ผมทำงานเป็นช่างบริการ และใช้รถส่วนตัวเพื่ออกไปทำงานให้กับลูกค้า อยากทราบเรื่องการเสียภาษี ของรายได้ในเดือนธันวาคมซึ่งมีเงินเข้าบัญชีดังนี้ รายได้ขั้นต่ำ 15400 บาท ค่าที่จอดรถ 1000 บาท ค่าสึกหรอรถ 4500 บาท ค่าน้ำมันวิ่งรายเดือน 12000 บาท (ซึ่งเป็นแบบเหมาจ่ายวิ่งเท่าไหร่ก็จ่ายเท่านี้ ค่าทางด่วนก็ต้องอยู่ในวงเงินนี้ด้วย [ปวดจิต] ซึ่งแต่ก่อนกิโลละ3บาท และเอาค่าทางด่วนมาเบิกได้ แต่ตอนนี้ทำไม่ได้ ได้แต่เเบบเหมาจ่าย 12000 ต่อเดือน โดยให้เหตุผลของผจกว่า ขี้เกียจดูใบเสร็จ
) และต้องหักค่าประกันสังคม 600 บาท ได้โบนัส1เดือน 15400 บาท (เพื่อนผมได้ 8 หมื่น
อีกคนได้4 หมื่น อีกคนได้ 3 หมื่นกว่าบาท)
และก็ค่าคอมมิชชั่นทำรายได้ตามเป้าหมาย 6400 บาท (ซึ่งต้องจ่ายตั้งแต่เดือนที่แล้ว3000บาทซะด้วยซ้ำไป แต่เอามารวมเดือนนี้เพื่ออะไรก็ไม่ทราบ)
สรุปเงินที่จะเข้าบัญชี 15400+500+4500+1000+12000-600+15400+6400 =54600 บาท
แล้วทางบริษัทบอกกับผมว่าต้องเสียภาษี 5% จากเงินที่เข้าบัญชี 54600 บาท ประมาณ 2730 บาท หรืออาจจะมากกว่านี้ (ซะงั้น)
ซึ่งผมสงสัยว่า รายได้ที่ได้มาจากกการเหน็ดเหนื่อยผมไม่คล่องใจหรอก
- แต่ ค่าน้ำมันซึ่งผมต้องจ่ายไปก่อนประมาณว่าสำรองจ่าย (แต่ไม่มีใบเสร็จ) ไปก่อน ซึ่งมันไม่ใช่รายได้ของผมเลย ทำไมต้องมาคิดในการหักภาษีด้วย (เดือนที่แล้วค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันเกินเกณฑ์ ผจก. ก็ทำเฉย แล้วมาถามเกินไปเท่าไหร่ แล้วก็เงียบ
) ผมก็เอาวะต่อไปจะวิ่งให้อยู่ในเกณฑ์ 12000 บาท ไหนๆก็ทำกะตูสะขนาดนี้ละ
ซึ่งผมเก็บใบเสร็จทุกบาททุกสตางค์ที่วิ่งตลอด เค้าไม่เคยคิดคำว่ารถติดมันสุดๆขนาดไหน
(ออฟฟิตผมอยู่ในย่านธุรกิจครับ windmill )
-ค่าสึกหรอของรถ 4500 บาท (ซึ่งผมว่าก็น้อยมาก) ต้องเอามาคิดรวมในการเสียภาษีด้วยเหรอ (อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะว่าต้องมารวมด้วยไหม เนื่องจากใช้รถเรา ยังต้องมาเสียภาษีอีก)
- ค่าที่จอดรถ 1000 บาท ซึ่งต้องเสียให้กับทางอาคารที่เช่าบริษัท เพราะต้องเสียค่าที่จอดรถด้วย 1500 ซึ่งผมต้องจ่ายเพิ่มอีก 500 บาท (ให้ตายเถอะ
)
สรุป ค่าน้ำมัน 12000 ค่าสึกหรอรถ 4500 ค่าที่จอดรถ 1000
ต้องเอามารวมเสียภาษีด้วยเหรอครับ
(ถ้าไม่รวมจะเป็นยอดเงิน 37100 บาท แล้วต้องเสียภาษีไหม)
รบกวนด้วยครับผมจะไปโต้แย้งในวันพรุ่งนี้
ปล.1 เดือนปกติจะมีเงินเข้าบัญชี 15400 ค่าสึกหรอ 4500 ค่าที่จอดรถ 1000 ค่าน้ำมัน 12000 ค่าโทรศัพท์ 500 หักค่าประกันสังคม 600 =====> 15400+4500+1000+12000+500-600 =32800 ซึ่งไม่เคยโดนหักภาษี
