อยากให้กระทู้มีสาระ(ว่าจะไปมณฑลคีรี ทำไมไปไม่ถึงสักที)

กระทู้สนทนา
ซำบายดีหล่า..........
กลับมาคุยกันใหม่นะครับ.....เมื่อวานผมพาน้องๆหลานๆไปขับรถเที่ยวเมืองเหนือมา...วันนี้ว่าจะพาไปเที่ยวจังหวัดมณฑลคีรีกันต่อจากเมื่ออาทิตย์ที่แล้วให้จบเสียที......แต่ทำไปทำมา-ยังไปไม่ถึงอีกอีกแล้ว....เพราะตอนที่เก็บรูปเข้าไฟล์...เกิดไปนึกขึ้นได้ว่าผมยังไม่ได้พาคุณไปเจอะลึกที่ดอยแม่สะลองเลย....วันนี้ถือโอกาสแวะเที่ยวดอยแม่สะลองเสียหน่อยดีกว่า เพราะผมขี่รถขึ้นไปเที่ยวดอย "สันติคีรีเขต"แห่งนี้มากกว่า10ครั้งแล้วละ

ก่อนที่จะแวะเที่ยวดอยแม่สะลองแบบเจาะลึก ผมขอย้อนกลับมาขยายความที่คุณ"หุงข้าว"ปิดท้ายกระทู้วันที่ผ่านมา.....ดังนี้
.............................................................................................................................................................
......วันนี้ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ  โอเลี้ยงก็ซื้อแล้วด้วย  เอาไงดีหว่าาาา

จะลบกระดานก็กระไรอยู่  เนื้อหาดีซะด้วยใครจะกล้าลบละทีนี้  เฮ้ออออ....  จนมุม !
...............................................................................................................................................................
ผมแซวกลับไปว่า........

งั้นซื้อโอเลี้ยงยกล้อแล้วกัน....เคยได้ยินไหมครับ-โอเลี้ยงยกล้อน่ะ........เมื่อก่อนนี้เขามีขายครับ เป็นโอเลี้ยงปกตินี่แหละ แต่เขามีคราบนม(เมื่อก่อนนี้ร้านขายกาแฟท่ัวไป จะมีหม้อแขกใส่นม-ตั้งไฟรุมๆไว้......เรียกว่านมอุ่น.......ใครจะกินนมร้อนก็สั่งนมร้อนแบบนี้กิน......ส่วนบนของนมอุ่นนี้จะมีคราบนมเป็นฝาลอยอยู่......พอใครสั่งโอเลี้ยงยกล้อ.....คนขายก็จะตักนมพร้อมคราบนมโรยหน้าลงไปนิดหน่อย......เขาเรียกกันว่าโอเลี้ยงยกล้อ......
................................................................................................................................................................

ยกเอามาอธิบายให้หลายๆคนในนี้เข้าใจตามไปด้วย เพราะใครที่มีอายุน้อยกว่า35ปี จะไม่รู้จักโอเลี้ยงยกล้อกันแล้ว...แต่ผมรู้จัก เพราะอายุเกิน35ปี.....

มีอาหารอีกอย่างหนึ่งครับที่ผมอยากแนะนำให้คุณหุงข้าวและคุณ ไออิและคุณ songtook (สะกดถูกป่าวฟระ)......จดเอาไปทำเป็นของแกล้มให้ใครก็ได้กินแกล้มเบียร์(ผมเคยบอกไปทีหนึ่งแล้วละ).แต่เอามาบอกอีกครั้ง เพราะกับแกล้มจานนี้อร่อยแปลกๆดี......ผมจำมาจากเมืองกำปงชนัง.....(ที่ผมเล่าให้ฟังว่า คนเขมรไม่นิยมกินปลาช้าง(ปลาบู่น่ะ-เขมรเขาเรียกปลาช้าง).....เพื่อนที่ชื่อชารอม สั่งยำมะกะเอามาแกล้มเบียร์....ผมลองชิมดูแล้วมันคุ้นๆปาก แต่บอกไม่ถูกว่ามันคืออะไรแน่

เลยยกชามยำจานนั้นเข้าไปในครัว......ให้เพื่อนถามแม่ครัวว่า ไอ้ที่ผมกำลังกินนี่คืออะไร.....แกบอกว่ามะกะ.....ฟังชื่อมันก็คุ้นหูและรสชาติมันก็คุ้นปาก แต่ผมบอกไม่ได้ว่ามันตือยำอะไร.....เลยให้แม่ครัวเอาผลมะกะ มาให้ผมดู......ปรากฏว่ามันคือมะกอกครับ...เป็นมะกอกแบบที่ร้านขายผลไม้ดองเอามาเฉาะขายใส่น้ำจิ้มน่ะครับ...มันมีรสปนมันปนเปรี้ยวและมีกลิ่นเฉพาะตัวของมัน.........แม่ครัวเขาเฉพาะๆมะกอกแล้วใช้มีดปาดเป็นฝอยๆออกมาเหมือนมะละกอทำส้มตำน่ะ.......ใช้มะกอกประมาณ3-4ลูกแล้วแต่ผลโตหรือผลเล็ก......จากนั้นก็เอาปลากรอบ(หรือกุ้งก็ได้)

ตำหยาบๆใส่ลงไป......หอมแดงซอยใส่ลงไป....ปรุงรสด้วยน้ำปลานิดหน่อย...ไม่ต้องบีบมะนาว อาศัยความอมเปรี้ยวอมมันของมะกอกนี่แหละ-คือเสน่ห์ของยำจานนี้...ยำเสร็จแล้วเอาถั่วลิสงหรือมะม่วงหิมพานต์โรยหน้า.......โห.หย่อยอย่าให้เซดเลย.......ลองทำกินดูครับ-หากไม่อร่อยอย่างว่า ผมยอมให้เลี้ยงเบียร์2ขวดเลย......สาบานต่อหน้าฝาเบียร์ยังได้



มะกอกชนิดที่มีขายตามรถเข็นผลไม้ดองนี่แหละ.......คือวัตถุดิบ



ส่วนมะกอกแบบที่คนอิสานหั่นใส่ในส้มตำแบบนี้......ไม่ใช่นะครับ-อย่าหลงประเด็น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่