คำเตือน 8 ประการ ก่อนเสพย์
1. นี่เป็นกระทู้สายไสยศาสตร์ หากท่านอ่านแต่ไร้ความศรัทธา ท่านจะผิดผี ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ กระทู้นี้มีพลังงานบางอย่าง
2. อาจมีประโยชน์สำหรับมือใหม่ที่สามารถอดทนอ่านได้จนจบ ถ้าเก่งแล้วไม่มีประโยชน์แนะนำไม่ต้องอ่าน จะเสียเวลามากเพราะกระทู้นี้ค่อนข้างยาว
3. จขกทมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์มีประสบการณ์เล่นหุ้นมา 2 สัปดาห์
4. จขกทจบมอหก เอ็นไม่ติด
5. จขกทขณะนี้ยังติดดอยมากมาย ตั้งแต่เล่นมายังไม่เคยมีกำไรแม้แต่ครั้งเดียว ขาดทุนย่อยยับ
6. เนื้อหาเขียนด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน แต่จะเข้าใจได้หรือไม่นั้น ขึ้นกับระดับสติปัญญาของท่านเอง
7. ห้ามถามอะไรที่มีสาระกับจขกท เพราะจขกทแอนตี้สาระ
8. ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้อง 18+
เอาล่ะ เชิญเสพย์ ณ บัดนี้
เนื้อหาวันนี้เหมาะสำหรับผู้ศรัทธาในไสยศาสตร์ เครื่องราง และอำนาจมืด ขระ
เป็นแนวใหม่กำลังนิยม ขนานนามว่า “superstitious fundamental analysis” หรือ "ไสยฟันดา" เป็นแขนงย่อยของวิชาไสยศาสตร์ ความรู้ไม่เน้น เน้นการสักการะบูชา ขระ
เจ้าแม่ไวไวประทับร่าง!!! superstitious fundamentalist mama จงเจริญญญญญญญญญ
นู๋เพิ่งเปิดพอร์ท คันขระ จะซื้ออะไรดี : อย่าเพิ่งซื้อแจระ มาอ่านก่อน
ก่อนที่เราจะเข้าซื้อ สองสิ่งที่ควรจะพิจารณาเบื้องต้นคือ
1 การกระจายความเสี่ยง
2 สัดส่วนเงินลงทุน
การกระจายความเสี่ยง
ต้องยอมรับว่าในตลาดขาลง การเข้าซื้อหุ้นแบบสุ่มแล้วทำกำไรนั้น คงทำได้ไม่ง่ายนัก
หากเป็นในตลาดขาขึ้นนั้น การซื้อสุ่มโดยกระจายความเสี่ยงอยู่ในหุ้นพื้นฐานดี อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ เพราะมักให้ผลตอบแทนที่ดี และมีความเสี่ยงต่ำ โอกาสทำกำไรมักสูงกว่าการรวมความเสี่ยง ในขณะที่บางคนอาจเลือกที่จะซื้อหุ้นเพียงไม่กี่ตัว แต่ได้ดูแลอย่างใกล้ชิด ยอมรับความเสี่ยงที่สูงกว่า เพื่อที่จะได้เป็นคนกลุ่มน้อย ที่อยู่บนยอดของพีระมิด (ถ้าขึ้นผิดลูกจะกลายเป็นยอดดอยแทน)
พิจารณาจากภาพ ผู้ที่ลงทุนในหุ้นมากตัว เน้นกระจายความเสี่ยง ลักษณะการกระจายของผลตอบแทนจะเป็นแบบ leptokurtic เพราะมีการถัวเฉลี่ยด้วยหุ้นมากตัว แนวโน้มกำไร จึงค่อนข้างเกาะกลุ่ม คือ
หากเป็นตลาดขาขึ้น โอกาสได้ก็จะสูง หากเรามีวิธีเลือกหุ้นที่ดี ก็มักจะทำกำไรได้ แม้จะซื้อสุ่มแต่มีการกระจายความเสี่ยงดี ก็อาจทำกำไรได้เช่นกัน ฉะนั้น การกระจายความเสี่ยงในช่วงขาขึ้น จึงเป็นแนวคิดที่ปลอดภัย
หากเป็นตลาดขาลง โอกาสเสียก็จะสูงเช่นกัน ตามสภาพตลาด แต่โดยรวม แต่หากเป็นตลาดขาลง อาจไม่เป็นการดี ที่จะกระจายความเสี่ยง เพราะอาจทำให้ได้รับผลตอบแทนต่ำ หรืออาจติดลบได้
แล้วแบบนี้จะซื้อน้อยตัวเพื่ออะไร
พิจารณาจากภาพ ผู้ที่ลงทุนในหุ้นมากตัว ลักษณะการกระจายของผลตอบแทนจะเป็นแบบ platykurtic ผลตอบแทน ค่อนข้างสุ่ม มีทั้งได้มากและเสียมาก หากซื้อสุ่มก็ขึ้นกับดวง เป็นต้น
