การวิเคราะห์ส่วนตัวครับ
1. โอกาส ปฏิวัติ รัฐประหารมีไหม? มีโอกาสสูงครับ
เหตุผล : - เพราะดูแนวทางของการปฏิวัติ ต้องมีความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งขณะนี้มีแล้ว นำโดย กปปส
- มีการเคลื่อนกำลังทหารเข้ามาใน กทม เพื่อเตรียมพร้อม ขณะนี้ มีประกาศไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเคลื่อนกำลังมาแสดงอาวุธให้เด็กดู แต่ฟังยังไงก็ไม่สมเหตุผล แต่สรุปว่ามีการเคลื่อนกำลังเข้ามาเรียบร้อยแล้วตามประกาศจากกองทัพเอง
- จากแนวทางปฏิวัติเมื่อปี 49 นั้น เมื่อปฏิวัติ รัฐประหารแล้ว ก็สร้างภาพประชาชนมอบดอกไม้โดยกลุ่มเสื้อเหลือง และโฆษณาชวนเชื่อด้วยทีวีเหลืองทั้งฟรีทีวี และไม่ฟรี ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ทหารอาจปฏิวัติ รัฐประหาร โดยหลังจาก ม๊อบยึดเมืองได้สำเร็จแล้ว คือ ปิดไม่ให้ประชาชนกลุ่มอื่นยกขบวนเข้ามาในเมืองได้ (ซึ่งดูแล้วก็มีแนวโน้มเป็นเช่นนั้น เพราะ กำลังทหารเข้าเมืองมาแล้ว และสามารถสกัดกั้นไม่ให้ นปช จากต่างจังหวัดเข้ามารวมตัวกันในเมืองหลวงได้) ความรุนแรง ทหารคงจะไม่กล้าทำอย่างโจ่งแจ้ง แต่ให้กลุ่ม กปปส เป็นคนไปทำ (ซึ่งแนวโน้มก็มีโอกาสเป็นเช่นนั้น เพราะ กปปส ประกาศปิดตามจุดสำคัญในเมืองไปแล้ว 20 จุด ซึ่งแต่ละจุดล้วนสำคัญ ที่ว่าสำคัญนั้นเป็นเพราะแต่ละจุดเป็นด่านสกัดไม่ให้มีกลุ่มใดมาช่วยเหลือ นายกฯ และ รัฐมนตรีฯ ณ ที่พัก เพราะ ม๊อบ กปปส จะใช้ 20 จุด เป็นตัวสกัดกั้นและใช้เป็นพื้นที่ต่อสู้ ถ้าม๊อบทำสำเร็จ ทหารจึงจะออกมายึดอำนาจ ยึดสถานีฟรีทีวี ยึดสถานีดาวเทียม ยึดอำนาจ แล้วจึงจะมีการจัดฉากมอบดอกไม้ให้ทหาร เหมือนปี 49 เพราะจะไม่มี ม๊อบ กลุ่มอื่นมาขัดขวางเพราะกำลังไม่สามารถรวมตัวกันได้ และถูกต่อสู้ สกัดไว้ 20 จุด ซึ่งจะทำให้สื่อต่างๆ มาอวยทหาร และ ม๊อบเหมือนปี 49 นั้นแหละ (ที่กล่าวมาคือการวิเคราะห์แนวทางของแผนนะครับ ส่วนพวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ต้องดูกันต่อไปครับ) และนี่คือสาเหตุว่า ทำไมทหารต้องเคลื่อนกำลังมารอ เพราะ ถ้าปิด กทม แล้ว เคลื่อนกำลังไม่สะดวกครับ
- ทหารเคลื่อนกำลังเข้ามาก่อนที่ม๊อบ ดำเนินการปิด กทม เพื่อมารอดูว่า ม๊อบจะปิด กทม เพื่อไม่ให้ ม๊อบ กลุ่มอื่นๆ เข้ามารวมตัวใน กทม ได้ ซึ่งจะดูว่าทำสำเร็จไหม? ซึ่งม๊อบ กปปส ปิด กทม ประกาศว่าจะปิดเบ็ดเสร็จวันที่ 13 ม.ค. ถ้าปิดสำเร็จ ซึ่งในวันที่ 13 ม.ค. คาดว่า ทหารจะมีการเคลื่อนไหว กำลังต่างๆ ในเมืองหลวงด้วย เพื่อสกัดกั้นการต่อต้านจากฝ่ายอาวุธ ทั้งทหาร และตำรวจในเมืองหลวง วันที่ 14 ม.