บังเอิญลูกสาวได้เขียนรวบรวมประสบการณ์การไปเที่ยวญี่ปุ่น
ให้คนที่บ้านติดตามอ่านความเป็นไป เห็นว่าน่ารักดี
เลยเอามาฝากเพื่อนๆค่ะ //แม่กุ้ง
* * * * * * * * * * * * * *
Day 20と21 โซ้ยแหลก @ Nikko
December 27, 2013 at 10:09pm
พอไกด์พาทัวร์เปลี่ยนคน โปรแกรมทัวร์ก็เปลี่ยนตามสไตล์ไกด์ ของคุณแม่นี่จะเน้นชอปปิ้ง
กินบรรยากาศ กับกินอาหารซะส่วนใหญ่ สถานที่ฮอตๆ นี่พอแซมๆ เล็กน้อย อารมณ์ว่า
ถ้าอยากดูอะไร เธอก็ไปเองนะ =0=! เอานะ ตามใจไกด์ละกัน
สองวันสองคืนนี้เราปีนขึ้นไปพักกันถึงโซนภูเขาในเมือง Nikko โบร๋ววว~
บอกเลยว่าหนาวมาก! ปกติอยู่ข้างล่างก็ว่าหนาวแล้วนะ นี่หนาวกว่าเป็นสองเท่า!
สาเหตุที่คุณแม่พามาถึงที่นี่ บอกเลยว่าเพราะชีอยากกินบุฟเฟ่ต์ปู...
อืม ลูกก็ให้อภัยละกัน ก็ฟังดูไม่เลวเท่าไหร่นะ 5555
ซุกยายนิดกันหนาวบนรถไฟ
กว่าจะมาถึงที่พักก็ใกล้เวลาอาหารเย็นซะแล้ว เรามาพักกันที่ Pension Yummy
อยู่บนภูเขาขึ้นไปอีกทีหนึ่ง ปกติแล้วถ้ามาทัน 4 โมงครึ่งจะมีรถของ Pension
มารับถึงสถานี แต่เรามาสายกว่าเวลานัด เลยต้องวุ่นวายคลำทางกับแท็กซี่กันยกใหญ่
สุดท้ายก็จนมาถึงที่ Pension จนได้ เจ้าของ Pension เป็นสามีภรรยาคู่หนึ่ง
ที่ทำ Pension นี้ด้วยกันเองเพียง 2 คนเท่านั้น (ถ้าไม่รวมทารกอีก 1 คนนะ
)
บรรกาศค่อนข้างอบอุ่นเป็นกันเองเลยทีเดียวเชียว
แปรสภาพเป็นห้องพร้อมนอน
ห้องพักที่นี่เป็นห้องเล็กๆขนาด 6 เสื่อ ปูพื้นนอนกันเอง จุดพีคของที่นี่มี 2 จุด
หนึ่งคืออาหาร จะมีเซตอาหารให้ตอนเช้าและเย็น ซึ่งตอนเย็น
เราสามารถเพิ่มตังค์เล็กน้อยแล้วเลือกได้ว่า นอกจากอาหารเซ็ตเย็น
(ซึ่งเยอะโคตรและอิ่มท้องอืดอยู่แล้ว) จะเพิ่มบุฟเฟ่ต์สเต็กเนื้อ บุฟเฟ่ต์ไวน์ บุฟเฟ่ต์ปู
หรือบุฟเฟ่ต์เค้กอีกก็ได้ เอาให้อิ่มตายไปข้าง! -[]- !