หากเป็นตลาดขาขึ้น ผู้ที่รวมความเสี่ยง มีโอกาสที่จะสูญเสียได้มากกว่าผู้กระจายความเสี่ยง แต่แลกมากับโอกาสจะเป็นคนส่วนน้อย ที่จะชนะตลาดอย่างมากเช่นกัน ในขณะที่ผู้กระจายความเสี่ยง โอกาสจะทำกำไรอย่างมากนั้นค่อนข้างยากเพราะมีการเฉลี่ยในจำนวณหุ้นมากตัว
หากเป็นตลาดขาลง หากเราเล่นแบบรวมความเสี่ยง เราก็มีโอกาสที่จะอยู่รอดได้มากกว่าแบบกระจายความเสี่ยง แต่ต้องแลกมากับความเสี่ยงใหม่ นั่นคือ เรามีโอกาสรอดสูงขึ้น แต่หากเราซื้อผิดตัว เรามักจะสูญเสีย มากกว่าการซื้อแบบกระจายความเสี่ยง
ซื้อแบบไหนดีคะคุณแม่
คำตอบคือขึ้นกับความซาดิสท์ของแต่ละบุคคล แต่วิธีที่ปลอดภัยเสมอคือ การเลือกลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง ในตลาดขาขึ้น ส่วนในตลาดขาลง การเล่นแบบกระจายความเสี่ยง อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก กลับกัน การเล่นแบบรวมความเสี่ยงสามารถให้ท่าน อยู่ในตลาดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง แต่ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่มากดังที่ได้อธิบายไว้ ณ ข้างต้น ซึ่งอาจเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า
เลือกอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบเสมอ
ในความเป็นจริงแล้ว เรายังมีเครื่องมืออีกมากมาย ที่เสนอผลตอบแทนให้ท่านได้ที่กว่าการซื้อแบบสุ่ม แล้ว buy and hold ยาวๆ หรือ รูปแบบการถัวนานาประเภท แล้วแต่ท่านจะเรียกชื่อ ทั้งนี้ ขึ้นกับบุญ และวาสนาของท่านค่ะ ว่าจะสามารถคว้าเพชรน้ำงามมาได้หรือไม่ หากท่านเล่นหุ้นเสียมาก แสดงว่าท่านบาปหนาค่ะ โดยเฉพาะท่านที่ประพฤติมิชอบ เสพย์ของมึนเมา เที่ยวอาบอบนวด ผิดมัวผิดเผีย เล่นชู้เล่นสวาท พวกนี้ มักโดนรุมโทรมในตลาดหุ้นค่ะ กงเกวียน กรรมเกวียน
สัดส่วนเงินลงทุน
เพื่อให้เห็นภาพพจน์จะขอยกตัวอย่างสั้นๆให้ดู เพื่อให้เกิดความเข้าใจ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเม่าสาวสวยอายุ 18 กับชู้อัศวินรูปงามนามเพชรกะลังนั่งชมสวนอยู่ในอุทยาท ทันใดนั้น อัศวินมีความคิดที่ว่า อยากจะชวนเม่าสาวประกอบกิจกรรมเพื่อความบันเทิงเริงรมณ์ ด้วยเกมโยนเหรียญ จึงได้สั่งทาสสวาทเม่าน้อยใจสู้ไปนำเหรียญมาสองเหรียญ เหรียญแรก ทำมามีน้ำหนักเหมาะสม โยนแล้วโอกาสได้เสียได้เคียงกัน ในขณะที่เหรียญที่สองหนึ่งผิดรูป โอกาสได้เสีย 2:1
กติกามีอยู่ว่า เริ่มต้น ให้เม่าสาววางเงินเดิมพันก้อนหนึ่ง
จากนั้นเม่าสาวจะมีโอกาสเลือก หากเลือกที่จะใช้เหรียญแรก คือเหรียญที่มีน้ำหนักเหมาะสม โยนแล้วโอกาสได้เสียได้เคียงกัน เม่าสาวจะต้องแบ่งเงินเป็นสองส่วน หากชนะจะได้กินเงินหนึ่งส่วน หากแพ้จะเสียหนึ่งส่วน และจะต้องโยนเหรียญไปจนกว่าจะได้กินเงินเพิ่มหนึ่งส่วน และเกมจะยุติทันทีเมื่อเม่าสาวเสียเงินไปหมดทั้งสองส่วน
หากเลือกที่จะใช้เหรียญที่สอง คือเหรียญที่ได้เปรียบซึ่งมีโอกาสได้เสีย 2:1 โยนแล้วโอกาสได้เสียได้เคียงกัน เงินเดิมพันให้นับเป็น 1 ส่วนเลย หากชนะจะได้กินเงินหนึ่งส่วน หากแพ้จะเสียหนึ่งส่วน เม่าสาวจะต้องโยนเหรียญไปจนกว่าจะได้กินเงินเพิ่มสองส่วน และเกมจะยุติทันทีเมื่อเม่าสาวเสียเงินไปหมดหนึ่งส่วนที่วาง
