หลังจากกระทู้ที่แล้ว http://ppantip.com/topic/31426772
ที่ผมได้ปั่นเสือภูเขา LA คู่ใจคันเดิมขึ้นเขาคอหงส์อีกด้านหนึ่งทางฝั่งหลังมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
เพื่อไปเยี่ยมชมและสักการะมหาธาตุเจดีย์ไตรภพ ไตรมงคล (เจดีย์สแตนเลส)

หลังจากได้รับคำแนะนำจากพี่ๆ น้าๆ ว่าต้องไป คือ Must go สำหรับนักปั่นชาวหาดใหญ่ที่พลาดไม่ได้เลย
นั่นคือ ปั่นขึ้นเขาคอหงส์ ที่ชาวหาดใหญ่จะรู้จักกันดี เพื่อไปยังจุดพระใหญ่ หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า
"พระพุทธมงคลมหาราช" นั่นเอง ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณของสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ครับ

จริงๆแล้วที่รีบไปเพราะว่า ขอสารภาพเลยว่าเสือหมอบคันใหม่กำลังจะได้ในวันพรุ่งนี้ (เสาร์ ที่ 28 ธันวาคม 2556) แล้ว
หลังจากรอคอยมาเกือบๆเดือน ในการสั่งของทั้งหมด แล้วรอทางร้านประกอบ ก็จะเป็นรูปเป็นร่างในวันพรุ่งนี้แล้วครับ (แอบดีใจ)
เมื่อเป็นดังนั้น ก็เลยคิดได้ว่า คราวที่แล้วผมได้ลองเอาเจ้าเสือภูเขา LA Spectrum คันนี้ไปลุยเจดีย์สแตนเลสมาแล้ว
ไหนเลยจะไม่ลองกำลังขา กำลังน่องด้วยการท้าทายตัวเองขึ้นไปยังพระใหญ่ดูกับเขาบ้าง
ถือซะว่าทิ้งทวนเจ้า LA คันนี้ ก่อนที่จะได้ขยับไปยังเสือหมอบอย่างเต็มตัวกับเขาสักที

ก็เลยไม่รอช้า วันนี้เลยตื่นนอนเช้าเป็นพิเศษ (อีกแล้ว เพราะมันพิเศษตรงที่ผมไม่ใช่คนตื่นเช้า) ประมาณ 6 โมง ซึ่งเช้ากว่าครั้งก่อนนิดหน่อย
ล้างหน้า กินน้ำไปประมาณแก้วนึง เพราะศึกษามาว่าเวลาเราตื่นนอนใหม่ๆ เลือดจะยังข้นมาก ควรดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ
จะทำให้เลือดไม่ข้นจนเกินไป และอีกอย่างเป็นการบอกร่างกายว่าตอนนี้ตื่นอย่างเต็มที่แล้วนะ จะได้ไม่ง่วงอีก

เปลี่ยนชุดปั่นตัวเก่งเสร็จ วันนี้กะจะลองของเล่นใหม่รับปีใหม่กับเขาหน่อย
ของเล่นที่ว่านั่นก็คือ "Garmin EDGE 810" นั่นเอง
ทีแรกว่าจะทำรีวิว แต่ดูๆไป ก็เคยมีคนรีวิวไว้เยอะแล้ว จึงไม่ขอรีวิวแล้วนะครับ
บอกตามตรงว่าตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเด็กที่ได้ของเล่นใหม่
มันกระตุ้นให้ผมอยากลองออกไปปั่นซะจริงเชียว
แต่ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้ใช้ Cadence Sensor  ติดกับตัวรถนะครับ เพราะว่าจะรอเอาไว้ติดกับเสือหมอบคันใหม่ที่กำลังจะได้เร็วๆนี้
ของเล่นใหม่ที่ได้ลองในวันนี้ก็คือเจ้า 810+Heart Rate Monitor ครับ
ก็เอามาใส่ตรงหน้าอก ค่อนข้างรัดนิดหน่อยแต่ไม่เป็นปัญหาเวลาปั่นแต่อย่างใดครับ
แล้วก็จัดการติดตั้งตัวยึดกับจักรยานเรียบร้อย เสียเวลาไปเล็กน้อย (จริงๆอยากออกจากบ้านสัก 6 โมงครึ่งแต่เสียเวลากับการติดตั้งอุปกรณ์)