ส่วนนี่คือคอร์สอาหารเย็นซึ่งมีให้ตามปกติอยู่แล้ว
รวมกับค่าห้องนอนก็ประมาณ 2 พันกว่าบาทไทยต่อคืน
เริ่มด้วยซุปหัวหอมกับสลัดผัก
ต่อด้วยสเต็กปลาเนื้อขาว
สเต็กเนื้อเมนคอร์ส
ของว่างตบท้าย
คืนแรก เราสนองตัณหาคุณแม่กุ้ง ด้วยการจัดเซ็ทบุฟเฟต์ปูกันชุดใหญ่
แน่นอนว่าคุณแม่ไม่ลืมที่จะเอาน้ำจิ้มอาหารทะเลมาจากไทยด้วย
คุณเธอแกะปูกินอยู่นานมาก จนกิ๊กกับยายนิดอิ่มไปแล้ว เธอก็ยังกินไม่เสร็จ -_-”
เอ้อ! ปูที่นี่แขนใหญ่มาก จะกินทีต้องใช้กรรไกรตัดเอา
งั่ม!!! >w<
เสร็จแล้วเราก็ตบท้ายด้วยจุดพีคจุดที่สองของที่นี่ นั่นก็คือออนเซ็นกลางแจ้ง!
ออนเซ็นกลางแจ้งของที่นี่แยกเป็น 2 ห้อง ให้เราเลือกจองเป็นเวลา
คือไม่ได้แยกชายหญิง แต่ให้แต่ละห้องที่มาพักเลือกเองว่าจะเข้าห้องไหนเวลาไหน
สามารถเข้ากันเป็นครอบครัวได้ หรือใครมากับแฟนก็แช่รวมกันได้
วิวจากออนเซ็นก็สวยมาก มองออกไปเป็นภูเขาใหญ่สุดสายตา
แช่ไปมองดาวมองฟ้าไปเพลินๆ
จิ๊กรูปออนเซ็นมา ไม่กล้าเอากล้องเขาไปถ่าย (Credit :
http://travel.rakuten.com/)
วันต่อมาหลังจากทานอาหารเช้าตอน 8 โมงเสร็จ ก็เตรียมตัวออกไปเที่ยว
เพราะที่นี่เขาจะมีรถของ Pension ไปส่งที่สถานีรอบเดียวตอน 9 โมงครึ่ง
และ 4 โมงครึ่ง รับกลับจากสถานี เรารีบทำทุกอย่างตามกำหนดเวลา
เพราะไม่งั้นเราก็ต้องวุ่นวายกับรถแท็กซี่กันอีก
เอ้า! ออกเดินทาง! (ช่วยกันฉุดยายนิดขึ้นรถตู้)
เช้านี้คุณแม่ลากกิ๊กกับยายนิดขึ้นรถบัสไต่เขาขึ้นไปดูหิมะ โหย บอกเลยว่าหนาวมาก...
ไอช่วงขาขึ้นนี่แทบจะหลับเป็นตายบนรถ วิวเวิวอะไรก็สวยอยู่นะ
แต่ความง่วงมันโถมกระหน่ำมาก พอได้ลงจากรถเจอความเย็นขั้นติดลบก็ค่อยๆตาสว่างกันขึ้นมา
แต่มันหนาวซะจนพวกเราไม่ทันได้ทำอะไรกันเลย ลงไปถ่ายรูปไม่กี่แชะ
ก็ต้องรีบวิ่งหนีหนาวขึ้นรถบัสกันอีกรอบ
บรึ๋ยยยยยยยยย์
ยายนิดยังชิคไหว
ยอมรับว่าวิวข้างทางสวยมาก ต้นไม้บนเขานี่ต้นใหญ่ๆกันทั้งนั้นเลย
แต่ทุกร้านข้างบนนี้ปิดหมด ไอเราก็กะจะกินโกโก้ร้อนไป ชมหิมะไป
แต่ไม่มีร้านไหนเปิดซักร้าน เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จะเที่ยวที่ไหน
ดูฤดูท่องเที่ยวของที่นั่นให้ดีซะก่อน...
ขอมองจากในรถดีกว่า!
