ทำไมรถเราโดนชนแล้วถึงต้องซ่อมที่อู่ในสัญญาของประกัน ทำไมซ่อมที่ศูนย์ไม่ได้ค่ะ

รถของแฟนเป็นรถตู้ค่ะ เวลาประมาณ 21.20 น. แฟนขับรถออกมาจากโรงแรมมิราเคิลแกรนด์ ได้ประมาณ 100 เมตร ก็เจอกับรถเทลเล่อร์คันใหญ่มากวิ่งสวนมา รถของเขาคันใหญ่มาก วิ่งทีกินที่ประมาณ 1 เลนครึ่ง เราเห็นแล้วรู้ทันทีว่าวิ่งสวนขึ้นไปไม่ได้แน่นอน จึงหยุดรถชิดข้างซ้าย และจะพยายามถอยหลังแต่ก็ถอยไม่ได้ เพราะข้างหลังมีทั้งรถมอเตอร์ไซด์ และรถยนต์จ่อท้ายรถเราอยู่ เราอจึงจอดรถอยู่เฉยๆ รถเทลเลอร์คันนั้นก็พยายามจะวิ่งสวนขึ้นไป แฟนเห็นท่าไม่ดี จึงลงจากรถไปบอกคนขับว่าไม่น่าจะพ้นครับ แต่เดี๋ยวจะลองพับกระจกข้างให้ แฟนก็กลับมาขึ้นรถแล้วพับกระจกข้างให้ เวรกรรมก็ยังไม่พ้นอยู่ดีค่ะ รถเทลเลอร์คันนั้นครูดกระจกข้างขวารถของเราเป็นรอยยาวไปจนถึงท้ายรถ แล้วก็พยายามจะขับต่อไป แฟนจึงรีบลงไปเรียกให้เขาหยุดรถ คนขับรถเทลเลอร์ลงมาดูก็พูดว่า "อ๋อ แบบนี้เขาเคยเจอมาแล้ว เป็นเรื่องธรรมดา" ดิฉันถึงขั้นงง ไหงคุณพูดแบบนี้ แทนที่จะขอโทษ กลับบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดา  คนขับรถเทลเลอร์พูดอีกว่า "ให้ขับรถตามไปเจอเขาข้างหน้าเพราะตรงนี้ทางมันแคบ ยังไงเขาก็ไม่หนีเพราะเขาต้องไปขนรถแบคโฮลตรงข้างหน้าอยู่แล้ว " ที่แท้รถเทลเลอร์คันนี้เป็นของบริษัท อิตาเลียนไทย ที่มาทำการก่อสร้างรถไฟฟ้านี่เองค่ะ เราขับรถตามเขาไปสักระยะ ก็จอดข้างถนนคุยกัน คนขับรถบอกว่าเดี๋ยวคุยกับหัวหน้าเขาเลย สักพักหัวหน้าเขาก็เดินมาคุยด้วยค่ะ  หัวหน้าเขาคนนี้ชื่อ คุณกัณหา เป็นหัวหน้าคนขับรถค่ะ แล้วก็เป็นคนปิดถนน เพื่อให้รถเทลเลอร์วิ่งเข้ามา แต่เขาดันกั้นถนนแค่ช่องเดียว เขาไม่ได้กั้นรถที่ออกมาจากโรงแรมมิราเคิลค่ะ ทำให้รถเราวิ่งผ่านออกมาได้เลยเกิดอุบ้ติเหตุค่ะ คนที่เป็นหัวหน้านี้เขาบอกให้เราไปคุยกับเขาที่บริษัท อิตาเลียนไทยวันรุ่งขึ้น เพราะนี่มันดึกแล้ว เดี๋ยวเขาจะนัดประกันของเขามาด้วย เราก็เห็นดีด้วยเพราะเราเองก็ต้องรีบกลับไปรับลูกๆที่บ้านพี่สาวแถววิภาวดี 60 เช่นกัน คุณกัณหา เขาให้เบอร์โทรศัพท์ของเขาไว้ พร้อมเบอร์ของคนขับรถ และเบอร์ของนายช่างหัวหน้าของเขาอีกทีด้วย เราก็เลยโอเค และนัดเจอกันในวันรุ่งขึ้น วันรุ่งขึ้นเราก็คุยกับประกันของเขาซึ่งเป็นประกันของกรุงเทพประกันภัยค่ะ กรุงเทพประกันภัยก็ปริ้นท์ใบเคลมให้เรา แล้วก็แจ้งว่าให้เราไปซ่อมรถที่อู่ในสัญญาของเขาซึ่งอยู่แถวๆหงสกุล เราก็พอจะรู้จักอยู่ แต่เราไม่รู้จักร้าน และไม่รู้ว่าไว้ใจเขาได้ขนาดไหน เราจึงแจ้งเขาว่าเราอยากซ่อมที่ศูนย์โตโยต้า ที่อยู่ใกล้บ้านเรา เขาบอกว่าถ้าจะซ่อมศูนย์ให้ไปขอใบเสนอราคามา แล้วก็ไปติดต่อที่กรุงเทพประกันภัย สาขารังสิต เพาะอยู่ใกล้เราสุด  เราก็ไปขอใบเสนอราคาที่ศูนย์โตโยต้า เสียค่าประเมินเอง 3 % จากยอดประเมิน ก็เป็นเงิน 300 กว่าบาท เสร็จแล้วก็ไปยื่นที่กรุงเทพประกันภัย สาขารังสิต เจ้าหน้าที่ประเมินของกรุงเทพประกันภัยดูใบเสนอราคาจากศูนย์โตโยต้าแล้วก็พูดว่า ตั้ง 12,000 ทำไมแพงจัง ลดอีกได้ไหมเนี่ย ดิฉันเลยบอกว่าให้เขาโทรไปที่ศูนย์โตโยต้าเอง เขาก็โทรไปนะและก็ขอให้ทางศูนย์โตโยต้าลดให้นั่นโน่นนี่ สุดท้ายศูนย์โตโยต้าบอกว่าลดให้ได้แค่ 10% ถ้าจ่ายเป็นเงินสด เจ้าหน้าที่ประเมินของกรุงเทพประกันภัย จึงบอกเราว่าซ่อมที่ศูนย์ไม่ได้หรอก เพราะราคามันเกินวงเงินประกัน ถ้าซ่อมที่อู่ในสัญญาของเขาแค่สี่-ห้าพันเอง ตลกจังแค่ 12,000 มันบอกว่าเกินวงเงิน ตกลงวงเงินประกันมันมีแค่ 8,000-9,000 เองหรอ ห่วยจัง บริษัท อิตาเลียนไทย ก็ใหญ่นะมีรถเป็นร้อยๆ คัน กรุงเทพประกันภัยก็มีชื่อนะ ทำไมถึงได้ใจแคบแบบนี้ เราก็ไปปรึกษาทนายมา เขาบอกว่าเราเป็นผู้ถูกละเมิดมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้เต็มที่ แล้วก็มีสิทธิที่จะซ่อมที่ไหนก็ได้ด้วย ใครก็ได้ช่วยบอกทีว่าดิฉันควรจะตัดสินใจอย่างไร เพราะตอนนี้รถก็ยังไม่ได้ซ่อมเลย ประกันบอกแต่เพียงว่าซ่อมที่ศูนย์ไม่ได้ ส่วนอีตาหัวหน้าคนขับรถที่ บริษัท อิตาเลียนไทย ก็ไม่รับผิดชอบอะไรเลย บอกให้เราไปฟ้องกับประกันเอง หรือนี่คือการบริการกับรถยนต์ที่ใช้ประกันประเภท 3 คะ? (รถของแฟนใช้ประกันชั้น 3 เช่นเดียวกับรถเทลเลอร์ของ บ.อิตาเลียนไทย)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่