review เสือหมอบราคาถูกสักคันครับ

กระทู้สนทนา
สองสัปดาห์ก่อนหน้านี้ มีเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งในที่นี้ หลังไมค์มาถามถึงจักรยานจีนแดงคันนึงที่ผมซื้อมาใช้ หลังจากที่ผมเข้าตอบกระทู้ของเขา ผมเลยสัญญาว่าจะเอาข้อมูลการใช้มาให้พิจารณากัน

กระทู้นี้รีวิวธรรมดา โดยไม่มีการใส่ไข่อะไรเพิ่มเติม ไม่มีการเชียร์ บอกความจริงกันไปเลยให้เลือกตัดสินใจกันเองนะครับ

โดยส่วนตัวผมเองนั้นเป็นคน ตจว. อยู่ ตจว.มาทั้งชีวิต ชาวบ้านบางคนก็อยากจะปั่นจักรยานเหมือนกัน แต่พอถามราคาแล้ว ส่ายหน้า เพราะเงินหลักหมื่นบาทเพื่อจักรยานนั้นมันมากโขสำหรับพวกเขาครับ ถึงมันจะคุณภาพสูงกว่าขนาดไหนก็ตาม บางทีถ้าแค่ปั่นออกกำลัง จักรยานราคาถูกก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับเขาก็ได้

ตัวผมกับภรรยาเป็นข้าราชการตัวเล็ก ๆ เงินเดือนรวมกันไม่ได้มากมายอะไร เราก็เลยเลือกทำอะไรตามกำลังของเรานะครับ

-----------------------------------
เริ่มต้น
ปีนี้ ผมมีความจำเป็นต้องปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ ผมอายุ 37 ปี สูง 178 น้ำหนัก 67 กก. เหตุผลคือ ผมมีปัญหาที่หัวเข่า คุณหมอแนะนำให้ออกกำลังกายได้แค่สองอย่างคือว่ายน้ำกับปั่นจักรยาน ผมจึงเลือกปั่นจักรยานจากคำแนะนำของเพื่อนที่ปั่นอยู่ก่อนหน้า

ซึ่งตัดสินใจแล้วว่าจะออกเสือหมอบ เพราะชอบเป็นทุนเดิม ผมจึงตั้งงบประมาณในใจไว้แรก ๆ สุดคือ 7 พันบาท เพราะจุดประสงค์หลักของผมคือ ปั่นเพื่อออกกำลังกาย แต่ทั้งนี้ จักรยานที่ราคาประมาณนี้ มันไม่มีไซส์สำหรับผมเลย ลองคร่อมลองปั่นแล้วมันก็ยังไม่ใช่ ผมเลยไปออก Trek 1.1 มือสองมาคันนึง เกินงบไปมากโข แต่ใช้ได้ดีมาก ได้มาเพราะเพื่อนคนเดิมจัดหามาให้

ทีนี้ ผมก็อยากหาจักรยานให้ภรรยาผมสักคัน จะได้ไปออกกำลังกายด้วยกัน ซึ่งเธอก็ชอบปั่นจักรยานอยู่แล้ว ผมจึงเลือกเสือหมอบจีนมาให้เธอ ซึ่งเสือหมอบคันที่ว่าคือ TrinX R-300 คันนี้ ในราคา 4XXX พร้อมส่งถึงบ้าน

เสือหมอบคันนี้ ตัวเฟรมเป็นอลูมิเนียม ตะเกียบเป็นโลหะ ล้อขนาด 700C ขอบล้อเป็นอลูมิเนียม หนักทั้งคันประมาณ 13 กก.ครับ

ดูภาพนะครับ แล้วผมจะอธิบายประกอบไปด้วย แต่ผมเป็นมือใหม่ ภาษาจักรยานยังไม่ค่อยเข้าใจ รู้อย่างไรก็บอกไปอย่างนั้นนะครับ





ปัญหาของ TrinX นั้นคือ ร้านที่ผมดู มันดันมีอยู่ขนาดเดียว แถมบอกขนาดเป็นนิ้วด้วย คือ 18 นิ้ว คำนวณออกมาได้ไซส์ประมาณ 47 เท่านั้น ซึ่งเหมาะกับภรรยาผม เธอสูง 156 ซม. ปั่นได้สบายครับ ผมเข้าใจว่า ยี่ห้อนี้ทำเฟรมออกมา แล้วต่อยอดไปทำหลายประเภท อาจเอาเฟรมไปลงเสือภูเขาด้วยก็เป็นได้



เฟรมรับประกัน 5 ปี



รถคันนี้มีท่อนอนขนาดประมาณ 47 ซม. เมื่อรวมสเต็มไปจนถึงมือเบรคแล้ว ภรรยาผม จับไม่ค่อยถนัดครับ แต่โชคดีที่มีมือเบรคมาให้อีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งเธอชอบใช้ตรงนี้มากกว่า