หิมะสูงจนมิดรองเท้า
เสร็จแล้วคุณแม่ก็พาพวกเรานั่งรถลงไปข้างล่าง ดูสะพานชินเคียวหรือสะพานเชื่อมสวรรค์กันซักเล็กน้อย
แต่ไม่มีใครมีอารมณ์จะวิ่งไปถ่ายรูปด้วย ขาทั้งสองมันสั่น ขนาดไขมันสามชั้นของยายนิดก็ยังเอาไม่อยู่
สุดท้ายคุณแม่บอกว่า มีวัดโทจิงิ มรดกโลกอยู่ที่นี่นะ จะไปรึเปล่า ถ้าจะไปไปเอง
ชั้นกับคุณยายเดินขึ้นบันไดไม่ไหวหรอก ถ้าเธอมาเที่ยว เธอก็น่าจะไปดู เพราะคนเค้ามานี่กันเพื่อมาดูสิ่งนี้
สะพานสู่สวรรค์
โอ้โห พูดขนาดนี้ถ้าไม่ไปก็คงไม่ได้แล้วสินะ -0-! สุดท้ายกิ๊กก็เดินขึ้นไปดูคนเดียว
ว่ากันว่ามีศาลเจ้านิคโคโทโจที่มีประตูที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นเลยนะ
พอไปถึงเราก็เห็นบันไดข้างหน้าประมาณ 10 กว่าขั้นเอง ไอเราก็คิดว่าคุณแม่นี่เว่อร์นะ
บันไดแค่นี้เอง เดินไม่ไหวเลยหรอ ค่าเข้าก็ตั้ง 300 กว่าบาท เราก็เอานะ
ไหนลองเข้าไปดูซิ มาคนเดียวถึงขั้นนี้แล้ว
ประตูวัดอันยิ่งใหญ่
ข้างในมีหลายศาลมาก เข้าไปก็จะเดินผ่านศาลเล็กๆ
ที่มีการแกะสลักเรื่องเล่าเกี่ยวกับนิทานลิงเป็นเรื่องราวไว้ด้านบนคานหลังคา
เป็นเรื่องราว เป็นรูปลิง 3 ตัว ตัวหนึ่งปิดหู อีกตัวปิดตา อีกตัวที่เหลือปิดปาก
เขาว่าเป็นภาพปริศนาธรรมของขงจื๊อที่ว่า ถ้าเราไม่พูด ไม่ฟัง ไม่ดูสิ่งที่ไม่ดีงาม
เรื่องไม่ดีต่างๆ ก็จะไม่เข้ามาหาเรา
ภาพบรรยากาศหลังลอดประตูเข้าไป
ลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดตา ปิดปาก (ลูกใครไม่รู้ น่ารักมาก ><!)
พอเดินลึกเข้าไปอีก เฮือก บันไดอีกกว่า 60 ขั้นเรียงรายอยู่ข้างหน้าเต็มเบ้ยยย !! TT[]TT !!!
คุณแม่ไม่ได้เว่อร์นี่หว่า ที่แย่กว่านั้นคืออากาศมันหนาวสั่นมาก
กิ๊กก็อยากถ่ายรูปนู่นรูปนี่อยู่หรอกนะ แต่ลำพังจะเอามือออกจากกระเป๋าเสื้อมากดปุ่มเปิดเท่านั้น
มือก็ด้านชาหมดเรี่ยวหมดแรงไปซะแล้ว น้ำมูกที่ไหลประจำนี่แทบจะเป็นน้ำแข็งไปเลย
มีไม่กี่รูปที่อาศัยความด้านชาของมือกดมาได้
อภิมหาบันไดสู้สวรรค์ชั้นที่เจ็ด
ศาลเจ้านิคโคโทโจอันเลื่องชื่อ (ดูคนมุงถ่ายรูปซะก่อน)
พอเดินเสร็จครบ คิดว่าคุ้มแล้วกิ๊กก็รีบออกไปเรียกแท็กซี่กลับสถานีทันที
เป็นการชมมรดกโลกที่ทรมาณที่สุดที่เคยไปมา
หวังว่าคราวหน้าคงจะเตรียมตัวให้ดีกว่านี้ จะได้ซ่าออกบ้าง
เสร็จแล้วเราก็กลับมา Pension นั่งเล่นรอทานข้าวเย็นอันโอชะ
ซึ่งคืนนี้เราตบท้ายด้วยบุฟเฟ่ต์เค้กหละ!
