ผู้สื่อข่าวประชาไท ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ หนุ่มปริศนาคนนี้ ซึ่งใช้นามแฝงในเฟซบุ๊กว่า “Ake Auttagorn” อายุ 34 ปี ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่เกิด เติบโตและมีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพฯ เล่าถึงเหตุผลที่เข้าไปชูป้ายใส่นายอภิสิทธิ์ ว่า เกิดจากความคับข้องใจที่เห็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองขณะนี้ พร้อมทั้งเมืองไทยเคยมีบทเรียนแบบนี้มาหลายรอบแล้ว โดยมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวละครหลักในเรื่อง และมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่และจะแย่ที่สุด
Ake เล่าด้วยว่าขณะที่ตนชูป้าย "RESPECT MY VOTE" ได้ใช้นกหวีดที่มีเชือกคล้องคอสีขาวเป่า แล้วตะโกนไปว่า “คุณยังไม่เห็นคนเท่ากันแล้วคุณจะมาปฏิรูปประเทศได้อย่างไร” ขณะนั้นคุณอภิสิทธิ์ก็ป้ายสีทันทีว่า “เป็นคนของฝ่ายตรงข้ามส่งมาป่วน” ตนก็ตอบกลับไปว่า “ผมคือประชาชน ผมพูดในฐานะประชาชน” ตะโกนไปจนการ์ดเข้ามาล็อคตัว ระหว่างที่ถูกล็อคตัวออกไปนั้นตนก็ตะโกนไปด้วยว่า “ผมคือประชาชน คุณไม่มีทางชนะประชาชน” โดย Ake ยืนยันว่าการ์ดไม่ได้มีการทำร้ายอะไรตน นอกจากล็อคตัวออกมาด้านนอกห้องประชุม
“ผมจะทำทุกอย่างเท่าที่ผมจะทำได้ในช่วงที่ผมมีโอกาสจะทำได้ เพราะหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วผมอาจจะทำอะไรไม่ได้ กลายเป็นขี้แพ้ไม่มีสิทธิมีเสียง” Ake กล่าวถึงการโพสต์ในเฟซบุ๊กของตนเองก่อนมาชูป้ายดังกล่าว
Ake มองว่าการเปิดตัวพิมพ์เขียวปฎิรูปประเทศไทยของคุณอภิสิทธิ์ เป็นการรับลูกต่อจากคุณสุเทพ พร้อมตั้งคำถามด้วยว่ามันจะพิมพ์เขียวประเทศไทยได้อย่างไร ในเมืองยังมองคนไม่เท่ากันเลย และปัญหาที่ผ่านมาคุณอภิสิทธิ์เองก็ไม่ได้แพ้เพราะเงิน แต่แพ้เพราะดูถูกประชาชน คนต่างจังหวัดผมเชื่อว่าเขารู้เรื่องการเมืองไทยมากว่าคนในกรุงเทพด้วยซ้ำ อีกทั้งจะปฏิรูปอย่างไรในเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยดูตัวเองเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“วาทะกรรมโกงการเลือกตั้ง มันเป็นแค่การหลอกตัวเอง แล้วใช้วาทะกรรมนี้มาบอกชาวบ้านว่า...ไม่ควรจะมีสิทธิ ผมคิดว่ามันไม่แฟร์ แล้วเสียงของคนที่ผ่านมา 15 ล้านเสียงจะเอาเขาไปไว้ไหนครับ” Ake กล่าว
“การที่คุณไม่เคารพประชาชน แล้วคุณแพ้เลือกตั้ง มันไม่ใช่ความผิดของประชาชนแล้ว มันคือความผิดของพรรคที่คุณไม่ยอมส่องกระจกมองตัวเองบ้าง” Ake กล่าว
“ป้าย "RESPECT MY VOTE" นั้น ผมพูดแทนทุกคน ผมโชคดีหน่อยที่ผมสามารถพูดได้ ในขณะที่ประชาชนหลายคนไม่สามารถพูดได้ เคารพในเสียงตัวเอง อย่าให้ใครมาบอกว่าเราโง่” Ake กล่าวทิ้งท้าย
เครดิต: ประชาไท และ เฟชบุ๊คAke Auttagorn
