ไม่ว่าท่านจะเป็นไทยไร้สีไร้กลิ่นยังไง หากจะต่อต้านสุเทพ ก็ต้องมาเป็นบริวารของคนเสื้อแดง

คือ ดูจากกระแสตอนนี้ มีคนต้องการต่อต้านกำนันเทือก ผู้ใหญ่เตี้ย พอสมควร ซึ่งคนกลุ่มนี้จะถูกพวกเทือกยัดเยียดว่าเป็นเสื้อแดง ท่านก็ไม่ชอบเพราะก็ไม่ได้เป็นคนเสื้อแดง   แต่ก็อยากแสดงออกเคลื่อนไหวว่าไม่เอากำนันสไตล์  ก็มีความพยายามทำกิจกรรมกันประปราย

ซึ่งตรงนี้ ต้องถามว่า จะทำไปเพื่ออะไร แสดงออกไปก็ไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงหรอก

นอกจากเสียว่า ท่านจะต้องมาร่วมกับคนเสื้อแดง

จั่วหัวฟังดูแปลก ๆ แบบยัดเยียด ๆ อยู่  แต่ลองฟังที่เราจะเขียน จะอธิบายให้ฟัง

ที่เราใช้คำว่า บริวาร ไม่ใช่ คนเสื้อแดง เพราะ

1. ท่านรังเกียจคนเสื้อแดง มีอคติ  มองว่าคนเสื้อแดงไม่ดี ไม่อยากจะบังคับฝืนใจท่าน
2. ในฐานะคนเสื้อแดง  ก็รังเกียจคนอย่างพวกท่านเหมือนกัน ไม่อยากให้มาเป็นเสื้อแดง เพราะมองว่าท่าน โง่ ปวกเปียก ไร้อุดมการณ์แก่นสารทางการเมือง


จึงใช้คำว่า บริวาร น่าจะเหมาะสม  จะมาเป็นแนวร่วมไม่ได้  เพราะความเป็นคนเสื้อแดง ที่หลาย ๆ คนลืมไปคือ โดยคนเสื้อแดงเองก็มีการจัดตั้งในรูปแบบ แนวร่วม ที่มาจากคำย่อ นปช ที่แปลว่า  แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ

ดังนั้น ถ้าท่านจะมาเป็นแนวร่วม ท่านก็จะเป็นส่วนหนึ่งของ องค์การ  นปช นั่นคือ กลายเป็น คนเสื้อแดงนั่นเอง

หากท่านจะมาร่วมกับคนเสื้อแดง  ท่านจึงควรอยู่ในฐานะ บริวาร ที่แปลว่า   คนผู้แวดล้อม, ผู้รับใช้หรือผู้ห้อมล้อม  ก็คือ คอยแวดล้อม คอยสนับสนุน รับใช้คนเสื้อแดงนั่นเอง

*************
*************
ในการจะให้เหตุผลประเด็นนี้  ผมต้องยกตัวอย่างความเคลื่อนไหวของมวลชนในสมัยที่มีการ รัฐประหาร 19 กย 49 ใหม่ ๆ ที่ตอนนั้น ก็ยังไม่ได้มีคนเสื้อแดงอะไร

ตอนนั้น พอมีการรัฐประหาร พวกคนที่เป็นนักต่อต้าน อย่างเช่นพวกที่เคยสู้กับ รสช มาก่อน หรือคนสนใจการเมืองมาก ๆ ก็จับกลุ่มกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็น 100 เป็น 1000 กลุ่ม  ในสนามหลวงก็มีโทรโข่งตัว  เก้าอี้ตัว ยืนปราศรัยมันยังงั้น คนฟังก็ 10 คนบ้าง 20 คนบ้าง

ในเนตก็มีการรวมกลุ่มกัน คุยกันทาง MSN บ้าง ส่งข่าวกันทาง ฟอร์เวิร์ดเมล์ บ้าง  

ผมเองก็อยู่ในเครือข่ายของ บก. ลายจุด  บางวัน บก. ก็ออนเอมมาคุยด้วยบ้าง

ตอนนั้นก็มีการคุยกันเรื่อง การต่อสู้ จะเอาไงดี จะสู้กับพวก คมช. ยังไงดี...............?