ก้อนไหนก่อนดีน้า~~
ทานเสร็จแล้วก็แช่น้ำออนเซ็นกลางแจ้งให้ร่างกายอบอุ่น
แล้วก็เพ้อเจ้อไปเรื่อยก่อนจะเข้านอน เตรียมกินข้าวเช้าพรุ่งนี้ ^^!
ถ้าใครจะมา Nikko กิ๊กแนะนำให้มา Pension นี้ดูนะ น่ารัก อบอุ่น อาหารอร่อย
ออนเซ็นก็วิวสวยมาก ราคาย่อมเยา ถ้าไม่ไปดูหิมะหรือมรดกโลกอย่างกิ๊ก
ก็ยังมีเมืองเอโดะมูระให้ไปเที่ยวอยู่อีกที่หนึ่ง (ซึ่งกิ๊กพลาดเพราะมาถึง Nikko ช้า)
คุณแม่กับยายนิดเข้านอนไปละ เราก็ต้องรีบนอน จะได้กินมื้อเช้าพรุ่งนี้ไวไว
ฝันดีเน่อ~
ติดตามตอนต่อไปได้เจ้าค่ะ
Day 0 เมื่อฉันกลายเป็นอาชญากรข้ามพรมแดน...
http://ppantip.com/topic/31388877
Day 1 ทรัพย์สมบัติ ซูชิ พละกำลัง !!
http://ppantip.com/topic/31389109
Day 2 ชา ลา ลา~
http://ppantip.com/topic/31389233
Day 3 ฅ. ดล 3
http://ppantip.com/topic/31389940
Day 4 วันที่ฉันป่วย
http://ppantip.com/topic/31390333
Day 5&6 Cookie in Kanazawa
http://ppantip.com/topic/31390347
Day 7 & 8 ส.ว. on tour
http://ppantip.com/topic/31390359
Day 9 แดนหมีดำ
http://ppantip.com/topic/31390371
Day 10と11 BeppuとYufuin
http://ppantip.com/topic/31399474
Day แถม ONEPIECE @ Huis ten bosch ฟินมว๊ากกกกก~~~~ !!!!! >0< !!!!!!
http://ppantip.com/topic/31408111
Day 12 ศึกลูฟี่หมวกฟาง ปะทะ กิ๊กกี้หัวฟู ONEPIECE @ Huis ten bosch
http://ppantip.com/topic/31409608
Day 13~15 Kicky King of Sushi
http://ppantip.com/topic/31417630
Day 16 ฟูจิ โมจิ เปอร์เซียจิ
http://ppantip.com/topic/31421929
Day 17 เปอร์ เต็ม ชั้น
http://ppantip.com/topic/31461915
Day 19 มือที่สอง
http://ppantip.com/topic/31461997
Day 20と21 โซ้ยแหลก @ Nikko
http://ppantip.com/topic/31462342
Day 23->22 ใจแตก @บาร์เกย์
http://ppantip.com/topic/31462536
Day 25.9~26.1 Special Day - Because it's New Year!
