Samsung Note 2 อัพ FW 4.3 ผ่านโปรแกรม Kies ....แล้วโทรออกไม่ได้...imei หาย......
เอาเข้าศูนย์ซ่อมที่ the mall บางกะปิ.... ตอนแรกคิดว่าเป็นอาการเดิมคืออัพเดทไม่เรียบร้อย (เพราะเคยเป็นแบบนี้ทีนึงแล้วเอาไปเข้าศูนย์ อัพ FW ทับแล้วก็หาย)....
พอเอาไปที่ศูนย์ บอกว่ามีค่าใช้จ่ายการอัพ FW ใหม่ 270.- (ไม่แน่ใจว่า 240.- หรือ 270.- ฟังไม่ถนัด)
ผมก็เลยบอกว่า..."เครื่องมีประกันอยู่นะครับ..ลองเช็คดีๆ" (เครื่องรหัส cc ) พนักงานยืนยันว่าเครื่องหมดประกัน...
แต่เพื่อนพนักงานที่นั่งข้างๆบอกว่า cc หมด มีนา ปีหน้า... ทีนี้เลยเช็คแล้วปรากฏว่ายังไม่หมดประกันจริงๆ....ก็เลยไม่มีค่าใช้จ่าย..(อันนี้ถ้าผมเป็นชาวบ้านไม่รู้เรื่องรู้ราว 270.- อันนี้จะไปตกอยู่ที่ใคร......)
หลังจากนั้นบอกให้รอ 2 ชั่วโมง (ก่อนน่าจะเอาเครื่องไปเค้าคืน sim+เคส+ฝาหลัง+micro sd ให้) เสร็จแล้วกลับไปเอาปรากฏว่า...ช่างบอกว่าเมนบอร์ดพัง..ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ด...ใหม่.. รอประมาณ 1 อาทิตย์..... (ส่งซ่อมวันที่ 19 ธ.ค.) แล้วถ้าได้เครื่องยังไงจะโทรแจ้งหรือส่ง sms แจ้ง.. ก็เลยเซ็งกลับบ้าน...
พอดีมาอ่านในกระทู้พันทิปบางรายบอกว่า 2 วันก็ได้แล้ว....ผมก็เลยลองโทรไปสอบถาม call center .. ผลปรากฏว่าได้เครื่องแล้ว(วันที่ 23 ธ.ค.) แต่ผมไม่ได้รับ sms หรือการโทรแจ้งใดๆทั้งสิ้น..... ผมก็เลยไปเอาเครื่อง...ปรากฏว่าพอรับเครื่อง ดันไม่มี s pen พนักงานก็บอกว่าไม่ได้เก็บไว้เพราะให้มาตอนถอดเครื่องแล้ว...ผม ก็เลยรับเครื่องกลับ และเครื่องผมยังเป็น FW 4.1.2 อยู่เลย... พนักงานแจ้งว่าอย่าเพิ่งอัพ 4.3 เพราะตอนนี้ระบบยังไม่นิ่ง....เดี๋ยวอัพแล้วโทรออกไม่ได้อีกต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดอีกรอบ....
กลับมาดูในซองที่เค้าให้มาปรากฏว่าจริงอย่างที่สังหรณ์ใจไว้ก็คือ ไม่มีปากกา s pen มาให้.... ผมก็เลยกลับไปที่ศูนย์เพื่อสอบถาม.. พนักงานก็ทำท่าหาของอยู่สักพักแล้วแจ้งว่าไม่ได้เก็บไว้..แล้วขอเบอร์โทรเพื่อติดต่อกลับ...แต่ระหว่างที่หาก็พยายามจะบอกว่าปากกา s pen อาจจะหล่นหายในรถของผม หรือ ระหว่างทาง ซึ่งผมเองยืนยันว่าไม่ได้เก็บไว้และไม่ได้หล่นแต่อย่างใด
ทำไมผมถึงมั่นใจอย่างนั้น..
1. ครั้งแรกที่ผมเอาเครื่องมาอัพ FW ที่ศูนย์แห่งนี้ พนักงานคืนมาเพียง sim+เคส+micro sd เท่านั้น... ไม่ได้คืนฝาหลัง กับ s pen มาให้ด้วย..
2. รอบที่ 2 คืน sim+ เคส+micro sd + ฝาหลัง มาให้ ทำให้ผมเชื่อได้ว่าเค้าคงเอาเก็บไว้เพื่อให้ช่างทดสอบอุปกรณ์
สรุป....
1. ตอนนี้ FW ยังเป็น 4.1.2
2. s pen หาย ระหว่างซ่อม..
3. เกือบโดนเก็บค่าบริการ 270.- ทั้งที่ยังไม่หมดประกัน...
4. พนักงานศูนย์ไม่ได้โทรแจ้งให้มารับเครื่องทั้งที่เครื่องซ่อมเสร็จแล้ว...
จะเห็นได้ว่าทุกครั้งตอนผมเองไม่ได้ทำการ root เครื่อง ไม่ได้ลง rom โม แต่อย่างใด...ทุกอย่างทำถูกต้องตามวิธีการปกติทั้งหมด..นี้ถ้าเครื่องผมหมดประกันไปแล้วจะทำยังไงครับ...ในเมื่อความผิดพลาดขณะที่อัพ FW มันไม่ใช่ความผิดของผมแต่อย่างใด...และมีหลายคนที่อัพเดท FW 4.3 แล้วโทรออกไม่ได้อีกมาก..แต่เค้าเลือกที่จะใช้โปรแกรม Odin แฟลชเครื่องเอง(น่าจะเพราะหมดประกันแล้ว..) แต่ผมทำถูกขั้นตอนทุกอย่าง.....ตกลง ผมจะยังคงเชื่อมั่นในระบบการบริการของ Samsung ต่อไปในอนาคตดีหรือไม่ครับ..
ปล. ผมไม่ได้โทษพนักงานที่ให้บริการนะครับ...ทุกคนพูดจาดียิ้มแย้มแจ่มใส่ทุกคน...และกระตือรือร้นในการให้บริการเป็นอย่างดี...แต่กระบวนการในทำงานที่ผิดพลาด...ผมมองว่าระดับหัวหน้า หรือ ผู้จัดการสาขา ควรต้องเร่งเข้ามาดูแลอย่างรีบด่วน เพราะก่อนหน้านี้วันแรกที่ผมเอาเครื่องมารออัพ FW ก็มีลูกค้าท่านนึงตะโกนโวยวายด่าว่าเสียหายเกี่ยวกับการบริการที่รอนานคิวยาว..เหมือนกัน..คนมองกันทั้งศูนย์เลย..ควรจะมีพนักงานในระดับหัวหน้าที่มีวุฒิภาวะในการเจรจาคอยประจำแต่ละศูนย์เพราะว่าลูกค้าทุกคนที่เอาเครื่องมาซ่อมไม่มีใครอารมณ์ดีมาหรอกครับ...มีมือถือก็อยากจะใช้งานมันให้เต็มความสามารถและอัตประโยชน์ที่มันควรจะต้องทำได้...เมื่อมันเสียระยะเวลาที่ไม่ได้ใช้งานมันคือความสูญเสียของผู้ซื้อที่ไม่ควรเกิดขึ้น...
ปล. 2 ในส่วนของตัวเครื่อง Note 2 นั้นยอดเยี่ยมมาก..ตอนสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี...และคิดว่าคงไม่กลับไปใช้ iphone อีกแน่นอน แต่ถ้าการบริการของศูนย์ยังไม่มีความเป็นมืออาชีพแบบนี้...ผมก็เริ่มลังเลอยู่เหมือนกันครับ
ปล. 3 ตกลง...ผมต้องทำยังไงต่อไปดีครับ....แล้วตกลงผมจะได้ S pen ผมคืนหรือเปล่าครับ....