ติดอุปกรณ์ ไฟหน้า ไฟท้าย ใส่หมวกครบ ก็ได้ฤกษ์ออกจากบ้านสักที ตรงไปปั๊มก่อนเลยเพื่อไปเติมลม
เพราะยังไม่ซื้อสูบลมเลย


สูบลมล้อหน้าล้อหลังเต็ม ก็ออกจากปั๊มเพื่อไปยังสวนสาธารณะทันที
โดยใช้เส้นทาง ช่องเขา ถนนศุภสารรังสรรค์ และไปต่อยังถนนกาญจนวนิชหน้า มอ.
เวลาประมาณ 06.51 น. สังเกตได้ว่ารถจะยังไม่ค่อยเยอะเท่าไร ซึ่งเหมาะแก่การปั่นมากๆ
นี่เป็นเหตุผลที่ผมชอบออกจากบ้านเช้าๆ เช้าเท่าไรได้ยิ่งดี เพราะต้องการเลี่ยงรถครับ



ระหว่างทางที่ปั่นอยู่บนถนนกาญจนวนิช
ก็ได้ทำความรู้จักกับ “ป้าอี๊ด” ชมรมหาดใหญ่ล้อเล็ก
ผมบอกไปว่าผมเพิ่งเริ่มปั่นได้ไม่นาน ยังไม่มีชมรม
ป้าอี๊ดก็แนะนำดีมากสำหรับมือใหม่ในการปั่นจักรยานขึ้นเขา
ป้าอี๊ดบอกว่าช่วงขาลงต้องรักษาความเร็วดีๆ ไม่งั้นมีล้มแน่ๆ ต้องคอยกดเบรกเรื่อยๆ อย่าให้ความเร็วเกิน
ไม่งั้นมันจะคุมรถไม่อยู่
ป้าอี๊ดแกเป็นนักปั่นผู้หญิง ที่ผมเห็นน้อยคนมาก เพราะส่วนมากนักปั่นทั้งหลายมักจะเป็นผู้ชาย
แกอายุเยอะแล้วน่าจะประมาณ 40 ปลายๆ แต่ยังดูแข็งแรงอยู่เลย
เพราะแกปั่นไปคนละเส้นทางกับผม คือแกจะปั่นไปทางถนนลพบุรีราเมศวร์ เพื่อไปตัวเมืองสงขลา ส่วนผมไปขึ้นเขาไหว้พระใหญ่
เลยแยกกันหลังจากสนทนากันได้ไม่นาน
สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกหลังจากกลับมาปั่นจักรยานคือ สังคมนักปั่นเป็นสังคมที่อบอุ่นมาก
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานก็จะมีการทักทาย มีการพูดคุยกันได้อย่างเป็นกันเอง
อีกอย่างก็คือการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักปั่นด้วยกันเอง
แม้ไม่รู้จักกัน แต่ถ้าได้ปั่นบนเส้นทางเดียวกันแล้วก็มักจะยิ้มให้ พยักหน้าหรือกล่าวสวัสดีได้อย่างไม่เก้อเขินนัก
ผมว่านี่แหละเป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งในการปั่นจักรยานเลยก็ว่าได้

และแล้วก็มาถึงสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ครับ ใช้เวลาปั่นมาประมาณ 10 นาที
เริ่มต้นขึ้นเขาคอหงส์กันตรงทางขึ้นเลยชันใช้ได้เลยสำหรับมือใหม่อย่างผม



เดี๋ยวมาต่อนะครับ