http://ppantip.com/topic/31466295
Day 26~27 feat. Ai Dokdak ปวดเกี๊ยะ ที่เกียวโต
http://ppantip.com/topic/31466446
Day 29 ตอนที่ 1 เสพติดศิลปะ ที่ Naoshima feat. Ai Dokdak
http://ppantip.com/topic/31482396
Day 29 ตอนที่ 2 เสพติดศิลปะ ที่ Naoshima feat. Ai Dokdak
http://ppantip.com/topic/31482430
Day 20と21 โซ้ยแหลก @ Nikko
ให้คนที่บ้านติดตามอ่านความเป็นไป เห็นว่าน่ารักดี
เลยเอามาฝากเพื่อนๆค่ะ //แม่กุ้ง
* * * * * * * * * * * * * *
Day 20と21 โซ้ยแหลก @ Nikko
December 27, 2013 at 10:09pm
พอไกด์พาทัวร์เปลี่ยนคน โปรแกรมทัวร์ก็เปลี่ยนตามสไตล์ไกด์ ของคุณแม่นี่จะเน้นชอปปิ้ง
กินบรรยากาศ กับกินอาหารซะส่วนใหญ่ สถานที่ฮอตๆ นี่พอแซมๆ เล็กน้อย อารมณ์ว่า
ถ้าอยากดูอะไร เธอก็ไปเองนะ =0=! เอานะ ตามใจไกด์ละกัน
สองวันสองคืนนี้เราปีนขึ้นไปพักกันถึงโซนภูเขาในเมือง Nikko โบร๋ววว~
บอกเลยว่าหนาวมาก! ปกติอยู่ข้างล่างก็ว่าหนาวแล้วนะ นี่หนาวกว่าเป็นสองเท่า!
สาเหตุที่คุณแม่พามาถึงที่นี่ บอกเลยว่าเพราะชีอยากกินบุฟเฟ่ต์ปู...
อืม ลูกก็ให้อภัยละกัน ก็ฟังดูไม่เลวเท่าไหร่นะ 5555
ซุกยายนิดกันหนาวบนรถไฟ
กว่าจะมาถึงที่พักก็ใกล้เวลาอาหารเย็นซะแล้ว เรามาพักกันที่ Pension Yummy
อยู่บนภูเขาขึ้นไปอีกทีหนึ่ง ปกติแล้วถ้ามาทัน 4 โมงครึ่งจะมีรถของ Pension
มารับถึงสถานี แต่เรามาสายกว่าเวลานัด เลยต้องวุ่นวายคลำทางกับแท็กซี่กันยกใหญ่
สุดท้ายก็จนมาถึงที่ Pension จนได้ เจ้าของ Pension เป็นสามีภรรยาคู่หนึ่ง
ที่ทำ Pension นี้ด้วยกันเองเพียง 2 คนเท่านั้น (ถ้าไม่รวมทารกอีก 1 คนนะ )
บรรกาศค่อนข้างอบอุ่นเป็นกันเองเลยทีเดียวเชียว
แปรสภาพเป็นห้องพร้อมนอน
ห้องพักที่นี่เป็นห้องเล็กๆขนาด 6 เสื่อ ปูพื้นนอนกันเอง จุดพีคของที่นี่มี 2 จุด
หนึ่งคืออาหาร จะมีเซตอาหารให้ตอนเช้าและเย็น ซึ่งตอนเย็น
เราสามารถเพิ่มตังค์เล็กน้อยแล้วเลือกได้ว่า นอกจากอาหารเซ็ตเย็น
(ซึ่งเยอะโคตรและอิ่มท้องอืดอยู่แล้ว) จะเพิ่มบุฟเฟ่ต์สเต็กเนื้อ บุฟเฟ่ต์ไวน์ บุฟเฟ่ต์ปู
หรือบุฟเฟ่ต์เค้กอีกก็ได้ เอาให้อิ่มตายไปข้าง! -[]- !
