเกิดขึ้นจากระหว่างทางจากกรุงเทพ-เชียงใหม่
แล้วแต่ละสถานีที่ทางรถไฟฟ้าพาดผ่าน จะไม่มีการสร้างมูลค่าให้กับพื้นที่ตรงนั้นหรือ ? การสร้างงานให้กับพื้นที่ตรงนั้นจะไม่เกิดหรือ ?

มองง่ายๆว่า รถไฟฟ้าใต้ดิน ผ่านปากทางลาดพร้าวมารัชดา ถามว่าถ้าเราเป็นรัฐบาลที่ลงทุนให้ เราคาดหวังว่ารถไฟฟ้าจะได้กำไร หรือเราจะคาดหวังว่า Land value บริเวณนั้นจะต้องสูงขึ้นมากและมีการลงทุน การจ้างงาน

ตอนนี้ที่ดินจากห้าแยกลาดพร้าวมาถึงแยกรัชดาลาดพร้าว คอนโดขึ้นกันให้พรึบ ราคาต่อห้องเท่าไหร่ กลายเป็นที่ดินแพงขึ้นในพริบตา เพราะอยู่ในเส้นทางของรถไฟฟ้า

ส่วนตัวผมเอง ผมมองตรงนี้มากกว่าครับ

แล้วถ้าเป็นระยะทางไกล จาก กรุงเทพ - เชียงใหม่ จังหวัดที่จะได้อานิสงค์แน่ๆ ก็คือ จังหวัดที่จะมีสถานีรถไฟ อาจะ นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ แล้วถามว่า 3 จังหวัดนี้ land value จะไม่โตเหรอครับ กระจายความเจริญออกไปสู่ชนบท ไม่จำเป็นต้องกระจุกอยู่แต่ในเมืองหลวง แล้วรัฐบาลค่อยไปจัดเก็บภาษีจากตรงนี้มา นี่แค่สายเดียว แล้วถ้าทำอีก 3 สายล่ะครับ

ผมมองตรงนี้มากกว่าการจะไปคาดหวังเรื่องกำไรขาดทุนจากรถไฟฟ้าครับ การสร้างงาน การสร้างเมือง การสร้างโอกาส ถามว่าใครจะได้โอกาส ตอบว่า คนที่รู้จักวิธีพลิกพวกนี้ให้เป็นโอกาสครับ

ต่อไป บริษัทใหญ่ๆ ไม่จำเป็นต้องกระจุกอยู่แต่ในกรุงเทพ ไปอยู่ตามหัวเมืองได้ ไม่ว่าจะภาคเหนือ อิสาน ตะวันออก หรือใต้

การสร้างโอกาส อย่างที่ชัชชาติบอก ถ้าไม่ทำตอนนี้ได้ไหม ตอบว่าได้ แต่ประเทศจะเสียโอกาส โอกาสนี้ใช่ว่าเสียโอกาสเพราะไม่ได้ใช้รถไฟฟ้า แต่เสียโอกาสในแง่ของความพร้อมด้านการลงทุนที่จะเกิดในอนาคต

มันเหมือนสาย LAN นะครับ ถ้าสาย Lan พี่เป็นแค่ megabit ยังไงมันก็ไม่ flow เท่า Gigabit ถ้าพี่ไม่เตรียมพร้อม สักวัน bandwith มันก็จะต้องเต็ม ถึงตอนนั้นค่อยมาสร้าง เขาเรียกว่า ไม่มีวิสัยทัศน์ในการเตรียมความพร้อมมั้ย ?

การกู้เงินมาสร้าง ถ้ามองว่าโกงทั้ง 2 ล้านๆ ก็จบครับ ไม่มีอะไรจะคุยกันต่อ แต่ถ้ามองอย่างคนมีสติ ใครมันจะไปโกงได้ทั้งสองล้านๆครับ ถ้าเงินกู้นี้ออกมาได้แล้วสร้างไม่สำเร็จ เพื่อไทยมีตายเจ็ดชั่วโคตร รับรอง

เงินกู้ 2 ล้านล้าน สร้างประเทศนี้ ไม่ว่า พรรคไหนออกนโยบาย ผมก็ไม่ขัดขวางครับและจะสนับสนุนด้วย หากมันเป็นการสร้างชาติ

งบประมาณประเทศแต่ละปี ก็หลัก หลายล้านๆนะครับ อย่างปี 2556 ก็ 2.4 ล้านล้าน ในระยะเวลา 50 ปี เงินอย่างต่ำเราจะเก็บได้ 2.4x50 = 120 ล้านๆ บาทครับ ไม่รวมอัตราค่าเงินก้าวหน้าในอนาคตนะ เอาเงินส่วนนี้ไปจ่ายเงินกู้พร้อมดอก 5 ล้านๆ ในระยะเวลา 50 ปี แลกกับความพร้อมในระบบสาธารณูปโภค จะทำไม่ได้เลยรึพี่

เงินเอาไปสร้างระบบสาธารณูปโภค ใช่จะเป็นเงินละลายแม่น้ำนะครับ ยังไงมันก็ต้องมีเงินออกกระเป๋าซ้ายแล้วเข้ากระเป๋าขวาให้กับรัฐบาลชุดต่อๆไปแน่นอน

พรรคเพื่อไทยจะอยู่จนถึงใช้หนี้ครบห้าสิบปีมั้ย ตอบเลยว่า ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ หากโครงการนี้สำเร็จเป็นประโยชน์ต่อชาติอย่างมหาศาล

เรื่องกำไรขาดทุนจากรถไฟฟ้านี่เป็นเรื่องเล็กมากๆครับ การสร้างงาน สร้างมูลค่าที่ดิน การขยายความเจริญไปส่วนภูมิภาคต่างหากครับ ปัจจัยหลัก

คุณสร้างทางด่วน สร้างถนนผ่านสถานที่ต่างๆ คุณคาดหวังว่าคุณจะได้เงินคืนจากการสร้างถนน หรือได้เงินคืนจากภาษีในรูปแบบต่างๆที่รัฐบาลจะเก็บได้
คุณสร้างสนามบิน คุณคาดหวังจะได้กำไรคืนจากค่าภาษีสนามบิน หรือได้เงินคืนในรูปแบบภาษีต่างๆที่รัฐบาลจะเก็บได้

ฉันใดก็ฉันนั้นครับ

รัฐบาลมาหน้าที่ลงทุนสาธารณูปโภค แล้วประชาชนจ่ายภาษีคืนกับรัฐบาลในรูปแบบต่างๆ ถ้ามองแค่เรื่องรถไฟฟ้าขนผัก ให้คนจนใช้ จะเจ๊งเพราะไม่มีคนขึ้น คิดตื้นไปครับ

ดูอย่างแอร์พอร์ตลิงค์ หากมีการจัดการเรื่องสถานีให้ดีกว่านี้ อีกไม่เกิน 10 ปี รับรองว่าที่ดินแถวนี้แพงอย่างทอง

โปรดมองให้กว้างกว่า วลีที่ว่า "กู้มาโกง" ไม่ว่าพรรคไหนเสนอนโยบายนี้ ผมก็สนับสนุนทั้งนั้น แต่มีข้อแม้ว่า ขอให้สำเร็จ