ปล.2 ค่าที่จอดรถบริษัทควรจะออกให้ทั้งหมดถูกต้องไหมครับ
ปล.3 ค่าสึกหรอ เค้าอยู่ประมาณนี้กันรึป่าวครับสำหรับรถอายุ 17ปี (เพราะถ้าไม่ใช้รถผมวิ่งก็มีรถผจก อีกคัน แค่นั้น เพราะไม่มีใครกล้ามาทำงานเลย มันอยู่ในเมือง มีน้องคนนึงมาทำงานวันเดียวละออกเลย)
ปล.4 ค่าน้ำมัน 12000 ผมว่ามันไม่ดีเลยจะโต้แย้งอย่างไรดีครับจนปัญญาจริงๆ พยายามบอกแล้ว พูดแล้วก็ทำเฉย ไม่รู้จะเปลี่ยนทำไม ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นกิโลละ 3 บาท มีพี่คนนึงที่เค้าเป็น sale engineer เค้าบอกผจก ช่วยเพิ่มอีกได้ไหม เค้าก็เพิ่มให่3.80 บาท/กิโล เค้าต้องลาออกเพราะมันไม่ไหว ต้องขับรถไปบริษัท จากราม ไป ย่านธุรกิจ ขนาดนี้เค้ายังลาออก แล้วมาจำกัดวงเงินผมสะงั้น โดยให้เหตุผลว่า เดี๋ยวรับพนักงานใหม่มาก็จะออกไปหาลูกค้าไม่เยอะ (ผมก็เลยอ่าว แล้วทำไมไม่เปลี่ยนตอนรับพนักงานใหม่มาละ ตอนนี้ตูก็ซวยสิ ) แล้วเค้าก็ไม่คิดว่า เห้ยค่าทางด่วนละ ไป-กลับระยอง จาก ย่านธุรกิจ เกือบ200 ไหนจะค่าน้ำมันอีก ไหนจะต้องขับรถจากบ้านไปที่ทำงาน โอ้โหนี้ทุ่มเทให้บริษัทสุดๆ ผมก็เลยต้องการหาข้อโต้แย้ง
ปล.5 ผมทำงานหยุด ส-อา แล้วถ้ามีงานจะได้วันละ 600 ถ้าค่างคืน 300 วันนั้นทำงาน10ชม. วันเสาร์ ตั้งแต่บ่าย2 โมง ลากยาวยันเที่ยงคืน ได้แค่600 (บริษัทคิดค่าservice charge กับทางลูกค้า ชมละ1300 บาท) โถ อย่างเหนื่อยเลย ให้600 เพราะระยะเวลาทำงานผม 8.30-17.30 บางที่ทำงานวันธรรมดา ลากไป 2-3 ทุ่มก็ไม่ได้เงินเบี้ยเลี้ยง โอ้พระเจ้า นี้ก็รอปีใหม่คงขึ้นเงินเดือนประมาน500ละมั้ง แหม่
เงินที่เข้าบัญชีแบบไหนต้องเสียภาษีครับ
สรุปเงินที่จะเข้าบัญชี 15400+500+4500+1000+12000-600+15400+6400 =54600 บาท
แล้วทางบริษัทบอกกับผมว่าต้องเสียภาษี 5% จากเงินที่เข้าบัญชี 54600 บาท ประมาณ 2730 บาท หรืออาจจะมากกว่านี้ (ซะงั้น)
ซึ่งผมสงสัยว่า รายได้ที่ได้มาจากกการเหน็ดเหนื่อยผมไม่คล่องใจหรอก
- แต่ ค่าน้ำมันซึ่งผมต้องจ่ายไปก่อนประมาณว่าสำรองจ่าย (แต่ไม่มีใบเสร็จ) ไปก่อน ซึ่งมันไม่ใช่รายได้ของผมเลย ทำไมต้องมาคิดในการหักภาษีด้วย (เดือนที่แล้วค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันเกินเกณฑ์ ผจก. ก็ทำเฉย แล้วมาถามเกินไปเท่าไหร่ แล้วก็เงียบ) ผมก็เอาวะต่อไปจะวิ่งให้อยู่ในเกณฑ์ 12000 บาท ไหนๆก็ทำกะตูสะขนาดนี้ละ ซึ่งผมเก็บใบเสร็จทุกบาททุกสตางค์ที่วิ่งตลอด เค้าไม่เคยคิดคำว่ารถติดมันสุดๆขนาดไหน (ออฟฟิตผมอยู่ในย่านธุรกิจครับ windmill )