***********************
***********************
ซึ่งต้องบอกว่า คนที่จับกลุ่มกันต่อต้าน คมช ช่วงนั้น  คนทั่วไปอาจคิดไม่ถึงว่า เป็นคนที่ไม่เอาทักษิณ เคยไล่ทักษิณมาก่อน
แต่คนพวกนี้ เขารับการ รัฐประหารไม่ได้ เขาจึงต้องต่อต้าน คมช. ให้บ้านเมืองเข้าสู่ประชาธิปไตยให้เร็วที่สุด

ตรงนี้มันฟ้องอะไร  มันฟ้องถึงว่า ไอ้ที่มองว่า ใครรักทักษิณ ใครเอาทักษิณ  เป็นคนเสื้อแดง ใครเชื่อแกนนำที่ทักษิณเลี้ยงไว้ ก็เป็นคนเสื้อแดง เป็นเรื่องที่ ผิด  เพราะคนเสื้อแดงคือ แนวร่วม ที่พยายามต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย  ดังนั้น เสื้อแดงแต่ละกลุ่มจึงมีแนวทางเป็นของตัวเอง  เพราะมันคือ แนวร่วม  แต่ละกลุ่มมันเป็นเอกเทศ  บางกลุ่มก็ชัดเจนว่า ไม่เอาสถาบัน  บางกลุ่มก็เทิดทูนสถาบัน  ตรงนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกะทักษิณหรือใคร

ผมจึงรังเกียจ พวกไทยเฉย ไทยไร้สีไร้กลิ่นไง  เพราะเขาไม่เคยศึกษาอะไร คิดแต่ว่าไม่ใช่คนเสื้อแดงเลยเป็นคนดี  ทั้ง ๆ ที่จริง ใครไม่เป็นคนเสื้อแดงเนี่ย  โง่ ไร้อุดมการณ์ต่างหาก

******************
********************

เข้าเรื่องนะครับ  สำหรับคำตอบว่า สมัยนั้น  จะสู้กับพวก คมช. ยังไงดี...............?

เพราะเราสู้เพื่อชนะ ไม่ได้สู้เพื่ออยากเล่นกิจกรรมสวย ๆ เก๋ ๆ เช่นใส่เสื้อนั่นนี่  เปิดไฟหน้ารถ อะไรแบบนั้น  เราต้องการสู้ในรูปแบบยุทธศาสตร์ทางสงคราม เพื่อชัยชนะ เพื่อการเปลี่ยนแปลงเป็นประชาธิปไตยจริง ๆ

คนที่ต่อสู้ตอนนั้น ก็ตีโจทย์ว่า ต้องมีมวลชน เพราะตามประวัติศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมันต้องมีมวลชนเยอะ ๆ

ลำพังคนต่อต้าน คมช จริง ๆ มันน้อยครับ คนส่วนใหญ่ยังให้ดอกไม้อยู่เลย  เพราะการต่อสู้ทางโครงสร้างการเมืองนั้น มันซับซ้อนเกินกว่าคนไทยส่วนใหญ่ที่โดนสื่อล้างสมองครอบงำ จะเข้าใจได้   

ก็เลยต้องหาวิธีที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน  นั่นคือ  ต้องใช้มวลชนที่รักทักษิณ รักพรรคไทยรักไทยนั่นเอง

ทุกคนเลือกคำตอบนี้ ทั้ง ๆ ที่บางคนก็เคยไล่ทักษิณมาก่อน  เพราะเขารู้ว่า การต่อสู้ทางการเมืองคืออะไร  มันจะมาจมปลักอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกส่วนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้

ก็เลยเข้าไปเป็นแนวร่วมกับกลุ่มของ 3 เกลอ ที่เป็นเครือข่ายของพรรคไทยรักไทย  ช่วยกันเคลื่อนไหว  

จนที่สุดก็กลายมาเป็น นปช. นั่นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่