ค. จะประกาศยึดอำนาจเป็นทางการ (วิเคราะห์จากสถานการณ์ และแนวโน้ม ซึ่งอาจเป็นหรือไม่เป็นเช่นนั้น แต่โอกาสเป็นเช่นนั้นมากกว่า 50% เพราะ ดูแล้วรัฐบาลไม่มีการเตรียมการตอบโต้ใดๆ หรือมีผมก็ไม่ทราบได้ แต่ถ้ายังไม่มี ผมคิดว่ารัฐบาลควรหามาตรการรองรับไว้จะดีกว่าครับ โดยเฉพาะด้านกองกำลังต่อสู้ครับ ถ้าเป็นรัฐบาลที่ประชาชนส่วนใหญ่เลือกมาทั้งมีอำนาจหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย และความเป็นเอกราชของชาติตามกฏหมาย ควรต้องเตรียมกองกำลังไว้ต่อสู้เพราะนี่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน หากคิดเหมือน อดีตนายกทักษิณ ว่าจะได้ความยุติธรรมจากหมู่โจรล่ะก็ คงไม่มีใครช่วยได้แล้วครับ ถ้าไม่สู้)
- ท่าทีของ เลขา กปปส แสดงความมั่นใจ แข็งกร้าว ว่าจะยึดทรัพย์ นายก และ รัฐมนตรี บางคน ด้วยน้ำเสียง แววตา อย่างมั่นใจเหลือล้นราวกับว่าไม่ใช่แค่คำขู่ ซึ่งการทำเช่นนี้ได้ ย่อมแสดงถึงข่าวเบื้องลึก ว่าจะมีการรัฐประหารโดยทหาร พร้อมกับ กปปส ปิดกรุงเทพ
- การวินิจฉัยของ ตลก รัฐธรรมนูญ ว่า ม๊อป กปปส ชุมนุมโดยสิทธิ์รัฐธรรมนูญ (ทั้งๆ ที่คำประกาศของ กปปส ประกาศชัดว่า ปฏิวัติยึดอำนาจจากรัฐบาล) ในการนี้ ที่จริงรัฐบาล หรือ พรรคการเมืองไม่ควรนิ่งดูดาย ควรเอาคำวินิจฉัยของ เลขาศาลอาญา ไปดำเนินคดีกับ ตลก รัฐธรรมนูญ โดยควรดำเนินคดี ผู้พิพากษาเป็นรายตัวครับ เพราะทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ รวมทั้งบั่นทอนความมั่นคงของรัฐ และ ทำให้คำวินิจฉัยเป็นตัวการร่วมหรือไม่? นอกจากฟ้องศาลอาญาแล้ว ควรฟ้องศาลปกครองด้วย เพราะเป็นปัญหาระหว่าง รัฐ กับ องกรอิสระ หรือไม่? อย่างไร?
- การที่ทหารห้ามรัฐบาลไม่ให้ใช้ พรก ฉุกเฉิน เพราะกลัวเป็นผู้ร้ายในสายตาม๊อบ กปปส แสดงให้เห็นท่าทีว่า ผู้นำอาวุธ เป็นมิตรกับ กปปส ที่เป็นกบฏหรือไม่? และแนวโน้มความน่าจะเป็นของการ ยึดอำนาจที่จะเกิดขึ้นแล้วครับ ซึ่งรัฐบาล ควรจะรีบสั่งการโดยเร็วให้ทหารปราบปรามกบฏครับ เพราะ กปปส ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะยึดอำนาจ ยึดทรัพย์ ผู้นำ และคณะรัฐมนตรี และสามารถอ้างกฏหมายดังนี้
พระราชบัญญัติ
จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
พ.ศ. ๒๕๕๑
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑
เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ
ให้ประกาศว่าโดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
พ.ศ. ๒๕๕๑”
..................................................................................................................