ส่วนนี่คือคอร์สอาหารเย็นซึ่งมีให้ตามปกติอยู่แล้ว
รวมกับค่าห้องนอนก็ประมาณ 2 พันกว่าบาทไทยต่อคืน
เริ่มด้วยซุปหัวหอมกับสลัดผัก
ต่อด้วยสเต็กปลาเนื้อขาว
สเต็กเนื้อเมนคอร์ส
ของว่างตบท้าย
คืนแรก เราสนองตัณหาคุณแม่กุ้ง ด้วยการจัดเซ็ทบุฟเฟต์ปูกันชุดใหญ่
แน่นอนว่าคุณแม่ไม่ลืมที่จะเอาน้ำจิ้มอาหารทะเลมาจากไทยด้วย
คุณเธอแกะปูกินอยู่นานมาก จนกิ๊กกับยายนิดอิ่มไปแล้ว เธอก็ยังกินไม่เสร็จ -_-”
เอ้อ! ปูที่นี่แขนใหญ่มาก จะกินทีต้องใช้กรรไกรตัดเอา
งั่ม!!! >w<
เสร็จแล้วเราก็ตบท้ายด้วยจุดพีคจุดที่สองของที่นี่ นั่นก็คือออนเซ็นกลางแจ้ง!
ออนเซ็นกลางแจ้งของที่นี่แยกเป็น 2 ห้อง ให้เราเลือกจองเป็นเวลา
คือไม่ได้แยกชายหญิง แต่ให้แต่ละห้องที่มาพักเลือกเองว่าจะเข้าห้องไหนเวลาไหน
สามารถเข้ากันเป็นครอบครัวได้ หรือใครมากับแฟนก็แช่รวมกันได้
วิวจากออนเซ็นก็สวยมาก มองออกไปเป็นภูเขาใหญ่สุดสายตา
แช่ไปมองดาวมองฟ้าไปเพลินๆ
จิ๊กรูปออนเซ็นมา ไม่กล้าเอากล้องเขาไปถ่าย (Credit : http://travel.rakuten.com/)
วันต่อมาหลังจากทานอาหารเช้าตอน 8 โมงเสร็จ ก็เตรียมตัวออกไปเที่ยว
เพราะที่นี่เขาจะมีรถของ Pension ไปส่งที่สถานีรอบเดียวตอน 9 โมงครึ่ง
และ 4 โมงครึ่ง รับกลับจากสถานี เรารีบทำทุกอย่างตามกำหนดเวลา
เพราะไม่งั้นเราก็ต้องวุ่นวายกับรถแท็กซี่กันอีก
เอ้า! ออกเดินทาง! (ช่วยกันฉุดยายนิดขึ้นรถตู้)
เช้านี้คุณแม่ลากกิ๊กกับยายนิดขึ้นรถบัสไต่เขาขึ้นไปดูหิมะ โหย บอกเลยว่าหนาวมาก...
ไอช่วงขาขึ้นนี่แทบจะหลับเป็นตายบนรถ วิวเวิวอะไรก็สวยอยู่นะ
แต่ความง่วงมันโถมกระหน่ำมาก พอได้ลงจากรถเจอความเย็นขั้นติดลบก็ค่อยๆตาสว่างกันขึ้นมา
แต่มันหนาวซะจนพวกเราไม่ทันได้ทำอะไรกันเลย ลงไปถ่ายรูปไม่กี่แชะ
ก็ต้องรีบวิ่งหนีหนาวขึ้นรถบัสกันอีกรอบ
บรึ๋ยยยยยยยยย์
ยายนิดยังชิคไหว
ยอมรับว่าวิวข้างทางสวยมาก ต้นไม้บนเขานี่ต้นใหญ่ๆกันทั้งนั้นเลย
แต่ทุกร้านข้างบนนี้ปิดหมด ไอเราก็กะจะกินโกโก้ร้อนไป ชมหิมะไป
แต่ไม่มีร้านไหนเปิดซักร้าน เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จะเที่ยวที่ไหน
ดูฤดูท่องเที่ยวของที่นั่นให้ดีซะก่อน...
ขอมองจากในรถดีกว่า!