หากเม่าสาวต้องการเล่นระยะยาว โดนมีกติกาคือห้ามเปลี่ยนเหรียญกลางคัน ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ต้องเริ่มเกมส์ใหม่ ด้วยกติกาเดิม
เม่าสาวจะเลือกเล่นเกมส์ไหน เพราะอะไร
เม่าสาวคำนวณทันใด
ในเกมส์แรก เม่าสาวเริ่มต้นที่เงินสองส่วน จะแพ้เมื่อเงินหมดคือหมดตัวและจะชนะเมื่อมีเงินสามส่วน
กำหนด P(N) คือโอกาสชนะขณะทุน N
จากเงื่อนไขของอัศวินจะได้ว่า
เหรียญแรก เป็นตัวแทนการเทรดแบบสุ่ม
P(0) = 0 เพราะหมดตัว และ P(3) = 1 เพราะจะชนะเมื่อครบสามส่วน
ในแต่ละครั้งมีโอกาสได้เสีย 1:1 จึงได้
P(1) = .5*P(0)+.5*P(2) = .5*P(2)
P(2) = .5*P(1)+.5*P(3) = .5*.5*P(2)+.5*P(3)
P(2) = .5*P(3)/(1-.5*.5) = 2/3 P(3) =2/3
(gambling prob ธรรมดา hitting A before B, i/N v (1-(q/p)^i)/(1-(q/p)^N) หาอ่านได้ในหนังสือ gambling prob ค่ะ ที่ยกตัวอย่างมาให้ดู เพื่อให้เห็นคอนเสปเบื้องต้นของการใช้มาร์คอฟเชนวางซิสเต็มไดนามิกส์แบบง่ายๆ)
เม่ามีโอกาสชนะ 67% หากเลือกเหรียญแรก
เหรียญที่สอง เป็นตัวแทนการเทรดแบบเลือกหุ้นที่เหมาะสม
P(0) = 0 เพราะหมดตัว และ P(3) = 1 เพราะจะชนะเมื่อครบสามส่วน
ในแต่ละครั้งมีโอกาสได้เสีย 1:1 จึงได้
P(1) = 1/3*P(0)+2/3*P(2) = 2/3*P(2)
P(2) = 1/3*P(1)+2/3*P(3) = 2/3*P(3)/(1-1/3*2/3) = 6/7*P(3) = 6/7
P(1) = 2/3*P(2) = 2/3*6/7 = 4/7
เม่ามีโอกาสชนะ 57% หากเลือกเหรียญที่สอง
จะเห็นได้ว่า แม้เหรียญที่สองจะได้เปรียบคือท่านมีการคัดเลือกหุ้นที่ดี แต่โอกาสชนะของเหรียญหนึ่งซึ่งเปรียบเสมือนการคัดเลือกแบบเดาสุ่มกลับมีสูงกว่า เพราะ algorithm ที่แตกต่างกัน
แล้วเราควรจะเลือกแบบไหน
ตอนนี้สิ่งที่เราได้คือ
1. เม่ามีโอกาสชนะ 67% หากเลือกเหรียญแรก หากชนะ เม่าจะได้ 50% ของเงินเดิมพัน แต่หากแพ้ เม่าจะเสีย 100% ของเงินเดิมพัน
2. เม่ามีโอกาสชนะ 57% หากเลือกเหรียญที่สอง หากชนะ เม่าจะได้ 200% ของเงินเดิมพัน แต่หากแพ้ เม่าจะเสีย 100% ของเงินเดิมพัน
เงื่อนไขต่อมาคือเมื่อเม่าสาวเลือกเล่นเกมส์ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร จะต้องรับสภาพเงื่อนไขเดิมซ้ำๆ ไม่สามารถเปลี่ยนเหรียญกลางคันได้ นั่นก็หมายความว่า เม่าจะต้องวางแผนกำหนดเงินที่จะแทงแต่ละตาให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลกำไรที่ดีที่สุด
กำหนด f = สัดส่วนเงินลงทุน a = อัตราส่วนเงินที่เสียหากแพ้ b = อัตราส่วนเงินที่ได้หากชนะ P = โอกาสชนะ Q = โอกาสแพ้
เมื่อเม่าเล่นสิ้นสุดเกมส์ที่ N
ในขณะนั้นทุนจะเหลือ (1+fb)^(PN)*(1-fa)^(QN)
หาจุด extreme ผ่านอนุพันธ์ย่อยตัวแปร f จะได้
bPN*(1+fb)^(PN-1)*(1-fa)^(QN)-aQN*(1+fb)^(PN)*(1-fa)^(QN-1) = 0
bPN*(1+fb)^(PN-1)*(1-fa)^(QN) = aQN*(1+fb)^(PN)*(1-fa)^(QN-1)
bP*(1-fa) = aQ*(1+fb)
bP-fabP = aQ+fabQ
fab = bP-aQ ; P+Q=1
จะได้ f = P/a-Q/b