มาตรา ๘ กระทรวงกลาโหม มีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) พิทักษ์รักษาเอกราชและความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรจากภัยคุกคามทั้งภายนอกและ
ภายในราชอาณาจักร ปราบปรามการกบฏและการจลาจล โดยจัดให้มีและใช้กำลังทหารตามที่
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือตามที่มีกฎหมายกำหนด
2. ท่าทีและสถานะการณ์จากฝ่ายต่างๆ ทั้ง ตลก รัฐธรรมนูญ, องค์กรอิสระอื่นๆ อย่าง กกต, ปปช, ทหาร, สื่อเหลือง, นักวิชาการเหลือง, อาจารย์เหลือง และ ม๊อบ กปปส (ม๊อบเหลือง) ต่างชี้ไปทางเดียวกันว่า จะมีการรัฐประหาร
ดังนั้น ผมยังเชื่อมั่นว่าจะมีการยึดอำนาจเกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ แต่สำเร็จหรือไม่? รอดูกันครับ
วิเคราะห์ความน่าจะเป็น
1. โอกาส ปฏิวัติ รัฐประหารมีไหม? มีโอกาสสูงครับ
เหตุผล : - เพราะดูแนวทางของการปฏิวัติ ต้องมีความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งขณะนี้มีแล้ว นำโดย กปปส
- มีการเคลื่อนกำลังทหารเข้ามาใน กทม เพื่อเตรียมพร้อม ขณะนี้ มีประกาศไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเคลื่อนกำลังมาแสดงอาวุธให้เด็กดู แต่ฟังยังไงก็ไม่สมเหตุผล แต่สรุปว่ามีการเคลื่อนกำลังเข้ามาเรียบร้อยแล้วตามประกาศจากกองทัพเอง
- จากแนวทางปฏิวัติเมื่อปี 49 นั้น เมื่อปฏิวัติ รัฐประหารแล้ว ก็สร้างภาพประชาชนมอบดอกไม้โดยกลุ่มเสื้อเหลือง และโฆษณาชวนเชื่อด้วยทีวีเหลืองทั้งฟรีทีวี และไม่ฟรี ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ทหารอาจปฏิวัติ รัฐประหาร โดยหลังจาก ม๊อบยึดเมืองได้สำเร็จแล้ว คือ ปิดไม่ให้ประชาชนกลุ่มอื่นยกขบวนเข้ามาในเมืองได้ (ซึ่งดูแล้วก็มีแนวโน้มเป็นเช่นนั้น เพราะ กำลังทหารเข้าเมืองมาแล้ว และสามารถสกัดกั้นไม่ให้ นปช จากต่างจังหวัดเข้ามารวมตัวกันในเมืองหลวงได้) ความรุนแรง ทหารคงจะไม่กล้าทำอย่างโจ่งแจ้ง แต่ให้กลุ่ม กปปส เป็นคนไปทำ (ซึ่งแนวโน้มก็มีโอกาสเป็นเช่นนั้น เพราะ กปปส ประกาศปิดตามจุดสำคัญในเมืองไปแล้ว 20 จุด ซึ่งแต่ละจุดล้วนสำคัญ ที่ว่าสำคัญนั้นเป็นเพราะแต่ละจุดเป็นด่านสกัดไม่ให้มีกลุ่มใดมาช่วยเหลือ นายกฯ และ รัฐมนตรีฯ ณ ที่พัก เพราะ ม๊อบ กปปส จะใช้ 20 จุด เป็นตัวสกัดกั้นและใช้เป็นพื้นที่ต่อสู้ ถ้าม๊อบทำสำเร็จ ทหารจึงจะออกมายึดอำนาจ ยึดสถานีฟรีทีวี ยึดสถานีดาวเทียม ยึดอำนาจ แล้วจึงจะมีการจัดฉากมอบดอกไม้ให้ทหาร เหมือนปี 49 เพราะจะไม่มี ม๊อบ กลุ่มอื่นมาขัดขวางเพราะกำลังไม่สามารถรวมตัวกันได้ และถูกต่อสู้ สกัดไว้ 20 จุด ซึ่งจะทำให้สื่อต่างๆ มาอวยทหาร และ ม๊อบเหมือนปี 49 นั้นแหละ (ที่กล่าวมาคือการวิเคราะห์แนวทางของแผนนะครับ ส่วนพวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ต้องดูกันต่อไปครับ) และนี่คือสาเหตุว่า ทำไมทหารต้องเคลื่อนกำลังมารอ เพราะ ถ้าปิด กทม แล้ว เคลื่อนกำลังไม่สะดวกครับ