หิมะสูงจนมิดรองเท้า
เสร็จแล้วคุณแม่ก็พาพวกเรานั่งรถลงไปข้างล่าง ดูสะพานชินเคียวหรือสะพานเชื่อมสวรรค์กันซักเล็กน้อย
แต่ไม่มีใครมีอารมณ์จะวิ่งไปถ่ายรูปด้วย ขาทั้งสองมันสั่น ขนาดไขมันสามชั้นของยายนิดก็ยังเอาไม่อยู่
สุดท้ายคุณแม่บอกว่า มีวัดโทจิงิ มรดกโลกอยู่ที่นี่นะ จะไปรึเปล่า ถ้าจะไปไปเอง
ชั้นกับคุณยายเดินขึ้นบันไดไม่ไหวหรอก ถ้าเธอมาเที่ยว เธอก็น่าจะไปดู เพราะคนเค้ามานี่กันเพื่อมาดูสิ่งนี้
สะพานสู่สวรรค์
โอ้โห พูดขนาดนี้ถ้าไม่ไปก็คงไม่ได้แล้วสินะ -0-! สุดท้ายกิ๊กก็เดินขึ้นไปดูคนเดียว
ว่ากันว่ามีศาลเจ้านิคโคโทโจที่มีประตูที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นเลยนะ
พอไปถึงเราก็เห็นบันไดข้างหน้าประมาณ 10 กว่าขั้นเอง ไอเราก็คิดว่าคุณแม่นี่เว่อร์นะ
บันไดแค่นี้เอง เดินไม่ไหวเลยหรอ ค่าเข้าก็ตั้ง 300 กว่าบาท เราก็เอานะ
ไหนลองเข้าไปดูซิ มาคนเดียวถึงขั้นนี้แล้ว
ประตูวัดอันยิ่งใหญ่
ข้างในมีหลายศาลมาก เข้าไปก็จะเดินผ่านศาลเล็กๆ
ที่มีการแกะสลักเรื่องเล่าเกี่ยวกับนิทานลิงเป็นเรื่องราวไว้ด้านบนคานหลังคา
เป็นเรื่องราว เป็นรูปลิง 3 ตัว ตัวหนึ่งปิดหู อีกตัวปิดตา อีกตัวที่เหลือปิดปาก
เขาว่าเป็นภาพปริศนาธรรมของขงจื๊อที่ว่า ถ้าเราไม่พูด ไม่ฟัง ไม่ดูสิ่งที่ไม่ดีงาม
เรื่องไม่ดีต่างๆ ก็จะไม่เข้ามาหาเรา
ภาพบรรยากาศหลังลอดประตูเข้าไป
ลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดตา ปิดปาก (ลูกใครไม่รู้ น่ารักมาก ><!)
พอเดินลึกเข้าไปอีก เฮือก บันไดอีกกว่า 60 ขั้นเรียงรายอยู่ข้างหน้าเต็มเบ้ยยย !! TT[]TT !!!
คุณแม่ไม่ได้เว่อร์นี่หว่า ที่แย่กว่านั้นคืออากาศมันหนาวสั่นมาก
กิ๊กก็อยากถ่ายรูปนู่นรูปนี่อยู่หรอกนะ แต่ลำพังจะเอามือออกจากกระเป๋าเสื้อมากดปุ่มเปิดเท่านั้น
มือก็ด้านชาหมดเรี่ยวหมดแรงไปซะแล้ว น้ำมูกที่ไหลประจำนี่แทบจะเป็นน้ำแข็งไปเลย
มีไม่กี่รูปที่อาศัยความด้านชาของมือกดมาได้
อภิมหาบันไดสู้สวรรค์ชั้นที่เจ็ด
ศาลเจ้านิคโคโทโจอันเลื่องชื่อ (ดูคนมุงถ่ายรูปซะก่อน)
พอเดินเสร็จครบ คิดว่าคุ้มแล้วกิ๊กก็รีบออกไปเรียกแท็กซี่กลับสถานีทันที
เป็นการชมมรดกโลกที่ทรมาณที่สุดที่เคยไปมา
หวังว่าคราวหน้าคงจะเตรียมตัวให้ดีกว่านี้ จะได้ซ่าออกบ้าง
เสร็จแล้วเราก็กลับมา Pension นั่งเล่นรอทานข้าวเย็นอันโอชะ
ซึ่งคืนนี้เราตบท้ายด้วยบุฟเฟ่ต์เค้กหละ!