( Kelly criterion ชนิด 2 possible outcomes // วิธี P-Q/b หรือใช้ edge/odds เป็นเพียง special case เมื่อ a = 1 และมี 2 possible outcomes เท่านั้น // กรณี multiple possible outcomes ให้คำนวณผ่านสมการ log ตามปรกติ หาอ่านได้ใน textbook สายฟันดามาตรฐานแทบทุกเล่ม )
เม่ามีโอกาสชนะ 67% หากเลือกเหรียญแรก หากชนะ เม่าจะได้ 50% หากแพ้เม่าจะเสีย 100%
f = (2/3)/1 – (1/3)/.5 = 0 เม่า ไม่ควรเลือกเล่นโดยใช้เหรียญแรก
เม่ามีโอกาสชนะ 57% หากเลือกเหรียญที่สอง หากชนะ เม่าจะได้ 200% หากแพ้เม่าจะเสีย 100%
f = (4/7)/1 – (3/7)/2 = .36 เม่าควรเล่นโดยใช้เหรียญที่สอง ครั้งละไม่เกิน .36 เท่าของเงินที่แทง เพราะหากแทงมากกว่านี้ จะทำให้ได้ผลกำไรที่ลดลงในระยะยาว
แม้โอกาสชนะของเหรียญที่สองจะน้อยกว่า แต่เมื่อชนะแล้ว กลับให้ผลตอบแทนที่น่าลงทุน เม่าจึงควรเลือกใช้เหรียญที่สองในเกมส์นี้ และแทงแต่ละครั้งด้วยเงินพนันไม่เกิน .36 เท่าของทุน
จะเห็นได้ว่า หาเราจัดสรรเงินมาลงทุนด้วยเงิน X บาท หากเราต้องการให้มันงอกเงยมากที่สุดในระยะยาว เราไม่จำเป็นต้องลงทุนหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ การวางเงินด้วยสัดส่วนที่เหมาะสม อาจช่วยทำให้ระบบมีกำไรในระยะยาวได้ดีขึ้น ถ้าปราศจากการเตรียมการที่ดี เรามักจะเทรดมากเกินไปเสมอ
สรุปความเรื่องการกระจายความเสี่ยง และขนาดเงินทุนที่เหมาะสม
1. การลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง สำหรับผู้ที่ต้องการรับความเสี่ยงต่ำ และเหมาะในตลาดขาขึ้นเท่านั้น ผู้ที่เล่นแบบกระจายความเสี่ยงควรลดขนาดพอร์ทเมื่อตลาดเข้าสู่ขาลง มิฉะนั้นควรปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพตลาด ณ เวลาต่างๆ
2. การลงทุนแบบรวมความเสี่ยง เหมาะในตลาดทั้งสองแบบ แต่ต้องอาศัยประสบการณ์ หากท่านลงทุนแบบรวมความเสี่ยง ท่านควรมีเวลาติดตามดูแลการลงทุนของท่านอย่างใกล้ชิด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับความเสี่ยงสูง
3. overtrading เป็นสิ่งต้องห้าม แน่นอนว่าการลงเงินมากทำให้ได้กำไรมาก แต่เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง เงินที่ลงเพิ่ม จะทำให้กำไรลดลง
4. การวางแผนการกระจายความเสี่ยง และการกำหนดสัดส่วนเงินลงทุนที่ดี ช่วยให้ท่านมีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น ในขณะเดียวกัน หากท่านทำโดยขาดความรู้ความเข้าใจ ก็จะนำพาความเสื่อมมาสู่ตัวท่านได้เช่นกัน ดังนั้น เมื่อท่านทราบถึงผลดีผลเสียอย่างคร่าวแล้ว ท่านควรกำหนดกลยุทธ์การลงทุนให้ถูกกับจริตของท่านเอง
5. เนื้อหาทั้งหมดที่โพสเป็นเนื้อหาสายไสยฟันดา ซึ่งมีรากฐานมาจากการพนันค่อนข้างมาก
หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์บ้างไม่น้อยก็น้อยมากขระ
หมดโควต้าสาระแล้ว หากท่านอ่านแล้วไม่เข้าใจ แนะนำให้ท่านไปสะเดาะเคราะห์ขระ จะไม่มีสาระเพิ่มเติมในกระทู้นี้อีก เพราะขี้เกียจ สวัสดี
เจ้าแม่ประทานพรเรียบร้อย ขอตัวกลับสวรรค์ขระ
อ่านบทที่ 1 ย้อนหลัง
http://ppantip.com/topic/31456539
