สิ่งแรกที่อยากระบายคือ ขายยามาทำทีวีกันหรือไง ช่อง SD เคาะแหลกลาญเลย ตั้งต้น 380 ล้านบาท ปิดอันดับ 1 ที่ 2,355 ล้านบาท พุ่งไปกว่า 500% !!! คิดเป็น 10 เท่า

ผู้มีสิทธ์ชนะการประมูลช่อง HD ตั้งต้น 1510 ล้าน

3530 ล้าน = บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด (ช่อง 3)
3460 ล้าน = บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด
3370 ล้าน = บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด (ช่อง 7)
3360 ล้าน = บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด (ไทยรัฐ)
3340 ล้าน = บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (ช่อง 9)
3320 ล้าน = บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด
3320 ล้าน = บริษัท จีเอ็มเอ็ม เอชดี ดิจิทัล ทีวี จำกัด (แกรมมี่)

ผู้มีสิทธ์ชนะการประมูลช่อง SD ตั้งต้น 380 ล้าน

2355 ล้าน - บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด (เวิร์คพ็อยน์)
2315 ล้าน - บริษัท ทรู ดีทีที จำกัด (ทรู)
2290 ล้าน - บริษัท จีเอ็มเอ็ม เอสดี ดิจิทัล ทีวี จำกัด (แกรมมี่)
2275 ล้าน - บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด (ช่อง 3)
2265 ล้าน - บริษัท อาร์.เอส.เทเลวิชั่น จำกัด (RS)
2250 ล้าน - บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด (โพธารามิก)
2200 ล้าน - บริษัท แบงคอก บิสสิเนส บรอดแคสติ้ง จำกัด (เนชั่น)

ดูจากตอนนี้ มีช่อง 3 กับแกรมมี่ ที่ได้ทำ 2 ช่อง สอดรับกับ 2 กลุ่มที่ต้องออกจากการแข่งขันไป โดยที่ไม่ได้อะไรกลับบ้านเลย คือกลุ่มมหากิจศิริกับกลุ่มอินทัช

แต่ที่น่าแปลกใจที่สุด คือกลุ่มเนชั่น ที่ได้ช่องวาไรตี้ SD มาครองเป็นใบแรก ทั้งที่งานถนัดของเค้าคือข่าวมากกว่า

สรุปโดยภาพรวมคือ คนที่ได้ไป ก็ได้สะท้อนตามบุคลิกของช่องทีวีตัวเองซะเป็นส่วนใหญ่ และยอมรับเลยครับว่าพวกท่านใจป้ำมากๆ ถึงกล้าจ่ายเงินทำทีวีกันขนาดนี้ได้

พรุ่งนี้จะเป็นการประมูลช่องข่าวกับช่องเด็ก ซึ่งเชื่อว่าช่องข่าวจะเป็นช่องที่น่าสนใจมากกว่า ตัวเล่นช่องนี้มีแต่พวกหินๆ ในกลุ่มของข่าวทั้งนั้น ส่วนช่องเด็ก อัตราส่วน 1 เท่าตัว แต่ราคาถูกสุด คนที่ได้ช่องไปก่อนหน้า อาจตัดใจช่องนี้ไปเลย