- ทหารเคลื่อนกำลังเข้ามาก่อนที่ม๊อบ ดำเนินการปิด กทม เพื่อมารอดูว่า ม๊อบจะปิด กทม เพื่อไม่ให้ ม๊อบ กลุ่มอื่นๆ เข้ามารวมตัวใน กทม ได้ ซึ่งจะดูว่าทำสำเร็จไหม? ซึ่งม๊อบ กปปส ปิด กทม ประกาศว่าจะปิดเบ็ดเสร็จวันที่ 13 ม.ค. ถ้าปิดสำเร็จ ซึ่งในวันที่ 13 ม.ค. คาดว่า ทหารจะมีการเคลื่อนไหว กำลังต่างๆ ในเมืองหลวงด้วย เพื่อสกัดกั้นการต่อต้านจากฝ่ายอาวุธ ทั้งทหาร และตำรวจในเมืองหลวง วันที่ 14 ม.ค. จะประกาศยึดอำนาจเป็นทางการ (วิเคราะห์จากสถานการณ์ และแนวโน้ม ซึ่งอาจเป็นหรือไม่เป็นเช่นนั้น แต่โอกาสเป็นเช่นนั้นมากกว่า 50% เพราะ ดูแล้วรัฐบาลไม่มีการเตรียมการตอบโต้ใดๆ หรือมีผมก็ไม่ทราบได้ แต่ถ้ายังไม่มี ผมคิดว่ารัฐบาลควรหามาตรการรองรับไว้จะดีกว่าครับ โดยเฉพาะด้านกองกำลังต่อสู้ครับ ถ้าเป็นรัฐบาลที่ประชาชนส่วนใหญ่เลือกมาทั้งมีอำนาจหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย และความเป็นเอกราชของชาติตามกฏหมาย ควรต้องเตรียมกองกำลังไว้ต่อสู้เพราะนี่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน หากคิดเหมือน อดีตนายกทักษิณ ว่าจะได้ความยุติธรรมจากหมู่โจรล่ะก็ คงไม่มีใครช่วยได้แล้วครับ ถ้าไม่สู้)
- ท่าทีของ เลขา กปปส แสดงความมั่นใจ แข็งกร้าว ว่าจะยึดทรัพย์ นายก และ รัฐมนตรี บางคน ด้วยน้ำเสียง แววตา อย่างมั่นใจเหลือล้นราวกับว่าไม่ใช่แค่คำขู่ ซึ่งการทำเช่นนี้ได้ ย่อมแสดงถึงข่าวเบื้องลึก ว่าจะมีการรัฐประหารโดยทหาร พร้อมกับ กปปส ปิดกรุงเทพ
- การวินิจฉัยของ ตลก รัฐธรรมนูญ ว่า ม๊อป กปปส ชุมนุมโดยสิทธิ์รัฐธรรมนูญ (ทั้งๆ ที่คำประกาศของ กปปส ประกาศชัดว่า ปฏิวัติยึดอำนาจจากรัฐบาล) ในการนี้ ที่จริงรัฐบาล หรือ พรรคการเมืองไม่ควรนิ่งดูดาย ควรเอาคำวินิจฉัยของ เลขาศาลอาญา ไปดำเนินคดีกับ ตลก รัฐธรรมนูญ โดยควรดำเนินคดี ผู้พิพากษาเป็นรายตัวครับ เพราะทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ รวมทั้งบั่นทอนความมั่นคงของรัฐ และ ทำให้คำวินิจฉัยเป็นตัวการร่วมหรือไม่? นอกจากฟ้องศาลอาญาแล้ว ควรฟ้องศาลปกครองด้วย เพราะเป็นปัญหาระหว่าง รัฐ กับ องกรอิสระ หรือไม่? อย่างไร?
- การที่ทหารห้ามรัฐบาลไม่ให้ใช้ พรก ฉุกเฉิน เพราะกลัวเป็นผู้ร้ายในสายตาม๊อบ กปปส แสดงให้เห็นท่าทีว่า ผู้นำอาวุธ เป็นมิตรกับ กปปส ที่เป็นกบฏหรือไม่? และแนวโน้มความน่าจะเป็นของการ ยึดอำนาจที่จะเกิดขึ้นแล้วครับ ซึ่งรัฐบาล ควรจะรีบสั่งการโดยเร็วให้ทหารปราบปรามกบฏครับ เพราะ กปปส ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะยึดอำนาจ ยึดทรัพย์ ผู้นำ และคณะรัฐมนตรี และสามารถอ้างกฏหมายดังนี้
พระราชบัญญัติ
จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
พ.ศ. ๒๕๕๑
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑
เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ
ให้ประกาศว่าโดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
พ.ศ. ๒๕๕๑”
..................................................................................................................
มาตรา ๘ กระทรวงกลาโหม มีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) พิทักษ์รักษาเอกราชและความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรจากภัยคุกคามทั้งภายนอกและ
ภายในราชอาณาจักร ปราบปรามการกบฏและการจลาจล โดยจัดให้มีและใช้กำลังทหารตามที่
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือตามที่มีกฎหมายกำหนด
2. ท่าทีและสถานะการณ์จากฝ่ายต่างๆ ทั้ง ตลก รัฐธรรมนูญ, องค์กรอิสระอื่นๆ อย่าง กกต, ปปช, ทหาร, สื่อเหลือง, นักวิชาการเหลือง, อาจารย์เหลือง และ ม๊อบ กปปส (ม๊อบเหลือง) ต่างชี้ไปทางเดียวกันว่า จะมีการรัฐประหาร
ดังนั้น ผมยังเชื่อมั่นว่าจะมีการยึดอำนาจเกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ แต่สำเร็จหรือไม่? รอดูกันครับ