เรื่องสั้น......ก่อนจากกัน

กระทู้สนทนา
ก่อนจากกัน
“..เราเลิกกันเถอะ..ขอบใจนะที่ช่วยดูแลฉันตลอดมา….แต่ตอนนี้เราไปด้วยกันไม่ได้แล้ว..”   คำพูดที่ฉันนึกอยู่ในใจมันเป็นอะไรที่ดูตลกสำหรับใครหลายคนที่ได้ยินคำพูดนี้   แม้แต่ฉันเองก็แอบขำอยูในใจของฉัน  ฉันกำลังจะทิ้งเธอไปแต่ไม่เสียใจเลยสักนิดเดียว  ส่วนเธอก็คงรู้สึกไม่ต่างไปจากฉัน เราจากกันด้วยดีทั้งๆที่ฉันกำลังจะมีใหม่ และเธอก็รู้มานานแล้วว่าสักวันเราต้องจากกัน   แต่เธอก็ดูแลฉันเป็นอย่างดี  ทุกครั้งที่ฉันย่างก้าวออกจากบ้านฉันพาเธอไปด้วยเสมอ ฉันยังจำได้ในวันที่เราไปด้วยกันวันแรก เพื่อนๆเห็นเธอต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า  “สวยนะ” ซึ่งก็ทำให้ฉันอดภูมิใจไม่ได้ที่มีใครต่อใครชมเธอขนาดนี้  ฉันรู้สึกถึงหัวใจที่พองโตขึ้น  ทำให้เลือดสูบฉีดขึ้นที่ใบหน้า หน้าฉันก็แดงในที่สุด  ทุกครั้งที่ฉันเดินไปฉันอดไม่ได้ที่จะก้มมองเธออยู่ตลอดเวลา   กลัวเธอจะเปื้อนและถ้าเปื้อนเมื่อไหร่ฉันก็มีกระดาษที่พกติดตัวมาเช็ดให้เธอเสมอเธอไปกับฉันตลอดเวลา ฉันมัดเธอไว้กับฉันตลอดเวลา  เธอไปพร้อมกับการเดินทางของฉัน เธอไปพร้อมขาของฉัน  ฉันเป็นคนนำทางให้เธอ  เธอมีหน้าที่เดินตามคำสั่งฉันในการเดินทางทุกครั้ง  แต่นอกเหนือไปจากนี้คือสิ่งที่เธอทำให้ฉันภูมิใจในตัวเธอมากที่สุด  เธอเป็นหน่วยพิทักษ์ไม่ให้น้ำกระเด็นมาโดนเท้าของฉันซึ่งจะทำให้ฉันเกิดเชื้อราขึ้นที่เท้า   เธอคอยป้องกันเศษหนาม  เศษแก้ว ไม้ลูกชิ้น และสิ่งมีคมต่างๆตามท้องถนน เธอคือเกราะกำบังไม่ให้ของมีคมเหล่านั้นทะลุตัวเธอเข้ามาทิ่มแทงเนื้อหนังของฉันได้ ซึ่งมันจะสร้างความเจ็บปวดให้ฉัน  เพราะนั่นคือสัญญาณที่จะทำให้เธอกับฉันจากกันเร็วขึ้นกว่านี้ เธอต้องทนกับคราบสกปรก   ฝุ่นละออง  ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่น่าเกลียด น่าขยะแขยงกว่าสิ่งใดๆในโลกนี้อีกแล้ว   ทั้งๆที่เธอไม่ได้ใช้ครีมหรือโลชั่นใดๆเลย   เธอคื่อสิ่งมีค่า   เธอมีบางอย่างที่ใครๆมองข้าม   เธอมีความอดทนเป็นที่สุด   แต่สิ่งที่ทุกคนรู้ว่าเธอนั้นคือ....รองเท้า......
   เบื้องหน้าของผมคือถังขยะที่ใช้สำหรับทิ้งสิ่งของสิ่งที่ไม่ใช้แล้วหรือยังใช้ได้แต่อยู่ที่ว่าใครจะเห็นคุณค่าของมัน   
“..เราเลิกกันเถอะ..ขอบใจนะที่ช่วยดูแลฉันตลอดมา….แต่ตอนนี้เราไปด้วยกันไม่ได้แล้ว..”   ผมนึกคำพูดขึ้นในใจอีกครั้งแต่ตอนนี้รู้สึกถึงความสงสาร ห่วงหาอาลัยสำหรับเธอเพื่อนเดินทางของฉันตลอดมา   “..ลาก่อน..” ฉันค่อยๆหย่อนเธอลงอย่างช้าๆเหมือนดอกไม้ที่ร่วงหล่นจากต้นจนไปถึงผืนดิน อย่างสวยงามไม่ต่างกับคุณค่าของรองเท้า   ฉันหมุนตัวกลับไปอีกด้าน ทิ้งภาพเบื้องหลังไว้แล้วก็เดินจากไป  ฉันได้แต่นึกถึงรองเท้าคู่ใหม่ ที่ฉันกำลังใส่  ฉันก้มดูรองเท้าคู่ใหม่ของฉันอีกครั้ง      “กริ๊งๆ   ๆ   ๆ”      เสียงจักรยานดังมาจากทิศทางด้านหลังของฉัน  ฉันหันหลังกลับ   เห็นชายชรานำจักรยานสามล้อเก่าๆ  มาจอดเทียบเคียงกับถังขยะ แล้วหยิบรองเท้าที่ฉันทิ้งลงไป    ชายชรายิ้มด้วยความสุขทำให้เห็นฟันที่เหลืออยู่ สองซี่โผล่ออกมา  มันทำให้ฉันอดที่จะปลื้มใจแทนรองเท้าคู่นั้นไม่ได้  อย่างน้อยถึงแม้รองเท้าจะเก่าขนาดที่ฉันใส่ไม่ได้แล้ว  ก็ยังมีคนๆหนึ่งในโลกใบนี้เห็นคุณค่าของเธอ   ฉันเดินกลับบ้านด้วยความสุขหวังว่าคืนนี้ฉันคงจะฝันเห็นรองเท้าคู่นั้นอีกเพื่อที่จะบอกลา………. ลาก่อนรองเท้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่