-ค่าสึกหรอของรถ 4500 บาท (ซึ่งผมว่าก็น้อยมาก) ต้องเอามาคิดรวมในการเสียภาษีด้วยเหรอ (อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะว่าต้องมารวมด้วยไหม เนื่องจากใช้รถเรา ยังต้องมาเสียภาษีอีก)
- ค่าที่จอดรถ 1000 บาท ซึ่งต้องเสียให้กับทางอาคารที่เช่าบริษัท เพราะต้องเสียค่าที่จอดรถด้วย 1500 ซึ่งผมต้องจ่ายเพิ่มอีก 500 บาท (ให้ตายเถอะ)
สรุป ค่าน้ำมัน 12000 ค่าสึกหรอรถ 4500 ค่าที่จอดรถ 1000
ต้องเอามารวมเสียภาษีด้วยเหรอครับ
(ถ้าไม่รวมจะเป็นยอดเงิน 37100 บาท แล้วต้องเสียภาษีไหม)
รบกวนด้วยครับผมจะไปโต้แย้งในวันพรุ่งนี้
ปล.1 เดือนปกติจะมีเงินเข้าบัญชี 15400 ค่าสึกหรอ 4500 ค่าที่จอดรถ 1000 ค่าน้ำมัน 12000 ค่าโทรศัพท์ 500 หักค่าประกันสังคม 600 =====> 15400+4500+1000+12000+500-600 =32800 ซึ่งไม่เคยโดนหักภาษี
ปล.2 ค่าที่จอดรถบริษัทควรจะออกให้ทั้งหมดถูกต้องไหมครับ
ปล.3 ค่าสึกหรอ เค้าอยู่ประมาณนี้กันรึป่าวครับสำหรับรถอายุ 17ปี (เพราะถ้าไม่ใช้รถผมวิ่งก็มีรถผจก อีกคัน แค่นั้น เพราะไม่มีใครกล้ามาทำงานเลย มันอยู่ในเมือง มีน้องคนนึงมาทำงานวันเดียวละออกเลย)
ปล.4 ค่าน้ำมัน 12000 ผมว่ามันไม่ดีเลยจะโต้แย้งอย่างไรดีครับจนปัญญาจริงๆ พยายามบอกแล้ว พูดแล้วก็ทำเฉย ไม่รู้จะเปลี่ยนทำไม ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นกิโลละ 3 บาท มีพี่คนนึงที่เค้าเป็น sale engineer เค้าบอกผจก ช่วยเพิ่มอีกได้ไหม เค้าก็เพิ่มให่3.80 บาท/กิโล เค้าต้องลาออกเพราะมันไม่ไหว ต้องขับรถไปบริษัท จากราม ไป ย่านธุรกิจ ขนาดนี้เค้ายังลาออก แล้วมาจำกัดวงเงินผมสะงั้น โดยให้เหตุผลว่า เดี๋ยวรับพนักงานใหม่มาก็จะออกไปหาลูกค้าไม่เยอะ (ผมก็เลยอ่าว แล้วทำไมไม่เปลี่ยนตอนรับพนักงานใหม่มาละ ตอนนี้ตูก็ซวยสิ ) แล้วเค้าก็ไม่คิดว่า เห้ยค่าทางด่วนละ ไป-กลับระยอง จาก ย่านธุรกิจ เกือบ200 ไหนจะค่าน้ำมันอีก ไหนจะต้องขับรถจากบ้านไปที่ทำงาน โอ้โหนี้ทุ่มเทให้บริษัทสุดๆ ผมก็เลยต้องการหาข้อโต้แย้ง
ปล.5 ผมทำงานหยุด ส-อา แล้วถ้ามีงานจะได้วันละ 600 ถ้าค่างคืน 300 วันนั้นทำงาน10ชม. วันเสาร์ ตั้งแต่บ่าย2 โมง ลากยาวยันเที่ยงคืน ได้แค่600 (บริษัทคิดค่าservice charge กับทางลูกค้า ชมละ1300 บาท) โถ อย่างเหนื่อยเลย ให้600 เพราะระยะเวลาทำงานผม 8.30-17.30 บางที่ทำงานวันธรรมดา ลากไป 2-3 ทุ่มก็ไม่ได้เงินเบี้ยเลี้ยง โอ้พระเจ้า นี้ก็รอปีใหม่คงขึ้นเงินเดือนประมาน500ละมั้ง แหม่