ตามล่าหาใบเสร็จค่าปรับ (น้ำหนักเกิน)

กระทู้เดิม http://ppantip.com/topic/30199507
    หลังจากถูกปรับที่สนามบินโฮจิมินห์ขากลับ เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2556 เพราะน้ำหนักเกิน(แค่ 1กิโลกรัม)ไป 1,200 บาทโดยไม่มีใบเสร็จ มีแต่เศษกระดาษเล็กๆให้เป็นหลักฐานว่าจะส่งใบเสร็จตามมาให้ทางอีเมล์ภายใน1สัปดาห์ ..แต่รอแล้วรอเล่า ตามต่อทั้งทางอีเมล์ ทั้งทางการร้องเรียนไปสำนักงานใหญ่ แต่ก็ไม่มีคำตอบที่ดีไปกว่าข้อความตอบกลับว่า "ได้รับเรื่องของท่านแล้วและจะดำเนินการส่งต่อผู้เกี่ยวข้องโดยเร็ว" ..แต่ก็เงียบหายไปโดยปริยาย
   เวลาผ่านไป 9 เดือนจนน่าเชื่อว่าไม่มีทางได้ใบเสร็จอย่างที่เพื่อนๆ น้องๆในกระทู้บอก แต่เราไม่ยอมแพ้ คิดว่ามีโอกาสไปอีกเมื่อไหร่ฉันจะตามไปเรียกใบเสร็จให้จงได้ และแล้ว AirAsiaGo ก็ส่งเมล์มาชวนให้ไปเที่ยวโฮจิมินห์ 3คืน 4วัน ในราคาคนละ 3,227 บาท แถมจองแล้วบินเลยอีกด้วย ...เราไม่รอช้ารีบกดจอง 5-8 ธันวาคมที่ผ่านมาโดยพลัน
  คนที่ไปด้วยถามว่าแล้วจะไปดูอะไรอีก เพราะไปมาแล้ว 2ครั้ง แต่เราหาข้อมูลจากเพื่อนๆในห้องบลูฯมาแล้ว แนะนำให้ไปเที่ยวหวุงเต่ากับแม่โขงเดลต้า..ก็แพลนตามนั้น (มีรีวิวให้ตอนท้ายค่ะ) แต่จุดประสงค์หลักที่นำหน้ามาก่อนเรื่องเที่ยว คือได้เวลาชำระแค้นที่สุมไว้เกือบปีเสียที...เสียเงินน่ะไม่ว่าแต่เสียรู้นี่ ...ยอมยาก
  ไปเที่ยวตามโปรแกรมอย่างคุ้มค่าด้วยราคารวมทุกอย่างตั้งแต่ตั๋วสิงห์โตจากเชียงใหม่ กินอิ่ม นอนอุ่น 2คนเบ็ดเสร็จประมาณ 15,000 บาทเท่านั้น ก่อนเดินทางก็เตรียมหลักฐานไปพร้อม ตั้งแต่เศษกระดาษแหว่งๆแทนใบเสร็จ อีเมล์สอบถาม อีเมล์ร้องเรียน อีเมล์ตอบจาก AA สำนักงานใหญ่ กากตั๋วฯลฯ โดยคนที่ไปด้วยไม่รู้เลยว่าอิป้าที่บ้านเตรียมการไป fight กับเขาเต็มที่
                        
(หน้าตาใบเสร็จชั่วคราว)
                                    