+++โดนจนได้...กับศูนย์ซ่อม Samsung.... +++
เอาเข้าศูนย์ซ่อมที่ the mall บางกะปิ.... ตอนแรกคิดว่าเป็นอาการเดิมคืออัพเดทไม่เรียบร้อย (เพราะเคยเป็นแบบนี้ทีนึงแล้วเอาไปเข้าศูนย์ อัพ FW ทับแล้วก็หาย)....
พอเอาไปที่ศูนย์ บอกว่ามีค่าใช้จ่ายการอัพ FW ใหม่ 270.- (ไม่แน่ใจว่า 240.- หรือ 270.- ฟังไม่ถนัด)
ผมก็เลยบอกว่า..."เครื่องมีประกันอยู่นะครับ..ลองเช็คดีๆ" (เครื่องรหัส cc ) พนักงานยืนยันว่าเครื่องหมดประกัน...
แต่เพื่อนพนักงานที่นั่งข้างๆบอกว่า cc หมด มีนา ปีหน้า... ทีนี้เลยเช็คแล้วปรากฏว่ายังไม่หมดประกันจริงๆ....ก็เลยไม่มีค่าใช้จ่าย..(อันนี้ถ้าผมเป็นชาวบ้านไม่รู้เรื่องรู้ราว 270.- อันนี้จะไปตกอยู่ที่ใคร......)
หลังจากนั้นบอกให้รอ 2 ชั่วโมง (ก่อนน่าจะเอาเครื่องไปเค้าคืน sim+เคส+ฝาหลัง+micro sd ให้) เสร็จแล้วกลับไปเอาปรากฏว่า...ช่างบอกว่าเมนบอร์ดพัง..ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ด...ใหม่.. รอประมาณ 1 อาทิตย์..... (ส่งซ่อมวันที่ 19 ธ.ค.) แล้วถ้าได้เครื่องยังไงจะโทรแจ้งหรือส่ง sms แจ้ง.. ก็เลยเซ็งกลับบ้าน...
พอดีมาอ่านในกระทู้พันทิปบางรายบอกว่า 2 วันก็ได้แล้ว....ผมก็เลยลองโทรไปสอบถาม call center .. ผลปรากฏว่าได้เครื่องแล้ว(วันที่ 23 ธ.ค.) แต่ผมไม่ได้รับ sms หรือการโทรแจ้งใดๆทั้งสิ้น..... ผมก็เลยไปเอาเครื่อง...ปรากฏว่าพอรับเครื่อง ดันไม่มี s pen พนักงานก็บอกว่าไม่ได้เก็บไว้เพราะให้มาตอนถอดเครื่องแล้ว...ผม ก็เลยรับเครื่องกลับ และเครื่องผมยังเป็น FW 4.1.2 อยู่เลย... พนักงานแจ้งว่าอย่าเพิ่งอัพ 4.3 เพราะตอนนี้ระบบยังไม่นิ่ง....เดี๋ยวอัพแล้วโทรออกไม่ได้อีกต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดอีกรอบ....
กลับมาดูในซองที่เค้าให้มาปรากฏว่าจริงอย่างที่สังหรณ์ใจไว้ก็คือ ไม่มีปากกา s pen มาให้.... ผมก็เลยกลับไปที่ศูนย์เพื่อสอบถาม.. พนักงานก็ทำท่าหาของอยู่สักพักแล้วแจ้งว่าไม่ได้เก็บไว้..แล้วขอเบอร์โทรเพื่อติดต่อกลับ...แต่ระหว่างที่หาก็พยายามจะบอกว่าปากกา s pen อาจจะหล่นหายในรถของผม หรือ ระหว่างทาง ซึ่งผมเองยืนยันว่าไม่ได้เก็บไว้และไม่ได้หล่นแต่อย่างใด
ทำไมผมถึงมั่นใจอย่างนั้น..
