วันที่ 5 ของการเที่ยวแดนอาทิตย์อุทัย วันนี้ตื่นเช้าเป็นพิเศษ จัดแจงแต่งตัวออกจากโรงแรม เดินทางด้วยรถไฟจากสถานี Tanimachi4-Chome สาย Chuo Line ไปเปลี่ยนรถที่สถานี Sakaisuji Honmachi ต่อรถไฟสาย Sakaisuji Line มาลงที่ Ebisucho เดินออกทางออก 3 เงยหน้ามองก็เห็นหอคอยยักษ์ Tsutenkaku ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้า ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวอย่างเราที่เห็นแล้วรู้สึกตื่นเต้น คนญี่ปุ่นที่มาที่นี่ก็ตื่นเต้นไม่แพ้เราเช่นกัน
Tsutenkaku หอคอยยักษ์
ความที่วันนี้เราตื่นเช้ามาก และมาถึงที่นี่ประมาณ 8 โมงกว่า ภาพที่เห็นเลยเป็นร้านค้าแถวนี้ปิดสนิทยังไม่เปิดซักร้าน หันไปมองคนแถวนั้น เค้าก็มองเรา ประมาณว่า "เมิงมาทำไมเช้าๆ เค้ายังไม่ตื่นกันเลย" แต่ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็มาแล้วเดินถ่ายรูปเล่นก็ได้
บรรยากาศเงียบกริ๊บ
อาคารและร้านรวงต่างๆ ที่ตกแต่งแบบมันส์ๆ
ที่นี่ตอนเย็นๆ น่าจะสวยและคึกครื้นน่าดู แต่เรามาทำ..เอาเช้าๆ
เดินกลับมาที่สถานีรถไฟ เพื่อจะเดินทางไปที่ Nipponbashi แต่อยู่ๆ ก็คิดว่า "อย่าเพิ่งไปเลย เดี๋ยวมันยังไม่ตื่นกันอีก" เลยหยิบแผนที่ และลากนิ้วหาสถานี Rinku Town แหล่งที่ตั้งของ Rinku Premium Outlet!!! แต่ตามแผนแรกเราจะต้องไปช้อบทิ้งทวนที่ Rinku Premium Outlet ในวันสุดท้าย แต่ขอนอกแผนสักวัน เพราะอยากช้อบแล้ว อิ อิ
เดินทางไป Rinku Town ก็ไม่ยาก แค่นั่งจากสถานี Ebisucho ไปลงที่สถานี Tengachaya และต่อรถไฟสาย Nankai Line ราคาตั๋วก็อยู่ที่ 700 Yen
ใช้เวลาเดินทางเกือบ 1 ชั่วโมงก็มาถึงสถานี Rinku Town เดินมาทางออกที่ 4 และเดินมาตาม Skywalk ผ่านห้าง SeaCle โลด
ห้าง SeaCle มีเสื้อผ้าและของเล่นเด็กน่ารักๆ มากมาย
เดินทะลุห้างมาก็ถึงที่หมาย Rinku Premium Outlet
ก่อนช้อบขอเติมพลังกับอาหารใน Food Court ของ Rinku Premium Outlet
Erimaki Ramen 900 Yen
อิ่มเสร็จก็ลงมือช้อบ แต่ผิดหวังเล็กน้อย เพราะสินค้าในช่วงนี้ลดราคาไม่เยอะ ของน้อย เลยได้ของมาไม่กี่อย่าง แต่ก็เดินดูของอยู่ 2-3 ชั่วโมง แล้วจึงเดินทางกลับ จุดหมายต่อไปก็คือตลาด Kuromon และย่าน Nipponbashi
Rinku Premium Outlet
Onitsuka Tiger มีนับสีนับรุ่นได้เลย แถมราคาก็ไม่ต่างจากในเมือง
ได้ New Balance มาคู่นึงและของอีกนิดหน่อยละ หนีกลับดีกว่า
ขึ้นรถไฟกลับจาก Rinku Town ไปลงที่สถานี Namba เพื่อที่จะไปลงที่หมายสถานี Nipponbashi แต่ระหว่างนั่งนั้นรถไฟก็จอดป้ายแรกนานมาก เกือบ 10 นาทีได้ แล้วก็ออก เราก็นึกว่ามันคงขัดข้องอะไรแหละ แต่ไปได้ป้ายนึงจอดแช่อีกและ ตัดสอนใจรีบออกจากรถขบวนนั้น เลยถึงบางอ้อว่ามันเป็นขบวน Local เราเลยเปลี่ยนไปขึ้นขบวน Express แทน เสียเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงวิ่งไปได้ 2-3 ป้าย