จัดไป เม่าเซเลบ 18+ ปูพื้นสู่คุณไสยเบื้องต้นบทที่ 2 : เกมส์ของเม่าและอัศวิน
1. นี่เป็นกระทู้สายไสยศาสตร์ หากท่านอ่านแต่ไร้ความศรัทธา ท่านจะผิดผี ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ กระทู้นี้มีพลังงานบางอย่าง
2. อาจมีประโยชน์สำหรับมือใหม่ที่สามารถอดทนอ่านได้จนจบ ถ้าเก่งแล้วไม่มีประโยชน์แนะนำไม่ต้องอ่าน จะเสียเวลามากเพราะกระทู้นี้ค่อนข้างยาว
3. จขกทมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์มีประสบการณ์เล่นหุ้นมา 2 สัปดาห์
4. จขกทจบมอหก เอ็นไม่ติด
5. จขกทขณะนี้ยังติดดอยมากมาย ตั้งแต่เล่นมายังไม่เคยมีกำไรแม้แต่ครั้งเดียว ขาดทุนย่อยยับ
6. เนื้อหาเขียนด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน แต่จะเข้าใจได้หรือไม่นั้น ขึ้นกับระดับสติปัญญาของท่านเอง
7. ห้ามถามอะไรที่มีสาระกับจขกท เพราะจขกทแอนตี้สาระ
8. ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้อง 18+
เอาล่ะ เชิญเสพย์ ณ บัดนี้
เนื้อหาวันนี้เหมาะสำหรับผู้ศรัทธาในไสยศาสตร์ เครื่องราง และอำนาจมืด ขระ
เป็นแนวใหม่กำลังนิยม ขนานนามว่า “superstitious fundamental analysis” หรือ "ไสยฟันดา" เป็นแขนงย่อยของวิชาไสยศาสตร์ ความรู้ไม่เน้น เน้นการสักการะบูชา ขระ
เจ้าแม่ไวไวประทับร่าง!!! superstitious fundamentalist mama จงเจริญญญญญญญญญ
นู๋เพิ่งเปิดพอร์ท คันขระ จะซื้ออะไรดี : อย่าเพิ่งซื้อแจระ มาอ่านก่อน
ก่อนที่เราจะเข้าซื้อ สองสิ่งที่ควรจะพิจารณาเบื้องต้นคือ
1 การกระจายความเสี่ยง
2 สัดส่วนเงินลงทุน
การกระจายความเสี่ยง
ต้องยอมรับว่าในตลาดขาลง การเข้าซื้อหุ้นแบบสุ่มแล้วทำกำไรนั้น คงทำได้ไม่ง่ายนัก
หากเป็นในตลาดขาขึ้นนั้น การซื้อสุ่มโดยกระจายความเสี่ยงอยู่ในหุ้นพื้นฐานดี อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ เพราะมักให้ผลตอบแทนที่ดี และมีความเสี่ยงต่ำ โอกาสทำกำไรมักสูงกว่าการรวมความเสี่ยง ในขณะที่บางคนอาจเลือกที่จะซื้อหุ้นเพียงไม่กี่ตัว แต่ได้ดูแลอย่างใกล้ชิด ยอมรับความเสี่ยงที่สูงกว่า เพื่อที่จะได้เป็นคนกลุ่มน้อย ที่อยู่บนยอดของพีระมิด (ถ้าขึ้นผิดลูกจะกลายเป็นยอดดอยแทน)
พิจารณาจากภาพ ผู้ที่ลงทุนในหุ้นมากตัว เน้นกระจายความเสี่ยง ลักษณะการกระจายของผลตอบแทนจะเป็นแบบ leptokurtic เพราะมีการถัวเฉลี่ยด้วยหุ้นมากตัว แนวโน้มกำไร จึงค่อนข้างเกาะกลุ่ม คือ
หากเป็นตลาดขาขึ้น โอกาสได้ก็จะสูง หากเรามีวิธีเลือกหุ้นที่ดี ก็มักจะทำกำไรได้ แม้จะซื้อสุ่มแต่มีการกระจายความเสี่ยงดี ก็อาจทำกำไรได้เช่นกัน ฉะนั้น การกระจายความเสี่ยงในช่วงขาขึ้น จึงเป็นแนวคิดที่ปลอดภัย
หากเป็นตลาดขาลง โอกาสเสียก็จะสูงเช่นกัน ตามสภาพตลาด แต่โดยรวม แต่หากเป็นตลาดขาลง อาจไม่เป็นการดี ที่จะกระจายความเสี่ยง เพราะอาจทำให้ได้รับผลตอบแทนต่ำ หรืออาจติดลบได้
แล้วแบบนี้จะซื้อน้อยตัวเพื่ออะไร
พิจารณาจากภาพ ผู้ที่ลงทุนในหุ้นมากตัว ลักษณะการกระจายของผลตอบแทนจะเป็นแบบ platykurtic ผลตอบแทน ค่อนข้างสุ่ม มีทั้งได้มากและเสียมาก หากซื้อสุ่มก็ขึ้นกับดวง เป็นต้น
