หากคุณไม่เคารพเพื่อนร่วมชาติในฐานะมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน ก็ไม่ถือว่าคุณรักชาติอย่างแท้จริง

ไม่ได้ต้องการเข้ามาปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น เพียงต้องการสะท้อนความคิดของเราและเพื่อนๆ จากต่างจังหวัดที่อึดอัดกับแนวคิดหลักของ กปปส. ที่พยายามอธิบายสาเหตุความพ่ายแพ้ทางการเมืองของประชาธิปัตย์ด้วยวาทกรรมที่แฝงไว้ด้วยมายาคติที่มองว่าคนชนบทไม่มีศักยภาพพอที่จะสนับสนุนการปกครองแบบประชาธิปไตย ดังเช่นคำพูดที่ดูถูกคนต่างจังหวัด อย่าง ดร. เสรี วงษ์มณฑา เจ้าของคำพูด "3 แสนเสียงในกรุงเทพ เป็นเสียง ที่มีคุณภาพย่อมดีกว่า 15 ล้านเสียงในต่างจังหวัด แต่ไร้คุณภาพ" และล่าสุดจิตภัสร์ ภิรมย์ภักดีที่พูดว่า  "คนไทยขาดความเข้าใจประชาธิปไตยที่แท้จริงโดยเฉพาะในชนบท"

อาจารย์ยุกติ มุกดาวิจิตรจากธรรมศาสตร์ได้ศึกษาถึงชุดวาทกรรม 4 ข้อที่คนกรุงเทพฯ มองคนต่างจังหวัด ว่า:
     1. คนชนบทโง่ จน เจ็บ จึงใช้เงินซื้อได้?
     2. คนชนบทไม่เสียภาษี?
     3. ระบบอุปถัมถ์ครอบงำคนชนบท?
     4. คนชนบทเลือกตั้งไม่เป็น?

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
จากการศึกษาจะพบว่าชุดวาทกรรมที่ว่ามาเป็นข้อเท็จจริงหรือเป็นเพียงมายาคติ

ขอฝากคำพูดของศาสตราจารย์เบเนดิก แอนเดอสันในนิตยสาร Time World ถึงคนกรุงเทพฯ ที่ชอบดูถูกคนต่างจังหวัดค่ะ

"The Democrat Party last won a majority in 1992. Its powerbase is the Bangkok bourgeoisie, described as “timid, selfish, uncultured, consumerist and without any decent vision of the future of the country,” by Cornell University Professor Benedict Anderson."  -------------------- "พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาดครั้งสุดท้าย ในปี 1992 ฐานอำนาจสำคัญของประชาธิปัตย์คือชนชั้นกระฎุมพีหรือชนชั้นกลางในกรุงเทพฯ ซึ่งมีลักษณะขี้ขลาด เห็นแก่ตัว ไร้วัฒนธรรม บริโภคนิยมและขาดวิสัยทัศน์ในการกำหนดอนาคตของประเทศ"   http://world.time.com/2013/11/28/thailands-democrat-party-is-hilariously-misnamed/

ป.ล. อันนี้เพื่อนชาวเลยฝากมาให้คุณจิตภัสร์ค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่