1. ครั้งแรกที่ผมเอาเครื่องมาอัพ FW ที่ศูนย์แห่งนี้ พนักงานคืนมาเพียง sim+เคส+micro sd เท่านั้น... ไม่ได้คืนฝาหลัง กับ s pen มาให้ด้วย..
2. รอบที่ 2 คืน sim+ เคส+micro sd + ฝาหลัง มาให้ ทำให้ผมเชื่อได้ว่าเค้าคงเอาเก็บไว้เพื่อให้ช่างทดสอบอุปกรณ์
สรุป....
1. ตอนนี้ FW ยังเป็น 4.1.2
2. s pen หาย ระหว่างซ่อม..
3. เกือบโดนเก็บค่าบริการ 270.- ทั้งที่ยังไม่หมดประกัน...
4. พนักงานศูนย์ไม่ได้โทรแจ้งให้มารับเครื่องทั้งที่เครื่องซ่อมเสร็จแล้ว...
จะเห็นได้ว่าทุกครั้งตอนผมเองไม่ได้ทำการ root เครื่อง ไม่ได้ลง rom โม แต่อย่างใด...ทุกอย่างทำถูกต้องตามวิธีการปกติทั้งหมด..นี้ถ้าเครื่องผมหมดประกันไปแล้วจะทำยังไงครับ...ในเมื่อความผิดพลาดขณะที่อัพ FW มันไม่ใช่ความผิดของผมแต่อย่างใด...และมีหลายคนที่อัพเดท FW 4.3 แล้วโทรออกไม่ได้อีกมาก..แต่เค้าเลือกที่จะใช้โปรแกรม Odin แฟลชเครื่องเอง(น่าจะเพราะหมดประกันแล้ว..) แต่ผมทำถูกขั้นตอนทุกอย่าง.....ตกลง ผมจะยังคงเชื่อมั่นในระบบการบริการของ Samsung ต่อไปในอนาคตดีหรือไม่ครับ..
ปล. ผมไม่ได้โทษพนักงานที่ให้บริการนะครับ...ทุกคนพูดจาดียิ้มแย้มแจ่มใส่ทุกคน...และกระตือรือร้นในการให้บริการเป็นอย่างดี...แต่กระบวนการในทำงานที่ผิดพลาด...ผมมองว่าระดับหัวหน้า หรือ ผู้จัดการสาขา ควรต้องเร่งเข้ามาดูแลอย่างรีบด่วน เพราะก่อนหน้านี้วันแรกที่ผมเอาเครื่องมารออัพ FW ก็มีลูกค้าท่านนึงตะโกนโวยวายด่าว่าเสียหายเกี่ยวกับการบริการที่รอนานคิวยาว..เหมือนกัน..คนมองกันทั้งศูนย์เลย..ควรจะมีพนักงานในระดับหัวหน้าที่มีวุฒิภาวะในการเจรจาคอยประจำแต่ละศูนย์เพราะว่าลูกค้าทุกคนที่เอาเครื่องมาซ่อมไม่มีใครอารมณ์ดีมาหรอกครับ...มีมือถือก็อยากจะใช้งานมันให้เต็มความสามารถและอัตประโยชน์ที่มันควรจะต้องทำได้...เมื่อมันเสียระยะเวลาที่ไม่ได้ใช้งานมันคือความสูญเสียของผู้ซื้อที่ไม่ควรเกิดขึ้น...
ปล. 2 ในส่วนของตัวเครื่อง Note 2 นั้นยอดเยี่ยมมาก..ตอนสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี...และคิดว่าคงไม่กลับไปใช้ iphone อีกแน่นอน แต่ถ้าการบริการของศูนย์ยังไม่มีความเป็นมืออาชีพแบบนี้...ผมก็เริ่มลังเลอยู่เหมือนกันครับ
ปล. 3 ตกลง...ผมต้องทำยังไงต่อไปดีครับ....แล้วตกลงผมจะได้ S pen ผมคืนหรือเปล่าครับ....