ตามนัด! ชาวไร่ข้าวโพดทวงเงินชดเชย โวยสิ้นฤดูผลิตแล้ว “รัฐบาลปู” ยังจ่ายไม่ครบ

เชียงราย - เกษตรกรชาวไร่ข้าวโพดเมืองพ่อขุนฯ มาตามนัด รวมตัวทวงเงินชดเชยราคาผลผลิตปี 56/57 โวยสิ้นฤดูผลิตไปแล้วบางพื้นที่ไม่ได้แม้แต่บาทเดียวยกหมู่บ้าน แต่เถ้าแก่ไซโลกลับได้เงินค่าปรับปรุงคุณภาพ-ค่าบริหารกันถ้วนหน้า ขู่ตบเท้าเข้ากรุงทวงซ้ำ
       
        วันนี้ (9 ม.ค.) กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดจาก อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.เมือง และ อ.แม่สรวย ประมาณ 250 คน นำโดยนายธีธวัช คำเงิน ผู้แทนเกษตรกร สภาเกษตรกรจังหวัดเชียงราย นายปฏิภาณ อายิ และนายสุพจน์ เชอมือ จาก อ.แม่สรวย และนายพงษ์ชัย วงษ์เมืองแล จาก อ.แม่ฟ้าหลวง ได้รวมตัวชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลได้เร่งรัดจัดสรรงบประมาณตามโครงการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2556/2557
         
        เนื่องจากหลังจากได้มีมติอนุมัติโครงการจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ก.ย. และ 1 ต.ค. 2556 ที่ผ่านมาแล้ว แต่ปรากฏว่าเกษตรกรกลับไม่ได้รับเงิน
       
        นายธีธวัชกล่าวว่า เฉพาะพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวงมีชาวบ้านที่ยังไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวโพดทั้งหมดประมาณ 10 ล้านบาท อ.แม่สรวย ประมาณ 6 ล้านบาท ฯลฯ พวกเราจึงต้องการสอบถามความคืบหน้าว่าการจัดสรรงบประมาณไปถึงไหนอย่างไร ติดขัดช่วงไหนถึงได้ล่าช้าเพราะหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวโพดไปนานแล้ว และปัจจุบันกำลังจะเข้าสู่การทำนาปรังทำให้เดือดร้อนมาก
       
        ต่อมานายชาติชาย สงวนพงษ์ ปลัดจังหวัดเชียงราย และนายเฉลิมพล พงษ์ฉบับนภา พาณิชย์จังหวัดเชียงราย ได้เข้ารับเรื่องจากชาวบ้าน โดยนายชาติชายพยายามชี้แจงว่า ปัจจุบันอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ ทำให้อาจดำเนินการได้ไม่สะดวกมากนัก แต่นายปฏิภาณ แกนนำชาวบ้านแย้งพร้อมสงสัยว่า การดำเนินการเกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดิน เป็นหน้าที่ของข้าราชการประจำหรือนักการเมืองกันแน่ รวมทั้งยังระบุว่า ชาวบ้านมาเรียกร้องโดยไม่รุนแรง และไม่ปิดถนน แต่ศาลากลางจังหวัดฯ ไม่แน่ หากไม่ได้รับเงินค่าจำนำดังกล่าว
       
        จากนั้นพาณิชย์จังหวัดเชียงรายกล่าวชี้แจงว่า เชียงรายมีข้าวโพดที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 157,067.35 ตัน วงเงิน 235,601,029.40 บาท แต่กลับมีปริมาณข้าวโพดขอเข้าร่วมโครงการมากกว่าเป้าหมาย คือประมาณ 256,166.654 ตัน มีเกษตรกรจำนวน 24,287 ราย หรือเกินกว่าเดิมกว่า 90,000 กว่าตัน ซึ่งตามเงินข้างต้น รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้นำมาจ่ายชดเชยแก่เกษตรกรแล้วจำนวน 103,818,433.50 บาท และได้จ่ายไปแล้วจำนวน 99,569,362.91 บาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดของผู้ที่จะเข้ารับเงินชดเชยในงวดต่อไปอยู่ คาดว่าจะใช้การตรวจอีก 3 รอบ เพราะผู้ตรวจสงสัยเรื่องปริมาณผลผลิตที่ขอเข้าร่วมที่เพิ่มขึ้นกว่าเป้าที่ตั้งไว้
       
        “งบประมาณที่ได้ทั้งหมดคิดเป็นร้อยละ 20 ของวงเงินเต็มเหมือนกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ ผมจึงจะเร่งตรวจสอบใน 3 รอบที่เหลือในเชียงรายก่อน เพื่อที่จะมอบเงินชดเชยให้ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ต้องใช้เวลาบ้าง หากแล้วเสร็จเร็วและได้งบประมาณที่เหลือเข้ามาก็จะได้สามารถจ่ายได้อย่างรวดเร็ว”
       
        นายเฉลิมพลกล่าวว่า สำหรับปริมาณข้าวโพดที่เกินไปกว่าเป้านั้น ตนได้มีโอกาสพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรักษาการ ซึ่งเดินทางไปที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งมีเกษตรกร จ.เชียงใหม่เข้าไปเรียกร้องด้วย ก็ได้รับคำตอบว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไปด้วย ทำให้ต้องรอตามที่นายกรัฐมนมนตรีได้แจ้งเอาไว้
       
        ขณะที่นายปฏิภาณกล่าวว่า ตนกังวลมากที่ทราบว่ามีงบประมาณชดเชยค่าจำนำข้าวโพดแค่ 20% ของทั้งหมด จึงสงสัยว่าที่เหลืออีกเกือบ 80% จะจ่ายได้ทันการเลือกตั้ง ส.ส.2 ก.พ. 57 นี้หรือไม่
       
        ทั้งนี้ โครงการรับจำนำเดิมมีการจ่ายค่าชดเชยจากราคาตามความชื้น 30% กิโลกรัมละ 7 บาท และความชื้น 14.5% กิโลกรัมละ 9 บาท โดยรัฐบาลจะชดเชยให้กิโลกรัมละ 1.50 บาท แต่ปรากฏว่าได้แบ่งค่าชดเชยเป็นค่าปรับปรุงคุณภาพเสีย 50 สตางค์ และค่าบริหารจัดการ 1 บาท ทำให้ที่ผ่านมามีไซโลที่เข้าร่วมนำเอกสารไปให้ชาวบ้านลงชื่อว่ารับเงินไปแล้ว อ้างว่าเพื่อจะนำผลผลิตไปปรับปรุงคุณภาพในสัดส่วน 50 สตางค์ดังกล่าว แต่มีชาวบ้านไม่ได้เงินกันยกหมู่บ้าน
       
        ดังนั้น เมื่อไม่อาจทราบความคืบหน้า พวกตนก็จะกลับไปหารือกัน โดยอาจจะพากันเดินทางไปพบนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการ รมว.กระทรวงพาณิชย์ ที่กระทรวงฯ กันเลย เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องในระดับนโยบาย และรัฐบาล ซึ่งพวกตนเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดี
       
        รายงานแจ้งด้วยว่า ท้ายที่สุดเมื่อไม่มีทางออกในระดับพื้นที่ที่ชัดเจนนอกเหนือไปจากการทยอยจ่ายเงินค่าชดเชยในส่วนที่ได้รับการจัดสรรมาประมาณ 20% ตามขั้นตอน ทำให้กลุ่มเกษตรกรพากันสลายตัวไป

เครดิต  http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000002971
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่