บทสัมภาษณ์ชายหนุ่มหนุนหลังชูป้าย Respect My vote
ผู้สื่อข่าวประชาไท ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ หนุ่มปริศนาคนนี้ ซึ่งใช้นามแฝงในเฟซบุ๊กว่า “Ake Auttagorn” อายุ 34 ปี ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่เกิด เติบโตและมีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพฯ เล่าถึงเหตุผลที่เข้าไปชูป้ายใส่นายอภิสิทธิ์ ว่า เกิดจากความคับข้องใจที่เห็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองขณะนี้ พร้อมทั้งเมืองไทยเคยมีบทเรียนแบบนี้มาหลายรอบแล้ว โดยมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวละครหลักในเรื่อง และมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่และจะแย่ที่สุด
Ake เล่าด้วยว่าขณะที่ตนชูป้าย "RESPECT MY VOTE" ได้ใช้นกหวีดที่มีเชือกคล้องคอสีขาวเป่า แล้วตะโกนไปว่า “คุณยังไม่เห็นคนเท่ากันแล้วคุณจะมาปฏิรูปประเทศได้อย่างไร” ขณะนั้นคุณอภิสิทธิ์ก็ป้ายสีทันทีว่า “เป็นคนของฝ่ายตรงข้ามส่งมาป่วน” ตนก็ตอบกลับไปว่า “ผมคือประชาชน ผมพูดในฐานะประชาชน” ตะโกนไปจนการ์ดเข้ามาล็อคตัว ระหว่างที่ถูกล็อคตัวออกไปนั้นตนก็ตะโกนไปด้วยว่า “ผมคือประชาชน คุณไม่มีทางชนะประชาชน” โดย Ake ยืนยันว่าการ์ดไม่ได้มีการทำร้ายอะไรตน นอกจากล็อคตัวออกมาด้านนอกห้องประชุม
“ผมจะทำทุกอย่างเท่าที่ผมจะทำได้ในช่วงที่ผมมีโอกาสจะทำได้ เพราะหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วผมอาจจะทำอะไรไม่ได้ กลายเป็นขี้แพ้ไม่มีสิทธิมีเสียง” Ake กล่าวถึงการโพสต์ในเฟซบุ๊กของตนเองก่อนมาชูป้ายดังกล่าว
Ake มองว่าการเปิดตัวพิมพ์เขียวปฎิรูปประเทศไทยของคุณอภิสิทธิ์ เป็นการรับลูกต่อจากคุณสุเทพ พร้อมตั้งคำถามด้วยว่ามันจะพิมพ์เขียวประเทศไทยได้อย่างไร ในเมืองยังมองคนไม่เท่ากันเลย และปัญหาที่ผ่านมาคุณอภิสิทธิ์เองก็ไม่ได้แพ้เพราะเงิน แต่แพ้เพราะดูถูกประชาชน คนต่างจังหวัดผมเชื่อว่าเขารู้เรื่องการเมืองไทยมากว่าคนในกรุงเทพด้วยซ้ำ อีกทั้งจะปฏิรูปอย่างไรในเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยดูตัวเองเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“วาทะกรรมโกงการเลือกตั้ง มันเป็นแค่การหลอกตัวเอง แล้วใช้วาทะกรรมนี้มาบอกชาวบ้านว่า...ไม่ควรจะมีสิทธิ ผมคิดว่ามันไม่แฟร์ แล้วเสียงของคนที่ผ่านมา 15 ล้านเสียงจะเอาเขาไปไว้ไหนครับ” Ake กล่าว
“การที่คุณไม่เคารพประชาชน แล้วคุณแพ้เลือกตั้ง มันไม่ใช่ความผิดของประชาชนแล้ว มันคือความผิดของพรรคที่คุณไม่ยอมส่องกระจกมองตัวเองบ้าง” Ake กล่าว
“ป้าย "RESPECT MY VOTE" นั้น ผมพูดแทนทุกคน ผมโชคดีหน่อยที่ผมสามารถพูดได้ ในขณะที่ประชาชนหลายคนไม่สามารถพูดได้ เคารพในเสียงตัวเอง อย่าให้ใครมาบอกว่าเราโง่” Ake กล่าวทิ้งท้าย
เครดิต: ประชาไท และ เฟชบุ๊คAke Auttagorn