เอิ่มมมม น้องครับ รถไฟจอดแช่ป้ายทำไมนานๆ ครับ
เดินออกมาดูป้าย ชัดเลย!!! ขึ้นไม่ดูตาม้าตาเรือ รถไฟ Local หวานเย็นที่สุดal หวานเย็นที่สุด
[CR] ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 5 Tsutenkaku-Rinku Town-Nipponbashi
Tsutenkaku หอคอยยักษ์
ความที่วันนี้เราตื่นเช้ามาก และมาถึงที่นี่ประมาณ 8 โมงกว่า ภาพที่เห็นเลยเป็นร้านค้าแถวนี้ปิดสนิทยังไม่เปิดซักร้าน หันไปมองคนแถวนั้น เค้าก็มองเรา ประมาณว่า "เมิงมาทำไมเช้าๆ เค้ายังไม่ตื่นกันเลย" แต่ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็มาแล้วเดินถ่ายรูปเล่นก็ได้
บรรยากาศเงียบกริ๊บ
บรรดา Billiken ในสารพัดเวอร์ชั่น
อาคารและร้านรวงต่างๆ ที่ตกแต่งแบบมันส์ๆ
ที่นี่ตอนเย็นๆ น่าจะสวยและคึกครื้นน่าดู แต่เรามาทำ..เอาเช้าๆ
เดินกลับมาที่สถานีรถไฟ เพื่อจะเดินทางไปที่ Nipponbashi แต่อยู่ๆ ก็คิดว่า "อย่าเพิ่งไปเลย เดี๋ยวมันยังไม่ตื่นกันอีก" เลยหยิบแผนที่ และลากนิ้วหาสถานี Rinku Town แหล่งที่ตั้งของ Rinku Premium Outlet!!! แต่ตามแผนแรกเราจะต้องไปช้อบทิ้งทวนที่ Rinku Premium Outlet ในวันสุดท้าย แต่ขอนอกแผนสักวัน เพราะอยากช้อบแล้ว อิ อิ
เดินทางไป Rinku Town ก็ไม่ยาก แค่นั่งจากสถานี Ebisucho ไปลงที่สถานี Tengachaya และต่อรถไฟสาย Nankai Line ราคาตั๋วก็อยู่ที่ 700 Yen
ใช้เวลาเดินทางเกือบ 1 ชั่วโมงก็มาถึงสถานี Rinku Town เดินมาทางออกที่ 4 และเดินมาตาม Skywalk ผ่านห้าง SeaCle โลด
ห้าง SeaCle มีเสื้อผ้าและของเล่นเด็กน่ารักๆ มากมาย
เดินทะลุห้างมาก็ถึงที่หมาย Rinku Premium Outlet
ก่อนช้อบขอเติมพลังกับอาหารใน Food Court ของ Rinku Premium Outlet
Erimaki Ramen 900 Yen
อิ่มเสร็จก็ลงมือช้อบ แต่ผิดหวังเล็กน้อย เพราะสินค้าในช่วงนี้ลดราคาไม่เยอะ ของน้อย เลยได้ของมาไม่กี่อย่าง แต่ก็เดินดูของอยู่ 2-3 ชั่วโมง แล้วจึงเดินทางกลับ จุดหมายต่อไปก็คือตลาด Kuromon และย่าน Nipponbashi
Rinku Premium Outlet
Onitsuka Tiger มีนับสีนับรุ่นได้เลย แถมราคาก็ไม่ต่างจากในเมือง
ได้ New Balance มาคู่นึงและของอีกนิดหน่อยละ หนีกลับดีกว่า
ขึ้นรถไฟกลับจาก Rinku Town ไปลงที่สถานี Namba เพื่อที่จะไปลงที่หมายสถานี Nipponbashi แต่ระหว่างนั่งนั้นรถไฟก็จอดป้ายแรกนานมาก เกือบ 10 นาทีได้ แล้วก็ออก เราก็นึกว่ามันคงขัดข้องอะไรแหละ แต่ไปได้ป้ายนึงจอดแช่อีกและ ตัดสอนใจรีบออกจากรถขบวนนั้น เลยถึงบางอ้อว่ามันเป็นขบวน Local เราเลยเปลี่ยนไปขึ้นขบวน Express แทน เสียเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงวิ่งไปได้ 2-3 ป้าย
เอิ่มมมม น้องครับ รถไฟจอดแช่ป้ายทำไมนานๆ ครับ
เดินออกมาดูป้าย ชัดเลย!!! ขึ้นไม่ดูตาม้าตาเรือ รถไฟ Local หวานเย็นที่สุดal หวานเย็นที่สุด