ชิฟเตอร์เป็นชิมาโน่ ผมไม่ทราบรุ่นนะครับ แต่อยู่ที่แฮนด์ ด้านซ้ายปรับจานหน้า ด้านขวาปรับจานหลัง  การปรับจานก็ค่อนข้างแม่นยำ แต่จานหน้าอาจจะต้องชิฟท์ช่วยบ้างนิดหน่อย ไม่ลงเป๊ะ ๆ มีเสียงแก๊ก ๆ ให้ฟังบ้างในบางจังหวะ



บริเวณสับจานหน้าครับ



จานหลัง



ตีนผีเป็นชิมาโน่รุ่น tourney ครับ



เบรค เป็นเบรคธรรมดามาก ๆ ถ้าปั่นกันในหมู่บ้าน ทางราบ ๆ นี่ เอาอยู่ แต่ถ้าขึ้นลงเขาคงไม่ไหว อันนี้คิดว่าอนาคตจะเปลี่ยนเบรคครับ แต่ตอนนี้ขี่แบบนี้ไปก่อนสักหกเดือน



บันได ธรรมดามากครับ แม่บ้านเลย



มือเบรค



อานครับ



แกนปลดเร็วผมซื้อเพิ่มนะครับ สามร้อยบาท เผื่อเดินทาง



ล้อครับ ขอบอลู ยาง KENDA

--------------------------------------------------------------

ทีนี้มาดูการใช้
อยู่กับมันมาเดือนกว่า ๆ ผมเอาออกไปลองปั่นเองบ้าง แต่ต้องปรับอานเสียสูงลิ่ว เอาแค่ช่วงขาได้ แต่ถ้าก้ม ยังไงผมก็ไม่ถนัด

การเปลี่ยนเกียร์ ไม่ได้แม่นเหมือน 1.1 แต่มันก็แม่นยำระดับหนึ่ง จานหน้าที่มีระดับเป็น H/L (High/Low) ต้องมีการชิฟท์ช่วยบ้าง เพราะมันอาจะไม่ลงตำแหน่งพอดี ๆ

การควบคุมรถ ไม่ยาก ควบคุมได้ดีอันนี้คงเป็นทักษะของบุคคล แต่ จะบอกว่า ภรรยาผม ไม่เคยปั่นเสือหมอบมาก่อนในชีวิต เธอลองคร่อม ผมเซ็ตเบาะ แล้วลองปั่นรอบสนามกีฬาชุมชนเพียงสองสามรอบ วันนั้น เธอปั่นไปวัดกับผมได้เลยในครั้งแรกครับ และบอกว่า คุมรถได้สบายมาก แต่พอปั่นเทรคแล้ว เธอปั่นไม่ได้ (ก็มันคนละไซส์ อิอิ)

เรื่องรอยเชื่อม บอกตามตรงเลยว่า ไม่ได้สวยเลยครับ การทำสีก็ไม่ได้สวยเหมือนยี่ห้อดัง ก็คล้ายจักรยานแบรนด์ไทยทั่ว ๆ ไปพวก LA, Turbo อะไรยังงี้

ปั่นกับมันไปสองร้อยกว่า กม. รวมทั้งผมและภรรยา สรุปก็คือ มันใช้ปั่นออกกำลังกายได้ คุ้มค่าตังค์ตัวมันครับ คิดว่า ไม่อัพเกรดอะไรนอกจากเบรค อะไรพังก็เปลี่ยนชิ้นนั้นไป เหมือนรถจักรยานแม่บ้านทั่วไป แต่อาจจะดูแลมันดีหน่อย มีเช็ดถู service มันเรื่อย ๆ ผมปั่นกันความเร็วเฉลี่ย 20 กม./ชม. ปั่นเอื่อย ๆ จริง ๆ เส้นทางที่ปั่นประจำก็คือถนนสาย อ่างทอง-สิงห์บุรี สายใน นับแต่บ้านที่ อ.พรหมบุรี ไปจนถึงวัดพระนอนจักรสีห์ ก็ประมาณ 16 กม. ไปกลับ 32 กม. ปั่นอยู่ทุกเสาร์อาทิตย์

เรื่องสปรินซ์ตัว ผมไม่เคยทำเลยครับ กับเทรคก็ไม่เคยทำ คุณหมอสั่งนักหนาว่า อย่าใช้เข่าเยอะ ผมจึงปั่นชิว ๆ ไม่ได้ออกทริปอะไร ไปกันเรื่อย ๆ แบบนี้แหละ เลยไม่มีข้อมูลตรงนี้มาให้ครับ

ลองดูนะครับ เผื่อเป็นข้อมูลให้หลายคนตัดสินใจ บางคนงบน้อยจริง ๆ ผมเองก็งบหมดไปกับรถสองคันด้วยเงินประมาณ 17000 บาท นี่หมดจริง ๆ กะว่าจบแล้วล่ะ ปั่นไปเรื่อย ๆ ซ่อมแซมตามสภาพ หวังว่าคงพอมีประโยชน์บ้างครับ

หากใครอยู่แถวสิงห์บุรี พบเห็นคนปั่นรถสองคันนี้ไปด้วยกัน ทักทายกันบ้างนะครับ

สวัสดีครับ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่