หากเป็นตลาดขาขึ้น ผู้ที่รวมความเสี่ยง มีโอกาสที่จะสูญเสียได้มากกว่าผู้กระจายความเสี่ยง แต่แลกมากับโอกาสจะเป็นคนส่วนน้อย ที่จะชนะตลาดอย่างมากเช่นกัน ในขณะที่ผู้กระจายความเสี่ยง โอกาสจะทำกำไรอย่างมากนั้นค่อนข้างยากเพราะมีการเฉลี่ยในจำนวณหุ้นมากตัว
หากเป็นตลาดขาลง หากเราเล่นแบบรวมความเสี่ยง เราก็มีโอกาสที่จะอยู่รอดได้มากกว่าแบบกระจายความเสี่ยง แต่ต้องแลกมากับความเสี่ยงใหม่ นั่นคือ เรามีโอกาสรอดสูงขึ้น แต่หากเราซื้อผิดตัว เรามักจะสูญเสีย มากกว่าการซื้อแบบกระจายความเสี่ยง
ซื้อแบบไหนดีคะคุณแม่
คำตอบคือขึ้นกับความซาดิสท์ของแต่ละบุคคล แต่วิธีที่ปลอดภัยเสมอคือ การเลือกลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง ในตลาดขาขึ้น ส่วนในตลาดขาลง การเล่นแบบกระจายความเสี่ยง อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก กลับกัน การเล่นแบบรวมความเสี่ยงสามารถให้ท่าน อยู่ในตลาดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง แต่ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่มากดังที่ได้อธิบายไว้ ณ ข้างต้น ซึ่งอาจเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า
เลือกอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบเสมอ
ในความเป็นจริงแล้ว เรายังมีเครื่องมืออีกมากมาย ที่เสนอผลตอบแทนให้ท่านได้ที่กว่าการซื้อแบบสุ่ม แล้ว buy and hold ยาวๆ หรือ รูปแบบการถัวนานาประเภท แล้วแต่ท่านจะเรียกชื่อ ทั้งนี้ ขึ้นกับบุญ และวาสนาของท่านค่ะ ว่าจะสามารถคว้าเพชรน้ำงามมาได้หรือไม่ หากท่านเล่นหุ้นเสียมาก แสดงว่าท่านบาปหนาค่ะ โดยเฉพาะท่านที่ประพฤติมิชอบ เสพย์ของมึนเมา เที่ยวอาบอบนวด ผิดมัวผิดเผีย เล่นชู้เล่นสวาท พวกนี้ มักโดนรุมโทรมในตลาดหุ้นค่ะ กงเกวียน กรรมเกวียน
สัดส่วนเงินลงทุน
เพื่อให้เห็นภาพพจน์จะขอยกตัวอย่างสั้นๆให้ดู เพื่อให้เกิดความเข้าใจ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเม่าสาวสวยอายุ 18 กับชู้อัศวินรูปงามนามเพชรกะลังนั่งชมสวนอยู่ในอุทยาท ทันใดนั้น อัศวินมีความคิดที่ว่า อยากจะชวนเม่าสาวประกอบกิจกรรมเพื่อความบันเทิงเริงรมณ์ ด้วยเกมโยนเหรียญ จึงได้สั่งทาสสวาทเม่าน้อยใจสู้ไปนำเหรียญมาสองเหรียญ เหรียญแรก ทำมามีน้ำหนักเหมาะสม โยนแล้วโอกาสได้เสียได้เคียงกัน ในขณะที่เหรียญที่สองหนึ่งผิดรูป โอกาสได้เสีย 2:1
กติกามีอยู่ว่า เริ่มต้น ให้เม่าสาววางเงินเดิมพันก้อนหนึ่ง
จากนั้นเม่าสาวจะมีโอกาสเลือก หากเลือกที่จะใช้เหรียญแรก คือเหรียญที่มีน้ำหนักเหมาะสม โยนแล้วโอกาสได้เสียได้เคียงกัน เม่าสาวจะต้องแบ่งเงินเป็นสองส่วน หากชนะจะได้กินเงินหนึ่งส่วน หากแพ้จะเสียหนึ่งส่วน และจะต้องโยนเหรียญไปจนกว่าจะได้กินเงินเพิ่มหนึ่งส่วน และเกมจะยุติทันทีเมื่อเม่าสาวเสียเงินไปหมดทั้งสองส่วน
หากเลือกที่จะใช้เหรียญที่สอง คือเหรียญที่ได้เปรียบซึ่งมีโอกาสได้เสีย 2:1 โยนแล้วโอกาสได้เสียได้เคียงกัน เงินเดิมพันให้นับเป็น 1 ส่วนเลย หากชนะจะได้กินเงินหนึ่งส่วน หากแพ้จะเสียหนึ่งส่วน เม่าสาวจะต้องโยนเหรียญไปจนกว่าจะได้กินเงินเพิ่มสองส่วน และเกมจะยุติทันทีเมื่อเม่าสาวเสียเงินไปหมดหนึ่งส่วนที่วาง