ก้อนไหนก่อนดีน้า~~
ทานเสร็จแล้วก็แช่น้ำออนเซ็นกลางแจ้งให้ร่างกายอบอุ่น
แล้วก็เพ้อเจ้อไปเรื่อยก่อนจะเข้านอน เตรียมกินข้าวเช้าพรุ่งนี้ ^^!
ถ้าใครจะมา Nikko กิ๊กแนะนำให้มา Pension นี้ดูนะ น่ารัก อบอุ่น อาหารอร่อย
ออนเซ็นก็วิวสวยมาก ราคาย่อมเยา ถ้าไม่ไปดูหิมะหรือมรดกโลกอย่างกิ๊ก
ก็ยังมีเมืองเอโดะมูระให้ไปเที่ยวอยู่อีกที่หนึ่ง (ซึ่งกิ๊กพลาดเพราะมาถึง Nikko ช้า)
คุณแม่กับยายนิดเข้านอนไปละ เราก็ต้องรีบนอน จะได้กินมื้อเช้าพรุ่งนี้ไวไว
ฝันดีเน่อ~
ติดตามตอนต่อไปได้เจ้าค่ะ
Day 0 เมื่อฉันกลายเป็นอาชญากรข้ามพรมแดน... http://ppantip.com/topic/31388877
Day 1 ทรัพย์สมบัติ ซูชิ พละกำลัง !! http://ppantip.com/topic/31389109
Day 2 ชา ลา ลา~ http://ppantip.com/topic/31389233
Day 3 ฅ. ดล 3 http://ppantip.com/topic/31389940
Day 4 วันที่ฉันป่วย http://ppantip.com/topic/31390333
Day 5&6 Cookie in Kanazawa http://ppantip.com/topic/31390347
Day 7 & 8 ส.ว. on tour http://ppantip.com/topic/31390359
Day 9 แดนหมีดำ http://ppantip.com/topic/31390371
Day 10と11 BeppuとYufuin http://ppantip.com/topic/31399474
Day แถม ONEPIECE @ Huis ten bosch ฟินมว๊ากกกกก~~~~ !!!!! >0< !!!!!! http://ppantip.com/topic/31408111
Day 12 ศึกลูฟี่หมวกฟาง ปะทะ กิ๊กกี้หัวฟู ONEPIECE @ Huis ten bosch http://ppantip.com/topic/31409608
Day 13~15 Kicky King of Sushi http://ppantip.com/topic/31417630
Day 16 ฟูจิ โมจิ เปอร์เซียจิ http://ppantip.com/topic/31421929
Day 17 เปอร์ เต็ม ชั้น http://ppantip.com/topic/31461915
Day 19 มือที่สอง http://ppantip.com/topic/31461997
Day 20と21 โซ้ยแหลก @ Nikko http://ppantip.com/topic/31462342
Day 23->22 ใจแตก @บาร์เกย์ http://ppantip.com/topic/31462536
Day 25.9~26.1 Special Day - Because it's New Year! http://ppantip.com/topic/31466295
Day 26~27 feat. Ai Dokdak ปวดเกี๊ยะ ที่เกียวโต http://ppantip.com/topic/31466446
Day 29 ตอนที่ 1 เสพติดศิลปะ ที่ Naoshima feat. Ai Dokdak http://ppantip.com/topic/31482396
Day 29 ตอนที่ 2 เสพติดศิลปะ ที่ Naoshima feat. Ai Dokdak http://ppantip.com/topic/31482430