  วันเดินทางกลับ เราจองไฟลท์ดึกเลย ..กะว่ามีเวลารอได้ เผื่อพวกโยนเรื่องกันไปมา ไปถึงสนามบินตั้งแต่3โมง(เครื่องออก 3ทุ่ม..ฮา!) จัดแจงตามหา office ของAA ปรากฏว่าเป็นเพียงเคาน์เตอร์เล็กๆมีพนักงานอยู่ 2-3 คน ก็เข้าไปถามว่ามีใครพูดภาษาไทยได้บ้าง(เผื่อคุยกันง่ายขึ้น) คำตอบคือ sorry ! เราก็เอาน่ะ !ไปมาหัวเห็ดเจ็ดย่านน้ำแล้ว คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอก แล้วก็เริ่มท้าวความตั้งแต่ถูกสุ่มชั่งน้ำหนักและถูกปรับเพราะน้ำหนักเกิน พนักงานถามว่า เมื่อไหร่..จำเที่ยวบินได้มั้ย..เราก็ควักทุกอย่างออกมาให้ดูจะได้ไม่ต้องถามโน่นนี่อีก..พนักงานเห็นแล้วอึ้งและเริ่มโยน(ตามคาด) บอกว่าคนที่รับผิดชอบพักเบรค เราก็บอกไม่เป็นไรเรารอได้เพราะมีเวลาหลายชั่วโมง แล้วก็ออกไปนั่งใจเย็นกินแม็คโดนัลรอด้านนอก
  กลับมาอีกครั้ง พนักงานคนเดิมไม่อยู่แล้ว (สงสัยเบรคอีกเหมือนกัน) คงมีพนักงานผู้ชายอยู่รับหน้าคนเดียว เราก็ต้องเริ่มท้าวความใหม่อีกครั้ง ซักไปซักมาจนเริ่มหงุดหงิดเลยใช้ไม้ตายว่าให้ search จากรายชื่อผู้โดยสาร แล้วย้อนกลับไปถึงวันที่ 28 Feb 2013 ก็จะมีรายละเอียดที่คุณอยากรู้ทั้งหมด พนักงานดูอยู่นาน (รายการเราคงยาวเป็นพรืด เพราะตั้งแต่มีAA เราแทบไม่ได้ใช้บริการเจ้าอื่นเลย) แล้วก็บอกเราว่าไม่มีรายการซื้อน้ำหนักเพิ่ม เราจึงเอาเศษกระดาษแทนใบเสร็จให้ดู แล้วยืนยันว่าเราต้องการใบเสร็จเพื่อไปเคลมกับ my company..(ที่แท้ไม่มีสังกัดหรอก แถมลางานหนีเที่ยวอีกต่างหาก)
   พนักงานเริ่มหันรีหันขวางหาคนช่วย แล้วบอกเราว่าไม่สามารถออกใบเสร็จให้เราตอนนี้ได้ ต้องส่งเรื่องให้สำนักงานใหญ่ก่อน หนำซ้ำยังเถียงข้างๆคูๆอีกว่า คุณอาจให้ที่อยู่อีเมล์เราผิด ...หนอย!ยังมาโทษเราอีก ทำเอาปรี้ดเลย เราบอก ฉันใช้บริการของAAมาตั้งแต่เริ่มไปทำมาหากินในประเทศฉัน และมีรายการคอนเฟิร์มมากมายขนาดนี้จะผิดได้อย่างไร แล้วบอกให้พนักงานสะกดอีเมล์ของเราให้ฟังทีละคำ ซึ่งก็สะกดได้ถูกต้อง (ยังขำตัวเองว่าติดนิสัยครูมาถึงนี่)  จนเจ้าหนุ่มยอมแพ้และบอกเราว่าคนที่รับเรื่องไว้คงลืมส่งใบเสร็จ และรับปากว่าจะส่งใบเสร็จให้ทางอีเมล์ภายในสัปดาห์นี้ (มาอีหรอบเดิม)  เรา(ปรี้ดอีกรอบ)บอก..คำพูดประโยคนี้พวกคุณเคยบอกกับฉันเมื่อเกือบ 10 เดือนที่ผ่านมาแล้ว แต่ไม่มีเมล์ใดๆเลย พนักงานได้แต่พร่ำขอโทษจนเราเริ่มเห็นใจว่า เออ !คงเกินความสามารถของพนักงานระดับนี้จริงๆ
  ก่อนรามือออกมา ยังสำทับส่งท้ายอีกว่า ถ้าภายในสัปดาห์นี้ยังไม่ได้รับใบเสร็จค่าปรับ เราจะนำเรื่องทั้งหมดแจ้งต่อหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวและ social networkในประเทศไทย (จริงๆเขียนมาบ่นในพันทิปตั้งแต่ลงเครื่องแล้ว)
  กลับถึงไทย แวะเยี่ยมลูกชายที่กรุงเทพยังไม่ทันกลับเชียงใหม่เลย ก็มีอีเมล์ส่งใบเสร็จตามหลังมาให้เรียบร้อย

                                            

  เขียนมาเล่าสู่กันครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อโอ้อวดว่าฉันแน่ แค่อยากให้เป็นกรณีตัวอย่างในการรักษาสิทธิ์ที่พึงมี และหากอยู่ในวิสัยและสถานการณ์ที่สามารถทำได้ก็ควรทำ ซึ่งคงมีหลายคนโดนปรับโดยไม่มีหลักฐาน หลายคนอาจปล่อยเลยตามเลยเพราะไม่มีเวลาตาม และอาจทำให้พวกเหลือบริ้นเกิดการย่ามใจมากขึ้น

  ส่งท้ายด้วยการพาไปเยือนถิ่นลุงโฮครั้งที่ 3 : หวุงเต่า - สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง (Mekong Delta) เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับท่านที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศไปทางชนบทบ้าง
    http://ppantip.com/topic/31389581
    
   http://ppantip.com/topic/31393946
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่