หากเม่าสาวต้องการเล่นระยะยาว โดนมีกติกาคือห้ามเปลี่ยนเหรียญกลางคัน ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ต้องเริ่มเกมส์ใหม่ ด้วยกติกาเดิม
เม่าสาวจะเลือกเล่นเกมส์ไหน เพราะอะไร
เม่าสาวคำนวณทันใด
ในเกมส์แรก เม่าสาวเริ่มต้นที่เงินสองส่วน จะแพ้เมื่อเงินหมดคือหมดตัวและจะชนะเมื่อมีเงินสามส่วน
กำหนด P(N) คือโอกาสชนะขณะทุน N
จากเงื่อนไขของอัศวินจะได้ว่า
เหรียญแรก เป็นตัวแทนการเทรดแบบสุ่ม
P(0) = 0 เพราะหมดตัว และ P(3) = 1 เพราะจะชนะเมื่อครบสามส่วน
ในแต่ละครั้งมีโอกาสได้เสีย 1:1 จึงได้
P(1) = .5*P(0)+.5*P(2) = .5*P(2)
P(2) = .5*P(1)+.5*P(3) = .5*.5*P(2)+.5*P(3)
P(2) = .5*P(3)/(1-.5*.5) = 2/3 P(3) =2/3
(gambling prob ธรรมดา hitting A before B, i/N v (1-(q/p)^i)/(1-(q/p)^N) หาอ่านได้ในหนังสือ gambling prob ค่ะ ที่ยกตัวอย่างมาให้ดู เพื่อให้เห็นคอนเสปเบื้องต้นของการใช้มาร์คอฟเชนวางซิสเต็มไดนามิกส์แบบง่ายๆ)
เม่ามีโอกาสชนะ 67% หากเลือกเหรียญแรก
เหรียญที่สอง เป็นตัวแทนการเทรดแบบเลือกหุ้นที่เหมาะสม
P(0) = 0 เพราะหมดตัว และ P(3) = 1 เพราะจะชนะเมื่อครบสามส่วน
ในแต่ละครั้งมีโอกาสได้เสีย 1:1 จึงได้
P(1) = 1/3*P(0)+2/3*P(2) = 2/3*P(2)
P(2) = 1/3*P(1)+2/3*P(3) = 2/3*P(3)/(1-1/3*2/3) = 6/7*P(3) = 6/7
P(1) = 2/3*P(2) = 2/3*6/7 = 4/7
เม่ามีโอกาสชนะ 57% หากเลือกเหรียญที่สอง
จะเห็นได้ว่า แม้เหรียญที่สองจะได้เปรียบคือท่านมีการคัดเลือกหุ้นที่ดี แต่โอกาสชนะของเหรียญหนึ่งซึ่งเปรียบเสมือนการคัดเลือกแบบเดาสุ่มกลับมีสูงกว่า เพราะ algorithm ที่แตกต่างกัน
แล้วเราควรจะเลือกแบบไหน
ตอนนี้สิ่งที่เราได้คือ
1. เม่ามีโอกาสชนะ 67% หากเลือกเหรียญแรก หากชนะ เม่าจะได้ 50% ของเงินเดิมพัน แต่หากแพ้ เม่าจะเสีย 100% ของเงินเดิมพัน
2. เม่ามีโอกาสชนะ 57% หากเลือกเหรียญที่สอง หากชนะ เม่าจะได้ 200% ของเงินเดิมพัน แต่หากแพ้ เม่าจะเสีย 100% ของเงินเดิมพัน
เงื่อนไขต่อมาคือเมื่อเม่าสาวเลือกเล่นเกมส์ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร จะต้องรับสภาพเงื่อนไขเดิมซ้ำๆ ไม่สามารถเปลี่ยนเหรียญกลางคันได้ นั่นก็หมายความว่า เม่าจะต้องวางแผนกำหนดเงินที่จะแทงแต่ละตาให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลกำไรที่ดีที่สุด
กำหนด f = สัดส่วนเงินลงทุน a = อัตราส่วนเงินที่เสียหากแพ้ b = อัตราส่วนเงินที่ได้หากชนะ P = โอกาสชนะ Q = โอกาสแพ้
เมื่อเม่าเล่นสิ้นสุดเกมส์ที่ N
ในขณะนั้นทุนจะเหลือ (1+fb)^(PN)*(1-fa)^(QN)
หาจุด extreme ผ่านอนุพันธ์ย่อยตัวแปร f จะได้
bPN*(1+fb)^(PN-1)*(1-fa)^(QN)-aQN*(1+fb)^(PN)*(1-fa)^(QN-1) = 0
bPN*(1+fb)^(PN-1)*(1-fa)^(QN) = aQN*(1+fb)^(PN)*(1-fa)^(QN-1)
bP*(1-fa) = aQ*(1+fb)
bP-fabP = aQ+fabQ
fab = bP-aQ ; P+Q=1
จะได้ f = P/a-Q/b
( Kelly criterion ชนิด 2 possible outcomes // วิธี P-Q/b หรือใช้ edge/odds เป็นเพียง special case เมื่อ a = 1 และมี 2 possible outcomes เท่านั้น // กรณี multiple possible outcomes ให้คำนวณผ่านสมการ log ตามปรกติ หาอ่านได้ใน textbook สายฟันดามาตรฐานแทบทุกเล่ม )
เม่ามีโอกาสชนะ 67% หากเลือกเหรียญแรก หากชนะ เม่าจะได้ 50% หากแพ้เม่าจะเสีย 100%
f = (2/3)/1 – (1/3)/.5 = 0 เม่า ไม่ควรเลือกเล่นโดยใช้เหรียญแรก
เม่ามีโอกาสชนะ 57% หากเลือกเหรียญที่สอง หากชนะ เม่าจะได้ 200% หากแพ้เม่าจะเสีย 100%
f = (4/7)/1 – (3/7)/2 = .36 เม่าควรเล่นโดยใช้เหรียญที่สอง ครั้งละไม่เกิน .36 เท่าของเงินที่แทง เพราะหากแทงมากกว่านี้ จะทำให้ได้ผลกำไรที่ลดลงในระยะยาว
แม้โอกาสชนะของเหรียญที่สองจะน้อยกว่า แต่เมื่อชนะแล้ว กลับให้ผลตอบแทนที่น่าลงทุน เม่าจึงควรเลือกใช้เหรียญที่สองในเกมส์นี้ และแทงแต่ละครั้งด้วยเงินพนันไม่เกิน .36 เท่าของทุน
จะเห็นได้ว่า หาเราจัดสรรเงินมาลงทุนด้วยเงิน X บาท หากเราต้องการให้มันงอกเงยมากที่สุดในระยะยาว เราไม่จำเป็นต้องลงทุนหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ การวางเงินด้วยสัดส่วนที่เหมาะสม อาจช่วยทำให้ระบบมีกำไรในระยะยาวได้ดีขึ้น ถ้าปราศจากการเตรียมการที่ดี เรามักจะเทรดมากเกินไปเสมอ
สรุปความเรื่องการกระจายความเสี่ยง และขนาดเงินทุนที่เหมาะสม
1. การลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง สำหรับผู้ที่ต้องการรับความเสี่ยงต่ำ และเหมาะในตลาดขาขึ้นเท่านั้น ผู้ที่เล่นแบบกระจายความเสี่ยงควรลดขนาดพอร์ทเมื่อตลาดเข้าสู่ขาลง มิฉะนั้นควรปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพตลาด ณ เวลาต่างๆ
2. การลงทุนแบบรวมความเสี่ยง เหมาะในตลาดทั้งสองแบบ แต่ต้องอาศัยประสบการณ์ หากท่านลงทุนแบบรวมความเสี่ยง ท่านควรมีเวลาติดตามดูแลการลงทุนของท่านอย่างใกล้ชิด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับความเสี่ยงสูง
3. overtrading เป็นสิ่งต้องห้าม แน่นอนว่าการลงเงินมากทำให้ได้กำไรมาก แต่เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง เงินที่ลงเพิ่ม จะทำให้กำไรลดลง
4. การวางแผนการกระจายความเสี่ยง และการกำหนดสัดส่วนเงินลงทุนที่ดี ช่วยให้ท่านมีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น ในขณะเดียวกัน หากท่านทำโดยขาดความรู้ความเข้าใจ ก็จะนำพาความเสื่อมมาสู่ตัวท่านได้เช่นกัน ดังนั้น เมื่อท่านทราบถึงผลดีผลเสียอย่างคร่าวแล้ว ท่านควรกำหนดกลยุทธ์การลงทุนให้ถูกกับจริตของท่านเอง
5. เนื้อหาทั้งหมดที่โพสเป็นเนื้อหาสายไสยฟันดา ซึ่งมีรากฐานมาจากการพนันค่อนข้างมาก
หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์บ้างไม่น้อยก็น้อยมากขระ
หมดโควต้าสาระแล้ว หากท่านอ่านแล้วไม่เข้าใจ แนะนำให้ท่านไปสะเดาะเคราะห์ขระ จะไม่มีสาระเพิ่มเติมในกระทู้นี้อีก เพราะขี้เกียจ สวัสดี
เจ้าแม่ประทานพรเรียบร้อย ขอตัวกลับสวรรค์ขระ
อ่านบทที่ 1 ย้อนหลัง http://ppantip.com/topic/31456539